ความทรงจำเก่า ๆ ก่อนจะลืมเลือนหายไปกับกาลเวลา
Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2552
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
4 ตุลาคม 2552
 
All Blogs
 
ความทรงจำไฟไหม้ที่หาดใหญ่

ไฟไหม้หาดใหญ่ (ที่จำได้)

สมัยแรกที่จำความได้ครั้งแรก
มีไฟไหม้ใกล้กับบ้านห่างกันประมาณหนึ่งบล็อคครึ่ง
ช่วงนั้นเป็นเวลาประมาณสองทุ่ม
เพราะจำได้ว่าภาพยนตร์กำลังจะฉายที่
โรงหนังเฉลิมยนต์อยู่ระหว่างถนนสายหนึ่งกับสายสอง
เรื่องที่จะฉายคือเรื่อง ศึกระฆังทอง (จำดาราไม่ได้แล้ว)
หลังจากไฟไหม้ผ่านพ้นไปก็เลยมีชื่อเรียกกันใหม่ว่า
โรงหนังเฉลิมไฟ หรือศึกระฆังเพลิง เป็นต้น

สมัยนั้นย่านนี้ก็เป็นย่านที่จัดว่าเป็นย่านที่เจริญย่านหนึ่ง
มีการค้าคึกคักจำนวนมากเพราะใกล้กับสถานีรถไฟ
มีร้านค้าอาหารและสถานบริการอยู่ในละแวกนี้จำนวนมาก
การค้าขายสมัยก่อนต้องใช้โรงหนัง(ภาพยนตร์)เป็นแม่เหล็ก
ในการดึงดูดให้คนมาใช้บริการในสถานที่ใกล้เคียง
จนถึงกับสมัยหนึ่งก่อนจะขายตึกแถว
ต้องมีการโฆษณาว่าจะสร้างโรงหนังแน่นอน
จึงจะมีคนจะซื้อตึกแถวเช่นที่ แถวอาคารพาณิชย์จุติ
ก็มีโรงภาพยนตร์จุติ ก่อนจะเลิกร้างไปทำตึกแถวขายต่อ
หรือที่โรงภาพยนต์ชีกิมหยง ก่อนเปลี่ยนเป็นสนามมวย
แต่ก็ไม่สามารถทำรายได้และผลกำไรได้ตามที่คาดหวัง
สุดท้ายก็ต้องทุบทิ้งสร้างตึกแถวขายไปในที่สุด

ไฟไหม้ครั้งนั้นรุนแรงมากเพราะบ้านหาดใหญ่
สมัยนั้นมักจะปลูกสร้างกับไม้เป็นส่วนใหญ่
โดยมากก็จะเป็นบ้านไม้สองชั้น
หรือแม้ว่าบ้านจะเป็นตึกก่ออิฐแต่โครงหลังคา
สมัยก่อนใช้ไม้เป็นโครงสร้างหลักมากกว่า
เพราะหาง่ายกว่าเหล็กที่ต้องสั่งจากกรุงเทพฯ
หรือลักลอบนำเข้าจากฝั่งมาเลย์
กอปรกับสมัยก่อนการเชื่อมเหล็กเป็นเรื่องยุ่งยาก
เครื่องมือก็หายากราคาแพง มีก็แต่ในอู่รถยนต์ งานเหมืองแร่ดีบุก
ผู้รับเหมาที่จะมีเครื่องมือประเภทนี้มีน้อยมาก
การหาช่างฝีมือก็มีจำนวนน้อย มีก็เล่นตัว
หรือทำงานตามเหมืองแร่
ซึ่งได้ค่าแรงงานสูงกว่าเพราะงานในเมืองมีน้อยมาก
สรุปว่า ช่างไม้หาง่ายกว่าช่างเชื่อมเหล็ก

ผลการไหม้ครั้งนั้นโรงหนังต้องเลิกกิจการไป
มีการสร้างใหม่เป็นตึกบริษัทส่งออกยางพารา
และโรงแรมอีกหลัง ส่วนด้านสายหนึ่ง
ก็กลายเป็นอาคารพาณิชย์ในปัจจุบัน
ตึกแถวไม้ที่ไฟไหม้ก็กลายเป็นธนาคาร
และโรงแรมชั้นสองในปัจจุบัน
ยังจำได้ว่าช่วงเดินไปดูบริเวณที่ถูกไฟไหม้
ช่วงเดินผ่านอีกบล็อคหนึ่งที่สายสอง(โซนที่ไม่ถูกไฟไหม้)
เห็นบ้านหลังหนึ่งทำธุรกิจโลงศพคนจีน
สภาพบ้านข้างในค่อนข้างมืด และมีโลงวางเรียงราย
รอทาสีดำหรือน้ำตาลเข้ม เป็นพวกโลงที่ขุดจากไม้เป็นท่อน
โดยมากจะนิยมไม้ประเภท จำปา สัก
เห็นแล้วน่ากลัวมากเลยรีบเดินผ่านไป
สุดท้ายก็เลิกกิจการไปเพราะไม่มีการต่อสัญญาเช่า
ปัจจุบันธุรกิจประเภทนี้ถูกผูกขาดโดยมูลนิธิท่งเซี้ยเซี่ยงตึ้ง
เพราะไม่มีรายอื่นผลิตโลงประเภทนี้อีก (ยกเว้นโลงไทย โลงแอร์)

