ความทรงจำเก่า ๆ ก่อนจะลืมเลือนหายไปกับกาลเวลา
Group Blog
 
<<
มีนาคม 2555
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
5 มีนาคม 2555
 
All Blogs
 
ถึงเถาวัลย์พันเกี่ยวที่เลี้ยวลด


บรรดาเถาวัลย์ที่พันรอบหอคอยจ่ายน้ำ
ที่มีอายุมากกว่าห้าสิบปีแล้ว
แถวบ้านพักสถานีรถไฟหาดใหญ่
เห็นภาพแล้วนึกถึงกลอนของสุนทรภู่
เรื่องพระอภัยมณี ตอนที่ว่า


บัดเดี๋ยวดังหงั่งเหง่งวังเวงแว่ว
สะดุ้งแล้วเหลียวแลชะแง้หา
เห็นโยคีขี่รุ้งพุ่งออกมา
ประคองพาขึ้นไปจนบนบรรพต
แล้วสอนว่าอย่าไว้ใจมนุษย์
มันแสนสุดลึกล้ำเหลือกำหนด
ถึงเถาวัลย์พันเกี่ยวที่เลี้ยวลด
ก็ไม่คดเหมือนหนึ่งในน้ำใจคน
อันมนุษย์นี้ที่รักสองสถาน
บิดามารดารักมักเป็นผล
ที่พึ่งหนึ่งพึ่งได้แต่กายตน
เกิดเป็นคนคิดเห็นจึงเจรจาฯ
แม้นใครรักรักมั่งชังชังตอบ
ให้รอบคอบคิดอ่านนะหลานหนา
รู้สิ่งไรไม่สู้รู้วิชา
รู้รักษาตัวรอดเป็นยอดดี
จงคิดตามไปเอาไม้เท้าเถิด
จะประเสริฐสมรักเป็นศักดิ์ศรี
พอเสร็จคำสำแดงแจ้งคดี
รูปโยคีหายวับไปกับตาฯ










หอคอยจ่ายน้ำลูกนี้ (ยุติการใช้งานแล้ว)
สูงประมาณยี่สิบห้าเมตร
เป็นเรื่องที่แปลกอย่างที่ว่า
สมัยเด็ก ๆ มักจะพบว่าหรือได้ข่าวเสมอ ๆ ว่า
คนงานรถไฟที่เวลาขึ้นทำความสะอาดภายในที่เก็บน้ำ
มักจะนำถังน้ำขึ้นไปจับปลาขนาดตัวโตข้างในถังน้ำ
เช่น ปลาช่อน ปลาดุก หรือปลาหมอ
คาดว่า น่าจะติดมากับตอนสูบน้ำขึ้นไปเก็บไว้ข้างบน
โดยมีไข่ปลาหรือลูกปลาขนาดเล็ก
ปลอมปนไปช่วงน้ำที่ท่วมที่ไหลเข้าเครื่องสูบน้ำ
แต่มีบางคนว่า มีคนทะลึ่งขึ้นไปปล่อยไว้ข้างบน

(บ้านพักสมัยเด็กจะมีเพื่อนเป็นลูกหลานคนงานรถไฟ)





อีกภาพหนึ่งเมื่อมองจากด้านบ้านพักคนงานรถไฟ
มองออกไปที่สายหนึ่ง สายสอง
หรือถนนนิพัทธ์อุทิศ 1,2,3
เดิมชื่อถนนเจียกีซี (ขุนนิพัทธ์จีนนคร)
สมัยก่อนถนนในหาดใหญ่
มีน้อยสายมาก
บางคนเรียกถึงถนนสายสี่ ถนนเสน่หานุสรณ์
ตั้งเป็นเกียรติกับ พระเสน่หามนตรี (ชื่น สุคนธหงส์)
อดีตนายอำเภอเหนือ อดีตคือชื่อของอำเภอหาดใหญ่

น่าจะมาจากแนวคิดอำมาตย์ส่วนกลาง
ที่เห็นว่า น้ำเหนือไหลบาก
เพราะคลองอู่ตะเภา สายน้ำหลักของหาดใหญ่
ในการทำน้ำประปาใช้ทั้งเมืองหาดใหญ่ตอนนี้
ส่งน้ำบางส่วนให้อำเภอเมืองสงขลา สิงหนคร
จะไหลจากทิศใต้ไปทางทิศเหนือออกไปที่ทะเลสาบสงขลา
เรียกว่า เป็นคลองที่แปลกมาก
เพราะปกติน้ำมักจะไหลจากเหนือลงใต้

ส่วนคนค้าขายที่มาจากอู่ตะเภา เกาะยอ สงขลา
มักจะเรียกว่า พวกเหนือ หรือคนเหนือ (มาจากทิศเหนือ)
สมัยก่อนคนในหาดใหญ่จะจัดอยู่ในพวกคนยากไร้มาก
ที่ดินทำกินเป็นป่าเสม็ด ดินลูกรัง น้ำท่วมทุกปี
เพราะสภาพดินเป็นแอ่งกะทะ
ถ้ามองดี ๆ จะเห็นเทือกเขาขนาบสองข้าง

