I'm only the badest female.
|
|||
คำที่มิได้เอ่ย (Until You The Series #2) โดย หมอตุ๊ด Warning
.Boy Love นิยาย Y ผู้ชายได้กันนะเคอะ (เราเตือนคุณแล้ว) ชื่อหนังสือ :คำที่มิได้เอ่ย (Until You The Series #2) นักเขียน : หมอตุ๊ด พิมพ์ครั้งที่ 1 มีนาคม 2560 โดย สนพ.ไฮยาซินธ์ ราคาหน้าปก 310 บาท จำนวน 392 หน้า รายละเอียด สมุดบันทึกสองเล่มของสองบุพการีผู้ล่วงลับเผยเรื่องรักในอดีตที่ไม่มีใครเคยบอกเล่า กัณฑ์พบว่า อาผู้ครองตัวเป็นโสดของเขา เคยมีความรักกับ
ผู้ชายด้วยกัน! ชื่อพีรศิลป์ พีทก็เช่นกัน เพิ่งรู้ว่าพ่อของเขาเคยมีสัมพันธ์กับ
ผู้ชาย! ชื่อ กอบเกื้อ แม้ประหลาดใจ แต่กลิ่นอายความโรแมนติกจากสี่สิบปีก่อนทำให้กัณฑ์กับพีทออกตามหาความจริง จนบังเอิญมาพบกัน แต่ความรู้สึกที่ก่อตัวขึ้นระหว่างกัณฑ์กับพีท
จะใช่ความรักหรือไม่หรือแค่เพียงบรรยากาศพาไป มีแต่หัวใจพวกเขาเท่านั้นจะให้คำตอบได้ เมาท์มอยด์กัน(นะ) คำที่มิได้เอ่ย งานเขียนของ พี่หมอตุ๊ด ปกติชะนีจะตามงานพี่หมอจากในpage fb เป็นส่วนใหญ่ หนังสือของพี่หมอก็มีนะ แต่ปกติก็ไม่ค่อยซื้อหรอกค่ะเพราะบทความส่วนใหญ่ก็จะ แปะอยู่ในเพจอยู่แล้ว จนถึงเจ้านินายชุดนี้ที่พี่หมอเธอจัดใหญ่ไฟกระพริบเขียนอย่างเป็นจริงเป็นจังและ ตีพิมพ์กับ สนพ.ไฮยาซินธ์ ก็ออกมา 2 เล่มแล้วในชื่อ ชุด Until You The Series เล่มที่ชะนีเลือกมาอ่านก่อนก็ คำที่มิได้เอ่ย ซึ่งเป็นเรื่องที่ 2 ในชุดเหตุที่เลือกอ่านเล่ม 2 ก่อนก็เพราะเนื้อหาโครงเรื่องมันน่าสนใจกว่า คือเธอในหัวใจ เรื่องแรก ซึ่งมันน่าสนใจแบบไหนนั้นมาค่ะ เรามาคุยกันดีกว่านะ คำที่มิได้เอ่ย เป็นเรื่องราวของคน 2 คนที่อยู่กันคนละมุมของสยามประเทศ กรกัณฑ์ อาจารย์หมอหนุ่มจากเชียงใหม่ที่พึ่งจะสูญเสียผู้เป็นอา นายแพทย์ชราผู้ครองตัวเป็นโสตจนวาระสุดท้ายของชีวิต กับอีกหนึ่งหนุ่มพีรณัฐ ที่ปรึกษาทางด้านการเงิน หนุ่มหล่อแห่งเมืองกรุงศิวิไลย์ที่พึ่งจะสูญเสียดร.พีรศิลป์ ผู้เป็นบิดาชายผู้เป็นดั่งโลกทั้งใบของเขาเช่นเดียวกัน คนขี้เหงาสองคนจึงไร้ซึ่งสิ่งเหนี่ยวรั้งในชีวิตอันแสนเลื่อนลอยของตัวเองต่างตัดสินใจละทิ้งเมืองที่เขาเคยใช้ชีวิตตั้งแต่จำความได้ ออกตามหาอนาคตที่คาดหวังว่ามันจะทำให้พวกเขามีจุดมุ่งหมายอะไรๆในชีวิตบ้างกัณฑ์ตัดสินใจเรียนต่อสาขาแพทย์เฉพาะทางที่อเมริกา