เมาท์มอยด์กัน(นะ)

วันนี้ลองของค่ะลองอ่านนิยายวาย จากนามปากกา afterday บ้างอะไรบ้าง เดี๋ยวนี้นักเขียนไทยแนวboy love มากมายเนอะ ปกติถ้านักเขียนไทยแนว BL ชะนีจะตามอยู่ 2-3 ท่าน ส่วน afterday นี่ได้ข่าวว่าเธอมาทางดราม่าแถมมีงานออกมาหลายเรื่องแล้วด้วยนะก็เลยอะ .... ลองหน่อย เลือก คู่ตรงข้าม ก่อนเลยเพราะเล็งเอาไว้ตั้งแต่ตอนออกใหม่ๆแล้วค่ะ

คู่ตรงข้าม เป็นเรื่องของสองหนุ่มตัวแทนจากสองขั้วตามชื่อเรื่องเลยนั่นล่ะ สอง ที่ดำเนินชีวิตด้วยเหตุผลและ นับนที ซึ่งใช้ชีวิตด้วยความรู้สึก สองเป็นทายาทเจ้าของกิจการบริษัทรับทำความสะอาด ได้มีโอกาสไปปฏิบัติหน้าที่ในฐานะ พนง.คนหนึ่งที่บ้านของนับนทีจิตกรสุดติสท์และอินดี้ ผู้มีตัวเองเป็นศูนย์กลางของจักรวาล(นัยยะก็ฝึกงานระดับล่างนั่นล่ะ)

เพราะความมึน ความดื้อ และสุดแสนจะเอาแต่ใจของนับนที ทำเอาสองผู้ชายแสนดีพนง.ดีเด่นเกือบตบะแตกอยู่หลายรอบ แต่ด้วยความที่เป็นคนใจเย็น แม้ปากจะบ่นแต่ก็ไม่เคยขัดใจอีกฝ่ายได้เลยซักครั้งผู้ชายเอาแต่ใจจึงอ้อนเอาๆ และเหมารวมว่า พ่อบ้านหนุ่มเป็นคนของเขาไปด้วยความมึน

คู่ตรงข้าม นักเขียนเคลมว่ามาในโทนดราม่าค่ะโดยจะเล่นกับประเด็นปัญหาที่มักจะเกิดจากพื้นฐานครอบครัวที่ไม่ส่งเสริมสนับสนุนความรักในลักษณะนี้สอง คืออดีตเด็กหนุ่มที่มีชิวิตสดใสใช้ชีวิตไม่ต่างจากหนุ่มคึกคะนองรูปหล่อคนดังของมหาลัย สองหน้าตาดี มีเสน่ห์เล่นกีตาร์เก่งจนเคยได้รับทาบทามให้เป็นศิลปิน ชีวิตลูกชายคนรอง ของบ้านมีพี่ชายที่เป็นทายาทสืบทอดกิจการของพ่อมีน้องชายคนเล็กที่เห็นตัวเองเป็นดั่งไอดอลในดวงใจหากแต่แล้ววันหนึ่งชีวิตของสองก็พลิกตลบ เมื่อพี่ชายคนโตประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตภาระของทายาทอันดับหนึ่งจึงตกลงบนบ่าของเขา สองยอมทิ้งความฝัน และตื่นขึ้นในโลกความเป็นจริงทิ้งความฝันของตัวเองเพื่อปกป้องความฝันของน้องชายปฏิเสธหัวใจตัวเองเพือปกป้องหัวใจของคนที่เขามีความรู้สึกดีๆให้ ยอมทำตามคำสั่งของพ่อเพื่อเรียนรู้งานในฐานะผู้สืบทอดกิจการ

สองคิดว่าตัวเองจัดการความรู้สึกและที่ทางอารมณ์ของเขาได้อย่างดีที่สุดจนเมื่อวันที่สองได้พบกับนับนที .... จิตกรสุดติสท์หนึ่งในลูกค้าที่เขาต้องดูแล นับนทีดำเนินชีวิตโดยการใช้หัวใจและความรู้สึกของตัวเองนำทางเขาไม่เคยแคร์ไม่เคยสน ลองว่าเขาชอบเขาก็จะทำ ลองว่าเขาต้องการ เขาก็จะพยายามจนได้นับนทีจึงเป็นดั่งตัวกระตุ้นพลังขบถของสอง คนที่เป็นดั่งขั้วตรงข้ามของตัวเอง สองอยากจะเป็นดั่งนับนทีที่ใช้ชีวิตเพือตัวเองด้วยความรู้สึกในขนาดที่นับนทีซึ่งไม่เคยทำอะไรเพื่อใครนอกจากตัวเอง เขากลับพยายามเปลี่ยนแปลงเพื่อที่จะอยู่กับสองเพราะสองคือทุกเหตุผลในความพยายามของนับนที

