ความทรงจำเก่า ๆ ก่อนจะลืมเลือนหายไปกับกาลเวลา
Group Blog
 
<<
กันยายน 2552
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
16 กันยายน 2552
 
All Blogs
 

ป้าเดือน

ยังจำได้วันนั้นที่อยู่ดี ๆ ตรอกข้างบ้าน
ซีกหนึ่งเป็นที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทย
อีกซีกหนึ่งเป็นที่ดินของเอกชน
มีความกว้างประมาณห้าสิบเซ็นติเมตรได้โดยประมาณ
ที่ฝาไม้บ้านร้านอาหารมุสลิม(ร้านของพ่อเพื่อน)
มีช่างไม้มาตอกอะไรปึง ปัง ปึง ปัง อยู่ พักใหญ่
เลยเดินเข้าไปในตรอกดูว่าทำอะไรกันอยู่
ปรากฏว่ามีผู้หญิงวัยสาวใหญ่ประมาณสามสิบปีเศษ
จุ๊ปากห้าม แล้วบอกว่า ไม่มีอะไรให้กลับบ้านไปเสีย
ก็เลยเดินกลับบ้านไปนอน เพราะตอนนั้นยังเด็กมาก

วันรุ่งขึ้นก็เห็นร้านขายหนังสือขนาดเล็ก
เปิดร้านอยู่ในตรอกระหว่างบ้านเรียบร้อยแล้ว
มีหลังคาสังกะสีกันแดดกันฝน
แทรกอยู่ระหว่างกลางตรอกดังกล่าว
โดยแผงหนังสือที่เป็นเล่มก็ใช้ฝาผนังไม้
ของร้านอาหารอิสลาม(ของเพื่อน) เป็นบ้านไม้สองชั้น
เป็นชั้นวางหนังสือขนาดสามแถว(ถ้าจำไม่ผิด)
ส่วนหนังสือพิมพ์กับหนังสือที่ขายดีก็วางหน้าร้าน
แล้วส่วนหนึ่งวางแขวนกับบานประตูกั้นตรอกที่ทำขึ้นใหม่
โดยบานประตูปิดเปิดกั้นตรอกผลักเข้าไปข้างในตรอก
แล้วคนขายผู้หญิงคนนั้นก็นั่งระหว่างกลางตรอก
เป็นเจ้าของร้านหนังสือ ทราบชื่อภายหลังว่า ป้าเดือน

สิ่งที่สูญหายไปจากการเปิดร้านของป้าเดือน
คือ พื้นที่สาธารณะของชุมชน
ที่แต่เดิมเคยเดินผ่านเข้าออกได้ก็มีเจ้าของครอบครองไปแล้ว
และแต่ก่อนเป็นทางลัดเดินเข้าออก
เพื่อไปเล่นกีฬาที่สนามฟุตบอลหลังบ้านกับเพื่อนได้ก็ค่อย ๆ หมดไป
เวลาที่แกเปิดร้านขายของอยู่
จะเดินผ่านก็ต้องบอกแกหลีกทางให้
จะเดินเข้าออกสบาย ๆ ก็เวลาแกปิดร้านกลับบ้านเช่านอน
ส่วนประตูร้านของแกก็สามารถเปิดเข้าออกได้ตามปรกติ
ซึ่งจะรู้กันเฉพาะในละแวกบ้านที่ทราบกัน
แต่คนต่างถิ่นจะไม่เข้าใจคิดว่าตรอกนี้ปิดตายแล้ว
หนังสือบางส่วนก็ทิ้งไว้ในแผงหนังสือของแกที่ปิดฝาล็อคได้
เวลาแกไปส่งหนังสือพิมพ์ตามร้านค้าที่เป็นสมาชิกด้วยรถจักรยาน




สมัยก่อนการใช้จักรยานในหาดใหญ่เป็นเรื่องปกติสามัญ
เพราะส่วนหนึ่งหาดใหญ่ช่วงนั้นรถยนต์มีน้อยคันมาก
จนจำทะเบียนได้เป็นส่วนมากว่ารถยนต์ของบ้านไหน
กอปรกับสมัยนั้นการแสดงว่ามีฐานะร่ำรวย
อาจจะมีทุกขลาภจากโจรภัยหรือการถูกจับตัวไปเรียกค่าไถ่
มีเรื่องจริงแต่เล่ากันว่า เถ้าแก่ร้านข้าวต้มชื่อดังในหาดใหญ่
ถูกโจรจับไปเรียกค่าไถ่จำนวนหนึ่ง
โดยจับตัวไปกักขังบนยอดเขาใกล้ ๆ หาดใหญ่
จนกระทั่งต่อรองจำนวนเงินได้เรียบร้อยแล้ว
ก็พาแกมาส่งที่ปากทางถนนใหญ่แล้วให้เดินกลับบ้านเอง
ตอนค่ำกลุ่มโจรก็ยังมากินข้าวต้มและเหล้าเบียร์ร้านของแก
เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นหรือทำผิดคิดร้ายมาอย่างใด
ตัวเถ้าแก่เองก็ถือว่า ขอกันกินมากกว่านี้ก็แล้วกัน
และไม่อยากมีเหตุมีภัยตามมาภายหลังในร้านค้าหรือกับลูกหลานแกอีก

