พิพิธภัณฑ์สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ
พิพิธภัณฑ์สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ
วัดปากน้ำ ตั้งอยู่ ซอยรัชมงคลประสาธน์ แขวงปากคลองภาษีเจริญ
เขตภาษีเจริญ จังหวัดกรุงเทพมหานคร
พิกัด : https://maps.app.goo.gl/ANHRLQeRcWeVVLFLA 



ก่อนที่จะไปชมพิพิธภัณฑ์สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ ผมจะพามารู้จักที่นึง
ในวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ คือ "ห้องสมุดมงคลสิริ" 



ห้องสมุดมงคลสิริ วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ กอตั้งตามดำริของเจ้าพระคุณสมเด็จ
พระมหารัชมังคลาจารย์เมื่อครั้งยังดำรงสมณศักดิ์เป็นพระศรีวิสุทธิโมลี ระยะแรกตั้งอยู่
ณ ตึกโรงเรียนพระปริยัติธรรม ชั้นที่ 3 และได้ย้ายมา ณ ตึกวิเศษธรรมกายเมื่อปี



พ.ศ. 2529มีพระครูประภัศรกิจจานุกิจ (หลวงปู่สุข) เป็นบรรณารักษ์
ให้บริการหนังสือแทบทุกประเภทที่คัดเลือกแล้วว่าเหมาะสม
กับพระเณรและประชาชนที่มาใช้บริการ



ระเบียบการใช้ "ห้องสมุดมงคลสิริ" สามารถเข้ามาใช้บริการได้โดยไม่ต้องเป็น
สมาชิกมีบริการให้อ่านได้เฉพาะภายในห้องสมุดมงคลสิริเท่านั้นและโปรดทำตาม
ระเบียบของห้องสมุดห้องสมุดมงคลสิริมีหนังสือเก่าจํานวนมาก



ขอความร่วมมือผู้ใช้บริการหยิบอ่านอย่างทนุถนอมเบามือไม่อนุญาตให้น้ำอาหารและ
นําดื่มเข้ามาในห้องสมุดไม่อนุญาตให้ใช้ห้องสมุดสําหรับสวดมนต์นั่งสมาธิ
หากมีปัญหาในการค้นหาหนังสือกรุณาสอบถามเจ้าหน้าที่



ต่อกันด้วย พิพิธภัณฑ์สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ ตั้งอยู่ใน "พระมหาเจดีย์"
พระมหาเจดีย์นี้มีอยู่ 5 ชั้นด้วยกัน มีส่วนที่จัดเป็นพิพิธภัณฑ์อยู่ 2 ชั้น คือ ชั้น 1
ห้องมหาชนคุณารมณ์ ซึ่งจัดแสดงสิ่งของเครื่องใช้ต่างๆ และในชั้น 3
ห้องสังฆคุณารมณ์ ประดิษฐานพระพุทธรูปหลากหลายลักษณะ
พิพิธภัณฑ์ของเราเป็นที่นิยมอย่างมากในหมู่นักท่องเที่ยว โดยเฉพาะคนญี่ปุ่น



เนื่องจากสื่อมวลชนญี่ปุ่นที่ติดตามสังฆราชนิกายชินเนียวเอ็นมาทำข่าวเมื่อ พ.ศ. 2555
แล้วนำภาพข่าวไปเผยแพร่ ทำให้มีนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นพากันมาเยี่ยมชม จนเกิดเป็น
กระแสในหมู่นักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่น ทำให้พระมหาเจดีย์มหารัชมงคลนี้ติดอันดับหนึ่งของ
สิบอันดับสถานที่และสิ่งที่ต้องทำเมื่อมาเมืองไทยของนิตยสารท่องเที่ยวญี่ปุ่น



พิพิธภัณฑ์นี้กลับไม่เป็นที่รู้จักในวงกว้างในหมู่คนไทย เหมือนกับชาวต่างชาติ
ว่าแล้วเราจึงถือโอกาสนัดแนะเข้าไปเยี่ยมชม สัมภาษณ์ และเก็บภาพเพื่อมาเขียนคอลัมน์
เสียของเราเลย จะได้รู้กันว่าด้านในพิพิธภัณฑ์(ลับ )แห่งนี้ เขามีดีอะไรบ้าง



วัดปากน้ำภาษีเจริญนั้นเดินทางไปไม่ยาก สามารถนั่งรถไฟฟ้าไปลงที่สถานีรถไฟฟ้าMRTบางไผ่
แล้วนั่งรถสองแถวต่อเข้าไปไม่ถึง 10 นาทีก็จะไปจอดในบริเวณวัดเลย ด้านในมีป้าย
บอกทางเป็นรูปการ์ตูนน่ารักๆ ชวนชี้ทางไปให้ไม่มีหลงแน่นอน



