ประวัติพระธรรมพัชรญาณมุนี (ฌอน ชิเวอร์ตัน ชยสาโร)
ประวัติพระธรรมพัชรญาณมุนี (ฌอน ชิเวอร์ตัน ชยสาโร)
พระธรรมพัชรญาณมุนี มีนามเดิมว่า ฌอน ไมเคิล ชิเวอร์ตัน
(อังกฤษ: Shaun Michael Chiverton) ฉายา ชยสาโร สถานพำนักสงฆ์บ้านไร่ทอสี
จังหวัดนครราชสีมา เป็นพระฝรั่งที่ถ่ายทอดความลึกซึ้งทางธรรมฉบับภาษาไทยได้สละสลวย
และเป็นที่ประทับใจต่อพุทธศาสนิกชนทั่วโลก



การศึกษา
พระธรรมพัชรญาณมุนี เกิดวันที่ 7 มกราคม 2501 เกาะไอล์ออฟไวต์ ประเทศอังกฤษ
เมื่อยังเล็กท่านมีสุขภาพไม่ดี มีอาการหอบหืด แม้จะต้องหยุดโรงเรียนบ่อย แต่ก็ได้
ใช้เวลาในการศึกษาด้วยตนเอง ด้วยความเป็นคนที่ช่างคิด ช่างค้นคว้าจึงมีผลการเรียน
ที่ดีเยี่ยมจนบิดามีความหวังให้เข้าสอบชิงทุนเพื่อเรียนต่อในมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียง
ในประเทศอังกฤษ แต่สิ่งที่สนใจจริงแล้วก็คืออะไรคือสิ่งสูงสุดที่เราจะได้จากการเป็นมนุษย์
อะไรคือความจริงสากลที่ไม่ขึ้นอยู่กับสมมุติของแต่ละสังคม
ทำไมคนเราอยากจะอยู่อย่างเป็นมิตรแต่กลับรบราฆ่าฟันกันอยู่เรื่อยไป



การแสวงหาสัจธรรม
เมื่อไม่มีบุคคลใดสามารถให้คำตอบแก่ท่านได้ ท่านจึงเริ่มอ่านหนังสือต่างๆ
มากมายหลากหลายจนกระทั่งพบคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
จึงเกิดความเลื่อมใสศรัทธาว่าเป็น "สัจธรรมความจริง"



ที่กำลังแสวงหาอยู่ จึงสนใจการฝึกจิตและศึกษาหาความรู้ทางพุทธศาสนาตั้งแต่อยู่ในวัยรุ่น
ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญให้ท่านเริ่มทำงานเก็บเงินและออกเดินทางหาประสบการณ์
ในประเทศต่างๆ อาทิ ประเทศอิหร่านซึ่งลำบากมาก



ถึงขนาดที่ว่าเคยโดนซ้อม แต่ท่านก็ไม่ย่อท้อจนมีคนชวนท่านไปอยู่ที่บ้านเพื่อให้
สอนภาษาอังกฤษให้แลกกับการให้ที่พักและอาหาร หรือเมื่อครั้ง
ท่านไปประพฤติตนเป็นฤๅษีที่อินเดีย



แต่สุดท้ายก็มีเหตุจากปัจจัยภายนอกทำให้ท่านต้องเดินทางกลับ ท่านเดินทางไปทั่ว
จนแน่ใจว่าการศึกษาและปฏิบัติธรรม อันเป็นหนทางที่ต้องการแทนการเรียนต่อ
ในมหาวิทยาลัย โดยท่านใช้เวลาค้นหาสิ่งที่ท่านต้องการตั้งแต่อายุ 17 ปี



ใช้เวลา 2 ปี จนเมื่อ พ.ศ. 2521 ท่านได้พบและเริ่มปฏิบัติกับพระอาจารย์สุเมโธ
(พระชาวต่างชาติรูปแรกที่เป็นลูกศิษย์ของหลวงพ่อชา สุภทฺโท) ที่วิหารแฮมสเตด
ประเทศอังกฤษ และได้ถือเพศเป็นอนาคาริก (ปะขาว) อยู่กับท่านพระอาจารย์สุเมโธ
ถือศีล 10 เป็นเวลา 1 พรรษา แล้วเดินทางมายังประเทศไทย



ชีวิตในร่มกาสาวพัสตร์
แม้ว่าท่านจะได้ปฏิบัติมาบ้างเมื่ออยู่กับพระอาจารย์สุเมโธมาแล้วก็ตาม แต่หลวงพ่อชา
ก็ยังไม่บวชให้ ท่านรับการฝึกฝนเคี่ยวเข็ญด้วยอุบายต่าง ๆ จากหลวงพ่อชา ท่านเล่าให้ฟังว่า
เมื่อหลวงพ่อชาถามว่า อยากบวชไหม หากบอกว่า อยาก ท่านก็จะตอบว่า ยังไม่ให้บวช
จนกว่าจะตอบว่า "แล้วแต่หลวงพ่อ" ท่านจึงได้บวช เมื่อ พ.ศ. 2523 โดยอุปสมบทเป็น
พระภิกษุ ที่วัดหนองป่าพง โดยมีพระโพธิญาณเถร (ชา สุภทฺโท) เป็นพระอุปัชฌาย์



ก่อนเดินทางมาประเทศไทย ท่านได้ตั้งใจว่าจะอยู่ที่วัดหนองป่าพง ให้ครบ 5 ปี
โดยไม่มีเงื่อนไขเพื่อศึกษาปฏิบัติธรรม เมื่อมาพบหลวงพ่อชา ก็เกิด
ความเลื่อมใสศรัทธาในปฏิปทาและความเป็นครูที่มีทั้งเมตตา และปัญญา
ในการสอนอย่างลึกซึ้ง จึงสามารถทนต่อความยากลำบากในการปรับตัว
ให้เข้ากับการใช้ชีวิตแบบพระวัดป่า ที่เข้มงวดในวินัย และการฝึกปฏิบัติตาม
รอยพระพุทธเจ้า และการอยู่ร่วมกับคณะสงฆ์ชาวไทยจนเกิดความก้าวหน้า
และเบิกบานในธรรม



