ความทรงจำเก่า ๆ ก่อนจะลืมเลือนหายไปกับกาลเวลา
Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2553
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
25 มิถุนายน 2553
 
All Blogs
 
โต้ว ร้านน้ำชากาแฟหาดใหญ่ (ตรี)

โต้วร้านน้ำชากาแฟ ตอนทีสาม

หลังจากได้กู้เงินมาเพื่อซื้อบ้านทำกิจการร้านชากาแฟ
ส่วนด้านบนก็ทำเป็นโรงแรมให้เช่าต่อ
กิจการก็พอเลี้ยงตัวและส่งเสียลูกหลานให้เรียนหนังสือต่อไปได้
แต่ก็เรียกว่าต้องหมุนเงินกันตัวเป็นเกลียว
เพราะรายรับจากการให้เช่าพื้นที่ขายของข้างล่าง
หรือเรียกว่าการแปลงสินทรัพย์เป็นทุนได้ไม่มากเท่าไรนัก
เช่น ร้านขายก้วยเตี๋ยวราดหน้า ข้าวต้มหมี่เป็ด ข้าวมันไก่ เป็นต้น
จนกระทั่งลูกชายคนที่สองกลับมาจากการไปขายสินค้า
ให้กับทหาร GI ที่อุดรราชธานีสมัยสงครามเวียตนาม
ก็ต้องหันเหปรับปรุงธุรกิจใหม่ เพราะมีลูกมีเมียแล้ว
ครอบครัวก็หลายปากหลายท้องต้องใช้เงินกงสี
ในการส่งให้ลูกเรียนหนังสือส่วนหนึ่ง
จึงได้มีการ Renovate พื้นที่ใหม่หมด
จากเดิมที่ให้เช่าก็เข้ามาทำการขายเองเกือบทั้งหมด
รายเก่า ๆ ก็ค่อย ๆ บอกเลิกสัญญาเช่าไป
สุดท้ายก็เป็นของครอบครัวนี้บริหารธุรกิจกันเองทั้งหมด
เรียกว่า ทำธุรกิจตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำกันเลย

ผลจากการทำธุรกิจเองทั้งหมด
โดยส่วนไหนที่เป็นความลับการค้าก็ทำเอง
ส่วนไหนที่เป็นงานทั่วไปใช้แรงงานก็ให้ลูกน้องทำ
รายรับก็เริ่มเข้ามาเป็นกอบเป็นกำ
มีเงินผ่อนส่งธนาคารมากขึ้น
จนเหลือเงินที่ทำให้โต้วอยากกลับไปเยี่ยมญาติฝ่ายพ่อที่ไหหลำ
เพราะมีญาติพี่น้องที่มาเลย์ยังติดต่อกันอยู่
โต้วจึงไปทำ Passport ที่สถานกงศุลมาเลเซียที่สงขลา
เพื่อเดินทางไปฮ่องกงก่อน แล้วแอบหนีเข้าไปไหหลำ
เพราะสมัยนั้นมาเลย์ยัง Anti ประเทศจีนและคอมมิวนิสต์มาก
ทำให้มีปัญหาเพราะสายลับของมาเลย์ไปฟ้องกงศุลมาเลย์
เจ้าหน้าที่ก็มาหาและบอกว่ามาจากกงศุลมาเลย์
เพื่อจะสอบสวนหาข้อเท็จจริงว่า
คบหากับคอมมิวนิสต์จริงหรือไม่
จะไม่ให้เข้าประเทศมาเลเซียอีก

แกก็เลยโวยวายด่าคนที่บอกว่าเป็น
เจ้าหน้าที่ของกงศุลมาเลย์ว่า
ดูแลก็ไม่ดูแล ยังไง ๆ แกก็ไม่กลับไปอยู่แล้ว
เพราะทำมาหากินอยู่ในประเทศไทย
ลูกหลานก็อยู่และมีการศึกษาที่ดีในไทย
สู้ยอมตายในเมืองไทย
ดีกว่ากลับไปประเทศแย่ ๆ ของแก
ที่มีส่วนทำให้พ่อของแกเสียชีวิต
สุดท้ายก็จบแบบไทย ๆ คือ ไม่มีอะไร
ทางเจ้าหน้าที่กงศุลมาเลย์ก็ทำอะไรแกไม่ได้
ได้แต่ขู่ไปอย่างงั้น ๆ
จนเมื่อมาเลย์กลับมาคบค้ากับจีนแดง
เรื่องดังกล่าวก็เลิกร้างกันไปเอง

ก็เหมือน ๆ กับการเดินทางของพ่อแม่ผู้เขียน
ต้องไปทำ Passport ที่สถานกงศุลจีน(ไต้หวัน) ที่สงขลา
แล้วเดินทางไปที่ฮ่องกง(กวางเจา)
ก่อนเดินทางด้วยรถไฟเข้าประเทศจีน
โดยใช้ใบผ่านทาง Border Pass แบบครั้งคราว
ของประเทศจีนที่ให้คนจีนโพ้นทะเลเข้าไปเยี่ยมญาติได้
สมัยที่ประเทศไทยยังไม่มีสัมพันธ์ทางการทูตกับจีนแดง
และเกลียดกลัวคอมมิวนิสต์มากเป็นพิเศษ

เมื่อถึงโต้วถึงไหหลำแล้วก็ถามสารทุกข์สุกดิบของญาติ ๆ
พร้อมกับของฝากจากแดนไกล
และเงินทองมอบให้กับญาติพี่น้องที่ยังอยู่ที่นั่น
ทางญาติพี่น้องก็บอกไม่รู้จะตอบแทนน้ำใจยังไง
เลยพาไปที่ฝังศพบรรพบุรุษ
แล้วขุดหลุมศพหากำไลหยกที่บรรพบุรุษใส่ก่อนเสียชีวิต
เพื่อมอบให้โต้วเป็นของขวัญและตอบแทนน้ำใจไมตรี
รวมทั้งคนจีนเชื่อว่าหยกจากคนตาย
จะมีส่วนช่วยเหลือโชคชะตาและปกป้องภัยพิบัติบางอย่าง
หยกที่โต้วได้มามีสีซีดและออกเหลือง ๆ
บางคนก็พูดเกินเลยไปว่า
หยกคงดูดซับน้ำเหลืองจากศพเข้าไปแล้ว
จริง ๆ แล้วน่าจะเป็นสภาพของเนื้อหยกมากกว่า

เมื่อโต้วกลับถึงเมืองไทยแล้ว
ก็คิดว่ากิจการที่ให้ลูกชายคนที่สองบริหาร
คงจะมีเงินเก็บแล้วชำระหนี้ธนาคารดอกบัวได้หมดสิ้น
เลยพาของฝากจากเมืองจีนไปเยี่ยมผู้จัดการ
แล้วสอบถามฐานะการเงินและบัญชีว่าเป็นอย่างไร
ชำระหนี้หมดสิ้นแล้วยัง

ผู้จัดการธนาคารเลยบอกว่า
"โต้วใจเย็น ๆ ก่อน
นั่งกินน้ำชาและดูทีวีก่อน"
แล้วนำบัญชีเงินฝากมาให้ดู
ปรากฏว่าแกดูแล้วแทบเป็นลมทันที
เพราะยอดหนี้ก่อนไปจีนไหหลำน้อยกว่าห้าแสน
กลับกลายเป็นหนี้สองล้านกว่าบาท
เลยถามถึงเหตุผลทำไมหนี้เพิ่มมากมาย
ผู้จัดการธนาคารเลยบอกว่า
ลูกชายโต้วมาเบิกเงินสดตามเช็คที่สั่งจ่ายได้
เลยมีหนี้คงค้างอยู่ตามจำนวนดังกล่าว

เมื่อโต้วกลับถึงบ้านก็เรียกลูกชายตัวดีมาสอบถาม
ความจริงเลยปรากฏว่า
ลูกชายนำเงินไปใช้เองทั้งหมด
แต่ที่แน่ ๆ คือไปเสียการพนัน MaJong
เพราะมีการเหยียบขากันในวงเล่น
หมายถึง มีการรวมหัวกันสองคนหรือสามคนในการพนัน
เพื่อช่วยกันตีไพ่ที่คาดหมายว่าคู่ของตนต้องการ
โดยให้คนใดคนหนึ่งชนะไปก่อนแล้วค่อยไปแบ่งรายได้กัน

โต้วเลยด่าว่าใหญ่แถมรำพึงรำพันถึง
ความโชคเคราะห์ร้ายที่ไปฝากปลาไว้กับแมว
พี่น้องที่ทราบเรื่องดังกล่าวต่างก็โกรธ
และโมโหกันมากในเรื่องหนี้สินที่เกิดขึ้น
เพื่อนของโตัวที่เป็นคนไหหลำด้วยกัน
ก็พลอยผสมโรงในการร่วมตักเตือนว่ากล่าว

