ความทรงจำเก่า ๆ ก่อนจะลืมเลือนหายไปกับกาลเวลา
Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2553
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
15 มิถุนายน 2553
 
All Blogs
 
สวนสัตว์แรกเริ่มที่หาดใหญ่ (ทวี)

สวนสัตว์แห่งแรกของหาดใหญ่ (ข้อมูลเพื่มเติม)

จากการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมบุตรชายเจ้าของสวนส้ตว์
ได้ข้อมูลเพิ่มเติมจากเดิมประกอบกับความทรงจำคือ
แต่เดิมพื้นที่ตั้งสวนสัตว์แห่งนี้
เป็นทุ่งนาทุ่งหญ้ารกร้าง บางส่วนเป็นที่เลี้ยงวัวบ้าน/วัวชนของชาวบ้าน
แต่วัวดีมีราคาและวัวชนชั้นดีจะเป็นของกำนันวร ทวีรัตน์
กำนันตำบลหาดใหญ่คนสุดท้าย
(กำลังรวบรวมข้อมูลและความคิดจะเขีียนถึงท่านสักบท
แบบว่ามีความทรงจำที่ดีกับท่านสมัยเด็ก ๆ สองสามเรื่อง)
วัวทั่วไปที่สมัยก่อนมักจะเดินทางท่องเที่ยวอยู่บนถนนสามสิบเมตร
หรือถนนศรีภูวนารถ จนเป็นที่รู้กันเรียกกันว่า วัวกำนันบ้าง วัวผู้ใหญ่บ้านบ้าง

เมื่อเจ้าของสวนสัตว์แห่งนี้ได้ซื้อที่ดินแปลงนี้มา
ก็เริ่มทำการขุดคลอง ขุดคูน้ำ
เพื่อยกระดับพื้นดินถมให้สูงขึ้นแทนการซื้อดินลูกรังมาถม
เพราะสมัยก่อนรถยนต์ รถบรรทุก ก็หายากและแพงส่วนหนึ่ง
กอปรกับส่วนมากจะใช้ทำมาหากินในงานเหมืองแร่ดีบุก
ที่ทำรายได้และราคาดีกว่ารับจ้างให้กับชาวบ้าน
เหมืองแร่ดีบุกที่อยู่รอบ ๆ หาดใหญ่ มีหลายแห่ง
เช่น นาหม่อม แถวควนจง ยังมีขุมเหมืองอยู่
บางส่วนตอนนี้เป็นที่ตั้งรีสอร์ทและโรงงานผลิตอาหารกระป๋อง
หูแร่(ใกล้กับน้ำตกโตนงาช้าง)
หูแร่ คือ สายแร่ดีบุกสองหรือมากกว่าสองสายแร่วิ่งมาชนกัน
ชาวบ้านที่ขุดเจอมักจะคุยอวดกันว่า หื้วหูขึ้นมาได้
ใครขุดเจอมักจะรวยโคตร ๆ (ภาษาวัยรุ่นปัจจุบัน)
ดินลาน (บ้านเก่าเหล่าขาว ในเรื่องชีวิตชายแดนปาดังเบซาร์)
ก็ยังมีขุมเหมืองอยู่ แต่ต่อนนี้ขายขุมเหมืองกันราคาแพงพอ ๆ กับดินที่ราบถนนเสมอถนน
เพราะเก็งกันว่าอิีกหน่่อยน้ำหายาก แบบภูเก็ต เกาะสมุย

หลังจากนั้นก็เจ้าของสวนแห่งนี้ก็เริ่มทะยอยสั่งซื้อสัตว์ป่ามา
ทีแรก ๆ ก็เลี้ยงไว้เพราะความชอบส่วนตัว
จากการได้ไปเที่ยวไปชมสวนดุสิตที่กรุงเทพฯ และเมืองนอก (ปีนัง)
ทำให้เกิดแรงบันดาลใจอยากทำสวนสัตว์
เพื่อเป็นสถานพักผ่อนส่วนตัวภายในครอบครัว และเพื่อนฝูง
ก่อนเริ่มมีการขายบัตรเพื่อรายรับส่วนหนึ่ง
ถามว่าคุ้มหรือไม่คุ้มกับรายรับรายจ่าย
ก็ไม่ถึงกับกำไร แต่เพื่อลดรายจ่ายบางส่วน
และเป็นส่วนหนึ่งของความชอบใจส่วนตัวเท่านั้น
เพราะจริง ๆ แล้วการลงทุนประเภทนี้ก็สูงอยู่มากแล้ว
เช่น ที่ กาญจนบุรี หรือสวนช้างอยุธยา ยังลำบากเลยแม้ในยุคนี้
ดังปรากฎในหน้าหนังสือพิมพ์ที่ผ่านมา

