ชื่อหนังสือ : รักข้ามภพ Forever His (Stolen Brides #1)

ผู้เขียน : Shelly Thacker ผู้แปล : สีตา

พิมพ์ฉบับภาษาไทย ครั้งแรก 2013 โดย สำนักพิมพ์แก้วกานต์

ราคาหน้าปหก 285 บาท จำนวน 430 หน้า

รายละเอียด

ความรักอันไร้ซึ่งกาลเวลา

เซลินี ฟองเทน สาวสวยชาวอเมริกันแห่งตระกูลฟองเทนอันน่านับถือฉลองวันปีใหม่ที่คฤหาสน์โบราณสมบัติของตระกูล เมื่อนาฬิกาตีบอกเวลาเที่ยงคืนเซลินีอยู่ลำพังคนเดียวในห้องนอนยามจันทรคราส เธอตาพร่ากับแสงที่วาบขึ้นมาในทันใดและหมดสติไป

เมื่อตื่นขึ้นมาก็พบว่าเธออยู่ในความมืดสนิทกับชายเปลือยแปลกหน้า...และคำพูดที่ไม่ใช่ภาษาของเธอ

ชายผู้นอนร่วมเตียงกับเซลินีคือเซอร์แกสตันเดอ วาเรนส์ และขณะนั้นเป็นปี ค.ศ. 1300

แกสตันเชื่อว่าสาวผมแดงคนสวยผู้นี้คือคริสเตียนเดอ ลา ฟองเทน ซึ่งกษัตริย์ทรงมีพระบัญชาให้เขาสมรสด้วยเพื่อยุติความขัดแย้งที่รุนแรงมานับชั่วอายุคน

เขาพบว่าเซลินีมีเสน่ห์อย่างที่ชายใดยากจะต้านทานได้เมื่อท่วมท้นด้วยความพิศวาสสองหนุ่มสาวต่างกล้าที่จะไขว่คว้านาทีแห่งมนต์ขลังอันแสนสั้น เพื่อยอมพ่ายแพ้แก่ความปรารถนาต่อกันชั่วนิรันดร์และความรักที่ทอดข้ามศตวรรษ

เมาท์มอยด์กัน(นะ)

นิยายข้ามเวลาย้อยอดีตอีกแล้วค่ะแต่เรามาลองข้ามไปทางฝั่งยุโรปกันบ้างเนอะ หลังจากที่ไปหลงอยู่เมืองจีนเป็นนานสองนางForever His หรือในชื่อภาษาไทยบ้านๆว่ารักข้ามภพ..... เป็นงาน HistoricalRomance จากสำนักพิมพ์แก้วกานต์ค่ะซึ่งก็ออกมานานแล้วล่ะตั้งแต่ปี 2013 โป้นนนน และต้นฉบับภาษาอังกฤษก็ออกมาตั้งแต่ปี1993 ถือว่าเก่าเหมือนกันนะ 23 ปี

หากแต่ช่วงนี้งานย้อนเวลากำลังฮิตติดตลาดรักข้ามภพจึงจัดว่าเป็นงานที่ร่วมสมัยอยู่พอสมควร กลิ่นอายและอารมณ์ยังไม่สูงวัยมากนัก รวมทั้งการดำเนินเรื่องส่วนใหญ่ก็เกิดในช่วงอดีตมากกว่าปัจจุบันแต่จุดที่ชะนีคิดว่ายาก น่าจะเป็นการหาเจ้าเล่มนี้มาอ่านมากกว่าค่ะ เพราะเหมือนจะไม่ค่อยลงตามร้านทั่วไปแล้วก็นะ.....งานเขาออกมาตั้งนานโกฏิแล้วนี่เนอะ

เซลินี ฟองเทน สาวสวยไฮโซหากแต่มีปมในใจเพราะถูกถอนหมั้นจากชายคนรักเพียงเพราะเธอชวนเขาไปเดินเล่นในสวนสาธรณะแล้วพบกับเด็กวัยรุ่นอันธพานที่หวังจะขโมยรถหรูของฝ่ายชายเขาโทษว่าเป็นความผิดของเซลินี ทั้งๆที่เธอเกือบจะเอาชีวิตไม่รอดจากเหตุการณ์ในครั้งนั้นหยิงสาวโดนลูกหลงเป็นลูกกระสุนปืนที่ฝังอยู่กลางแผ่นหลังของตัวเองและถึงแม้บาดแผลจะหายสนิทแล้วหากแต่เศษกระสุนเล็กๆก็ยังคงติดอยู่ในตัวเธอตั้งแต่ตอนนั้น

