|
||||
ปฏิฆะ ขัดเคืองใจ ปฏิฆะ ขัดเคืองใจ ๑. เกิดอะไรขึ้น ต้นตอของเหตุไม่ถูกใจตัวเอง ขัดเคืองใจ คือ ตามใจฉัน ตามใจตนเอง ทำไมถึงขัดเคืองใจ เพราะหยิ่ง ทนง อหังการ เอาแต่ใจตนเองเป็นที่ตั้ง สำคัญหมายมั่นว่าตนเองเป็นที่หนึ่ง เป็นที่สุดยอด จึงไม่มียอมใคร ฉะนั้น บุคคลเช่นนี้ คำว่า "ยอม" ไม่อยู่ในสมองเขา มีแต่บุคคลอื่นมายอมข้า สยบข้า ตราบใดถ้าไม่ยอมสยบข้า ตราบนั้นกูทำลายมึง ๒. มีเหตุอะไรถึงเกิดเช่นนี้ ปฏิฆะ ถ้าไม่ได้ก็จะโกหกลอกหลวง เพื่อที่จะให้ตัวเองสมใจ เหตุ เกิดจากปฏิฆะทุกตัวที่เป็นอยู่ เช่น ตรงนี้เราไม่ได้ กูก็จะเอาให้ได้ กูก็จะโกหกหลอกลวงเธอ เช่น อยากให้เขามารักเรา เราก็จะต้องโกหกสร้างเรื่องให้เป็นอย่างนั้นให้เป็นอย่างนี้ เพื่อให้เขาทำตามสิ่งที่เราตั้งใจไว้ เขาจึงต้องมาเพิ่มวิธีให้เขาสมปรารถนาที่ต้องการไว้ ๓. ต้นตอแห่งเหตุ คือ ตามใจตัวเองแล้วไม่ได้ตามใจ เช่น จะเอาเขามาเป็นเมีย พอไม่ตามใจเรา เราก็จะเอาของมาให้อยู่เรื่อย เดี๋ยวก็เป็นห่วง เอาใจ ห่วงใยเขาแล้วค่อยมาเชือดทีหลัง เราโกหกเขา และทำให้เขาได้ แล้วเราก็จะมาบังคับให้เขาทำตามอำเภอใจเรา แล้วเราจะต้องมาสนองอำเภอใจเขา เรียกว่าจะต้องมาสนองเขา ๔. หาความจริงแห่งเหตุต้นตอนั้นๆ คือ เพราะตามใจตัวเอง ของกู พอไม่มีการตามใจตัวเรา เราก็จะสร้างวิธีแล้วทำยังไงให้เขาตามใจเรา ก็จะมีสร้างเรื่องอย่างนั้นอย่างนี้ บีบบังคับให้เขาตามใจเรา เหตุจริงแท้ ก็คือ เขาต้องการหามาเพื่อสนองตัณหาของตัวเอง อัตตา เพราะเขาหมายมั่นว่าจะต้องเป็นเช่นนี้ เช่น คุณหมายมั่นว่า ตอนนั้นคุณต่อว่าฉันว่าไม่มีนัก ส่วนเดี๋ยวนี้ฉันจะทำให้คุณสำนึก ว่าคุณดี จะดีแค่ไหน ถึงจะมาทำให้พระที่เคร่งจึงต้องตกลงมา นี่คือตัวเป้าหมาย เป็นตัวแก้แค้น มาจากตัวปฏิฆะ ส่งต่อมาให้ "จิตแค้น" แล้ว บางคนเขาทำดีแล้ว ไปทำให้เขาตกลงมา กรรมส่งผล พอเราทำอะไรดีๆ แล้วก็จะมีสิ่งที่ทำให้เราพลาดจากสิ่งที่ดีๆ ของที่ดีที่เราตั้งใจไว้ เป็นบูมมาแรง อหังการ คือ กูเป็นที่ตั้ง กูเป็นผู้กระทำ ไม่ฟังใคร ถูกของกูแต่ไม่ถูกของธรรม ๑. กูคิดอย่างนั้นจะต้องเป็นอย่างนั้น มันเป็นของกู ๒. ถึงแม้มึงถูก แต่ไม่ถูกคติของกู กูก็จะทำของกู ผยอง คือ สำคัญตนเองว่าทำได้ง่ายๆ ไม่ยาก แค่นี้เอง เช่น กูแน่ กูที่หนึ่ง แค่นี้เอง สุดยอดของกู แค่นี้กูทำได้ กูเก่ง กูมีความสามารถเหนือกว่าคนอื่น สรุปใครผยองจะตายด้วยความประมาททัั้งนั้น และคนที่ชอบคุย แค่นี้เอง ดูถูกสิ่งที่เขาทำ เพราะเขาคิดว่าตนเองเก่ง เรื่องแค่นี้ง่ายๆ จะเกิดความประมาท ก็จะเสียคน ลำพอง คือ คิดว่าตัวเองลำเลิศ ตัวเองได้แค่นี้ก็ถือว่าล้ำเลิศ ทนง คือ ของกูเก่ง ของกูแน่ ของกูเหนือกว่า ทนงว่าเราเก่ง มีแล้วทนงว่ามีก็ผิด ไม่มีแล้วทนงว่ามีก็ผิด ทนงจะทำให้เกิดประมาท เช่น มีอยู่แค่นี้ ก็ทนงว่าเยอะแยะก็ได้ ทนงนี้เป็นการหลงผิด ทนงนี้ต่ำกว่าผยองเยอะ ผยองนี้จะร้ายกาจเพราะว่าจะไปท้าตีท้าต่อยกับเขา เราพูดหนึ่งคำ เขาจะย้อน ๓ คำ สมมติว่าชื่อดาวขี้น้อยใจที่สุด คือ ดาว เพราะถ้าเราไม่น้อยใจแล้วเราจะมีปฏิฆะได้ยังไง? นิดเดียวก็ไม่ได้ เพราะสิ่งที่หมายมั่นไว้แล้วผิดหวัง ไม่ได้ดั่งใจ จึงบีบคั้นเพราะไม่ได้ตามตัวเอง ผยองจัดอยู่ในอวดเก่ง อหังการ คือ มีดี แต่ทนง หยิ่ง (มีแล้วทนง) อวดเก่ง แต่ไม่มีดี แต่ว่าตัวเองมี (ไม่มีแต่เอามาอวด) (บางคน) อวดเก่ง พอรู้มาหน่อย ก็เอามาอวดแล้ว ทำไมถึงอวดเก่ง เพราะอยู่ท่ามกลางแห่งความเยินยอ โดยเฉพาะสาวสวยทั้งหลายมักจะอวดเก่ง เพราะผู้ชายทั้งหลายก็จะไปเยินยอ อุ๊ย!! เก่ง ... ผู้หญิงก็จะชอบ นี่แหละ สาวๆ ก็จะขึ้นเขียงทั้งนัั้น การประชด อะไรที่เกินกว่าเหตุ ต้องมีเหตุอันที่จะมาส่งเสริม ทำไมเราต้องทำเกินกว่าเหตุ เพราะจิตประชด ผยองแก้ด้วยความสยองไม่ได้ ผยองต้องแก้ด้วยความไม่อหังการ มีสัมปชัญญะพิจารณา ผยองเกิดจาก คิดว่าตนเองเก่ง - สำคัญตนผิด - อวิชชา - ไม่ศึกษาเรียนรู้ - คิดว่าตนเองเก่ง - สำคัญตนเองผิด - สัมปชัญญะเลือกทางผิดพลาด สัมปชัญญะเป็นตัวแก้ผยอง |
พรหมสิทธิ์
Rss Feed ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?] อ.พรหมสิทธิ์ ทิพย์ธาดาวงศ์ เอื้อ-เกื้อ-กัน เป็นกัลยาณมิตรทุกขณะจิต ศึกษาเรียนรู้ธรรมะโดยธรรม นำมาปฏิบัติ และเผยแผ่ธรรมะนั้น ให้คนรู้จักบริหารกรรม แก้กรรม พัฒนากรรม ให้เกิดสันติสุข
Group Blog
All Blog
Link |
|||
Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved. |