ส่วนสัตว์ป่าสมัยนั้นการซื้อขายยังไม่เข้มงวดมากนัก
ทำให้มีหลากหลายชนิด เช่น ลิง ค่าง เสือ หมี หมาป่า เป็นต้น
โดยใส่ไว้ในกรงขัง (ตามภาพเดิม) มีทางเดินให้อาหาร

ส่วนสระน้ำแยกเป็นสองสระออกจากกัน
คือสระหนึ่งเป็นที่เลี้ยงจระเข้ เพราะต้องขังไว้เป็นที่เป็นทาง
ส่วนอีกสระหนึ่งเป็นลำคลองไว้เลี้ยงปลาขะโด ปลาช่อน ปลาสวาย/สวยงาม
ไว้สำหรับการผักผ่อนและกีฬาทางน้ำ(ไม่ถึงกับว่ายน้ำ)
มีเรือพาย และจักรยานน้ำทำจากไม้กระดานกันน้ำ
คุณภาพในสมัยนั้นเทียบกับปัจจุบันไม่ถึงกับดีมากนัก
แต่ก็เป็นอะไุรที่หรูหรามากแล้วและพักผ่อนหย่อนใจได้
ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ที่มากันเป็นครอบครัว และหนุ่มสาวทั่วไป
จำได้ช่วงหลัง ๆ มีคนชายมาเลย์พาแฟนคนไทยไปเที่ยวกันมากขึ้น

ส่วนด้านหน้าที่เป็นด้านหลังกำแพงที่ขายไม้ดอกไม้ประดับตอนนี้
ก็มีการปลูกสวนประดิพัทธ์กับสวนฉัตร เพื่อความสวยงาม
และมีการนำทรายแก้ว จากสงขลา
ถ้าจำไม่ผิดจากแถวทุ่งหวัง แต่ก่อนมีมาก
คนแถวนั้นรุ่นเก่ารุ่นแก่เล่ากันว่า
สมัยสงครามโลกครั้งที่สอง กองทัพญี่ปุ่น ลงทุนสร้างถนนให้ฟรี
เพื่อขนทรายดังกล่าวกลับประเทศญี่ปุ่น ไปทำอุตสาหกรรมแก้วและอื่น ๆ
แต่บางส่วนก็ขนจากทรายหาดสงขลา
เพราะสมัยก่อนไม่ค่อยมีการหวงห้ามหรือยึดถือหลักกฎหมายว่า
แร่ ท่านให้หมายความถึง ทราย ด้วยอะไรทำนองนั้น
โดยนำทรายมาถมสูงประมาณศอกเศษ
ประมาณว่าไม่เกินกว่าสองสามห้องแถว
เพื่อความสวยงามและบรรยากาศแบบกึ่งทะล กึ่งชายหาด

เพราะสมัยนั้นการไปสงขลาไปได้สองทางหลักคือ
ทางรถไฟหาดใหญ่-สงขลา กับทางรถยนต์
แต่จัดว่าไกลมาก ถนนสองเลน รถราก็น้อย
แถมรถไฟตัดไปตัดมาผ่านถนนหลายจุดในสมัยนั้น
แปลกทีว่ารถไฟชนกับรถยนต์มีค่อนข้างน้อย
แต่จำได้ว่าครั้งหนึ่งนั่งรถยนต์กลับบ้านกับพ่อ
เจอเหตุการณ์รถไฟชนรถยนต์โดยสารคนจากต่างจังหวัด
จำได้ส่วนหนึ่งว่าเป็นคนมุสลิมเป็นส่วนมาก
ปรากฎว่ามีคนเจ็บตายเกลือนถนนสายสงขลา หาดใหญ่
เป็นข่าวโจษจันและน่าหวาดกล้วมากสำหรับเด็ก ๆ
เพราะเห็นศพและคนเจ็บนอนร้องครวญครางข้างทาง
พร้อม ๆ กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ แพทย์ พยาบาล และชาวบ้าน
มาช่วยเหลือเยียวยาคนเจ็บคนตายกันข้างถนนสายนี้

