ความคิดเปลี่ยนชีวิต #99 ชีวิตเหมือนกับการปั่นจักรยาน
จากคำคมนี้
"Life is like riding a bicycle. To keep your balance, you must keep moving."
- Albert Einstein
"ชีวิตเหมือนการปั่นจักรยาน ถ้าเราอยากจะทรงตัวได้ (ไม่อยากล้ม) เราก็ต้องปั่นมันอย่างต่อเนื่องไปเรื่อย ๆ "
ดูเรียบง่ายและท้ายคิดถึงหลายเรื่องที่เกิดในชีวิตได้เป็นอย่างดีผมเชื่อว่าเราทุกคนย่อมเคยมีช่วงเวลาที่เศร้าหรือท้อแท้ใจบ้างแต่เมื่อนึกถึงวิธีคิดแบบนี้ขึ้นมาเมื่อไหร่เราจะมีกำลังใจขึ้นมาทันทีแม้เพียงเล็กน้อยที่พอจะพาเราเดินต่อไปได้มันก็มีความหมายใช่ไหมครับ
ผมเคยพบโค้ชระดับประเทศท่านหนึ่งเล่าถึงสัจธรรมเกี่ยวกับขี่จักรยาน ทำให้ผมจำขึ้นใจ
เธอบอกว่าการขี่จักรยานได้เปรียบเสมือนว่าเราสามารถควบคุมชีวิตของตนเองได้
เด็กทุกคนควรได้รับความรู้สึกนี้
แล้วยังมีความจริงอีกว่าก่อนที่เราจะ ขี่จักรยานได้ เราจะต้องผ่านการล้มมาแล้วครั้งแล้วครั้งเล่าซึ่งเราก็หยิบขี่จักรยานลุกขึ้นมาปั่นใหม่ขึ้นทุกครั้งผมยังจำได้ถึงวันที่ผมไปหัดขี่จักรยานกับพี่ชายเราอยากได้จักรยานกันมากแม่ท้าทายเราว่าถ้าซื้อมาให้แล้วขี่ไม่ได้จะตีให้ตัวลายเลยเชียว
ผมกับพี่ชายสองคนไปหัดปั่นจักรยานกลางฝนต่างคนต่าง ผัดกันจับแล้วปล่อยให้ปั่นออกไปได้แม้ว่าระยะเพียงน้อยนิดเราก็จะพยามปั่นออกไปครั้งแล้วครั้งเล่าจนกระทั่งเราสองคนทำได้จริงๆวันนั้นผมรู้สึกว่าเราชนะแม้เป็นเพียงก้าวเล็กๆของเราก็ยังรู้สึกภูมิใจ
ไม่ต่างอะไรกับชีวิตเราไม่มีใครเกิดมาแล้วทำทุกอย่างสำเร็จทุกครั้ง เคยมีคนกล่าวไว้ว่า
"ยิ่งให้ลูกประสบความล้มเหลว
ได้เร็วเท่าไหร่ยิ่งดี"
เพราะเขาจะเรียนรู้จากความล้มเหลวนั้น
แต่หากคอยประคับประคองให้ประสบความสำเร็จตลอดไปโดยที่ตัวเองไม่รู้ว่าปัจจัยแห่งความสำเร็จนั้นได้มาจากอะไรพอถึงวันที่จะต้องล้มบ้างอาจทำใจไม่ได้ หรือกว่าจะลุก ขึ้นมาสู้ใหม่อีกครั้งได้ คงต้องใช้เวลานานมาก
แล้วเมื่อวันที่เราเกิดท้อใจเป็นอย่างมาก
จนอยากจะเลิกทำบางสิ่งบางอย่าง
หรือแม้แต่จะคิดสั้นกับชีวิต
หากเราคิดว่านี่เป็นเพียงบททดสอบ
เพื่อที่จะทำให้เราโตขึ้นแข็งแกร่งขึ้นและเก่งขึ้น
เราจะไม่ยอมหยุดปั่นชีวิตของเรา
จะมีพลังเดินหน้าต่อไป
ไม่มีใครเข้าใจเราเท่ากับเราเข้าใจตัวเอง
คนที่ช่วยที่เราได้ดีที่สุดก็คือ "ตัวเราเอง"
ไม่มีใครแพ้ตลอดกาลหรอกน่า..
ปั่นชีวิตต่อไป...วันที่ยิ่งใหญ่ต้องเป็นของเรา