สถาปัตยกรรมและศิลปวัตถุที่อยู่คู่วัดเป็นฝีมือช่างสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช
และปรากฏอยู่ในบันทึกว่าได้รับสถาปนาเป็นพระอารามสำคัญในสมัยอยุธยา
นอกจากนี้เมื่อพิจารณาจากหลักฐานที่พบ ก็คาดการณ์ได้ว่าช่วงต้นกรุงรัตนโกสินทร์วัด
น่าจะเจริญรุ่งเรืองมาก มีพระราชาคณะครองวัดสืบมาหลายรูป



พอหลังสมัยรัชกาลที่ 3 ไปจนถึงปลายรัชกาลที่ 5 นอกจากบันทึกราชการแล้ว
หลักฐานอื่นไม่ว่าจะในหนังสือ เรื่องเล่า ตำนาน หรือเรื่องของประวัติเจ้านายที่มา
สร้างวังแถวนี้ แทบไม่ค่อยมีคนเอ่ยถึงวัดปากน้ำเลย แต่จะพูดถึงวัดอัปสรสวรรค์ วัดอินทาราม
วัดจันทาราม วัดราชคฤห์ ที่อยู่ในละแวกเดียวกันเสียมาก แม้แต่ตอนที่ลูกระเบิดของ
สัมพันธมิตรทิ้งลงมาในคลองข้างวัดเมื่อสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง ยังมีบันทึกไว้ว่า



“ระเบิดลงในคลองใกล้ๆ วัดหมู (วัดอัปสรสวรรค์)” โดยข้ามวัดปากน้ำไป
จึงอนุมานภาพว่าช่วงเวลานั้น วัดปากน้ำ น่าจะมีสภาพเหมือนกึ่งวัดร้าง พระเณรมีน้อย
เสนาสนะทรุดโทรม ทั้งการคมนาคมก็ยากลำบาก จึงไม่เป็นที่สนใจของผู้คน กระทั่ง
พระเดชพระคุณหลวงพ่อสด พระมงคลเทพมุนี (สด จนทฺสโร) มาเป็นเจ้าอาวาส
วัดปากน้ำจึงเป็นที่รู้จักขึ้นมาอีกครั้งตั้งแต่นั้น



ก้าวแรกที่เราย่างเข้าพิพิธภัณฑ์ในชั้น 1 ของพระมหาเจดีย์ เราถึงกับเอามือทาบอก
ด้วยคอลเลกชันวัตถุมีค่าที่มากมายมหาศาล เริ่มจากของเครื่องใช้ส่วนตัวของ
สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ ไปจนถึงของที่ได้รับบริจาคจากศรัทธาของลูกศิษย์ลูกหาที่มี



ตั้งแต่อุปกรณ์ที่แสดงถึงวิถีชีวิตพื้นบ้านไทย พระพุทธรูปแกะสลัก เรือเก่า รถม้า
เครื่องเบญจรงค์ ตู้ลายรดน้ำ รวมไปถึงของที่มีมูลค่าสูงลิ่ว อย่างนาฬิกาโรเล็กซ์หรือ
รถเมอร์เซเดส เบนซ์ วินเทจรุ่น 300D Cardiolet ซึ่งอาจทำให้บางคนรู้สึกตะขิด ตะขวงอยู่บ้าง



อย่างไรก็ดี ในฐานะนักพิพิธภัณฑ์แล้ว เราต้องยอมรับว่า การนำของเหล่านี้
มาเก็บรักษาและจัดแสดงในศาสนสถานเพื่อการศึกษานั้น ถือเป็นสาธารณประโยชน์ไม่
แพ้การจัดแสดงในพื้นที่พิพิธภัณฑสถานอื่นๆ เลย



“เนื่องจากผู้คนที่ศรัทธาวัดของเรานั้นมีจำนวนมาก เรามักจะได้รับของบริจาคอยู่อย่าง
ไม่ขาดสาย” คุณต้นพงษ์เล่า “เสียดายที่ผู้ชมจะสนใจเรื่องราคาที่แพงเป็นอันดับแรก
แต่ในความจริงแล้ว พิพิธภัณฑ์ของเรามีของหลากหลายมากอย่างที่เห็น
ทำให้เราสามารถนำเสนอความรู้กับผู้เข้าชมได้หลายหัวข้อด้วย”



หนึ่งในไฮไลต์ที่คุณต้นพงษ์นำเสนอเราคือ คอลเลกชันตาลปัตรและพัดยศกว่า 3,000 เล่ม
ที่ถูกเลือกมาจัดแสดงรายล้อมไปในทุกๆ ชั้นของพระมหาเจดีย์ฯ ตั้งแต่ชั้น 1 โดย
จะมีโซนจัดแสดงตาลปัตร หรือเรียกอีกอย่างว่าพัดรองที่ได้รับพระราชทานจากพระราชวงศ์