ในยุคนั้นพอเดินออกจากสถานีรถไฟสงขลา
ก็ต้องเดินด้วยปลายเท้าไปชายหาดสมิหรา
ถ้าไม่มีเงินว่าจ้างรถสามล้อรับจ้าง
คนในยุคนั้นเลยเดินกันค่อนข้างเก่่ง
เพราะรถราหายากและแพงส่วนหนึ่ง
กับเงินทองหายากด้วยในยุคนั้น

เมื่อสวนสัตว์แห่งนี้ทำหาดทรายเทียมเสร็จแล้ว
ก็มีการเอาเก้าอี้แบบชายหาดมาวางไว้
ถ้าจำไม่ผิดประมาณสิบถึงยี่สิบชุด
สำหรับการนั่งกินลมชมวิวและกินอาหาร
ที่สมัยนั้นจะสั่งอาหารและขนมไทย ๆ จากร้านแม่ทิพย์
ส่วนพวกขนมปัง/เค็กก็จากร้านโรยัลเบเกอรี่ เป็นหลัก
บางส่วนก็แฟนของเจ้าของผลิตขายเอง
ประเภทหมูสะเต๊ะ ย่างขายกันสนุกสนานทั้งคนกินและคนขาย

สวนสัตว์แห่งนี้จึงเป็นที่พักผ่อนแห่งหนึ่งของคนหาดใหญ่
ก่อนที่สวนสาธารณะจะเปิดเป็นทางการ
ก็ยังถือว่าไกลมากและเปลี่ยวพอสมควร
เพราะทางไปหลัก ๆ มีสองเส้นสมัยนั้น
เป็นทางสองเลนจากถนนเพชรเกษมไปเชื่อมที่สามแยกคอหงษ์
แล้วไปเชื่อมต่อที่ถนนกาญจนวนิชย์
ผ่านสวนยางพารา พรุ โรงยางเต็กบีห้าง
อีกเส้นจากถนนศรีภูวนารถไปเชื่อมต่อกาญจนวนิชย์
เลยจากวัดคลองหวะไปไม่ไกลนักก็เป็นสามแยก
ผ่านสำนักสงฆ์วัดโคกนาว ตรงข้าม มอ.ปัจจุบัน
ด้านหลังเป็นเปรวจีนกับเปรวไทย
และเป็นสวนยางพาราเป็นส่วนมาก น่ากลัวและเปลี่ยวมาก

ถนนทางเข้าก่อนพัฒนาเป็นสามสิบเมตรปัจจุบัน
จำได้ว่าทางถนนธรรมนูญวิถียังไม่ได้ทำสะพานข้ามคลองเตย
เรียกว่าสุดปลายทางที่โรงเรียนแสงทองวิทยา
ส่วนสะพานข้ามคลองไปที่โรงเรียนแสงทองวิทยามีสองสะพาน
ด้านธรรมนูญวิถีหนึ่งสะพาน ด้านถนนชีอุทิศอีกหนึ่งสะพาน
จำได้ว่าเป็นสะพานไม้อยู่ช่วงหนึ่งหลายปี
และมีรถยนต์วิ่งผ่านแล้วล้อหลุดเข้าไปในไม้
ต้องเกณฑ์คน/ชาวบ้านมาช่วยกันเป็นงานมหกรรม
สนุกสนานกันบนความทุกข์ร้อนของเจ้าของรถยนต์
จำได้แม่นเคยไปมุงดูแบบกลัว ๆ กล้า ๆ กับพี่สาว
กลัวหลุดหล่นลงไปเหมือนล้อรถยนต์
จะข้ามคลองเตยไปสวนสัตว์แห่งนี้ต้องอ้อมไปไกล
แล้วเดินลัดเลาะเอา หรือมาทางปากทางศรีภูวนารถ
(ถ้าจำผิดก็ช่วยบอกด้วย จำจากสมัยเด็กปนวัยรุ่นส่วน)

