BlogGang.com : : ravio : หาดใหญ่เจริญด้วยคนจีนในอดีต

หาดใหญ่เจริญด้วยคนจีนในอดีต

หาดใหญ่เจริญเพราะคนจีนในอดีต
ผลสืบเนื่องจากการสร้างทางรถไฟผ่านโคกเสม็ดชุม
บริเวณสถานีรถไฟถึงอุโมงค์รถไฟหาดใหญ่
เป็นโคกเล็ก ๆ รูปหลังเต่า
สังเกตได้ว่าช่วงน้ำท่วมจะเป็นที่ดอน
น้ำท่วมไม่ถึงในบางปี แต่ถ้าท่วมถึงก็ประมาณไม่เกินห้าสิบเซ็นติเมตร
ผลจากสถานีโคกเสม็ดชุมได้ปรับเปลี่ยนเป็นชุมทางรถไฟหาดใหญ่
มีผลต่อการค้าการขาย การคมนาคม การพัฒนาที่ดิน

คำว่า หาดใหญ่ มีคำว่า บ้านทุ่งหาดใหญ่
ในพงศาวดารของเจ้าพระยาวิเชียรคีรี (บุญสังข์ ณ สงขลา)
เขียนไว้ตอนเตรียมทัพไปปราบกบฎไทรบุรี
มีการเคลื่อนทัพผ่านบ้านทุ่งหาดใหญ่
บริเวณนี้แต่เดิมแถวฝั่งหาดใหญ่ในเป็นทุ่งนาเป็นส่วนมาก
จากคำบอกเล่าของ ลุงลัพย์ หนูประดิษฐ์
ปราชญ์ชาวบ้านตำบลคลองหวะ หาดใหญ่
บ้านเดิมทำนาแถวบางหักกับเขตแปดหาดใหญ่
หาดใหญ่แยกจากหาดใหญ่ในตรงทางรถไฟกั้นกลางไว้
หาดใหญ่ใน คือ ในเมือง หรือบริเวณที่ว่าการอำเภอหาดใหญ่
สมัยก่อนเจริญมาก เพราะการค้าขายทางเรือเทียบท่าคลองอู่ตะเภา
แต่พอทางรถไฟตัดผ่านโคกเสม็ดชุม
ความเจริญจึงไหลมาทางข้างทางรถไฟหาดใหญ่ปัจจุบัน

พงศาวดารเมืองสงขลา //goo.gl/GNntB

หาดใหญ่ น่าจะมาจากหาดทรายขนาดใหญ่
มีหาดทรายขนาดใหญ่ที่คลองอู่ตะเภา
ใกล้กับที่ว่าการอำเภอหาดใหญ่
แถว ๆ บริเวณที่สูบน้ำของเทศบาลนครหาดใหญ่
สมัยก่อนเป็นท่าทรายขนาดใหญ่
คนงานของรถไฟและชาวบ้านจะไปขุดทรายใช้แถวนี้
ปัจจุบันท่าทรายจะไม่เห็นแล้ว เพราะมีการทำเขื่อนกั้นไว้
แต่ทรายที่ไหลลงคลองอู่ตะเภายังมีจำนวนมาก
ให้ไปดูได้ที่คลองหวะ ตรงบริเวณสะพานเหล็กรถไฟ
ที่มีคลองเส้นนี้ไหลไปเชื่อมกับคลองต่ำและคลองอู่ตะเภา
ทางไปจะใกล้ ๆ กับคอนโด ทางไปหมู่บ้านจันทร์วิโรจน์และคลองหวะ
เคยเจอนม (ผู้หญิงมีอายุมากแล้วเป็นย่ายายของเพื่อน)
แกเล่าว่าตอนแกเด็ก ๆ แกไปวิ่งเล่นที่หาดทรายนั้น
หรือไม่ก็ไปจับหอยงมหอยเล่นทรายแถวนั้น

