รู้สึกตัว ผ่อนคลาย เฉย ๆ สบาย ๆ **กรุณา .อย่า.ได้บริจาคเงินให้ blog ผม ทาง e-wallet ครับ** **ผมขอสงวนสิทธิการเป็นเจ้าบ้านของ blog ลบข้อเขียนใดๆ ก็ได้ใน blog นี้ตามที่ผมเห็นสมควร**
Group Blog
 
<<
กันยายน 2552
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
24 กันยายน 2552
 
All Blogs
 
ขอเป็นกำลังใจ แก่ มือใหม่ ทุก ๆ ท่าน




เมื่อท่านเป็นมือใหม่ หรือ กลางเก่ากลางใหม่ ที่กำลังฝึกฝนเพื่อการพ้นทุกข์
สภาวะของท่านจะยังคงสลับไปมาระหว่างระยะแรก และ ระยะที่สองเสมอ
การสลับไปมานี้ขึ้นอยู่กับความตั้งมั่นแห่งสัมมาสติ สัมมาสมาธิ

จากภาพ
ด้านล่าง คือ ระยะแรกของผู้ฝึกใหม่อันเป็นปุถุชนทั่ว ๆ จิตของเขาจะรวมแนบแน่นกับขันธ์ 5 เมื่อขันธ์ 5 เป็นทุกข์ จิตที่รวมอยู่กับขันธ์ 5 ก็จะเข้าใจว่า เขาเป็นทุกข์ ตามธรรมชาติแล้ว ขันธ์ 5 เป็นทุกข์อยู่เสมอ ดังนั้น เขาก็จะเข้าใจว่า เขาเป็นทุกข์อยู่เสมอ ถ้ายิ่งเขามีเรื่องทีต้องคิด ต้องแก้ปัญหามากมาย เขาก็จะยิ่งทุกข์ไปกับเรื่องเหล่านี้มากกว่าคนที่ไม่ต้องคิด ไม่ต้องแก้ปัญหาในเรื่องต่างๆ

ระยะที่สอง คือ การพัฒนาขึ้นจากการฝึกฝนสัมมาสติ สัมมาสมาธิมาแล้วอย่างถุกต้อง จิตรู้ แยกตัวออกจากขันธ์ 5 เมื่อขันธ์ 5 เป็นทุกข์ จิตรู้ที่แยกตัวออกมาจะไม่ทุกข์ จิตรู้ จะเห็นขันธ์ 5 เป็นทุกข์ และจะรู้ว่า ขันธ์ 5 ไม่ใช่ตัวตนของเขา

ในความเป็นจริงของการปฏิบัติ จะมีการสลับไปมาเสมอระหว่างระยะแรก และ ระยะที่สอง ทั้งนี้เพราะว่า กำลังของสัมมาสติ สัมมาสมาธิ ที่ยังไม่มั่นคงพอ การที่สลับไปมานี้ จะทำให้ผู้ที่ฝึกฝนบางคนเข้าใจผิด คิดว่า ปฏิบัติไปแล้ว ไม่เห็นได้ผลอะไรเลย บางคนถึงกับล้มเลิกการฝึกฝนไปอย่างน่าเสียดาย

เมื่อท่านเป็นเมือใหม่ และพบการสลับไปมาของระยะแรก และ ระยะสองนี้
ก็ขอให้ท่านได้ทราบว่า ท่านกำลังจะได้ผลที่ดีขึ้น เมื่อท่านขยันหมั่นเพียรในการฝึกฝนต่อไปอีก

ทุกข์เกิดในระยะแรก มันจะมาเป็นระยะ ๆ เสมอ เดียวเรื่องนี้ เดียวเรื่องโน้น บางที เรื่องแรกผ่านไปได้ เรื่องสองก็มาอีก ท่านเกิดสลับไปมาอีก ทำให้ไม่แน่ใจในการฝึกฝน

ขอให้ท่านแน่ใจได้ว่า ถ้าจิตรุ้ ของท่านแยกตัวออกเห็นขันธ์ 5 ได้แล้ว แสดงว่า ท่านมาได้ถูกทางแล้ว แต่ยังไม่แกร่งพอที่จะต่อสู้กับทุกข์ได้ทุก ๆ เรื่อง

ขอเป็นกำลังใจแก่นักปฏิบัติเพื่อการพ้นทุกข์ ทุก ๆ ท่านครับ

หมายเหตุ ระยะสอง ก็ยังไม่ใช่สิ้นสุดแห่งการปฏิบัติเพื่อการพ้นทุกข์ เพียงแต่ว่า ถ้าท่านอยู่ในระยะที่สองได้ ทุกข์ใจที่เคยเกิดขึ้นในระยะแรก มันก็จะไม่มากวนใจท่านเหมือนเคยอีกครับ ท่านจะเห็นทุกข์ แต่ไม่ทุกข์ไปกะมันด้วย


Create Date : 24 กันยายน 2552
Last Update : 29 มกราคม 2555 19:07:15 น. 10 comments
Counter : 1653 Pageviews.