โดยเฉพาะ เรียงรายแบ่งประเภทตามผู้ที่พระราชทานเป็นพระองค์ๆ ไป
โดยตาลปัตรเล่มที่ เก่าแก่ที่สุดที่บันทึกได้ของทางวัด ย้อนไปถึงงานพระราชทานเพลิงศพ
ของพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงวรเสรฐสุดา ซึ่งเป็นพระราชธิดาในพระบาทสมเด็จ
พระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 ตราของวัดที่ปรากฏในงานนั้น ต่อมาหลวงพ่อเจ้าพระคุณ
สมเด็จฯ ยังได้นำมาเป็นตราวัดปากน้ำที่ยังคงใช้จนถึงทุกวันนี้



เรียกได้ว่าจุดเด่นประการหนึ่งของพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ คือการเปิดโอกาสให้ผู้มาเยือน
ได้เปรียบเทียบวิวัฒนาการของการประดิษฐ์ตาลปัตร อาทิ พัดที่ได้รับพระราชทานรุ่น 30-40
ปีก่อน ด้ามจะเป็นไม้หรืองา บางทีมีฐานที่ทำจากงาทั้งชุด ซึ่งในปัจจุบันแม้ไม่ได้ใช้งาช้าง
ในการประดิษฐ์พัดแล้ว แต่ความวิจิตรในการออกแบบสร้างสรรค์นั้นกลับเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
อันจะเห็นได้จากตาลปัตรของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ ที่ใช้ช่างจากโรงฝึกศิลปาชีพ
(ปัจจุบันคือสถาบันสิริกิติ์) โดยผสมผสานเทคนิคโบราณที่หลากหลาย ทั้งการปักดิ้น
ปักเลื่อม ใช้ไม้โมกแกะสลักลาย และประดับด้วยปีกแมลงทับ



ข้างๆ กันยังมีตาลปัตรที่ระลึกใน งานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก รัชการที่10 โดยความ
โดดเด่นของตาลปัตรนี้เริ่มตั้งแต่รูปทรงของตัวพัดมีลักษณะที่เรียกว่าพัดหน้านาง
ตามความนิยมในการทำตาลปัตร พื้นของพัดเป็นผ้าไหมสีน้ำเงิน ด้านหน้าได้ออกแบบ
ลวดลายอย่างวิจิตร ตรงกลางปักตราพระราชลัญจกร ประจำรัชกาลที่10 ภายใต้
นพปฎลเศวตฉัตร ล้อมด้วยสายสร้อยมหาจักรี ไขว้ด้วยเครื่องราชกกุธภัณฑ์ประกอบด้วย



พระมหาพิชัยมงกุฎ มีพระมหาอุณาโลม ประกอบเลขมหามงคลประจํารัชกาลอยู่เบื้องบน
พร้อมพระแสงขรรค์ชัยศรีกับพระแส้จามรี ไขว้อยู่เบื้องขวา ธารพระกรกับพัดวาลวิชนี
ไขว้อยู่เบื้องซ้าย และฉลองพระบาทเชิงงอนอยู่เบื้องล่าง เบื้องซ้ายของตรามีคชสีห์
เบื้องขวามีราชสีห์ประคองอยู่ ทั้งยังแวดล้อมด้วยลายดอกพรรณพฤกษ์ มีริบบิ้นสีฟ้าปัก
พระปรมาภิไธยอยู่ด้านบน ล้อมด้วยริบบิ้นสีเหลืองปักชื่องานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก
พุทธศักราช 2562 ส่วนด้านหลังของพัดเป็นอักษรพระปรมาภิไธย ว.ป.ร
ที่บรรจงปักอย่างประณีตไม่แพ้กัน ส่วนด้ามเป็นไม้โมกมันแกะลายดอกพุดตาน ลงยาสีเขียว
เรียกว่างามโดดเด่นสะดุดตาอย่างมาก



นอกจากตาลปัตรและพัดยศแล้ว เรายังสามารถเรียนรู้ประวัติศาสตร์ผ่านการเปรียบเทียบ
ศาสนวัตถุชนิดอื่นๆ อีกด้วย ที่เห็นชัดเลยคือพระพุทธรูป โดยพระพุทธรูปที่จัดแสดง
ในพิพิธภัณฑ์ในชั้น 3 ส่วนมากมีอายุในช่วงพุทธศตวรรษที่ 24 ถึงต้นพุทธศตวรรษที่ 25



หรือในสมัยอยุธยาถึงต้นกรุงรัตนโกสินทร์ เป็นพระพุทธรูปไม้แกะสลัก ลงรักปิดทอง
บางองค์ประดับกระจกที่ฐาน ฝีมือประณีตงดงาม มีทั้งพระพุทธรูปและพระสาวกใน
ปางต่างๆ นอกจากนั้นยังมีพระพุทธรูปศิลปะต่างๆ เช่น พระพุทธรูปสมัยสุโขทัย