ต้องเข้าใจกันเบื้องต้นว่า
ในร้านกาแฟบางแห่ง เวลาพูดจากัน
มักจะใช้เสียงดังกว่าปกติในการพูด
เสียงทะเลาะติเตียนเลยอื้ออึงไปทั่ว
ลูกชายคนที่สองของโต้ว เรียกเล่น ๆ ว่า โกยี ก็แล้วกัน
เลยเดินไปที่เขียงขายข้าวมันไก่
แล้วเอาปังตอสับข้อนิ้วก้อยข้างซ้ายหนึ่งข้อ
เลือดกระฉูดเต็มเขียงขายข้าวมันไก่
เล่นเอาตกอกตกใจกันไปทั้งร้านกาแฟ
ผลต้องรีบนำแกไปส่งโรงพยาบาลหาดใหญ่
เสียงติเตียนและแนะนำเลยเงียบลง
เพราะห่วงใยคนเจ็บมากกว่าในเรื่องเสียการพนัน

เรื่องนี้เคยถามโกยีตอนอารมณ์แกดี ๆ ว่า
ทำไปทำไมถึงยอมตัดข้อนิ้วก้อยหนึ่งข้อของตนเอง
แกบอกว่า รำคาญเห็นเสียงบ่นเสียงด่ามากมาย
แต่พอทำไปก็ปรากฏว่าเรื่องก็จบและเงียบไปแบบไทย ๆ
คือ รับรู้ว่ามีปัญหาอยู่แต่การสมานฉันท์และเยียวยาก็ยังไม่ชัดเจน
ผลคือ แม่ของแกและพี่น้องแกต่างไม่ยอมพูดถึงเรื่องนี้อีก

ก็น่าคิดว่าโกยีอาจจะเอามาจากแนวคิด
ในหนังสือกำลังภายในของ โกวเล้ง
ที่โกยีชอบอ่านมากและ Style นักเลงโบราณจีน
หรือการที่เคยอ่านพบว่า
นักเลงของยากูซ่าของญี่ปุ่น
ถ้าทำผิดพลาดก็ต้องยอมตัดนิ้วตนเอง
เพื่อขอขมาโทษต่อพี่น้ององค์การ
ถ้าใครถูกตัดหลายนิ้วมากก็แสดงว่า
มีข้อบกพร่องผิดพลาดมากอะไรทำนองนั้น
แต่เรื่องนี้พอถามกลับไปยังฝั่งเพื่อนโกยีบางคน
กลับบอกว่า "จริง ๆ แล้วโกยีควรตัดหัวขอโทษแม่ตนเองมากกว่า"
เพราะทำผิดจริง ๆ การตัดนิ้วไม่ได้ช่วยอะไรได้มาก

พูดถึงเรื่องนี้ก็ขอเล่าต่อเนื่องถึง
การพนัน Majong แบบนี้และการพนันแบบรัมมี่
เซียนบางคนจะสามารถจำไพ่ที่มีคนตีออกมาแล้วทั้งหมด
และจำได้ด้วยว่าใครเก็บไพ่อะไรขึ้นไป
เพราะเคยพบครูสอนพิเศษ(กวดวิชา)คนหนึ่ง
น่าจะเป็นครูโรงเรียนแสงทองวิทยาคนแรก
ที่ลาออกจากการเป็นครูประจำโรงเรียน
มาเปิดสอนพิเศษและติวหรือกวดวิชา
กับนักเรียนโรงเรียนแสงทองวิทยาและ
โรงเรียนธิดานุเคราะห์ กับโรงเรียนอื่น ๆ
เป็นรายรับหลักอย่างเดียวในสมัยก่อน ๆ
จำได้ว่าชื่อ ครูสาธิต (ลืมนามสกุลของแกแล้ว)
เป็นคนจากบ้านนาสาร สุราษฏร์ธานี

แกใช้วิธีนี้เป็นประจำในการเล่นการพนันแบบนี้
เพราะแกเคยเล่าให้ฟังเวลาแกไม่รู้จะเล่าอะไรให้เด็กฟัง
เป็นการสอนเทคนิคการจำอย่างหนึ่ง
แต่ส่วนมากนักเรียนก็มักจะทำกันไม่ได้
แกคุยว่าวิธีการดังกล่าวนี้
ทำให้แกชนะขาไพ่ที่เล่นกับแกเสมอ

