ความทรงจำเก่า ๆ ก่อนจะลืมเลือนหายไปกับกาลเวลา
Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2553
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28 
 
16 กุมภาพันธ์ 2553
 
All Blogs
 
ครูที่ยังจำได้ชั่น ป.5.ก.(ตอนแรก)

ครูประจำชั้นที่ยังจำได้ ชั้น ป.5.ก. (ตอนที่ 1)

สมัยสอบผ่านชั้นประถมปีที่ 4 ก.
ก็ได้เข้าเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ก.
ตอนนี้ห้องเรียนได้ขยายเป็น 4 ห้องแล้ว
จากเดิมป 1 ถึง ป 4 มีเพียง 3 ห้องคือ ก ข ค
แต่เมื่อขึ้นชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ก็เพิ่มขึ้นอีกหนึ่งห้อง
เพราะจำนวนนักเรียนที่สมัครเรียนมากขึ้น
รวมทั้งเด็กจำนวนหนึ่งเกือบทั้งห้องเป็นเด็กนักเรียนประจำ
กินอยู่หลับนอนอยู่ที่โรงเรียน ได้กลับบ้านก็เสาร์อาทิตย์
ถ้าพ่อแม่มารับหรือมีหนังสืออนุญาตให้กลับบ้านเองได้
ส่วนถ้าไม่มารับหรือไม่อนุญาตให้กลับบ้านเองได้
ก็ต้องอยู่ประจำที่โรงเรียนในวันเสาร์อาทิตย์
แต่จะมีบราเดอร์หรือครูพาเดินเที่ยวในหาดใหญ่
มีเพื่อนผมคนหนึ่งบ้านอยู่ในหาดใหญ่
ถูกพ่อแม่ดัดนิสัยให้มาอยู่โรงเรียนประจำ
ปรากฎว่าครบเทอมจึงจะได้กลับบ้านตามเดิม
ก็ไม่อยากกลับแล้วเพราะติดเพื่อนมากกว่าเดิม
แต่เมื่อกลับไปอยู่บ้านก็จะเรียบร้อยและเป็นระเบียบกว่าอดีตมาก

ครูประจำชั้นคนนี้จำได้แต่ว่าชื่อ ครูประดิษฐ์
แต่จำนามสกุลไม่ได้แล้ว
จำได้แต่หน้าเลา ๆ ว่า เป็นคนหน้าอวบอ้วน
มีหนวดเคราที่โกนแล้วยังดูออกว่าผ่านการโกนหนวดเครามาแล้วเป็นเส้นแข็ง
และเส้นผมและเส้นขนตามแขนก็จะมีลักษณะหยิกมากกว่าปกติ
แม้ว่าหน้าตาจะเป็นลูกครึ่งจีนไทยก็ตามแต่
ในชั้นเรียนนี้เริ่มมีครูมาสอนภาษาอังกฤษหนึ่งคน ครูสอนดนตรีอีกหนึ่งคน
ครูสอนภาษาไทยอีกหนึ่งคน และครูสอนวิชาพละอีกหนึ่งคน ครูสอนการฝีมืออีกคน
งานฝีมือส่วนมากพอทำเสร็จเรียบร้อยแล้ว
โรงเรียนก็จะคัดเลือกชิ้นงานดี ๆ แล้วไปเก็บไว้โชว์ที่ตู้โชว์ของโรงเรียน
บางชิ้นงานก็จะนำไปขายตอนช่วงคริสมาสต์เข้าเป็นรายได้ของโรงเรียนต่อไป
ส่วนชิ้นงานที่ไม่ได้เรื่องก็จะส่งคืนเด็กหรือบางทีก็เอาไปทำไม้ฟืนต่อไป
ส่วนครูประจำชั้นผูกขาดสอนคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ภูมิศาสตร์ ประวัติศาสตร์