ต่อมาเมื่อบ้านเมืองเจริญขึ้น
ถนนหนทางก็ขยายตัวมากขึ้น
รถยนต์ก็เดินทางกันสะดวกรวดเร็วขึ้น
ทางไกลก็ว่าใกล้ ขึ้นมาก
ความนิยมสวนสัตว์แห่งนี้ก็ลดลงไปเรื่อย ๆ
จนภายหลังมีการขอใช้พื้นที่จากเทศบาล
เพื่อขยายแนวเขตถนนสามสิบเมตร
และหลังน้ำท่วมปี ๒๕๓๑ สวนแห่งนี้ก็โดนกระทบไปส่วนหนึ่ง
ได้สอบถามบุตรชายเจ้าของเรื่อง จระเข้หลุดออกมาจริงหรือไม่
แกยืนยันว่าไม่จริง เพราะแถวที่แกอยู่น้ำท่วมไม่ถึงศอก
และแนวกำแพงล้อมรอบทำให้จระเข้ออกไม่ได้

รวมทั้งต่อมากฎหมายสัตว์ป่า สัตว์สงวน
ทำให้เจ้าหน้าที่เริ่มเข้มงวดมากขึ้น
ก็มีส่วนทำให้การซื้อขายสัตว์ป่าก็หายากขึ้น
สัตว์ป่าแปลก ๆ ใหม่ ๆ ก็โหรงเหรง(มีน้อยลง)
ยังก็แต่จระเข้ กับ ปลาตัวโต ๆ
รวมทั้งเริ่มมีของฟรีแบบสวนสัตว์ให้ดู
โดยเทศบาลเมืองหาดใหญ่ได้จำลองแบบไปสร้างที่ปัจจุบัน
เลยเป็นบทสรุปสุดท้ายของครอบครัวนี้ว่า
ขอยุติบทบาทการเป็นสวนสัตว์แห่งแรกของหาดใหญ่

เขียนขึ้นจากความทรงจำเก่า ๆ
ก่อนที่จะเลือนหายไปกับกาลเวลาที่เดินทางเข้ามาตลอด


เพื่อความสมบูรณ์ของเนื้อหา ขอนำภาพจาก google มาประกอบ
เผื่อผุ้สนใจจะได้ทราบแหล่งหรือขอเยี่ยมชม
แต่ควรขออนุญาตผู้ดูแลก่อน และข้อควรระมัดระวังคือ งู กับ ยุง










Create Date : 15 มิถุนายน 2553
Last Update : 4 พฤษภาคม 2554 11:01:33 น. 10 comments
Counter : 1355 Pageviews.

 

ขอบคุณที่นำมาฝากให้อ่านค่ะ


โดย: อุ้มสี วันที่: 15 มิถุนายน 2553 เวลา:22:21:27 น.  

 
ขอบคุณค่ะ อยู่หาดใหญ่ตั้งนาน เพิ่งทราบอดีต เป็นอย่างนี้นี่เอง


โดย: suki (ZoneSmile ) วันที่: 15 มิถุนายน 2553 เวลา:22:33:40 น.  

 
ขอบคุณมากที่เขียนให้อ่าน ภาพในอดีตผุดขึ้นมาทันที สมัยก่อนไม่มีร้านไหนดังเท่าร้านแม่ทิพย์ อาหารประเภทขนมหวาน
อาหารไทย และร้านรอแยลเบเกอรี่ ถนนธรรมนูญวิถี อร่อยมาก
เป็นร้านแรก ๆ ของหาดใหญ่ที่ขายเบเกอรี่


โดย: พี่แอ๊ด หาดใหญ่ IP: 113.53.8.214 วันที่: 15 มิถุนายน 2553 เวลา:22:46:49 น.  