สุดท้ายเลยถูกยิงตายขณะขับรถจักรยานยนต์
ออกจากบ้านที่หาดใหญ่ในจะไปซื้อข้าวของ
ขณะนั่งบน Honda CB125 ในท่าที่เอามือขวาห้าม
หรือร้องขอคนยิงว่าอย่ายิง
แต่ถูกยิงทะลุมือขวาเข้าหน้าอกตายคาที่
เพราะขาไพ่หาว่าแกโกงไพ่เวลาเล่น
เพราะเล่นที่ไรแพ้ประจำทุกที
แถมแกยังจำได้ว่าตีไพ่อะไรมาหรือถือ/เก็บไพ่อะไร
สุดท้ายเลยเผาศพแกที่วัดหาดใหญ่ใน
แล้วลอยอังคารของแกไปบางส่วน
ส่วนข้าวของเครื่องใช้ หนังสือตำราเรียน ประกอบการสอน
เครื่องโรเนียวสมัยก่อนเป็นอะไรที่แพงมาก
ก็ขายเหมาไปทั้งหมดในราคาถูก ๆ
พี่สาวแกก็นำแต่สมบัติบางชิ้นที่ใช้ได้กลับบ้านไป
ปิดตำนานครูสาธิต ครูกวดวิชาคนแรกของหาดใหญ่

เขียนขึ้นจากความทรงจำเก่า ๆ
ก่อนที่จะเลือนหายไปกับกาลเวลาที่เหมือนสายน้ำไม่หวนกลับมา


Create Date : 25 มิถุนายน 2553
Last Update : 4 พฤษภาคม 2554 11:02:45 น. 13 comments
Counter : 1595 Pageviews.

 
คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...


โดย: นนนี่มาแล้ว วันที่: 25 มิถุนายน 2553 เวลา:18:11:18 น.  

 


โดย: หาแฟนตัวเป็นเกลียว วันที่: 25 มิถุนายน 2553 เวลา:19:05:18 น.  

 
ปู่เป็นคนไหหลำค่ะ ก็มีย่าเมืองจีนด้วย แต่ไม่รู้จักเลยค่ะ

ก่อนสงครามปู่ก็ส่งคุณพ่อไปเรียนเมืองจีนพอมีการปฏิวัติที่จีน คุณพ่อก็กลับมาเรียนที่เมืองไทย ดีที่เมื่อก่อนมีเรียนพาสชั้น ตอนนี้คุณพ่อ 87 แล้วค่ะ



โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 25 มิถุนายน 2553 เวลา:20:22:24 น.  

 


เพื่อนรักที่เรารู้ว่าเธอจะไม่ไปไหน เธอจะอยู่ในที่ที่มีความสุขที่สุดของเธอคืออธิษฐานในบ่อน้ำแห่งศรัทราเพื่อความสุขสงบเกิดขึ้นในโลก

เอามาฝากยามดูบอลไม่เร้าใจ


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 25 มิถุนายน 2553 เวลา:22:25:38 น.  

 


โดย: นนนี่มาแล้ว วันที่: 27 มิถุนายน 2553 เวลา:1:41:50 น.  

 
ตอนพระธาตุล้มน่าจะราว 2518-9 นี่แหละค่ะ นานครัน


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 27 มิถุนายน 2553 เวลา:7:51:51 น.  

 
คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...


โดย: คมไผ่ วันที่: 28 มิถุนายน 2553 เวลา:20:37:11 น.  

 
สวัสดีครับคุณ Ravio ผมอ่้านทุก Blog แต่ไม่ค่อยเข้ามา Comment ผมให้พ่ออ่านเรื่องเถ้าแก่ 27 ด้วยและพ่อผมก็รู้จักเพราะพ่อเคยเรียนที่แสงทอง พ่อว่าคุณ Ravio น่าจะเป็นรุ่นพี่พ่อผม ไม่ทราบว่าคุณ Ravio แสงทองรุ่นอะไรครับ
พ่อผมรุ่น 10 ไม่แน่นะครับอาจจะเป็นเพื่อนกันก็ได้

ติดตามผลงานและเป็นกำลังใจให้ครับ


โดย: หนูน้อยเหล็กดัดฟัน IP: 118.174.12.39 วันที่: 30 มิถุนายน 2553 เวลา:2:51:14 น.  

