CME: อหิวาตกโรค…โรคร้ายที่มากับอาหารและน้ำ


CME: อหิวาตกโรค…โรคร้ายที่มากับอาหารและน้ำ
โดย อาจารย์แพทย์หญิงทวิติยา สุจริตรักษ์

คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่




อหิวาตกโรค (Cholera) เป็นโรคติดต่อที่มีความสำคัญทางสาธารณสุขทั่วโลก
เนื่องจากสามารถก่อให้เกิดการระบาดได้อย่างรวดเร็ว
ในแต่ละปีพบผู้ป่วยเฉลี่ย 1.4 ถึง 4.3 ล้านคนทั่วโลก
โดยในจำนวนนี้มีผู้เสียชีวิตประมาณ 28,000 ถึง 142,000 ราย1
โรคนี้พบได้บ่อยในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา รวมถึงประเทศไทย
ที่มักมีการระบาดของโรคเป็นครั้งคราว แต่พบได้น้อยมาก
ในกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว ซึ่งส่วนใหญ่มักพบในนักท่องเที่ยว
ที่เดินทางกลับจากประเทศที่มีการระบาดของโรค บทความนี้
จะสรุปถึงสถานการณ์ของโรคในประเทศไทย เชื้อสาเหตุ
การติดต่อ อาการสำคัญทางคลินิก การดูแลรักษา รวมถึงการป้องกันโรค


สถานการณ์ของอหิวาตกโรคในประเทศไทยปี พ.ศ. 2558
ข้อมูลจากสำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข

ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ถึง 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558
พบผู้ป่วยทั้งสิ้น 33 ราย คิดเป็นอัตราป่วย 0.05 ต่อแสนประชากร
โดยมีผู้เสียชีวิตจำนวน 1 ราย กลุ่มอายุที่พบผู้ป่วยมากสุด คือ
อายุ 25-34 ปี (ร้อยละ 42) อายุ 45-54 ปี (ร้อยละ 15)
และอายุ 15-24 ปี (ร้อยละ 15) ตามลำดับ
ผู้ป่วยส่วนใหญ่มีสัญชาติไทย (ร้อยละ 52) รองลงมาคือกัมพูชา (ร้อยละ 33)
และพม่า (ร้อยละ 15) จังหวัดที่มีอัตราป่วยสูงสุด 3 อันดับแรก
ได้แก่ ระยอง (1.78 ต่อแสนประชากร) ยะลา (0.59 ต่อแสนประชากร)
และระนอง (0.56 ต่อแสนประชากร)2 จากสถิติดังกล่าว
แสดงให้เห็นว่าประชากรที่เป็นกลุ่มเสี่ยง คือ ประชากรในวัยทำงาน
โดยเฉพาะแรงงานต่างด้าวและชาวประมง ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยง
ได้แก่ จังหวัดชายทะเลรอบอ่าวไทย และจังหวัดชายแดนไทย-พม่า เป็นต้น


จากข้อมูลทางระบาดวิทยาย้อนหลัง พบว่าประเทศไทยมักมีการระบาด
ของอหิวาตกโรคเกิดขึ้นปีเว้น 2 ปี โดยเริ่มจากปี พ.ศ. 2538
ที่มีการระบาดครั้งใหญ่ (อัตราป่วย 6.04 ต่อแสนประชากร)
หลังจากนั้นก็เกิดการระบาดขึ้นทุก 3 ปี ได้แก่ ปี พ.ศ. 2541
(อัตราป่วย 7.78 ต่อแสนประชากร) ปี พ.ศ. 2544
(อัตราป่วย 4.61 ต่อแสนประชากร) ปี พ.ศ. 2547
(อัตราป่วย 3.41 ต่อแสนประชากร) ปี พ.ศ. 2550
(อัตราป่วย 1.57 ต่อแสนประชากร) และปี พ.ศ. 2553
(อัตราป่วย 3.11 ต่อแสนประชากร)
โดยมีแนวโน้มของอัตราป่วยลดลงเรื่อยๆ
อย่างไรก็ตามไม่พบการระบาดในปี พ.ศ. 2556
อย่างที่คาดการณ์ไว้3-6