สำหรับครูสอนวิชาดนตรี ก็สอนการอ่านโนตดนตรี แล้วให้โจทย์มาคือ
แต่งเพลงตามโนตดนตรีที่สอน ก็ปรากฏว่าสอบตกตามระเบียบเกือบทั้งห้อง
แต่มีผลต่อคะแนนเรียนน้อยมากเพราะเก็บคะแนนเพียงยี่สิบคะแนนจากหนึ่งพันคะแนน
คือ คะแนนจริง ๆ ก็คือสองคะแนน จากคะแนนเต็มร้อย
เพราะไม่รู้ไม่เข้าใจมาแต่แรกเริ่มหรือมีพื้นฐานแต่อย่างใดเลย
เว้นแต่เด็กนักเรียนที่เป็นนักดนตรีวงดุริยางสากลของโรงเรียนที่สอบผ่าน
เพราะจำโนตดนตรีที่ตนเองฝึกซ้อมทุกเช้าเที่ยงเย็นได้
น่าจะเป็นการกึ่งเชิญชวนและบังคับให้เด็กนักเรียนสมัครเป็นนักดนตรีโรงเรียนมากขึ้น
แต่เด็กนักเรียนส่วนมากมักจะไม่สนใจ เพราะต้องมีการฝึกซ้อมทุกเช้าเที่ยงเย็น
ทำให้หลายคนไม่สนใจหรืออยากจะเป็นนักดนตรีโรงเรียนมากนัก

ส่วนครูพละก็จะสอนเน้นแต่การเตะบอลล์ เลี้ยงบอลล์
เด็กนักเรียนที่ไม่มีเบสิคหรือพื้นฐานก็จะเป็นอะไรที่ยากมาก
เพราะมีการสอนเพียงสัปดาห์ละหนึ่งวันเท่านั้น
ลูกบอลล์สมัยก่อนก็เป็นอะไรที่แพงมากด้วยเช่นกัน
การซ้อมบอลล์อย่างมากก็ลูกบอลล์พลาสติค
ส่วนลูกบอลล์แข่งขันก็เฉพาะเด็กนักเรียนรุ่นใหญ่เท่านั้น
ผลก็ปรากฎว่าเด็กนักเรียนส่วนมากสอบตกวิชานี้
แต่มีผลน้อยมากเพราะคะแนนเก็บเพียงสิบคะแนนจากหนึ่งพันคะแนน
(ก็เช่นกันคะแนนจริง ๆ คือ หนึ่งคะแนนจากคะแนนทั้งปีการศึกษาหนึ่งร้อยคะแนน)
คือให้หลักพันคะแนนแล้วทอนเหลือหลักร้อยคะแนน เผื่อปัดเศษ)
ส่วนบาสเก็ตบอลแทบไม่ได้สอนเลย เด็กนักเรียนต้องไปเรียน/ฝึกกันเอง
ยิ่งวิชาภาษาไทยสมัยนั้นเป็นอะไรที่เสียความรู้สึกมาก
คือ ห้าคะแนนเท่านั้นเอง เรียกว่าไม่มีผลกระทบอะไรมาก
ถ้าสามารถทำวิชาหลัก ๆ คือ คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ
ภูมิศาสตร์ ประวัติศาสตร์ ซึ่งมีคะแนนหลักร้อยขึ้นไปทั้งนั้น
ดังนั้น นักเรียนที่เรียนไม่ค่อยเก่งมากนักหรือไม่สนใจมากนัก
ก็จะพยายามเดาหรือทำวิชาหลักเหล่านี้มากกว่าวิชาอื่น ๆ ที่คะแนนน้อยมากเช่นกัน

สำหรับครูสอนภาษาอังกฤษมีตำนานและเรื่องเล่าขานมาก
จะเขียนในบทต่อไป (กำลังลำดับความทรงจำ)
เลยต้องรีบเขียนปฐมบทไว้ก่อนกันลืม



Create Date : 16 กุมภาพันธ์ 2553
Last Update : 10 พฤษภาคม 2553 13:46:55 น. 4 comments
Counter : 900 Pageviews.

 
แสดงว่าจำคุณครูได้หลายท่านนะคะ


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:17:04:31 น.  

 
เป็นคุณครูค่ะ อยากรู้เหมือนกันว่า นักเรียน จะจำเราแบบไหน ^^


โดย: ตีลังกาเขียน วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:20:16:54 น.  