ส่วน พีทเลือกลาออกจากบริษัทเก่าเพื่อไปทำงานกับบริษัทที่ปรึกษาการเงินข้ามชาติที่สิงคโปร์ หากในระหว่างช่วงหัวเลี้ยวต่อของชีวิต ดันมีเหตุให้พวกเขาได้ค้นพบเรื่องราวบางอย่างจากสมุดบันทึกเล่มเล็กของบุพการีที่จากไปเรื่องราวความรักโรแมนติกที่เกิดขึ้นเมือ 40 กว่าปีก่อนในวัยที่ชายชราทั้งสองยังเป็นเพียงหนุ่มน้อยแรกรัก มันอาจจะไม่มีอะไรสะดุดใจเลยถ้าคนทั้งสอง จะไม่ใช่ชายหนุ่มที่หลงรักผู้ชายด้วยกัน ความรักต้องห้ามที่เกิดขึ้นในยุคสมัยที่ความรักร่วมเพศยังไม่เป็นที่ยอมรับในสังคมไทยหากแต่มันกลับก่อร่างความหวานละมุนโรแมนติกในหัวใจของชายหนุ่มในยุคปัจจุบันทั้งสองจนพวกเขาต่างออกเดินทาง ตามหาหัวใจอีกครึ่งหนึ่งของบุพการี เพราะเหตุใดจึงรัก เพราะอะไรจึงหาตัวตนที่ซ่อนเร้นของกันและกันท่ามกลางโลกกว้างใบนั้น และเพราะอะไรจึงต้องแยกจากทั้งๆที่รักกันมากขนาดนี้นั่นเป็นคำถามที่กัณฑ์และพีทอยากจะรู้คำตอบ โดยที่ทั้งคู่ไม่อาจล่วงรู้ได้เลยว่า เรื่องราวในสุมุดบันทึกเล่มนั้นมันจะเปลี่ยนชีวิตของพวกเขาไปตลอดกาล ความละมุนของนิยายเรื่องนี้มันคือความรัก ความโรแมนติกของคนในยุคก่อนค่ะในยุคสมัยที่ ยังไม่มีอินเตอร์เนต โทรศัพท์ไม่ใช่สิ่งที่ทุกครอบครัวจะได้ครอบครองและที่สุดกว่านั้น ความรักระหว่างผู้ชายยังไม่เป็นที่ยอมรับในสังคมไทยข้อพิสูจน์หรือทฤษฎีที่บ่งชี้ว่า พฤติกรรมรักร่วมเพศยังเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ ว่ามันเป็นความผิดปกติทางจิตหรือ เป็นความปกติในรูปแบบหนึ่งในค่านิยมทางเพศที่เห็นว่าเป็นเรื่องธรรมดาในปัจจุบันและเพราะไม่เป็นที่ยอมรับ การที่คนสองคนที่มีความนิยมในเพศเดียวกันแต่ไม่สามารถจะแสดงออกได้ มาพบเจอกันในโลกใบใหญ่ มันจึงไม่ใช่เรื่องง่าย ในเมื่อเขารู้สึกตัวอยู่ตลอดเวลาในความแปลกแยกของตัวเองคล้ายกบฏที่แฝงตัวในกองทหาร คล้ายมนุษย์ต่างดาวที่ปลอมตัวมาบนโลก จนเมื่อนักศึกษาแพทย์อย่าง นายกอบเกื้อ ได้สบตากับ นายพีรศิลป์ ในงานเต้นรำจับคู่อันแสนน่าเบื่อ พวกเขาได้มีโอกาสได้พบกันอีกครั้ง ณ ห้องสมุดเนียลสัน เฮย์สโดยมี Love Letter From King Ludwig II หนังสือซึ่งบรรยายเกี่ยวกับความรักระหว่าง กษัตริย์ลุดวิก ที่2 แห่งบาวาเรี่ยน ที่พร้ำพรรณาถึงเด็กเลี้ยงม้าที่เขาหลงรัก