อหิวาตกโรคเกิดจากเชื้อ Vibrio cholerae ซึ่งเป็นแบคทีเรียที่ติดสีกรัมลบ
รูปร่างเป็นแท่งงอ มี flagellum 1 เส้นที่ปลายทำให้สามารถ
เคลื่อนที่ได้รวดเร็ว และไม่สร้างสปอร์ ปัจจุบันใช้ O (somatic) antigen
ในการจำแนกเชื้อออกเป็น serogroup ต่างๆ ได้มากกว่า 200 serogroups
แต่ที่มีความสำคัญทางคลินิก ได้แก่ serogroup O1 และ O139
ซึ่งก่อให้เกิดการระบาดของโรคได้ โดย V. cholerae serogroup O1
สามารถแยกย่อยได้เป็น 2 biotypes ได้แก่ classical และ El Tor และ 2 serotypes ได้แก่ Ogawa และ Inaba สำหรับเชื้อ V. cholerae
ที่พบเป็นเชื้อก่อโรคในประเทศไทยในช่วงปี พ.ศ. 2546 ถึง 2547 นั้น
เป็นเชื้อ serotype Inaba เป็นหลัก
หลังจากนั้นตั้งแต่ปี พ.ศ. 2548 เป็นต้นมา
พบเป็นเชื้อ serotype Ogawa เป็นหลัก
รวมทั้งในปี พ.ศ. 2558 ซึ่งพบเป็นเชื้อ serotype Ogawa
ร้อยละ 64 และ serotype Inaba ร้อยละ 362-6


เชื้อ V. cholerae มักปนเปื้อนอยู่ในน้ำและอาหาร โดยเฉพาะอาหารทะเล
ที่ดิบหรือปรุงไม่สุก เช่น หอย ปลา หรือสาหร่าย ดังนั้นการแพร่กระจาย
ของโรคเข้าสู่มนุษย์จึงมักเกิดจากการดื่มน้ำหรือรับประทานอาหาร
ที่ปนเปื้อนเชื้อโรคเข้าไป เชื้อจะใช้ระยะฟักตัวเฉลี่ย 1-3 วัน
(ตั้งแต่ 2-3 ชั่วโมง ถึง 5 วันหลังได้รับเชื้อ) ขึ้นกับปริมาณและ
ความรุนแรงของเชื้อ เมื่อเชื้อเดินทางเข้าสู่ลำไส้เล็กของผู้ป่วย
จะเข้าไปแบ่งตัวเพิ่มจำนวนในชั้นเยื่อบุลำไส้ และสร้าง
cholera toxin ซึ่งมีคุณสมบัติเป็น enterotoxin
ทำให้ผนังลำไส้อักเสบ ไม่สามารถดูดซึมน้ำและเกลือแร่ได้
อีกทั้งยังกระตุ้นให้มีการสูญเสียน้ำและเกลือแร่ เช่น
โซเดียมและคลอไรด์ออกมาในลำไส้ ทำให้ผู้ป่วยถ่ายอุจจาระ
เป็นน้ำอย่างรุนแรง อันเป็นพยาธิสภาพที่สำคัญของโรค ทั้งนี้เชื้อ
V. cholerae จะจำกัดอยู่เฉพาะในลำไส้ โดยไม่รุกล้ำ
เข้าสู่กระแสเลือด ดังนั้นผู้ป่วยจึงมักไม่มีไข้
และอุจจาระมักไม่มีเลือดปน7,8


อาการสำคัญทางคลินิก คือ อุจจาระร่วงเฉียบพลันอย่างรุนแรง
โดยลักษณะเฉพาะของอหิวาตกโรค คือ อุจจาระจะมีสีขาว
เหมือนน้ำซาวข้าว (rice-water appearance) ปริมาณมาก
ทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำและเกลือแร่ โดยความรุนแรงของ
โรคนั้นพบได้ตั้งแต่อาการเล็กน้อย ซึ่งไม่สามารถแยกจาก
โรคอุจจาระร่วงจากสาเหตุอื่นๆ ได้ ไปจนกระทั่งถึง
อาการรุนแรงมาก มักพบอาการคลื่นไส้อาเจียนร่วมด้วย
แต่มักไม่พบไข้หรืออาการปวดท้อง ภาวะแทรกซ้อนที่สำคัญได้แก่
ภาวะขาดน้ำอย่างรุนแรง ความดันโลหิตต่ำ
โพแทสเซียมในเลือดต่ำ เลือดเป็นกรด และน้ำตาลในเลือดต่ำ
ซึ่งหากไม่รับการรักษาที่ถูกต้องและทันท่วงทีอาจทำ
ให้ผู้ป่วยเสียชีวิตได้ในเวลาอันรวดเร็ว7,8