สมัยนั้นตัวเมืองหาดใหญ่ก็ไม่กว้างขวางมากนัก
มาเริ่มขยายตัวก็หลังช่วงมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์มาเปิดปี 2512
ก็เป็นไปอย่างช้า ๆ ไม่หวือหวามากนัก
มีการขยายตัวมากก็อีกครั้งช่วงปราบคอมมิวนิสต์หนัก ๆ ปี 2519
เป็นช่วงเขมร เวียตนาม แตกสลายด้วยเขมรแดง และเวียตกง
ทำให้หลายคนกลัวว่าเมืองไทยจะเป็นโดมิโนรายต่อไป
ก็เริ่มมีการอพยพย้ายถิ่นฐานของคนต่างจังหวัดในเขตที่่ปราบปรามหนัก
เข้ามาทำมาหากิน/หนีตายจากการปราบปรามเหวี่ยงแหของเจ้าหน้าที่บ้านเมือง
เพราะในช่วงนั้นไม่รู้ว่าใครเป็นใคร การถูกกล่าวเท็จ หรือใส่ร้ายป้ายสี
ก็อาจจะถูกตั้งข้อหาเป็นคอมมิวนิสต์ก็จะมีสิทธิ์ควบคุมกุมขังฟรี ๆ หกเดือนถึงสองปี
หรืออาจตายได้ง่าย ๆ เช่นกันจากการวิสามัญฆาตกรรมโดยไม่รู้สาเหตุหรือคนทำ

ป้าเดือนเปิดร้านขายหนังสืออยู่ก็หลายปีพอสมควร
จนกระทั่งต่อมาเจ้าของที่ดินทั้งบล็อคใหญ่
ที่เป็นบ้านไม้สองชั้นทั้งบล็อคประมาณ 6 คูหา
ได้ขายให้กับธนาคารแห่งหนึ่งไปเพื่อทำเป็นที่ทำการสาขา
ก็ได้รื้อถอนบ้านทั้งหมดออกไปจากบริเวณนั้น
หลังคาร้าน ประตูตรอก ตู้หนังสือของแกก็ต้องรื้อออกไปด้วย
ขณะเดียวกันการรถไฟแห่งประเทศไทย
ก็เข้าผสมโรงมาไล่ที่แกอีกให้ออกไปจากที่การรถไฟด้วย
ถ้าแกจะขายหนังสือพิมพ์หรือหนังสืออื่น ๆ ก็ไม่ได้แล้ว
เพราะพื้นที่ลดลงแถมอยู่ระหว่างการก่อสร้าง
ไม่มีหลังคาคลุมส่วนหนึ่ง ฝุ่นและอันตรายจากการก่อสร้างก็มาก
และเมื่อธนาคารก่อสร้างเสร็จก็ทำรั้วกั้นเขตที่ดินเป็นกำแพงไว้จนปัจจุบัน

สุดท้ายสุดป้าเดือนก็ต้องย้ายกลับไปอยู่ประจำที่บ้านเช่าแห่งหนึ่ง
ไม่ทราบเหมือนกันว่าอยู่ที่ไหนรู้แต่ว่าอยู่ในหาดใหญ่
หาดใหญ่มีพื้นที่เขตเทศบาลนครหาดใหญ่ยี่สิบเอ็ดตารางกิโลเมตร
ถ้าเป็นพื้นที่ทั้งอำเภอหาดใหญ่หกร้อยหกสิบตารางกิโลเมตร
มีถนนหนทางสองร้อยยี่สิบสองสาย ข้อมูลถนนจากตำรวจจราจรสี่ปีก่อน
หลังจากร้านของแกที่ตรอกปิดไปแล้ว
ก็เคยเห็นแกขับจักรยานส่งหนังสือพิมพ์ตามเดิม
แต่ไม่แน่ใจหรือจำไม่ได้ว่าแกไปเปิดร้านขายหนังสือที่ไหนอีก
ครั้งสุดท้ายทราบข่าวจากพี่สาวแต่เพียงว่า
แกทำไฟไหม้บ้านเช่าของแกที่หาดใหญ่
จนต้องหนีกะเซอะกะเซิงหายไปแบบสติแตกไปพักใหญ่ ๆ
กว่าตำรวจ/เจ้าของไม่เอาเรื่องเอาราวแก
ก็ไม่ทราบว่าต้องจ่ายค่าชดเชยหรือค่าเสียหายกันเท่าใด
เคยเจอครั้งหนึ่งร่วมสิบปีแล้ว
ไม่แน่ใจว่าป้าเดือนหรือเปล่าเพราะคุ้น ๆ หน้า
เห็นนั่งคุยกับกลุ่มชาวบ้านกลุ่มหนึ่งประมาณสามสี่คน
ช่วงขับรถยนต์ผ่านพอดีแถวจันทร์วิโรจน์

นี่คือความทรงจำส่วนหนึ่ง
ถึงป้าเดือนหญิงสามัญรายหนึ่งที่บ้านเกิด




 

Create Date : 16 กันยายน 2552
8 comments
Last Update : 11 พฤศจิกายน 2552 16:06:45 น.
Counter : 1262 Pageviews.

