รีวิว ภาพยนตร์ใหม่ "ไทบ้านเดอะซีรีส์ : หมอปลาวาฬ" [Thibaan]ก่อยอื่นผมขอให้คะแนนภาพยนตร์ เรื่องนี้ก่อน ผมให้ที่ 6.5/10 คะแนน
ส่วนตัวผมติดตาม ภาพยนตร์ของจักรวาลไทบ้านอยู่แล้วเลยคาดหวังไว้สูง
ยังคงมีผลงานออกมาให้ชมเรื่อย ๆ สำหรับหนังในจักรวาลไทบ้านเดอะซีรีส์ แต่หากไม่นับ
"รักหนูมั้ย" ที่เหมือนเป็นแค่การใช้นักแสดงชุดเดียวกันมาเล่าเรื่องใหม่
"หมอปลาวาฬ"จะนับเป็นงานหนังสปินออฟลำดับที่ 2 ต่อจาก
"ไทบ้านXBNK 48"แน่นอนว่าการที่หนังใช้ชื่อตัวละครอย่างหมอปลาวาฬมาเป็นจุดขายย่อมหมายถึง
การที่เราจะได้เห็นเรื่องราวมุมมองความสัมพันธ์จากฝั่งผู้หญิงอย่างหมอปลาวาฬ
ว่าทำไมในหนัง
"ไทบ้านเดอะซีรีส์" เธอถึงยังตัดใจจากจ่าลอดไม่ได้เสียที
หนังเริ่มมาด้วยภาพอดีตตอนที่หมอปลาวาฬไม่อาจช่วยชีวิตคนตกน้ำได้
และเป็นจ่าลอดนี่เองที่อยู่ในเหตุการณ์ดังกล่าว และโดยที่ไม่ต้องเดาให้เสียเวลา
ภาพก็ตัดมายุคปัจจุบันที่จะเล่าเรื่องหมอปลาวาฬที่ยังไม่อาจตัดใจจากจ่าลอดให้ขาดได้
แม้จะมีหมอเต้ยสุดหล่อตามจีบอยู่ก็ตาม
แต่แล้วก็เป็นจ่าลอดเองที่อาศัยช่วงเวลาที่ครูแก้วแฟนสาวตัวจริง
พานักเรียนไปแข่งฟุตบอลต่างจังหวัดหาช่องทางกลับไปตีสนิทหมอปลาวาฬ
จนเกิดเป็นความผูกพันครั้งใหม่ที่ต้องเลือกระหว่างความต้องการกับความถูกต้อง
เอาจริง ๆ พลอตเรื่องของ
"หมอปลาวาฬ" นี่แทบไม่มีอะไรเหลือให้เล่าอีกแล้ว
แต่หากจะให้เปรียบเทียบกับหนังซูเปอร์ฮีีโรก็คงทับรอยเดียวกับ
"Black Widow" ของมาร์เวลนั่นแหละครับ
คือเอาตัวละครที่คนดูรักแม้ว่าจะไม่ค่อยมีบทบาทเป็นชิ้นเป็นอันในหนังภาคต่อของ
"ไทบ้านเดอะซีรีส์" เท่าไหร่ และยังแนะนำตัวละครใหม่
(หรือเปล่า?)อย่างหมอเต้ยที่ได้อดีต
"ครูเต้ย – อภิวัฒน์ บุญอเนก"มาโชว์หน้าหล่อ ๆ อยู่ 1 ซีนถ้วน
ซึ่งเราก็คงเดาตอนจบได้ไม่ยากว่าหนังจะต้องเล่นงานกับชะตากรรมของหมอปลาวาฬ
อย่างหนักหน่วงก่อนเธอจะก้าวข้ามมะเร็งหัวใจอย่างจ่าลอดไปได้
กระนั้นในความไม่มีอะไรของพล็อตเรื่องมันก็ยังแอบมีจุดน่าสนใจหลายอย่าง
ที่ทำให้เราเห็นว่า สุรศักดิ์ ป้องศร มีความเข้าใจในเนื้อหาที่ตัวเองกำลังจะเล่า
โดยเฉพาะการดึงให้อนามัยกลายเป็นจุดศูนย์กลางของชีวิตความเป็นอยู่ในหมู่บ้าน
ซึ่งบทหนังก็ใช้ประโยชน์จากการที่แพทย์อาสาสมัครต้องติดตามคนไข้ผู้เฒ่าผู้แก่