การวินิจฉัยโรคสามารถทำได้โดยการสังเกตอาการทางคลินิก
(clinical diagnosis) เป็นหลัก โดยหากผู้ป่วยมีอาการ
อุจจาระร่วงเป็นน้ำอย่างรุนแรง ลักษณะเหมือนน้ำซาวข้าว
ร่วมกับอาการอาเจียน แพทย์หรือผู้ดูแลสามารถเริ่ม
การรักษาได้ทันที โดยไม่ต้องรอผลตรวจทางห้องปฏิบัติการ
เพื่อยืนยันการวินิจฉัย สำหรับการตรวจเพื่อยืนยันการติดเชื้อ
V. cholerae สามารถทำได้โดยการเพาะเชื้อจากอุจจาระ
ในอาหารเลี้ยงเชื้อที่มีชื่อว่า thiosulfate citrate bile
salts sucrose (TCBS) ซึ่งโดยทั่วไปไม่ได้มีการทำ
เป็นประจำในห้องปฏิบัติการ ดังนั้นหากแพทย์สงสัยและ
ต้องการส่งสิ่งส่งตรวจเพื่อเพาะเชื้อ V. cholerae
ต้องแจ้งเจ้าหน้าที่ทางห้องปฏิบัติการเพื่อให้ทำการเพาะ
เชื้อด้วยอาหารเลี้ยงเชื้อพิเศษชนิดนี้ด้วย7,8


การรักษาโรคที่สำคัญที่สุด คือ การให้สารน้ำและเกลือแร่อย่างเพียงพอ
เพื่อชดเชยที่ร่างกายสูญเสียไป ซึ่งหากแพทย์ให้การรักษาที่เหมาะสม
สามารถลดอัตราการเสียชีวิตให้เหลือน้อยกว่าร้อยละ 0.5 ได้
การให้สารน้ำทดแทนควรปฏิบัติตามคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก
(World Health Organization; WHO)9 โดยหากผู้ป่วยมี
อาการขาดน้ำรุนแรง (สูญเสียน้ำมากกว่าร้อยละ 10 ของน้ำหนักตัว)
ควรพิจารณาให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำด้วย isotonic saline
solution หรือ lactated Ringer solution แต่หากผู้ป่วย
มีอาการขาดน้ำเล็กน้อยถึงปานกลาง (สูญเสียน้ำร้อยละ 3-5 ของน้ำหนักตัว)
อาจให้สารน้ำทดแทนทางปากได้ เช่น WHO’s reduced osmolality oral rehydration solution (ORS) นอกจากนี้แพทย์ควรพิจารณา
ให้ยาปฏิชีวนะร่วมด้วย โดยเฉพาะในผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรง
ปานกลางถึงหนักมาก เพื่อลดระยะเวลาการเจ็บป่วย ปริมาณอุจจาระ
และระยะเวลาที่สามารถแพร่เชื้อออกมาในอุจจาระ
ยาปฏิชีวนะที่แนะนำสำหรับเด็กเล็ก คือ azithromycin
(single dose) ส่วนสำหรับเด็กโต (อายุมากกว่า 8 ปีขึ้นไป)
และผู้ใหญ่คือ doxycycline (single dose)
ส่วนยาที่อาจใช้เป็นทางเลือก ได้แก่ ciprofloxacin,
erythromycin หรือ tetracycline ทั้งนี้การพิจารณา
เลือกใช้ยาปฏิชีวนะควรอยู่บนพื้นฐานของข้อมูลแบบแผน
การดื้อยาของเชื้อ V. cholerae ในท้องถิ่นนั้นร่วมด้วย7,8


การป้องกันโรคที่สำคัญที่สุด คือ การดื่มน้ำที่สะอาด และรับประทาน
อาหารที่ปรุงสุก การล้างมือให้สะอาดก่อนและหลังรับประทานอาหาร
และภายหลังการเข้าห้องน้ำ รวมถึงการรักษาสุขอนามัยส่วนบุคคล
ปัจจุบันมีวัคซีนที่สามารถใช้ป้องกันอหิวาตกโรค 2 ชนิด คือ
Dukoral® and Shanchol® ซึ่งเป็นวัคซีนชนิดเชื้อตายที่
ให้โดยการรับประทาน (inactivated oral vaccine)
แต่ไม่ได้มีการแนะนำให้ใช้ในบุคคลทั่วไป ทั้งนี้อาจพิจารณา
ให้ในผู้ที่กำลังจะเดินทางไปยังประเทศที่มีโรคชุกชุม7,8