ชะนียอมรับเลยว่า ชอบนิยาย BL ที่พล็อตมาแนวนี้เล่นกับอุปสรรค กับความเป็นจริงในสังคม มันดู Real มันดูจริงและมันดูใกล้ตัว คือถ้าจะเล่นกับสายดราม่า พล็อตนี้เล่นได้ยันชาติหน้าเลยเอาจริงๆแต่ค่ะแต่...คู่ตรงข้าม เล่มนี้ยังทำได้ไม่ถึงที่ชะนีหวังค่ะมันไปเสียท่าเอาตรงบทสนทนามึนๆระหว่าง ตัวเอกของเรื่อง ที่แบบ ถามไป....ตอบมา....ถามไป...และ....ตอบมาอีก... เสร็จแล้วตัดฉับ ขึ้นฉากใหม่ เอ่อ... เราเข้าใจการเขียนทิ้งฉากในลักษณะนี้นะ คือต้องการตัดแบบกระชับกระทันหัน เพือที่จะให้นักอ่านได้คิดต่อเองว่าเหตุการณ์ต่อไปมันจะเป็นแบบไหน... เราเคยเจอนักเขียนบางท่านที่ใช้วีธีนี้แล้วเรา OK นะ ชอบเลยล่ะ เหมือนมีทางเลือกให้คนอ่านลุ้นว่าเราจะใจตรงกันป่าวแต่กับเรื่องนี้มันไม่โมเมนท์ให้เราอยากคิดต่อเลยอะแกร มันเลยกลายเป็นสะดุดและบทสนทนาแบบนี้ในเล่มเยอะมาก ช่วงแรกชะนีแบบลำไย แต่ก็พยายามจะอ่านให้จบไม่งั้นเขียนรีวิวไม่ออก ไอ้ครั้นจะวางไว้รออารมณ์return กลับมาอ่านอีกครั้งก็ไม่ได้ คือเช่าเขามาไง 555+ ต้องอ่านต้องเคลียร์ ต้องคืน ซึ่งมันก็จบจนได้ในที่สุด

จุดที่ไม่ชอบบอกไปแล้ว มาบอกจุดที่ชอบกันบ้างแม้บทสนทนามันจะเยอะจนลำไย แต่นักเขียนฟาดคำคมโดนใจใส่เราได้เยอะเลยนะแกร ยกตัวอย่างจากเล่มSpecial Contrast ละกัน เล่มนี้จะเป็นตอนพิเศษสั้นๆ เล่าเรื่องราวหลังจากที่ทั้งสองคนคบกันและใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันแล้วค่ะ เป็นคำพูดที่นับนทีบอกกับสองนะ“คุณคือทุกเหตุผลในความพยายามของผม”

คืออะไรโดนๆแบบนี้มีเยอะ แต่อินี่ จดไว้ในสมุดอีกเล่มลืมถือมาเลยไม่ได้เอาลงในรีวิว ส่วนอันข้างบนนี่ชอบจริง แปะไว้ใน goodread เลยเชียวนะแกร ถ้าจะให้สรุปโดยรวมก็จะบอกว่าชอบพล็อต ชอบการบรรยายความรู้สึกของตัวละคร แต่ลำไยบทสนทนาซึ่งชะนีลองคิดในมุมมองนักเขียนนะ นักเขียนอาจจะต้องการให้เราเห็นพฤติกรรมของตัวละครจากคำพูดการแสดงออกของนับนที ที่คิดอะไร ก็พูดออกมาแบบนั้น ไม่มีการประมวลผล ผมชอบ ผมหิวผมจะกิน ผมจะเอา ในขณะที่ สองจะคิดก่อนพูดเสมอ แม้จะไม่ต้องการ แต่ถ้าสองเห็นว่ามันควรสองก็จะทำ กับบางคำตอบถ้ามันขัดกับความรู้สึกสองเลือกจะยิ้มบางๆส่งไปให้โดยไม่เอ่ยปาก ช่างเป็นพ่อพระของปวงชนซะจริงๆคือถ้าจะบอกว่า นับนที เป็นสาเหตุที่ทำให้สองใจแตกก็คงไม่ผิด

คู่ตรงข้าม สำหรับชะนียังไม่ค่อยโดนใจยังมีความลำไยให้กันและกันอยู่ แต่เรายังไม่ถอดใจนะ ถ้ามีโอกาสเราจะหาเล่มอืนมาลองอีกนะafterday เพราะเราชอบพล็อตดราม่าของตะเองล่ะเราชอบอะไรแบบนี้ มันจริงจัง มันเห็นภาพ เราว่านิยายวายแนวนี้ มันไม่ต้องพลิกแพลงผาดโผนอะไรมากมายหรอกแค่เล่นกับความรู้สึกของนักอ่านได้ก็ชนะแล้วจริงๆนะ