แนวการสอนของหลวงพ่อชาเน้นการปฏิบัติการรักษาศีล และข้อวัตรปฏิบัติ ความอดทน
ความเพียร การใคร่ครวญหลักธรรม และน้อมมาสู่ใจให้เฝ้าสังเกตจนรู้ทันอารมณ์ของตนเอง
และสามารถใช้สติปัญญาในการสร้างประโยชน์ตน และประโยชน์ผู้อื่นพร้อมกันไป
ทำให้ท่านผูกพันกับหลวงพ่อชามาก



เหตุที่เลือกยึดหลักเถรวาท เพราะท่านมีความตั้งใจ ต้องการจะทุ่มเทกาย
ถวายชีวิตให้กับพระพุทธศาสนา เพื่อบรรลุมรรคผลนิพพานและที่ชอบฝ่ายเถรวาท
เพราะถูกจริต ตรงไปตรงมา ไม่มีพิธีรีตองมากมายเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่เข้ามาเกี่ยวกับกาย
กับใจ กับทุกข์ การที่จะอยู่กับป่ากับ ธรรมชาติ อย่างที่สาวกพระพุทธเจ้า
เคยปฏิบัติในสมัยพุทธกาล



แม้ว่าท่านจะเป็นชาวต่างชาติแต่เรื่องภาษาไม่ใช่อุปสรรค เพราะท่านเชื่อว่าภาษาพื้นฐาน
คือบาลีสันสกฤต ซึ่งทั้งคนไทยและต่างชาติก็ต้องเริ่มมาเรียนรู้เหมือนกัน
ภาษามีความยากพอกัน แต่คนไทยอาจจะง่ายกว่าที่ศัพท์ไทยมีบาลีสันสกฤต
ท่านจึงต้องพยายามและขยันมากหน่อย แต่ก็ไม่นาน โดยท่านใช้วิธีการ
ท่องตัวอักษรจนกระทั่งอ่านได้ จากนั้นก็อยู่คนเดียว



ค่อย ๆ อ่าน ดูศัพท์ในดิกชันนารี อีกทั้งอยู่กับครูบาอาจารย์ ไม่ได้เรียนทฤษฎีอะไรมากมาย
ก็ปฏิบัติไปด้วย มีการพิสูจน์ไปด้วย ได้ปรึกษาหารือกับครูบาอาจารย์ ได้อ่านได้ฟัง
พูดคุยกับพระด้วยกัน ทั้งหมดเป็นชีวิตของท่าน ท่านเองก็ต้องคลุกคลี
กับสิ่งนี้อยู่แล้วจึงไม่ยากเท่าไร



ปัจจุบันพระอาจารย์ชยสาโรพำนักอยู่ ณ สถานพำนักสงฆ์บ้านไร่ทอสี อำเภอปากช่อง
จังหวัดนครราชสีมา



ในพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศล เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ
พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร
เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2563 พระธรรมพัชรญาณมุนีได้ถวายพระธรรมเทศนา
บนธรรมาสน์ เฉพาะพระพักตร์พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว
และพระบรมวงศานุวงศ์



สมณศักดิ์
28 กรกฎาคม พ.ศ. 2562 เป็นพระราชาคณะชั้นราช ฝ่ายวิปัสสนาธุระ ที่
พระราชพัชรมานิต พิสิฐธรรมคุณสุนทร มหาคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี
17 กรกฎาคม พ.ศ. 2563 เป็นพระราชาคณะชั้นเทพ ฝ่ายวิปัสสนาธุระ ที่
พระเทพพัชรญาณมุนี วิปัสสนาวิธีโกศล วิมลภาวนาวรกิจ มหาคณิสสร
บวรสังฆาราม คามวาสี
7 กรกฎาคม พ.ศ. 2564 เป็นพระราชาคณะชั้นธรรม ฝ่ายวิปัสสนาธุระ ที่
พระธรรมพัชรญาณมุนี ภาวนาวิธีสุวิธาน สีลาจารสุวิมล โกศลกิจจานุกิจ
มหาคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสีฐานานุศักดิ์ตั้งฐานานุกรมได้ 6 รูป



ฝากกด like Facebook นายแว่นขยันเที่ยว : 
https://www.facebook.com/นายแว่นขยันเที่ยว-110467381183341 



ขอขอบคุณ ช่อง youtube : ธรรมะ โดย พระอาจารย์ชยสาโร/ Dhamma by Ajahn Jayasaro
https://www.youtube.com/channel/UCi7TmX0tEjldN-O8PZDSdYQ
Vote : ประวัติศาสตร์


 



Create Date : 19 กรกฎาคม 2564
Last Update : 19 กรกฎาคม 2564 0:01:53 น.
Counter : 3388 Pageviews.

0 comments

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณnewyorknurse, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณฟ้าใสวันใหม่, คุณป้าทุยบ้านทุ่ง, คุณทนายอ้วน, คุณโอพีย์, คุณ7Flowers, คุณhaiku, คุณKavanich96

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

BlogGang Popular Award#20



นายแว่นขยันเที่ยว
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed

 ผู้ติดตามบล็อก : 12 คน [?]



กรกฏาคม 2564

 
 
 
 
3
4
8
10
11
14
15
17
18
24
25
29
31
 
All Blog