เอกสารอ้างอิง

1. Ali M, Lopez AL, You YA, et al. The global
burden of cholera. Bull World Health
Organ 2012;90: 209–18A.

2. สำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข.
Cholera. สรุปสถานการณ์ปี 58 รายสัปดาห์ [ออนไลน์].
2558 [เข้าถึงเมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2558]. เข้าถึงได้จาก https://www.boe.moph.go.th/boedb/surdata/
506wk/y58/d01_4558.pdf

3. วรวิทย์ กิติศักดิ์รณกรณ์. อหิวาตกโรค (Cholera).
สรุปรายงานการเฝ้าระวังโรค 2547 [ออนไลน์]. 2547
[เข้าถึงเมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2558]. เข้าถึงได้จาก https://www.boe.moph.go.th/boedb/surdata/
annualdata/d0147.pdf

4. ชูพงศ์ แสงสว่าง. โรคอหิวาตกโรค (Cholera).
สรุปรายงานการเฝ้าระวังโรค 2550 [ออนไลน์]. 2550
[เข้าถึงเมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2558]. เข้าถึงได้จาก https://www.boe.moph.go.th/boedb/surdata
/annualdata/d0150.pdf

5. สำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข
. Cholera. จำนวนผู้ป่วย -เสียชีวิตรายเดือน
แยกรายจังหวัด ปี 2553 [ออนไลน์]. 2553 [เข้าถึงเมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2558]. เข้าถึงได้จาก https://www.boe.moph.go.th/boedb/surdata/
y53/mcd_Cholera_53.rtf

6. สำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข.
Cholera. จำนวนผู้ป่วย- เสียชีวิตรายเดือน แยกรายจังหวัด
ปี 2556 [ออนไลน์]. 2556 [เข้าถึงเมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2558].
เข้าถึงได้จาก https://www.boe.moph.go.th/boedb/surdata/
y56/mcd_Cholera_56.rtf

7. American Academy of Pediatrics. Vibrio infections.
In: Kimberlin DW, Brady MT, Jackson MA, Long SS,
editors. Red Book: 2015 Report of the Committee
on Infectious Diseases. 30th ed. Elk Grove Village,
IL: American Academy of Pediatrics; 2015: p. 860-3.

8. Loharikar AR, Menon MP, Tauxe RV, Mintz ED.
Vibrio cholerae (Cholera). In: Long SS,
Pickering LK, Prober CG, editors. Principles
and practice of pediatric infectious diseases.
4th ed. New York, NY: Elsevier Saunders; 2012. p. 849-54.

9. World Health Organization. The treatment of
diarrhoea, a manual for physicians and other
senior health workers. 4th Rev. WHO/FCH/CAH/05.1.
Geneva, Switzerland: World Health Organization; 2005.



คำถาม CME

1. เชื้อที่เป็นสาเหตุของอหิวาตกโรคที่พบในประเทศไทยในช่วง 10 ปี
ที่ผ่านมา เป็นสายพันธุ์ใด


A. Vibrio cholerae O1 biotype El Tor serotype Inaba
B. Vibrio cholerae O1 biotype El Tor serotype Ogawa
C. Vibrio cholerae O139
D. Vibrio cholerae non-O1/non-O139



2. ข้อใดคือลักษณะเฉพาะของอหิวาตกโรค


A. ไข้สูง ปวดท้องแบบบิด ถ่ายอุจจาระมีมูกเลือดปน
B. ไข้ต่ำ อุจจาระเป็นน้ำ มีมูกปนเล็กน้อย ไม่มีเลือด
C. ไข้ต่ำ ถ่ายเหลวเรื้อรัง อุจจาระมีมูกปนเลือด ปวดท้องแบบเบ่ง
D. ไม่มีไข้ อาเจียน ถ่ายอุจจาระมีสีขาวลักษณะแบบน้ำซาวข้าวปริมาณมาก



3. หากสงสัยการติดเชื้อ Vibrio cholerae ควรเลือกใช้อาหาร
เลี้ยงเชื้อ (agar) ชนิดใด เพื่อทำการเพาะเชื้อ


A. Blood agar
B. Mac Conkey agar
C. Xylose lysine deoxycholate (XLD) agar
D. Thiosulfate citrate bile salts sucrose (TCBS) agar