หาดใหญ่ ถ้าหนังสือส่วนราชการกับหนังสืออ้างอิงทั่วไป
มักจะอ้างอิงว่ามีต้นมะหาดขนาดใหญ่ กับต้นมะหาดจำนวนมาก
ขึ้นอยู่ริมคลองอู่ตะเภา
คลองอู่ตะเภาเป็นสายน้ำไหลจากทิศใต้ไปทางทิศเหนือ
ออกสู่ทะเลตรงด้านหลังเกาะยอ
ถ้านั่งเรือทวนกระแสน้ำขึ้นไปจะไปที่ไทรบุรี(มาเลย์)
ต้นมะหาดเป็นไม้ท้องถิ่นทั่วไป
แต่ปัจจุบันเจอต้นเดียวปลูกไว้ในมหาวิทยาลัยหาดใหญ่
(ถ้ามีมากจริง คงจะมีหลงเหลือในหาดใหญ่มากกว่านี้)
บางคนว่ามีต้นขนาดใหญ่เห็นชัดเจนงอกอยู่ริมฝั่ง
ก่อนจะถูกน้ำพัดพาล้มไป
บางคนว่ามีต้นหนึ่งแช่น้ำอยู่ในคลองอู่่ตะเภา
ต้องตอนน้ำลดมาก ๆ จึงจะเห็นต้นมะหาดขนาดใหญ่

ข้อมูลต้นมะหาด

//goo.gl/QmgI8

//www.panmai.com/PvTree/tr_04.shtml

ส่วนเจียกีซี (ขุนนิพัทธ์จีนนคร) คือ
หัวหน้าคนงานและผู้รับเหมาแรงงานรายย่อย
ที่นำคนจีนจากแผ่นดินใหญ่มารับจ้างสร้างทางรถไฟ
ต่อมาได้เป็นผู้รับเหมาก่อสร้างทางรถไฟ
Subcontract จากวิศวกรเยอรมันนี
ที่สร้างอุโมงค์ชุมทางเขาชุมทอง
แต่ไม่สามารถขุดอุโมงค์ได้สำเร็จ
เพราะพิษจากไข้มาเลเรียและโรคในเขตร้อนชื้น
จนได้พี่สาวของเจียกีซีปรุงยาจีนให้กิน
จึงกันไข้และรักษาไข้ดังกล่าวได้
มีส่วนทำให้การก่อสร้างอุโมงค์สำเร็จได้
เงินทองที่ใช้ในการรับเหมาก่อสร้าง
เจียกีซีได้กู้ยืมเงินจากชียุกหลั่น (พ่อของชีกิมหยง)
จากคำบอกเล่าของ นายกิตติ จิระนคร (บุตรชาย)

ผลการคบค้าสมาคมกับวิศวกรสร้างทางรถไฟ
กับวิศวกรเหมืองแร่ดีบุกที่บ้านดินลาน ใกล้กับหาดใหญ่
รวมทั้งการไปทัศนศึกษาเยี่ยมชมเมืองอีโปร์กับปีนัง
ที่มีผังเมืองและการจัดการดีมากในสมัยนั้น
ที่เป็นเมืองขึ้นของราชอาณาจักรอังกฤษ
ทำให้มีส่วนสร้างวิสัยทัศน์การพัฒนาหาดใหญ่

ด้วยการสร้างบ้านให้เช่า
ขายที่ดินบางส่วนให้คนซื้อจะได้พัฒนา
สร้างสถานสงเคราะห์คนอนาถา
เพราะแรงงานจีนที่แก่ชราและไม่ร่ำรวย
จะได้มีที่พักพิงและอาศัยก่อนตาย

ส่วนสุสานบ้านพรุ
เป็นสุสานที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในภาคใต้
ปัจจุบันบางส่วนทำเป็นสนามกีฬา
และที่ออกกำลังกายแล้ว
การสร้างสมัยนั้นเืพื่อไว้ฝังศพคนจีน
ที่นิยมประเพณีวัฒนธรรมการฝังศพ
มากกว่าการเผาในสมัยนั้น