ในคืนแห่งการเฉลิมฉลองข้ามปีครอบครัวของเซลินีได้พักอยู่ ณ ปราสาทโบราณในฝรั่งเศษสมบัติตกทอดของตระกูลมหาเศษฐีของหล่อนหากแต่ทันทีที่แสงจันทร์ดับมืดลงเพราะจันทรคราส เซลินีก็เป็นลมวูบไปและฟื้นขึ้นมาอีกครั้งในอ้อมกอดของชายเปลือยผู้หนึ่งด้วยร่างกายที่มีเพียงชุดชั้นในบางเบาเท่านั้น

เซอร์แกสตัน เดอ วาเรนส์ อัศวินหนุ่มผู้แข็งกร้าวเขาถูกกดดันแกมบังคับจากกษัตริย์ให้รับหญิงสาวจากตระกูลศัตรูที่สังหารบิดาและพี่ชายเพื่อยุติข้อพิพาทตามแนวทางสันติของพระองค์และในเช้าวันหนึ่งหลังจากที่เขาดื่นไวน์จนเมามายแกสตันก็พบแม่หญิงคนงามในสภาพเกือบเปลือยซุกซบในอ้อมอกบนเตียงของเขา แรกเริ่มแกสตันเข้าใจว่าเธอคืนหญิงที่เขาบังเอิญหิ้วมาเพราะเมาสุราตามปกติวิสัยที่เขาเป็นอยู่ประจำหากแต่เมื่อเขาได้เห็นเส้นผมสีแดงเพลิงของเจ้าหล่อนชัดๆ แกสตันก็แทบจะกำจัดเจ้าหล่อนไปให้พ้นปราสาทของเขาแทบจะในทันที

เส้นผมสีแดงเพลิงนี้คือสัญลักษณ์ของพวกฟองเทน ศัตรูคู่อาฆาตที่เขาไม่คิดจะอยู่ร่วมโลกเดียวกันของเขาพวกนั้น หากแต่เพราะบัญชาขององค์กษัตริย์แกสตันก็จำต้องเข้าพิธีแต่งงานหญิงสาวที่เขาคิดว่าคือ เล้ดี้คริสเตียน เดอ ลาฟองเทน แต่หากก็แค่พิธี เพราะอัศวินหนุ่มสาบานไว้แล้วว่าเขาจะไม่มีทางทำให้การแต่งงานครั้งนี้สมบูรณ์โดยเด็ดขาด แม้มันจะหมายความว่าเข้าจะต้องอดกลั้นต่อแรงปราถนาที่จะไม่แตะต้องเมียแต่เพียงในนามของเขาเองก็ตาม

ชื่อก็บอกว่า รักข้ามภพ....เซลินีฟองเทน หลงไปอยู่ในปี คศ.1300 และถูกเข้าใจผิดว่าเป็น หญิงสาวในการปกครองของศัตรูที่มีชื่อว่าคริสเตียน เดอ ลา ฟองเทน #นางเอกน่าจะลูกหลานของตระกูลนี้ละค่ะเพราะหน้าตาก็เหมือนกัน ว่าที่เจ้าสาวที่ถูกรังเกียจเดียดฉันท์เพราะคิดว่าการปรากฏตัวของเธอเป็นแผนร้ายของฝ่ายศัตรูของพระเอก แต่เพราะคำสั่งของกษัตริย์ทั้งคู่ก็จำต้องกล่าวคำสาบานแต่งงานกันไป แล้วก็รอวันที่จะหาเหตุหย่าขาดกันให้เร็วที่สุด

Storyหลักของเรื่องคือความบ้าบอของพระเอกค่ะเพราะแกจะทะเลาะกับตั้วเองตลอดเวลา คือแกก็อยากจะกินเมียในนามของแกอะนะแต่ก็จะขัดกับคำสาบานที่ว่าแกจะไม่แตะต้อง คริสเตียน และเพื่อการหย่าในอนาคตเขาจำต้องรักษาพรหมจรรย์เลดี้ของเขาไว้ให้ได้ก็ออกจะเป็นงานลำบากของท่านเซอร์เขาในระดับหนึ่ง ก็เลดี้ของเขาน่ากิน น่ารักน่าใคร่เสียขนาดนั้น นิสัยก็ร่าเริงจนทำให้บรรดาคนใช้ในปราสาทหลงรักในความร่าเริงของเธอ