 
เป็นเรื่องแปลกที่จำชีวิตช่วงนั้นได้ถึงมศ.3 ก
แต่พอระดับชั้น มศ.4 ถึง ปริญญาตรี
กลับจำอะไรไม่ค่อยชัดเจน
จำได้แต่ชีวิตสนุกสนานที่หอพักซีมะโด่ง
จะทะยอยเขียนไปเรื่อย ๆ
แล้วแต่ความทรงจำเก่า ๆ จะสะกิดสะเกาขึ้นมา

หมายเหตุ
น้องสาวยังสงสัยเลยว่าทำไมจำเก่งจังในเรื่องเก่า ๆ
แบบว่าเธอก็ลืมไปแล้วเหมือนกัน (เธอมาแอบอ่านอยู่)
แล้วโทรศัพท์มาพูดคุย
ก็ยังงง ๆ ตนเองอยู่เหมือนกัน


โดย: ravio วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:20:25:19 น.  

 
คุณ ravio ไม่ต้องงงตัวเองหรอกครับ เพราะผมก็เป็นคนที่จำความหลังเก่า ๆ เรื่องราวเก่าๆ สมัยเด็กๆ ตั้งแต่ประถม - มัธยมต้น ได้แม่นยำ เหมือนกัน เพลงสตริงไทยยุคเก่าๆ จำได้เกือบหมดว่าใครร้อง จิปาถะ จนเพื่อนๆ บอกว่า ไม่รู้เอาสมองที่ไหนมาจำเรื่องเก่าๆ ได้มากมาย ปานนั้น ทั้งๆ ที่ เขาลืมกันไปหมดแล้ว


โดย: จันทราอาทิตย์ IP: 202.183.226.42 วันที่: 8 มีนาคม 2553 เวลา:9:01:41 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ravio
Location :
สงขลา Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 32 คน [?]




เกิดหาดใหญ่ วัยเด็กเรียนหนังสือโรงเรียน Catholic คณะ Salesian มีนักบุญประจำโรงเรียน Saint Bosco, Saint Savio ชอบอ่านหนังสือ godfather เกี่ยวกับ Mafio ของพวกซิซีเลียน เคยเล่นเกมส์ Mario แล้วได้คะแนนนำเลยนำสระโอมาต่อท้ายชื่อเป็น Ravio ได้กลิ่นอายแบบ Italino เคยเดินทางเข้ากรุงเทพฯ เพื่อเรียนวิชาชีพทำมาหากิน แต่ไม่ใช่วิชาที่ชื่นชอบมากนัก เรียนอยู่กว่าเจ็ดปี ต้องกลับมาทำงานเป็นกรรมกรที่บ้านเกิด จนเริ่มเกิดความหลงรักชีวิตบ้านนอก และวิถีชิวิตชุมชนท้องถิ่นที่ตนอยู่และไปร่วมวงเสวนา

เกิดเดือนมีนาคม แต่ลัคนาราศรีตุลย์ ชอบไปทุกเรื่อง สุดท้ายทำอะไรที่ได้เรื่องไม่กี่เรื่อง แต่ส่วนมากมักไม่ได้เรื่อง

ชอบขับรถยนต์ท่องเที่ยวชมภูเขา ป่าไม้ น้ำตก แต่ไม่ชอบทะเลหรือชายหาด เพราะรู้สึกอ้างว้าง โดดเดี่ยว เมื่อคิดถึงชีวิตตนเองที่มาเปรียบเทียบกับสองสิ่งสองอย่างนี้ รู้สึกว่ามนุษย์เป็นเพียงชีวิตที่เล็กน้อยมากที่มาอยู่อาศัยในโลกใบนี้

ชอบอ่านหนังสือ ท่องเที่ยวใน Internet ชอบเดินทางท่องเที่ยวแถว ในละแวกท้องถิ่นบ้านเกิด นาน ๆ ครั้งจะขึ้นไปเยี่ยมเพื่อนที่กรุงเทพฯ หรือไปหาซื้อหนังสือแถวสยามสแควร์ ถิ่นเก่าที่อยู่และที่เรียน






Friends' blogs
[Add ravio's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.