4. หากสงสัยอหิวาตกโรคในผู้ป่วยเด็กอายุ 5 ปี ที่มีอาการขาดน้ำ
ระดับรุนแรง ควรให้การรักษาที่เหมาะสมที่สุดอย่างไร


A. ให้สารน้ำทดแทนทางปาก (oral rehydration solution)
B. ให้สารน้ำทดแทนทางหลอดเลือดดำ (intravenous fluid)
C. ให้สารน้ำทดแทนทางหลอดเลือดดำ (intravenous fluid)
ร่วมกับการให้ยาปฏิชีวนะ azithromycin (single dose)
D. ให้สารน้ำทดแทนทางหลอดเลือดดำ (intravenous fluid)
ร่วมกับการให้ยาปฏิชีวนะ doxycycline (single dose)


 
Health Blog
 
newyorknurse



Create Date : 25 ธันวาคม 2567
Last Update : 25 ธันวาคม 2567 13:40:14 น. 1 comments
Counter : 206 Pageviews.

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณหอมกร


 
โรคหลายอย่างที่มาระบาดในไทย
สงสัยเพราะการเคลื่อนย้ายประชากร
ที่มาจากประเทศเพื่อนบ้านมั๊ยคะพี่น้อย



โดย: หอมกร วันที่: 27 ธันวาคม 2567 เวลา:7:22:47 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

newyorknurse
Location :
ราชบุรี .. New York ... United States

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 165 คน [?]






เริ่มเขียนBlog
เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2553

ยินดีต้อนรับค่ะ

จขบ.บันทึกประสบการณ์ต่างๆ
ระยะเวลาทำงานและระยะเกษียณ
เพื่อเก็บไว้เป็นความทรงจำ

จขบ.พยายามใช้ชีวิตเกษียณให้มีคุณค่า
รักษาสุขภาพใจและกาย ท่องเที่ยวกับเพื่อนๆ
ทำสวนดอกไม้ ออกกำลังกาย
สมัครเป็นสมาชิก 24 Hrs Fitness
เพื่อให้ชีวิตที่เหลืออยู่มีคุณภาพ
จะได้ไม่เป็นภาระกับคนที่รักและห่วงใย

จขบ.เพิ่มบล็อกสุขภาพ
เพื่อจะได้นำสาระที่มีประโยชน์
เกี่ยวกับสุขภาพทั่วๆไป

จขบ.หวังว่าข้อมูลต่างๆช่วยให้
ทุกท่านที่มาอ่าน รักษาสุขภาพ
ไปตรวจเพื่อเป็นการป้องกัน
และได้รับการรักษาเนิ่นๆ เพื่อ
ชีวิตที่แข็งแรงและมีคุณภาพ

"A time to enjoy,
a time to spend time with your family
and a time to be with your friends
all comes with retirement"


*****


"Live The Moment"

อยู่กับปัจจุบันขณะ หยุดเสียใจกับสิ่งที่เกิดขี้น
ในอดีตและกลัวหรือกังวล
สิ่งทีเกิดขี้นในอนาคต "วันนี้" และ "ขณะนี้"
คือช่วงเวลาที่ดีที่สุดของคุณ !!
ใช้มันให้ดีที่สุดให้เป็นช่วงเวลาทีมีคุณค่า
น่าจดจำเพราะว่าเวลาเป็นสิ่งที่ผ่านมา
และผ่านเลยไป เอาคืนไม่ได้และ
หาเพิ่มก็ไม่ได้เช่นกัน

ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาค่ะ


*********


ขอบคุณ Bloggang ทำให้เราได้เขียนบล็อกต่างๆ
ขอบคุณสำหรับคะแนนโหวด
ทุกๆคะแนน นะคะ


BG Popular Award # 20

BG Popular Award # 19


BG Popular Award # 18


BG Popular Award # 17


BG Popular Award # 16


BG Popular Award # 15


BG Popular Award # 14


BG Popular Award # 13


BG Popular Award # 12


BG Popular Award # 11


BG Popular Award # 10


BG Popular Award # 9


BG Popular Award # 8

**********



ขอบคุณทุกหัวใจวาเลนไทน์ 2561
ที่เพื่อนๆมอบให้ค่ะ


ขอบคุณทุกหัวใจวาเลนไทน์ 2560
ที่เพื่อนๆมอบให้ค่ะ
Flag Counter
New Comments
Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2567
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
25 ธันวาคม 2567
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add newyorknurse's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.