ก็ She เป็นชะนีมาจากอนาคตแถมยังทำอาหารเก่ง พื้นฐานก็ไม่ใช่คนเลวร้ายแต่เพียงเพราะเธอเป็นคนต่างถิ่นต่างเวลา หัวเดียวกระทียมลีบการที่จะมีชีวิตอยู่ท่ามกลางคนแปลกหน้าที่ค่อนข้างจะรังเกียจตัวเองความจริงใจเท่านั้น จึงเป็นอาวุธเพียงหนึ่งเดียวของเธอ

และเพราะความร่างเริงนี้ท่านเซอร์ก็หลงรักเมียตัวเองจนได้ จนได้มารู้ภายหลังว่าเธอไม่ใช่ คริสเตียนแต่เป็น เซลินีสตรีจากอนาคต แม้จะรู้อย่างนั้น เขาก็อยากจะเหนี่ยวรั้งเธอไว้กับเขาให้นานที่สุดถ้าไม่เพียงจะมีตัวแปลสำคัญ ซึ่งก็คือเศษกระสุนบนแผ่นหลังของเซลินี ซึ่งเธอจำต้องเข้ารับการผ่าตัดอย่างเร่งด่วนเพื่อรักษาชีวิตของเธอเองเอาไว้

ความขัดแย้งตรงนี้ชะนีชอบมากอะ .... เพราะในที่สุดก็รักกันจนได้ แต่กลับไม่สามารถอยู่ด้วยกันได้ เพราะมีชีวิตและความตายเป็นเดิมพันลุ้นแทบแย่ ว่านางเอกจะกลับบ้านได้ไหม กลับไปทันหรือเปล่า ต้องรอการเกินจัทรคราสงั้นงู้นงี้แถมเงื่อนไขในการข้ามเวลาก็จุกจิก ....นั่นก็ไม่ได้ นี้ก็จำเป็นต้องมี คนเขียนก็ขยันสร้างเงื่อนไขคนอ่านก็ลุ้นกันไปสิคะ ซึ่งตรงนี้มันทำให้ห็นข้อแตกต่างของนิยายย้อนเวลาที่มันเกลื่อนตลาดไปหมดกับนิยายย้อนเวลาจากนักเขียนมืออาชีพว่ามันต่างชั้นกันขนาดไหน ชะนีชอบการผูกปม และการหาทางลงของนักเขียนคือมันไม่แค่ Fantacyแต่มันยังมีทฤษฎีที่เรามองว่า เฮ้ย....มัน Sci-Fi มันมีทางเป็นไปได้ กับการเดินทางข้ามเวลาแบบนี้คือชะนีก็มโนเชื่อเป็นตุเป็นตะไปสิคะ

ส่วนในจุดที่แอบรำคาญก็คือความเพ้อเจ้อของพระเอกค่ะ ก็ใครใช้ให้แกทะเลาะกับตัวเองทั้งเรื่องคือถ้าอยากจะฟันเค้า ก็อย่าเยอะพี่ขอร้อง... ท่านเซอร์แกมีความพยายามที่จะเสร็จสมอามรณ์หมายด้วยวิธีแปลกๆแบบที่ไม่ต้องทำลายยื้อพรหมจรรย์ ซึ่งอินี่ฮามากในความพยายามท่านเซอร์ ก็ไม่รุ้จะพยายามทำไมในเมื่อสุดท้ายก็สติแตกจับเขากินจนได้อยู่ดี

สุดท้าย แอบขอบคุณแรงบันดาลใจอย่างหมอเจี๊ยบpolyJ หน่อยดีกว่าคุณหมอจะรู้ไหมน้า ว่าเรื่องนี้ชะนีเคยเห็นคุณหมอรีวิวใน Bloggang แล้วคือชอบมากตั้งใจตั้งแต่วันนั้นว่าจะหาเจ้าเล่มนี้มาอ่านให้ได้ ....และพอได้อ่านก็ไม่ทำให้ชะนีผิดหวังจริงๆค่ะ.....#กอดดดดดดดหมอ