พระพุทธรูปสมัยเชียงแสน พระพุทธรูปศิลปะลาว พระพุทธรูปศิลปะพม่า
พระพุทธรูปศิลปะลังกา พระโพธิสัตว์ศิลปะจีน ฯลฯ ซึ่งตรงนี้จะช่วยให้ผู้ชมสามารถเทียบเคียงความเหมือน
และแตกต่างของศิลปะ ความเชื่อในแต่ละประเทศได้อย่างดี



สำหรับพระคัมภีร์ก็เช่นกัน คือเราจะมีคัมภีร์ทั้งแบบสมุดไทยที่มีลงรักปิดทอง
ไปจนถึงวิธีการวาดภาพประกอบและภาษาเขียนที่หลากหลาย ถ้าใครสนใจวิวัฒนาการ
ของคัมภีร์ใบลานในภูมิภาคนี้ก็สามารถมาศึกษาได้



ขึ้นไปชั้นบนสุด เพื่อชมอีกหนึ่งไฮไลต์ที่ห้ามพลาดของที่นี่ นั่นก็คือ ‘เจดีย์แก้วมรกต’
สร้างจากกระจกหนา 1 เซนติเมตร แกะสลักด้วยมือ นำมาวางซ้อนกันจำนวน 800 ชั้น
แต่ละชั้นผนึกแน่นด้วยกาวที่สั่งทำพิเศษ ทำให้มีความใสจนไม่เห็นรอยกาว
ด้านยอดบนสุดของเจดีย์จะบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ พร้อมทั้งจะมีการสร้างเจดีย์ทองคำ
ครอบบนยอดของเจดีย์แก้วอีกด้วย



ขณะที่ฐานของเจดีย์แก้วจะใช้กระจกแกะสลักเป็นรูปพญานาคจำนวน 80 ตัวเท่ากับอายุ
ของพระพุทธเจ้า ส่วนเพดานเป็นโดมสูง 10 เมตร ตกแต่งด้วยภาพเขียนอนันตจักรวาล
โดย อาจารย์จักรพันธุ์ โปษยกฤต รอบโดมนั้นยังมีเป็นภาพเขียนพระพุทธเจ้า
ที่เป็นตัวแทนแห่งอดีตพุทธ 28 พระองค์



ขอขอบคุณข้อมูล : https://www.canva.com/design/DAFk95h6wic/RgHudQHPCdme9F4KyDJgjA/view?utm_content=DAFk95h6wic&utm_campaign=designshare&utm_medium=link&utm_source=publishsharelink 



ใครที่ยังไม่ได้เข้าไปอ่านบล๊อก Buffet Story - บุฟเฟ่ต์ สตอรี่ ปิ้งย่างโคขุน
ทะเลเผา อนุสาวรีย์ชัย ตอน1
 
สามารถกดที่นี่ได้เลยครับ



ฝากกด like Facebook นายแว่นขยันเที่ยว : 
https://www.facebook.com/นายแว่นขยันเที่ยว-110467381183341



ฝากกดติดตาม YouTube PT Channel : 
https://www.youtube.com/channel/UCGZdHn45JVfiyGdW4wZE0Tw 



ขอบคุณที่เข้ามาเป็นกำลังใจให้ผม
"นายแว่นขยันเที่ยว"



ขอบคุณเพลง : Something Good
ศิลปิน : ดึกดําบรรพ์ บอยแบนด์
Vote : ท่องเที่ยวไทย




Create Date : 13 พฤศจิกายน 2566
Last Update : 13 พฤศจิกายน 2566 15:52:57 น.
Counter : 1964 Pageviews.

2 comments

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณSweet_pills, คุณปัญญา Dh, คุณnewyorknurse, คุณกะว่าก๋า, คุณหอมกร, คุณฟ้าใสวันใหม่, คุณปรศุราม, คุณEmmy Journey พากิน พาเที่ยว, คุณpeaceplay, คุณhaiku, คุณมาช้ายังดีกว่าไม่มา, คุณตะลีกีปัส, คุณtuk-tuk@korat, คุณดาวริมทะเล

  
โดย: หอมกร วันที่: 13 พฤศจิกายน 2566 เวลา:7:08:12 น.
  
สวัสดีครับ

มาส่งกำลังใจนะครับ
โดย: ปัญญา Dh วันที่: 14 พฤศจิกายน 2566 เวลา:21:07:33 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

นายแว่นขยันเที่ยว
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed

 ผู้ติดตามบล็อก : 10 คน [?]



พฤศจิกายน 2566

 
 
 
2
4
5
7
9
11
12
14
16
18
19
21
23
25
26
28
30
 
 
All Blog