ผลของการไฟไหม้บ้านครั้งนั้น
ร้านค้าหลายร้านต้องโยกย้ายไปขายที่อื่น
บางเจ้าก็เลิกกิจการไปเลยเพราะหมดทุนรอน
สายสัมพันธ์ที่ดีที่มีต่อกันบางเจ้าก็ยังคงรักษาไว้ยาวนาน
สืบต่อจนถึงรุ่นลูกรุ่นหลาน
ส่วนบางเจ้าก็ร้างลากันไปเพราะกาลเวลา
ได้กลืนกินทำลายทุกสิ่งทุกอย่างอย่างช้า ๆ
แต่มีผลไม่ต่างกับไฟไหม้ที่เกิดขึ้น

เส้นสีแดงคือบริเวณที่ไฟไหม้ครั้งนั้น





Create Date : 04 ตุลาคม 2552
Last Update : 25 พฤศจิกายน 2552 0:01:24 น. 2 comments
Counter : 1008 Pageviews.

 
บ้านญาติเราคนนึง อยู่ในกลุ่มบ้านที่โดนไฟไหม้ครั้งนั้นด้วยเลย

ตอนนี้ก็สร้างตึกใหม่ (อยู่แถวเดิมๆ เช่นกัน)


โดย: Halimeda Lover วันที่: 4 ตุลาคม 2552 เวลา:22:24:43 น.  

 
เป็นเรื่องที่ไม่อยากคิดถึงเลย เพราะไม่อยากให้เกิด

เมื่อคืนช่อง ไอทีวีเดิม เอาเรื่อง เปรต ...ประเพณีบุญเดือนสิบออกอากาศค่ะ


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 5 ตุลาคม 2552 เวลา:6:38:24 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

ravio
Location :
สงขลา Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 32 คน [?]




เกิดหาดใหญ่ วัยเด็กเรียนหนังสือโรงเรียน Catholic คณะ Salesian มีนักบุญประจำโรงเรียน Saint Bosco, Saint Savio ชอบอ่านหนังสือ godfather เกี่ยวกับ Mafio ของพวกซิซีเลียน เคยเล่นเกมส์ Mario แล้วได้คะแนนนำเลยนำสระโอมาต่อท้ายชื่อเป็น Ravio ได้กลิ่นอายแบบ Italino เคยเดินทางเข้ากรุงเทพฯ เพื่อเรียนวิชาชีพทำมาหากิน แต่ไม่ใช่วิชาที่ชื่นชอบมากนัก เรียนอยู่กว่าเจ็ดปี ต้องกลับมาทำงานเป็นกรรมกรที่บ้านเกิด จนเริ่มเกิดความหลงรักชีวิตบ้านนอก และวิถีชิวิตชุมชนท้องถิ่นที่ตนอยู่และไปร่วมวงเสวนา

เกิดเดือนมีนาคม แต่ลัคนาราศรีตุลย์ ชอบไปทุกเรื่อง สุดท้ายทำอะไรที่ได้เรื่องไม่กี่เรื่อง แต่ส่วนมากมักไม่ได้เรื่อง

ชอบขับรถยนต์ท่องเที่ยวชมภูเขา ป่าไม้ น้ำตก แต่ไม่ชอบทะเลหรือชายหาด เพราะรู้สึกอ้างว้าง โดดเดี่ยว เมื่อคิดถึงชีวิตตนเองที่มาเปรียบเทียบกับสองสิ่งสองอย่างนี้ รู้สึกว่ามนุษย์เป็นเพียงชีวิตที่เล็กน้อยมากที่มาอยู่อาศัยในโลกใบนี้

ชอบอ่านหนังสือ ท่องเที่ยวใน Internet ชอบเดินทางท่องเที่ยวแถว ในละแวกท้องถิ่นบ้านเกิด นาน ๆ ครั้งจะขึ้นไปเยี่ยมเพื่อนที่กรุงเทพฯ หรือไปหาซื้อหนังสือแถวสยามสแควร์ ถิ่นเก่าที่อยู่และที่เรียน






Friends' blogs
[Add ravio's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.