กินให้อ้วน
จิตใจก็กินอาหารเช่นเดียวกับร่างกาย แถมกินตลอดเวลาไม่เคยหยุดเสียด้วย จิตมันก็จะอ้วนกันทุกคน เพียงแต่ว่า ท่านเองเอาอาหารอย่างไรให้จิตกินกันละ
>
สำหรับคนที่ไม่ได้ฝึกฝนธรรมปฏิบัติ ไม่เคยได้ยินพระธรรมคำสั่งสอน เขาก็จะเอาอาหารด้านซ้าย อันเป็นอาหารพิษให้แก่จิตกินตลอเวลา จิตกินอาหารพิษ มันก็จะเป็นพิษไปด้วย
สำหรับคนที่เขาฝึกฝนธรรมปฏิบติ คนที่ได้ยินพระธรรมคำสั่งสอน เขาย่อมรู้จักอาหารที่ดีมีประโยชน์แก่จิต อันเป็นอาหารทางด้านขวาให้แก่จิตกิน
เมื่อท่านฝึกฝนอยู่ในรูปแบบอย่างถูกต้อง จิตมีสัมปชัญญะ มีสติ จิตย่อมกินอาหารดีมีประโยชน์ จิตก็จะผ่องใสมากขึ้น เปรียบทางโลก ก็เหมือนเอาน้ำดี น้ำสอาด ไล่น้ำเสีย ไล่น้ำโสโครก
สำหรับคนที่ไม่รู้จัก วัน ๆ จิตกินแต่กิเลส กินแต่ความฟุ่งซ่านที่เกิดขึ้น จิตย่อมขุ่นมัว มืดบอด เป็นพิษอยู่อย่างนั้น
การให้จิตได้กินของดี มีประโยชน์ จิตย่อมผ่องใส จิตมีกำลังมากขึ้น และเกิดความตั้งมั่นมากขึ้น
บทความนี้ ผมมีจุดมุ่งหมายถึงใครบางคน ที่ยังไม่เข้าใจดีนักในการปฏิบัติ เมื่ออยู่ในที่ทำงาน ก็ฟุ่งซ่านไปตามกระแสโลก ในวันหยุดก็ลงมือปฏิบัติ แต่ไม่ก้าวหน้า นี่เป็นเพราะ จิตกินอาหารขยะมากกว่าอาหารดี จิตจะมีคุณภาพได้อย่างไร
การเป็นฆราวาส ต้องทำงาน ต้องหาเลี้ยงชีพ ย่อมหนีไม่พ้นเรื่องทางโลก แต่เราก็ต้องรู้จักให้จิตกินอาหารทีดีด้วยในขณะทำงาน หลีกเลี่ยงการเม้าท์แตก ไร้สาระในช่วงพักเที่ยง เมื่อพบกับความผิดหวังในการงาน ก็ต้องรู้จักหยุดจิตใจทีผิดหวังนั้นโดยเร็วที่สุดด้วยการทำสมถะ เมื่อมีเวลาว่างในระหว่างวัน ก็ควรฝึกฝนสัมมาสติ สัมมาสมาธิ ตามเวลาที่เหมาะสม ด้วยรูปแบบที่เหมาะสม ไม่เป็นที่สังเกตของคนอื่น ๆในที่ทำงาน ซึ่งเทคนิคเหล่านี้ ท่านต้องค้นหาเอาเองตามความเหมาะสมของท่าน ผมช่วยท่านได้เพียงการแนะนำ
ถ้าท่านฝึกฝนได้ดี มันจะเปลี่ยนนิสัยของท่านเอง โดยที่จิตจะกินอาหารดีเอง และ อาหารเสียก็เกิดน้อยลง อันเป็นไปโดยอัตโนมัติ
เมื่อท่านเพียงเข้าใจ วางตัวเหมาะสม การเป็นฆราวาสก็ไม่อาจปิดกั้นการรู้แจ้งของท่านได้เลย..
Create Date : 25 สิงหาคม 2552 |
|
4 comments |
Last Update : 29 มกราคม 2555 19:29:28 น. |
Counter : 1454 Pageviews. |
|
|
|
จริงๆ แล้ว แม้แต่ต้องทำงานที่ใช้ความคิดตลอดเวลา พวกเวลาส่วนใหญ่ต้องนั่งออฟฟิส (ผมก็คนนึง) ผมว่ายังไงมันก็มีช่วงเวลา (แม้สั้นๆ) มาภาวนาได้อยุ่ดี อย่างเช่น ตอนลุกไปโน่นไปนี่ ช่วงแวปเดียวขณะลุก หรือเดินไปไหนมาไหน เห็นอะไรแล้วเกิดอะไรขึ้นที่ใจ หรือเผลอไปคิดอะไร ก็ใช้ฝึกได้ หรือสถานการณ์ที่พี่บอก ที่ว่าอาจจะหัวเสียระหว่างการทำงาน ก็ยังใช้ฝึกได้อีก หรือแม้กระทั่งนั่งคิดงาน แล้วเผลอไปคิดถึงเรื่องเพื่อน ถึงแฟน แล้วรู้สึกคิดถึง พร่ำเพ้อ หรือขัดเคือง ก็ใช้ฝึกได้ เยอะแยะเต็มไปหมด
แล้วก็ยังมีเวลาพักยาวๆ ที่พี่ได้พูดถึงไปแล้ว อีก