หนังสือที่เป็นดั่งพยานรักเปิดเผยความในใจความสัมพันธ์ของทั้งคู่จึงก่อตัวขึ้นอย่างเงียบเชียบ ในมุมเล็กๆ ณห้องสมุดเก่าแก่ย่านสุรวงศ์ทุกสุดสัปดาห์ หากแต่เพราะสังคม หน้าที่ และฐานะกลับเป็นอุปสรรคทำให้ทั้งคู่ไม่สามารถอยู่ด้วยดกันได้ จำต้องยุติความสัมพันธ์ก็เพราะว่ารักอีกฝ่ายมากเกินไป จึงจำต้องแยกจากกัน ทิ้งไว้เพียงสมุดบันทึกที่เก็บเรื่องราวหอมหวานของชายชราสองคนที่ต้องใช้ชีวิตห่างกันคนละมุมประเทศ ความละมุนของคนรุ่นเก่า ที่ส่งต่อถึงคนรุ่นหลังผ่านหน้าสมุดบันทึกทำให้ พีทลูกชายคนเดียวของนายพีรศิลป์ และ กัณฑ์ หลานชายของนายแพทย์กอบเกื้อได้พบกัน ณ ห้องสมุดแห่งความทรงจำของบุพการีทั้งสองความโรแมนติกของคนรุ่นเก่า เหมือนเป็นน้ำตาลที่สร้างความหวานให้คนรุ่นหลังหากแต่มันเป็นเพราะความใกล้ชิด เพราะบรรยากาศมันพาไป หรืออะไรก็แล้วแต่มันจะเป็นเหตุผลเพียงพอให้ทั้งคู่ตกหลุมรักกันและกันได้จริงหรือก็ในเมื่อความสัมพันธ์ของชายรักชาย มันง่ายดายไม่ต่างกับการซื้อหาของในซุปเปอร์มาร์เก็ตมันจะมั่นคงลึกซึ้งได้เท่าคนรุ่นแรกหรือเปล่า นั่นก็เป็นอีกหนึ่งปมที่เราต้องร่วมพิสูจน์ไปกับตัวละครว่าเป็นเพราะรักหรือบรรยากาศมันพาไป
แลดูชั้นจะเล่ายืดยาว แบบว่าไงล่ะ นิยายเรื่องนี้ เหมือนเป็นนิยาย2 เรื่องซ้อนกันในเรื่องเดียวไง การดำเนินเรื่องก็จะสลับกันไปมาค่ะระหว่างเรื่องในอดีตและปัจจุบันผสมผสานกับการนำเสนอเปรียบเทียบเกี่ยวกับความสัมพันธ์คู่รักร่วมเพศทั้งสองยุคสมัยเพราะชายรักชายในอดีตเขาหากันกันยาก ทุกเวลาของเขาจึงมีค่า ควรแก่ความหวงแหนในขนาดเดียวกันความสัมพันธ์แบบฉาบฉวยของคนยุคใหม่ ในลักกษณะที่ถ้าไม่ Click ก็สามารถตัดขาดกันได้ง่ายๆ การหาใหม่ไม่ใช่เรื่องยากแค่เปิด app ในมือถือก็เจอกันแล้ว กินข้าวยังไม่ทันหมดจานก็ไปไหนต่อไหนกันได้ง่ายๆชิลล์ ๆ เอาง่ายๆไม่ต้องคิดถึงแค่เรื่องชายรักชายหรอก ความสัมพันธ์ชายหญิงมันก็ไม่ต่างกันนะอะไรที่เราได้มาง่ายๆ เราก็มักจะไม่ค่อยเห็นค่าหรือหวงแหนมันเท่าที่ควรซึ่งในนิยายเรื่องนี้ มันก็สะท้อนอะไรได้หลายๆอย่างเช่นเดียวกันค่ะ สุดท้ายละ เพื่อ Y สายอ่อนที่อาจจะอยากลองของคำที่มิได้เอ่ย .... คลีนมากค่ะคุณ ...เป็นนิยายวายเรื่องแรกที่ชะนีไม่เจอฉากเรทเลิฟซีน (พระเจ้ามันมีอยู่จริง) เอาที่เรทที่สุดนะ.... หอมแก้ม...แค่นั้น....