ก่อนที่จะมีชุมทางรถไฟตัดผ่านเป็นศูนย์กลางการค้า
ทำให้การค้าการขายต้องตรงต่อเวลา
หรือบ้านเมืองคึกคักเวลารถไฟเข้ามา

ถนนอีกสายคนรุ่นเก่าจะเรียกว่า สายห้า (ดวงจันทร์)

ภาพที่มองไปยังสายหนึ่ง สายสอง





เป็นความงามธรรมชาติที่ซ่อนอยู่ในตัวเมือง
สำหรับผู้สนใจและแวะเยี่ยมเยือนหาดใหญ่
ตามแผนที่ของ google





ส่วนภาพแผนที่ดาวเทียม (ยังไม่ได้ update)

สภาพปัจจุบันต้นไม้ถูกตัดโค่นไปหลายต้นแล้วครับ





เถาวัลย์ไต่ขึ้นบนหอคอยเหล็ก

คือ ความกลมกลืนของธรรมชาติ

ที่ขัดแย้งซึ่งกันและกัน

ระหว่างอ่อนนุ่มกับแข็งกระด้าง

คือ ความงามที่ซ่อนอยู่





Create Date : 05 มีนาคม 2555
Last Update : 6 กันยายน 2555 22:36:12 น. 11 comments
Counter : 2486 Pageviews.

 
เดี๋ยวนี้รถไฟถูกบ่นเรื่องเวลามาก ๆ

หอคอยน้ำน่ากลัวกร่อนแล้วหักโค่นลงมาจังเลย

เขาใช้เติมน้ำให้หัวรถจักรไอน้ำ หรือเอาไว้เป็นน้ำใช้คะ

เดี๋ยวนี้หาดใหญ่เป็นเมืองที่ใหญ่มาก ๆ ค่ะ


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 5 มีนาคม 2555 เวลา:8:37:42 น.  

 
คงกัดกร่อนขึ้นสนิมยากมาก
เพราะเหล็กที่ใช้งานหนามาก
น่าจะเป็นเหล็กจากประเทศอังกฤษ
เศษเหล็กของประเทศนี้
ที่ใช้ตามรางรถไฟ
เคยนำมาตีเหล็กทำมีดทำขวาน
คมกริบน่าใช้มากเลยครับ
ึค่าเศษเหล็กถูก แต่ค่าตีเหล็กแพงมาก

ส่วนหอคอยน้ำในภาพนี้
ใช้สำหรับน้ำในเขตบ้านพักรถไฟ
ที่เติมน้ำให้หัวรถจักรจะเป็นอีกแห่งหนึ่ง
ที่ยุติการใช้เพราะน้ำประปาเข้าถึงพื้นที่แล้ว


โดย: ravio วันที่: 5 มีนาคม 2555 เวลา:8:50:14 น.  

 

เห็นภาพแล้วบ่งบอกถึงความเจริญในอดีต
แหล่มค่ะ
ปล.ขอบคุณสำหรับคำอวยพรวันมาฆบูชา
อุ้มไปเวียนเทียนแน่นอน
เวียนเทียนด้วยความสุขสบายใจและปล่อยวางค่ะ
ขอให้พรที่อวยให้อุ้มส่งผลกลับมายังพี่ด้วยนะคะ


โดย: อุ้มสี วันที่: 5 มีนาคม 2555 เวลา:23:05:18 น.  

 
มาตามไปวัดพระเจดีย์งาม

กับวัดพะโคะ ค่ะ


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 6 มีนาคม 2555 เวลา:15:01:38 น.  

 
เล่นนำมาด้วยบทกลอนของสุนทรภู่ แล้วตามด้วยภาพขอคอยเก็บน้ำขนาดนั้น หุหุ กลัวนึกภาพเถาวัลย์ไม่ออกหรือไงกันเจ้าคะ อิอิ...อื่ม...แต่วัสดุในการก่อสร้างแต่ละอย่างในสมัยก่อน ไผ่ว่าเขาใช้ของดีมีคุณภาพกว่าสมัยนี้มากนะคะ ทั้งเสา ทั้งเหล็ก ทั้งคาน อายุการใช้งานยาวนานกว่ามาก

ปล.บล็อคไผ่ม่ายได้บ่นน้า แค่อยากจาแชร์เล็กน้อยว่า รูปแบบของครอบครัวแต่ละครอบครัวหรือแต่ละรุ่น..มันแตกต่างกันเยอะเหมือนกันเน๊อะ


โดย: คมไผ่ วันที่: 8 มีนาคม 2555 เวลา:16:35:45 น.  

 
ขอให้มีความสุข สดใส เสมอค่ะ





.. ฟ้าหม่นเดือนดับดาวอับช่วง

หล่นห้วงอเวจีเพียงหลับใหล

ยามนี้เยียบเย็นไม่เห็นใคร

ยินเสียงหัวใจตนเต้นรัว ..