 
ย้ายออกมาแล้ว...ยังคิดถึงอยู่


โดย: คนไกล IP: 61.7.147.155 วันที่: 15 มิถุนายน 2553 เวลา:23:34:04 น.  

 
เป็นบทความที่เผยให้เห็นภาพในอดีต ของหาดใหญ่ได้ชัดเจนทีเดียว อนึ่ง คนหาดใหญ่, สงขลา ในสมัยก่อน เวลาจะไปเที่ยวกันสักครั้ง ช่างแสนลำบาก เพราะรถรามีน้อย ถนนหนทางก็ไม่สะดวก เหมือนปัจจุบัน ขอขอบคุณ คุณ ravio ที่นำข้อมูลประวัติศาสตร์ มาให้อ่านกันครับ


โดย: จันทราอาทิตย์ IP: 202.183.226.42 วันที่: 16 มิถุนายน 2553 เวลา:9:08:44 น.  

 


โดย: ravio วันที่: 16 มิถุนายน 2553 เวลา:19:57:04 น.  

 
เป็นเรื่องที่ทั้งคนเขียน และคนอ่าน มีความสุขมาก ๆ ค่ะ


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 19 มิถุนายน 2553 เวลา:10:16:18 น.  

 
ขอบคุณครับ


โดย: หลายกำนันวร IP: 183.88.116.157 วันที่: 6 กรกฎาคม 2553 เวลา:21:12:09 น.  

 
สวัสดีค่ะ


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 11 สิงหาคม 2553 เวลา:16:20:43 น.  

 
ดีคร่า ทักทายนะคะ


โดย: www.24hotcasino.com IP: 180.183.245.22 วันที่: 18 ธันวาคม 2553 เวลา:12:51:00 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ravio
Location :
สงขลา Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 32 คน [?]




เกิดหาดใหญ่ วัยเด็กเรียนหนังสือโรงเรียน Catholic คณะ Salesian มีนักบุญประจำโรงเรียน Saint Bosco, Saint Savio ชอบอ่านหนังสือ godfather เกี่ยวกับ Mafio ของพวกซิซีเลียน เคยเล่นเกมส์ Mario แล้วได้คะแนนนำเลยนำสระโอมาต่อท้ายชื่อเป็น Ravio ได้กลิ่นอายแบบ Italino เคยเดินทางเข้ากรุงเทพฯ เพื่อเรียนวิชาชีพทำมาหากิน แต่ไม่ใช่วิชาที่ชื่นชอบมากนัก เรียนอยู่กว่าเจ็ดปี ต้องกลับมาทำงานเป็นกรรมกรที่บ้านเกิด จนเริ่มเกิดความหลงรักชีวิตบ้านนอก และวิถีชิวิตชุมชนท้องถิ่นที่ตนอยู่และไปร่วมวงเสวนา

เกิดเดือนมีนาคม แต่ลัคนาราศรีตุลย์ ชอบไปทุกเรื่อง สุดท้ายทำอะไรที่ได้เรื่องไม่กี่เรื่อง แต่ส่วนมากมักไม่ได้เรื่อง

ชอบขับรถยนต์ท่องเที่ยวชมภูเขา ป่าไม้ น้ำตก แต่ไม่ชอบทะเลหรือชายหาด เพราะรู้สึกอ้างว้าง โดดเดี่ยว เมื่อคิดถึงชีวิตตนเองที่มาเปรียบเทียบกับสองสิ่งสองอย่างนี้ รู้สึกว่ามนุษย์เป็นเพียงชีวิตที่เล็กน้อยมากที่มาอยู่อาศัยในโลกใบนี้

ชอบอ่านหนังสือ ท่องเที่ยวใน Internet ชอบเดินทางท่องเที่ยวแถว ในละแวกท้องถิ่นบ้านเกิด นาน ๆ ครั้งจะขึ้นไปเยี่ยมเพื่อนที่กรุงเทพฯ หรือไปหาซื้อหนังสือแถวสยามสแควร์ ถิ่นเก่าที่อยู่และที่เรียน






Friends' blogs
[Add ravio's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.