พามาเที่ยววัดเก่าแก่อายุกว่า 500 ปี ที่วัดหน้าพระเมรุราชิการาม อยุธยาฯ
พามาเที่ยววัดเก่าแก่อายุกว่า 500 ปี ที่วัดหน้าพระเมรุราชิการาม อยุธยาฯ
วัดหน้าพระเมรุราชิการาม ตั้งอยู่ อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา 13000
พิกัด : https://maps.app.goo.gl/9fuwtwy3z7SeNjx99 



ก่อนที่เราจะไปเที่ยวที่นี่เรามารู้จักวัดนี้กันก่อนครับ "วัดหน้าพระเมรุราชิการาม" 
เป็นวัดเดียวในกรุงศรีอยุธยาที่ไม่ได้ถูกพม่าทำลายและยังคงปรากฏสถาปัตยกรรมแบบ
อยุธยาอยู่ในสภาพสมบูรณ์มากที่สุดในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา



พระอุโบสถมีขนาดยาว 50 เมตร กว้าง 16 เมตรเป็นแบบอยุธยาตอนต้นซึ่งมีเสาอยู่ภายใน
ตั้งอยู่ริมคลองสระบัวด้านทิศเหนือของคูเมือง (เดิมเป็นแม่น้ำลพบุรี)
ตรงข้ามกับพระราชวังหลวง สร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนต้น



พ.ศ. 2046 มีชื่อเดิมว่า “วัดพระเมรุราชิการาม” ที่ตั้งของวัดนี้เดิมคงเป็นสถานที่สำหรับ
สร้างพระเมรุถวายพระเพลิงพระบรมศพของพระมหา กษัตริย์พระองค์ใดพระองค์หนึ่ง
สมัยอยุธยาตอนต้นต่อมาจึงได้สร้างวัดขึ้น



มีตำนานเล่าว่าพระองค์อินทร์ในรัชกาลสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 2 ทรงสร้างวัดนี้เมื่อ
พ.ศ. 2046  วัดนี้มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ สมเด็จพระมหาจักรพรรดิเมื่อครั้งทำศึก
กับพระเจ้าบุเรงนองได้มีการทำสัญญาสงบศึกเมื่อ พ.ศ. 2106 



ได้สร้างพลับพลาที่ประทับขึ้นระหว่างวัดหน้าพระเมรุกับวัดหัสดาวาส
ต่อมาสร้างขยายออกโดยเพิ่มเสารับชายคาภายนอกในรัชสมัยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ
หน้าบันเป็นไม้สักแกะสลักเป็นรูปพระนารายณ์ทรงครุฑเหยียบเศียรนาค
และมีรูปราหูสองข้างติดกับเศียรนาค



หน้าต่างเจาะเป็นช่องยาวตามแนวตั้ง เสาเหลี่ยมสองแถวๆ ละแปดต้น มีบัวหัวเสา
เป็นบัวโถแบบอยุธยา ด้านบนประดับด้วยดาวเพดานเป็นงานจำหลักไม้ลงรักปิดทอง
ส่วนลายแกะสลักบานประตูพระวิหารน้อย



เป็นลายแกะสลักด้วยไม้สักหนา แกะสลักจากพื้นไม้ไม่มีการนำชิ้นส่วนที่อื่นมา
ติดต่อเป็นลายซ้อนกันหลายชั้น พระประธานในอุโบสถสร้างปลายสมัยอยุธยาเป็น
พระพุทธรูปปางมารวิชัยหล่อด้วยทองสัมฤทธิ์ทรงเครื่องแบบกษัตราธิราช มีนามว่า
“พระพุทธนิมิตวิชิตมารโมลีศรีสรรเพชญ์บรมไตรโลกนาถ”



จัดเป็นพระพุทธรูปทรงเครื่องสมัยอยุธยาที่มีขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่มีปรากฏอยู่ในปัจจุบัน
และมีความสมบูรณ์งดงามมากสูงประมาณ 6 เมตรหน้าตักกว้างประมาณ 4.40 เมตร



ในสมัยรัชกาลที่ 3 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ได้มีการปฏิสังขรณ์วัดนี้โดยรักษาแบบอย่างเดิม
ไว้และได้เชิญพระพุทธรูปศิลาสีเขียวหรือพระคันธารราฐประทับนั่งห้อยพระบาทสมัย
ทวาราวดีจากวัดมหาธาตุมาไว้ในวิหารสรรเพชญ์



(หรือเรียกว่า วิหารน้อยเพราะขนาดวิหารเล็ก มีความยาว 16 เมตร กว้างประมาณ 6 เมตร)
ซึ่งอยู่ข้างพระอุโบสถ  พระพุทธรูปศิลาแบบนั่งห้อยพระบาทสมัยทวาราวดีนี้ นับเป็น 1
ใน 5 องค์ที่มีอยู่ในประเทศไทย



ขอขอบคุณข้อมูล : https://ww2.ayutthaya.go.th/travel/detail/9 



ใครที่ยังไม่ได้เข้าไปอ่านบล๊อก Buffet Story - บุฟเฟ่ต์ สตอรี่ ปิ้งย่างโคขุน
ทะเลเผา อนุสาวรีย์ชัย ตอน2
 
สามารถกดที่นี่ได้เลยครับ



ฝากกด like Facebook นายแว่นขยันเที่ยว : 
https://www.facebook.com/นายแว่นขยันเที่ยว-110467381183341



ฝากกดติดตาม YouTube PT Channel : 
https://www.youtube.com/channel/UCGZdHn45JVfiyGdW4wZE0Tw 



ขอบคุณที่เข้ามาเป็นกำลังใจให้ผม
"นายแว่นขยันเที่ยว"



ขอบคุณเพลง : ก่อนลา
ศิลปิน : วสันต์17
Vote : ท่องเที่ยวไทย




Create Date : 20 พฤศจิกายน 2566
Last Update : 20 พฤศจิกายน 2566 0:34:25 น.
Counter : 1427 Pageviews.

1 comments

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณRain_sk, คุณกะว่าก๋า, คุณหอมกร, คุณฟ้าใสวันใหม่, คุณปัญญา Dh, คุณThe Kop Civil, คุณMy Style Is 1D(5), คุณpeaceplay, คุณจันทราน็อคเทิร์น, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณแมวเซาผู้น่าสงสาร, คุณhaiku, คุณสองแผ่นดิน

  
โดย: หอมกร วันที่: 20 พฤศจิกายน 2566 เวลา:8:53:57 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

นายแว่นขยันเที่ยว
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed

 ผู้ติดตามบล็อก : 10 คน [?]



พฤศจิกายน 2566

 
 
 
2
4
5
7
9
11
12
14
16
18
19
21
23
25
26
28
30
 
 
All Blog