.
.
.


โดย: ploythana วันที่: 9 มีนาคม 2555 เวลา:23:17:41 น.  

 
ฝันดีนะคะ พรุ่งนี้วันจันทร์ซะแล้ว สู้ๆ มีแรงเต็มร้อยในทุก mission เด้อค่ะ


โดย: คมไผ่ วันที่: 11 มีนาคม 2555 เวลา:23:12:16 น.  

 
งั้น...ไผ่เอางี้ดีก่า เป็นเมียเจ้านายซะเลย ได้ทั้งนาย ได้ทั้งงาน ครอบครัวก็ม่ายเสียฮ่าๆๆ (ล้อเล่น ๆ...อยู่โสดดีก่า สบายดี)

ขอบคุณค่ะสำหรับความคิดเห็นอ่ะ จริง ๆ ไผ่เป็นประเภทไม่บ้างานอยู่แล้วหล่ะ เพียงแต่บางช่วงบางตอนมันเกิดสภาวะจำยอม เพราะเป็นธุรกิจในครอบครัวไงคะ (เปิดบริษัทกับพี่ชายก็เงี๊ยะ) ก็เลยเหมือนงานบางช่วงจะหน่วง ๆ หนัก ๆ หน่อยค่ะ...ว่าแต่ถ้าให้เลือกอันดับหนึ่งจะเลือกอะไรอ่ะ

คืนนี้ฝันดีนะคะ


โดย: คมไผ่ วันที่: 12 มีนาคม 2555 เวลา:23:36:30 น.  

 
เย้ๆๆๆ ไปเที่ยวบ้านตุ๊กมา

ไปตอนมีหมอกควันพอดีเลยค่ะ


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 13 มีนาคม 2555 เวลา:7:39:02 น.  

 
ขอให้มีความสุขในการทำงานนะคะ




... กลิ่นสีหอมหวานบานสะพรั่ง

แต่ละครั้ง แต่ละครั้ง ยังแต้มแต่ง

พราวหยาดน้ำฟ้ามาวาดแวง

ดอกไม้แห่งฤดูฝันอันเฟื่องฟุ้ง ...

.
.
.



โดย: ploythana วันที่: 13 มีนาคม 2555 เวลา:13:20:52 น.  

 
โอ๊ว์ เถาวัลย์พันเกี่ยวเยอะจริงๆ ^^"


โดย: babyL' วันที่: 13 มีนาคม 2555 เวลา:15:26:22 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ravio
Location :
สงขลา Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 32 คน [?]




เกิดหาดใหญ่ วัยเด็กเรียนหนังสือโรงเรียน Catholic คณะ Salesian มีนักบุญประจำโรงเรียน Saint Bosco, Saint Savio ชอบอ่านหนังสือ godfather เกี่ยวกับ Mafio ของพวกซิซีเลียน เคยเล่นเกมส์ Mario แล้วได้คะแนนนำเลยนำสระโอมาต่อท้ายชื่อเป็น Ravio ได้กลิ่นอายแบบ Italino เคยเดินทางเข้ากรุงเทพฯ เพื่อเรียนวิชาชีพทำมาหากิน แต่ไม่ใช่วิชาที่ชื่นชอบมากนัก เรียนอยู่กว่าเจ็ดปี ต้องกลับมาทำงานเป็นกรรมกรที่บ้านเกิด จนเริ่มเกิดความหลงรักชีวิตบ้านนอก และวิถีชิวิตชุมชนท้องถิ่นที่ตนอยู่และไปร่วมวงเสวนา

เกิดเดือนมีนาคม แต่ลัคนาราศรีตุลย์ ชอบไปทุกเรื่อง สุดท้ายทำอะไรที่ได้เรื่องไม่กี่เรื่อง แต่ส่วนมากมักไม่ได้เรื่อง

ชอบขับรถยนต์ท่องเที่ยวชมภูเขา ป่าไม้ น้ำตก แต่ไม่ชอบทะเลหรือชายหาด เพราะรู้สึกอ้างว้าง โดดเดี่ยว เมื่อคิดถึงชีวิตตนเองที่มาเปรียบเทียบกับสองสิ่งสองอย่างนี้ รู้สึกว่ามนุษย์เป็นเพียงชีวิตที่เล็กน้อยมากที่มาอยู่อาศัยในโลกใบนี้

ชอบอ่านหนังสือ ท่องเที่ยวใน Internet ชอบเดินทางท่องเที่ยวแถว ในละแวกท้องถิ่นบ้านเกิด นาน ๆ ครั้งจะขึ้นไปเยี่ยมเพื่อนที่กรุงเทพฯ หรือไปหาซื้อหนังสือแถวสยามสแควร์ ถิ่นเก่าที่อยู่และที่เรียน






Friends' blogs
[Add ravio's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.