ให้มาคอยรับยารักษาโรคเป็นประจำสร้างภาพลักษณ์ของแพทย์ประจำท้องถิ่น
ที่ต้องต่อสู่ กับความเชื่อของชาวบ้านเรื่องสุขภาพ
มาเปรียบเทียบกับเรื่องหัวใจของหมอปลาวาฬที่แม้จะมีความรู้รักษาคนไข้ได้มากแค่ไหน
แต่เรื่องหัวใจก็ยังเห็นเธอปรึกษาเพื่อนร่วมสถานีอนามัยหรือกระทั่งเลือก
“ยาผิด”ให้ตัวเองจนกว่าจะบรรเทาอาการ เธอก็กลายเป็นผู้ป่วยเรื้อรังที่ต้องแลกหัวใจ
ของเธอกับความโลเลและหลายใจของจ่าลอด
และปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเสน่ห์เฉพาะตัวของ
"ฟิฟิน สิริอมร อ่อนคูณ"คือหัวใจของเรื่องราวจริง ๆ แม้ว่ารูปลักษณ์ภายนอกของหมอปลาวาฬ
ที่จับเธอใส่แว่นแต่งหน้าอ่อน ๆ แต่แอบแซ่บด้วยรอยสักจะทำให้หนุ่ม ๆ
แทบคลั่งทุกครั้งที่เธอปรากฎตัวแต่เป็นฝีมือการแสดงของเธอต่างหากที่ทำให้
เรื่องราวที่หวุดหวิดจะน้ำเน่ากลับมีมิติและมีหัวจิตหัวใจมากพอให้คนดูติดตาม
ร่วมลุ้นและอดเห็นใจกับชะตากรรมของเธอไม่ได้
กระนั้นความดีของนักแสดงหรือตัวบทที่ยังทำงานกับคนดูก็กลับมามัวหมองด้วยข้อผิดพลาด
ด้านโปรดักชันที่พบเจอได้รายทางตั้งแต่ซีนบทสนทนาที่คนดูได้ยินเสียงไมค์ไวร์เลสขูดกับเสื้อ
ได้ชัดเจนเสียงพูดที่หลายครั้งก็ให้ความรู้สึกเหมือนบันทึกมาด้วยเกนเสียงที่พีค
จนฟังแทบไม่รู้เรื่องจนถึงเสียงบางช่วงที่ติดไวร์เลสไม่ได้ก็เหมือนได้ยินจากไมค์กล้อง
จนคุณภาพเสียงกลายเป็นปัญหาที่บั่นทอนคุณภาพของงานไปอย่างไม่น่าเชื่อ
ด้านงานภาพแม้ว่าสไตล์นำเสนอที่เป็นเสน่ห์เฉพาะตัวของหนังชุดนี้ทั้งการแทร็กกิ้ง
ตามตัวละครเดินข้ามถนนไปมาหรือการถ่ายรับหน้าเพื่อสื่ออารมณ์โดยไม่ต้องมีคำพูด
จะยังคงมีให้เห็นทั่วไปและทำงานได้ดีอยู่ แต่พอมีบางช็อตที่เห็นเลยว่าแก้ปัญหา
แสงเปลี่ยนด้วยการใส่ฟิลเตอร์แสงส้มปลอม ๆ เข้ามาก็กลายเป็นรอยด่างพร้อยอันน่าเสียดาย
สามารถชมภาพยนตร์ "ไทบ้านเดอะซีรีส์ : หมอปลาวาฬ"
ได้ในโรงภาพยนต์ทั่วประเทศไทย #หมอปลาวาฬ
ฝากกด like Facebook นายแว่นขยันเที่ยว :
https://www.facebook.com/นายแว่นขยันเที่ยว-110467381183341ฝากกด like กด แชร์ด้วยนะครับ 🙏
#นายแว่นขยันเที่ยว 😎📷
ขอบคุณที่เข้ามาเป็นกำลังใจให้ผม
"นายแว่นขยันเที่ยว"
ขอบคุณตัวอย่าง : ไทบ้านเดอะซีรีส์ : หมอปลาวาฬ
กำกับการแสดงโดย : สุรศักดิ์ ป้องศร
Vote : ภาพยนตร์