ส่วนการสร้างโรงเรียนสำหรับนักเรียน
จากการคบค้าสมาคมกับฝรั่งทำเหมืองและสร้างทางรถไฟ
และเถ้าแก่เหมืองคนจีนในมาเลย์
ท่านมีความเห็นว่าควรใช้นักบวชฝรั่ง
ในการสร้างโรงเรียนให้การศึกษากับบุตรหลาน
เพราะนิสัยนักบวชฝรั่งจะมุ่งมั่นทำงาน
และให้การศึกษาและการสร้างวินัย
ได้ดีกว่าระบบโรงเรียนของไทยและจีน
เพราะผลลัพท์นักเรียนที่จบจากโรงเรียนฝรั่ง
มักจะมีวินัยในการทำงานติดตัวมาจากโรงเรียน
ภาษาอังกฤษส่วนหนึ่งจะดีกว่าโรงเรียนไทยและจีน
และการทำงานรับเงินเดือนจะได้สูงกว่าโรงเรียนไทยและจีน

จึงมีส่วนทำให้เกิดโรงเรียนแสงทองวิทยา และโรงเรียนธิดานุเคราะห์
ด้วยการบริจาคที่ดินให้สร้างโรงเรียนจากชีกิมหยง
โรงเรียนแสงทองครั้งแรกว่าจะใช้ชื่อ Saint Thomas
แต่เป็นยุคมาลาไทย นำไปสู่มหาอำนาจ
จึงต้องแปลงเป็นไทยว่า แสงทอง
เหมือนคนไทยแปลชื่อฝร้่งให้เป็นแบบไทย ๆ
เช่น หันแตร บารมี, จอน การาฟัด, ยอด วัดชิงตัน เป็นต้น

ส่วนการสร้างโรงเรียนจีนเปิดได้ไม่กี่ปี
คือ โรงเรียนศรีนคร ด้วยการบริจาคของชีกิมหยง เช่นกัน
เพื่อการอนุเคราะห์กลุ่มคนจีนรุ่นเก่า
ที่ต้องการให้บุตรหลานได้รู้จักหนังสือภาษาจีน
แต่เปิดได้ไม่นานก็ถูกปิดโรงเรียนจีน
สมัยจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์
ด้วยข้อหาคอมมิวนิสต์

เจียกีซี (ขุนนิพัทธ์จีนนคร)
ระยะแรกเว้นพื้นที่ในการสร้างทางสร้างถนน
ซึ่งปัจจุบันคือ ถนนสายหนึ่ง สอง สาม
กับ ถนนนิพัทธ์สงเคราะห์ 1-5
กว้างมากจนชาวบ้านสมัยนั้นตกใจ
แต่ปัจจุบันความกว้างไม่เีีพียงพอแล้ว
ส่วนถนนสายที่แคบลง ๆ
เพราะอยู่ในเขตที่ดินของอดีตอำมาตย์คนหนึ่ง
ที่มาบุกเบิกและซื้อที่ดินจากชาวบ้านภายหลัง
มีการสร้างโรงภาพยนตร์ ตลาด และบ้านให้เช่า
แต่เพราะมาจากภาคกลางจึงมีทัศนคติหวงแหนที่ดินทำกิน
ทำให้ถนนบางสายในหาดใหญ่คับแคบจนถึงปัจจุบัน

แต่เดิมถนนนิพัทธ์อุทิศ 1,2,3
ชื่อว่า ถนนเจียกีซี
ยุคมาลาไทยนำสู่มหาอำนาจ
สมัยจอมพลแปลก พิบูลย์สงคราม
จึงได้เปลี่ยนไปใช้ราชทินนามของท่าน
คือ ขุนนิพัทธ์จีนนคร

รวมทั้งสมัยก่อนถนนจะมีชื่อ
ถนนรัฐธรรมนูญ ต่อมาเปลี่ยนเป็น ธรรมนูญวิถี
ถนนประชาธิปไตย ต่อมาเปลี่ยนเป็น ถนนประชาธิปัตย์
สมัยจอมพลสฤษฏิ์ ธนะรัชต์
นัยว่าข้าราชการตามใจเจ้านาย
ที่เป็นเผด็จการทหารที่ไม่ชื่นชอบระบอบประชาธิปไตย

ยังมีอีกถนนคือ ถนนรัถการ จริง ๆ น่าจะเป็น รัฐการ
สันนิษฐานว่ามาจากภาษาไทยวิบัติ
การลดตัวอักษรของ จอมพลแปลก พิบูลย์สงคราม
ทำให้มีการเขียนผิดเพี้ยนจากความเคยชิน
เลยรอดพ้นจากการเปลี่ยนแปลงจนถึงทุกวันนี้

