ความคิดเปลี่ยนชีวิต #50 ทุกอย่างเริ่มต้นที่ตัวเรา
เวลาเกิดปัญหาอะไรขึ้นมา
คนส่วนใหญ่มักจะโทษ
ปัจจัยแวดล้อมรอบข้าง
ไม่ว่าจะเป็นเศรษฐกิจไม่ดี
การเมืองไม่ดี ราคาน้ำมันอันผวน
คนรอบข้างไม่สนับสนุน
สภาวะตลาดไม่เอื้อ
จากหนังสือเจ็ดอุปนิสัยของมีผู้มีประสิทธิผลสูง
ได้กล่าวเปรียบเทียบเรื่องนี้ไว้อย่างน่าสนใจ
คือวุฒิภาวะของคนเปรียบเสมือนการมอง
เด็กกับผู้ใหญ่เด็กมักจะโทษสิ่งรอบข้างเมื่อตนเองไม่ได้จึงได้ดังใจปรารถนา เด็กทารกจะร้องหิวนมร้องไห้เมื่อต้องการถ่ายหรือเมื่อรู้สึกไม่สบายตัว
แต่ผู้ใหญ่จะจัดการปัญหานี้ได้ด้วยตัวเอง
เมื่อหิวก็จะหาอาหารกินเอง
เมื่อปวดท้องถ่ายก็จะเดินไปห้องน้ำ
หรือเมื่อไม่สบายตัว
ก็จะพยามเปลี่ยนแปลงสถานที่
หรืออริยาบทจะไม่ไปโวยวายใคร
ระดับวุฒิภาวะ หมายถึง
ความสามารถที่จะพึ่งพาตนเองได้
เมื่อเราเข้าสู่วัยที่ต้องเรียนหรือทำงานแล้ว
จะพบว่ามีหลายอย่างในชีวิตของเราไม่ได้เป็นไปอย่างที่เราคิดอยู่เสมอๆ
ถ้าเราคิดตามหลักที่
ทุกอย่างเกิดขึ้นจากตัวเราเองแล้ว
เราจะพยายาม ทำหรือแก้ปัญหา สิ่งนั้นด้วยตัวเอง
เช่นหากเราพบว่าวิชาที่เราเรียนนั้นการสอนยังไม่สามารถทำให้เราเข้าใจได้ดีเท่าที่ควรเราก็จะต้องขวนขวายไปหาตำราหรือไปปรึกษาคนที่เรียนเก่งหรือออกไปเรียนเพิ่มเติมเพื่อให้เราสามารถเข้าใจได้มากขึ้นโดยไม่ไปโทษว่าครูผู้สอนถ่ายทอดไม่ดี
การทำงานก็เช่นกันหากงานที่ทำอยู่ไม่สามารถทำให้เราประสบความสำเร็จได้และระยะยาวถ้าเรามัวแต่โทษเจ้านายโทษธุรกิจของบริษัทนั้นโทษคนรอบข้างหรือเพื่อนร่วมงานตัวเราเองก็จะไปไม่ถึงไหนแต่หากเปลี่ยนจากการแก้ไขโดยเริ่มต้นที่ตัวเองคือพยายามฝึกฝนตัวเอง และค่อยค่อยหาวิธีแก้ปัญหาไปเรื่อยๆ โดยสอบถามทุกคนที่มีประสบการณ์มากกว่าเรา โดยยึดเป้าหมายหลักเอาไว้ว่าเราจะต้องเก่งขึ้นทุกวันปัญหาเป็นเพียงบันไดอีกท่านหนึ่งให้เราข้ามผ่านไปวุฒิภาวะของเราก็จะสูงขึ้นเรื่อยเรื่อย
สำหรับนักธุรกิจ ผู้ประสบความสำเร็จแล้วจะมีแนวคิดในการพึ่งพาตนเองอย่างเต็มเปี่ยมเพราะเค้ารู้ดีว่าในสภาพแวดล้อมที่ไม่พร้อมนี่แหละมันดีสำหรับการที่เค้าจะเข้ามาทำธุรกิจเพราะคู่แข่งจะน้อยและเค้าพยายามจะสร้างทุกอย่างที่เขาต้องการจะทำขึ้นมาเองถึงแม้ว่าเขาอาจจะบ่นบ้างในบางครั้งในความไม่สะดวกของระบบหรือระเบียบกลไกของรัฐบาลแต่เค้าก็จะผ่านมันไปได้เสมอ
"ใครแก้ปัญหาได้เก่งคนนั้นก็จะเป็นผู้ชนะเสมอ"