และตัดฉับไปที่พระอาทิตย์รุ่งอรุณของวันใหม่แต่ถ้าถามถึงความฟินจิกหมอนตายที่ชะนีอยากจะนำเสนอเลยนะเคอะ คือถ้าใครเคยได้อ่าน สี่แผ่นดินของคุณหม่อม ตอนฉากที่คุณเปรมกับแม่พลอยเข้าหอ ...ในขนาดที่บ่าวสาวหมาดๆกำลังเขินกันอยู่นั้น คุณเปรมก็เอ่ยปากถามแม่พลอยว่า เคยขึ้นพระบาทไหม (เขาว่าถ้าขึ้นพระบาทสระบุรี=ขึ้นสวรรค์.....ตายแล้วววว มุกคนโบราณ)
. นั่นล่ะแก นายพีรศิลป์เขาสะกิดหมอเกื้อชวนกันขึ้นพระบาทแค่นั้นค่ะ ... แค่นั้นเลย ... แต่อิคนอ่านตายไปแล้ว ยังไม่จบอิรุ่นลูกหลาน มันยังมาซ้ำด้วยมุกขึ้นพระบาทกันอีก... โอ้ยยยตายต่อเนื่องกันไปเลย คำที่มิได้เอ่ย จึงเป็นแบบฉบับนิยาย Y สายละมุนและนวลเนียนอีกหนึ่งเรื่อง น้อยแต่มากและได้อะไรหลายๆอย่างที่มากว่านิยายรักค่ะ ซึ่งหลังจากชะนีได้ลองอ่านนิยาย Y ของค่าย ไฮยาซินธ์มาแล้ว 2 เรื่อง อย่างหนึ่งที่รู้สึกเลยนะนิยายของไฮยาซินธ์มันไม่ใช่วายธรรมดา ๆ ที่สักแต่จะวาย แต่มันมีอะไรที่มากกว่าเรื่องรักร่วมเพศค่ะคือถ้าใครถ้ายังกล้าๆกลัวๆ ชะนีก็อยากจะบอกว่า ถ้าคิดจะลองเสี่ยงนิยายจากไฮยาซินธ์ก็เป็นทางเลือกที่ดีค่ะ เพราะมันนวล มันละมุน และข้อคิดเยอะแยะมากมายเต็มไปหมดจริงๆนะเออ
ขอบคุณที่แนะนำค่ะ
โดย: kae+aoe วันที่: 31 พฤษภาคม 2560 เวลา:8:41:55 น.
มาส่งกำลังใจค่ะ บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้ ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต Prophet_Doll Book Blog ดู Blog โดย: newyorknurse วันที่: 2 มิถุนายน 2560 เวลา:2:52:39 น.
@ kae+aoe - ยินดีค่า
@ newyorknurse - ขอบคุณสำหรับคะแนนโหวตค่ะ @ lovereason - รอรีวิวคุณนุ่นค่ะ โดย: Prophet_Doll วันที่: 5 มิถุนายน 2560 เวลา:11:52:01 น.
|
Prophet_Doll
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 37 คน [?] เป็นชะนีบ้าเลือด ที่มีเรื่องไร้สาระในชีวิตเต็มไปหมด ชอบดูหนัง อ่านหนังสือ แบกเป้เที่ยว ชอบแต่งตัวแต่ไม่ค่อยรักสวยรักงาม ชอบถ่ายภาพทุกอย่างที่ผ่านเข้ามาในชีวิต เพื่อนชอบด่าว่าฉันติส+อินดี้ แต่....นั่นแหละ มันคือตัวฉัน ^ ^ 2018 Reading Challenge
Prophetdoll has
read 15 books toward
her goal of
100 books.
Group Blog
All Blog
|
||
Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved. |