 


เคยรู้จักเพลงนี้ไหมคะ ถ้าเคยอกหักอาจจะเคยนะคะ


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 30 มิถุนายน 2553 เวลา:10:59:14 น.  

 
ตอบคุณหนูน้อยเหล็กดัดฟัน
เป็นรุ่นน้องของคุณพ่อคุณครับ
แต่คงจะได้เห็นหน้าค่าตากันบ้างตอนพ่อคุณอยู่มัธยม
แต่ผมยังเป็นวัยละอ่อนในชั้นประถมศึกษา

ขอสงวนอายุยังเยาว์ไว้ เพือคงความเป็นเด็ก ๆ
ที่จะได้ทำตัวเหมือน Steve Jobs ที่บอกว่า

"Stay Hungry, Stay Foolish"
จงกระหายที่จะเรียนรู้ และจงทำตนเหมือนคนโง่
เพื่อที่จะได้เรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ตลอด
เหมือนเด็ก ๆ ที่ชอบไปทุกเรื่อง
แต่ทำอะไรที่ได้เรื่องได้ราวไม่กี่เรื่อง



โดย: ravio วันที่: 30 มิถุนายน 2553 เวลา:11:08:51 น.  

 
เพลง As Tears Go By เป็นเพลงแรก ๆ ที่หัดเล่นกีต่าร์เพราะคอร์ดจะง่าย ๆ ไม่ลวดลายมากค่ะ

ความหมายดีมาก ๆ เลยนะคะ


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 30 มิถุนายน 2553 เวลา:13:12:19 น.  

 


โดย: นนนี่มาแล้ว วันที่: 1 กรกฎาคม 2553 เวลา:8:32:23 น.  

 
กำลังเขียนเรื่องเก่า ๆ ใหญ่เลยเพราะ

เขียนขึ้นจากความทรงจำเก่า ๆ
ก่อนที่จะเลือนหายไปกับกาลเวลาที่เหมือนสายน้ำไม่หวนกลับมา

ค่ะ

สบายดีนะคะ



โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 3 กรกฎาคม 2553 เวลา:10:57:08 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ravio
Location :
สงขลา Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 32 คน [?]




เกิดหาดใหญ่ วัยเด็กเรียนหนังสือโรงเรียน Catholic คณะ Salesian มีนักบุญประจำโรงเรียน Saint Bosco, Saint Savio ชอบอ่านหนังสือ godfather เกี่ยวกับ Mafio ของพวกซิซีเลียน เคยเล่นเกมส์ Mario แล้วได้คะแนนนำเลยนำสระโอมาต่อท้ายชื่อเป็น Ravio ได้กลิ่นอายแบบ Italino เคยเดินทางเข้ากรุงเทพฯ เพื่อเรียนวิชาชีพทำมาหากิน แต่ไม่ใช่วิชาที่ชื่นชอบมากนัก เรียนอยู่กว่าเจ็ดปี ต้องกลับมาทำงานเป็นกรรมกรที่บ้านเกิด จนเริ่มเกิดความหลงรักชีวิตบ้านนอก และวิถีชิวิตชุมชนท้องถิ่นที่ตนอยู่และไปร่วมวงเสวนา

เกิดเดือนมีนาคม แต่ลัคนาราศรีตุลย์ ชอบไปทุกเรื่อง สุดท้ายทำอะไรที่ได้เรื่องไม่กี่เรื่อง แต่ส่วนมากมักไม่ได้เรื่อง

ชอบขับรถยนต์ท่องเที่ยวชมภูเขา ป่าไม้ น้ำตก แต่ไม่ชอบทะเลหรือชายหาด เพราะรู้สึกอ้างว้าง โดดเดี่ยว เมื่อคิดถึงชีวิตตนเองที่มาเปรียบเทียบกับสองสิ่งสองอย่างนี้ รู้สึกว่ามนุษย์เป็นเพียงชีวิตที่เล็กน้อยมากที่มาอยู่อาศัยในโลกใบนี้

ชอบอ่านหนังสือ ท่องเที่ยวใน Internet ชอบเดินทางท่องเที่ยวแถว ในละแวกท้องถิ่นบ้านเกิด นาน ๆ ครั้งจะขึ้นไปเยี่ยมเพื่อนที่กรุงเทพฯ หรือไปหาซื้อหนังสือแถวสยามสแควร์ ถิ่นเก่าที่อยู่และที่เรียน






Friends' blogs
[Add ravio's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.