ขอแก้ไขเป็นข้อมูลเพิ่มเติม
ถนนรัถการ น่าจะแปลว่า การใช้รถ
มาจากคำว่า รัถ (รัด ถะ หรือ ระ ถะ) แปลว่า รถ
พอดีไปสับสนกับถนนรัฐธรรมนูญ และ ถนนประชาธิปไตย
ที่มีการตั้งชื่อเฉลิมฉลองหลังการปฏิวัติปี 2475
เพราะบริเวณสถานีรถไฟหาดใหญ่
จะมีถนนหน้าสถานี ถนนรถไฟ
ดังนัี้นอีกเส้นจะเป็น ถนนรัถการ
น่าจะใช่และไม่แปลกแต่อย่างใด

ต้องขอขอบคุณ RX-ALCHEMIST ที่มาทักท้วง

หาดใหญ่ติดทะเล หรือไม่

มีพื้นที่ติดทะเลน้อย ที่แหลมโพธิ์และคูเต่า

มองไปจะเห็นด้านหลังเกาะยอ

แต่เดิมอำเภอหาดใหญ่ จะมีพื้นที่มากที่สุดในจังหวัดสงขลา
ก่อนที่จะมีการแยกการปกครองออกเป็นกิ่งอำเภอสามแห่ง
แล้วยกระดับเป็น อำเภอบางกล่ำ อำเภอนาหม่อม อำเภอคลองหอยโข่ง

ส่วนตอนนี้อำเภอสะบ้าย้อย จะมีพื้นที่มากที่สุดในจังหวัดสงขลา

หาดใหญ่จะติดกับจังหวัดสตูล
ที่ควนกาหลงและควนโดน
ระยะทางสั้นมาก
แต่ต้องปีนข้ามเขาน้ำตกโตนงาช้าง
จะไปลงบริเวณทะเลบันของสตูล

Create Date : 25 กรกฎาคม 2555

Last Update : 6 กันยายน 2555 22:46:23 น.

12 comments

Counter : 3197 Pageviews.

มอร์นิ่งค่ะ...แหล่มค่ะแหล่ม
ได้รู้เรื่องราวในอดีตของหาดใหญ่

โดย: อุ้มสี

วันที่: 25 กรกฎาคม 2555 เวลา:5:25:02 น.

I've never known about the story...I was born in Hat Yai and went to schools in Hat Yai until middle school then I moved to BKK.

โดย: Kittiya IP: 67.174.62.255 วันที่: 25 กรกฎาคม 2555 เวลา:8:26:20 น.

สวัสดีค่ะ

โดย: หนูซายูริ

วันที่: 25 กรกฎาคม 2555 เวลา:16:17:18 น.

คุณ ravio พูดถึงบ้านเกิด ว่าคำว่าหาดใหญ่ น่าจะมาจากหาดทรายขนาดใหญ่
ทำให้ต๋านึกย้อนถึงตอนเด็กๆที่ไปเที่ยวหาดใหญ่กับครอบครัวค่ะ
นึกถึงทะเลทางใต้ ไม่ได้ไปเยือนหลายสิบปีแล้ว และยังไม่มีวี่แววว่าจะได้ไปเลยค่ะ
ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆเช่นเคยนะคะ

มีข้าวต้มมัดมาฝาก จากตลาดน้ำ ไม่ได้ทำเองค่ะ

นอนหลับฝันดีคืนนี้นะคะ

โดย: Sweet_pills

วันที่: 25 กรกฎาคม 2555 เวลา:21:48:24 น.

คนเชียงใหม่มาแอ่วหาดใหญ่ทางตัวหนังสือจ้า...ไผ่ว่า...เป็นอีกเมืองที่..มีเสน่ห์น่าเที่ยวเชียวค่ะ ไผ่เคยไปเที่ยวมาสองสามครั้ง แต่เหมือนจะยังไม่ค่อยทั่วเท่าไหร่ ถ้ามีโอกาสจะไปแบบเฉพาะเจาะจงเลย เอาให้ทั่วสักที

คืนนี้นอนหลับฝันดีนะคะ

โดย: คมไผ่

วันที่: 25 กรกฎาคม 2555 เวลา:22:10:23 น.