 

อยากเล่ามั่งแต่เล่าแล้วไม่มีคนฟังแหง ๆ เลย

อยากเล่าเรื่องที่เคยผ่านมาเหมือนกันค่ะ แต่ยังนึกไม่ออกว่ามีอะไรน่าสนใจ

 

โดย: tuk-tuk@korat 16 กันยายน 2552 22:38:08 น.  

 




ขอติดไว้ก่อนแล้วจะตามมาอ่านทีหลังค่ะ

 

โดย: ส้มแช่อิ่ม 17 กันยายน 2552 22:11:08 น.  

 

ติดตามอ่านเสมอ ชอบครับ เขียนได้ดี อ่านแล้วทำให้คิดถึงบ้านเกิด ทุกที

 

โดย: จันทราอาทิตย์ 18 กันยายน 2552 11:17:33 น.  

 

สวัสดีค่ะ

ที่โคราชฝนชอบมาราว ๆ เวลานี้แหละค่ะ กลางวันแดดร้อนมาก เพิ่งเอาหญ้ามาปูสวนได้ 2 วัน ตะกี้ใบแห้งหมดเลยค่ะ

สวนน้อยของเรา 4 ตรม.เองค่ะ

 

โดย: tuk-tuk@korat 18 กันยายน 2552 16:19:36 น.  

 

ชวนไปฟังเพลงหวานค่ะ
catch the wind

ทุกเพลงที่เอามาลง รัก และ ร้องได้ทุกเพลงค่ะ

 

โดย: tuk-tuk@korat 18 กันยายน 2552 23:47:00 น.  

 

ตามอ่าน

 

โดย: เศษเสี้ยว (เศษเสี้ยว ) 19 กันยายน 2552 14:49:36 น.  

 

good night sleep tight

 

โดย: tuk-tuk@korat 19 กันยายน 2552 23:28:52 น.  

 

 

โดย: tuk-tuk@korat 21 กันยายน 2552 22:14:36 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


ravio
Location :
สงขลา Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 32 คน [?]




เกิดหาดใหญ่ วัยเด็กเรียนหนังสือโรงเรียน Catholic คณะ Salesian มีนักบุญประจำโรงเรียน Saint Bosco, Saint Savio ชอบอ่านหนังสือ godfather เกี่ยวกับ Mafio ของพวกซิซีเลียน เคยเล่นเกมส์ Mario แล้วได้คะแนนนำเลยนำสระโอมาต่อท้ายชื่อเป็น Ravio ได้กลิ่นอายแบบ Italino เคยเดินทางเข้ากรุงเทพฯ เพื่อเรียนวิชาชีพทำมาหากิน แต่ไม่ใช่วิชาที่ชื่นชอบมากนัก เรียนอยู่กว่าเจ็ดปี ต้องกลับมาทำงานเป็นกรรมกรที่บ้านเกิด จนเริ่มเกิดความหลงรักชีวิตบ้านนอก และวิถีชิวิตชุมชนท้องถิ่นที่ตนอยู่และไปร่วมวงเสวนา

เกิดเดือนมีนาคม แต่ลัคนาราศรีตุลย์ ชอบไปทุกเรื่อง สุดท้ายทำอะไรที่ได้เรื่องไม่กี่เรื่อง แต่ส่วนมากมักไม่ได้เรื่อง

ชอบขับรถยนต์ท่องเที่ยวชมภูเขา ป่าไม้ น้ำตก แต่ไม่ชอบทะเลหรือชายหาด เพราะรู้สึกอ้างว้าง โดดเดี่ยว เมื่อคิดถึงชีวิตตนเองที่มาเปรียบเทียบกับสองสิ่งสองอย่างนี้ รู้สึกว่ามนุษย์เป็นเพียงชีวิตที่เล็กน้อยมากที่มาอยู่อาศัยในโลกใบนี้

ชอบอ่านหนังสือ ท่องเที่ยวใน Internet ชอบเดินทางท่องเที่ยวแถว ในละแวกท้องถิ่นบ้านเกิด นาน ๆ ครั้งจะขึ้นไปเยี่ยมเพื่อนที่กรุงเทพฯ หรือไปหาซื้อหนังสือแถวสยามสแควร์ ถิ่นเก่าที่อยู่และที่เรียน






Friends' blogs
[Add ravio's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.