 
คิดว่าเห็นมันแยกจากขันธ์ค่ะ ยิ่งสองสามวันก่อนที่ป่วย รู้สึกเหมือนจิตใจมันแยกออก มันไม่ได้ทุกข์ไปกับอาการป่วย

ตอนนี้เหมือนมีอีกคนนึงมองดูเรา บอกไม่ถูกค่ะ เหมือนแยกตัวเองออกเป็นสอง


โดย: kaoim IP: 110.49.177.35 วันที่: 24 กันยายน 2552 เวลา:13:05:24 น.  

 
นั้นแหละครับ ใช่แล้วครับ
การเห็นเวทนาขันธ์ จะง่ายกว่าการเห็นความคิด
เนื่องจาก เวลาความคิดเกิด ถ้าสัมมาสติ ไม่ตั้งมั่น มันจะดูด จิตรู้ กลับเข้าไปผสมแนบชิดเป็นระยะหนึ่งอีก ( ดังในรูปขางบนที่แสดงไว้ ในบทความ )
แต่ถ้าเราฝึกฝนต่อไป ให้สัมมาสติมั่นคง เวลาความคิดเกิด มันจึงจะแยกออกแบบเวทนาขันธ์ที่คุณเห็นนั่นแหละ


โดย: นมสิการ วันที่: 24 กันยายน 2552 เวลา:14:02:47 น.  

 
เวลาร่างกายเจ็บป่วย เมื่อ จิตรู้ เขาแยกออกมาดูอาการที่เจ็บป่วยนั้น จิตรู้ เขาจะเหมือนจ้องดู อาการป่วยอยู่อย่างนั้น ไม่ยอมห่างไปไหนเลย แต่เขาไม่ทุกข์ เขาเพียงแต่มองเฉยดูเฉย ๆ เท่านั้น เมื่อเขาจะจ้องดู ก็ปล่อยให้เขาจ้องดูของเขาไปอย่างนั้น พอเขาดูพอแล้ว เขาก็จะเลิกดูไปเอง


โดย: นมสิการ วันที่: 24 กันยายน 2552 เวลา:16:52:48 น.  

 
แจ่มได้ใจ

ขอรับความรู้ด้วยคน จ๊ะ


โดย: บ้าได้ถ้วย วันที่: 24 กันยายน 2552 เวลา:17:05:33 น.  

 


...ตั้งแต่เริ่มปฏิบัติรู้สึกใจเย็นขึ้นค่ะ เมื่ออาทิตย์ที่แล้วทำสมุดบัญชีหายก้อไม่โวยวายเท่ารัย ปกติต้องร้อนใจแล้วแต่นี่ค่อย ๆ หาค่ะ ไม่เจอก้อหาทางแก้ไข แต่แปลกที่ไม่ค่อยร้อนเหมือนเมื่อก่อน...


โดย: คนดีคนเก่ง วันที่: 25 กันยายน 2552 เวลา:7:25:58 น.  

 
นี่แหละครับ บุญที่แท้จริงที่ได้จากการปฏิบัติธรรม
อันเเป็นบุญกุศลที่มีอานิสงค์มาก


โดย: นมสิการ วันที่: 25 กันยายน 2552 เวลา:7:49:02 น.  

 
เอานกุลปิตาสูตรมาฝากครับ

ปุถุชน เมื่อขันธ์๕แปรปรวนไป จิตก็แปรปรวนไปด้วย

พระอริยสาวก เมื่อขันธ์๕แปรปรวนไป จิตก็หาแปรปรวนไปด้วยไม่



โดย: ในความฝันของใครสักคน วันที่: 26 กันยายน 2552 เวลา:20:04:58 น.  

 
สวัสดีค่ะอาจารย์
ตอนนี้อะไรก็เริ่มเข้าที่ขึ้น ค่ะ แต่มันติดอารมณ์ แบบ วิบอ่ะค่ะ
โกรธ อ่ะ ค่ะ โกรธนะคะ เรื่องไม่พอใจเนี่ย คือเริ่มแยกได้แต่โกรธเนี่ย มันพุ่งปรีดติดอกเลยค่ะ แล้วปากมันก็ไปทุกที แต่อ้อ ก็เริ่มหยุดได้เร็วขึ้นเหมือนกัน แบบประมาณตกใจ อ้าวเอาแล้วตรู แบบรู้ตัวอ่ะค่ะ ก็จะแบบ ตัดปุ๊บ เหหมือนตัดเวลามีความคิด เผลอๆ อ่ะค่ะ


โดย: มือใหม่ค่ะ IP: 119.42.113.199 วันที่: 27 กันยายน 2552 เวลา:16:39:12 น.  

 
ตอบ คุณมือใหม่ค่ะ

เวลาเราเริ่มปฏิบัติใหม่ ๆ มันจะเป็นอย่างนี้ทุกคน
แต่ผู้ปฏิบัติต้องอาศัยความอดทน และ ขยันหมั่นเพียรในการฝึกฝนต่อไป
ถ้าคุณได้ตามอ่านบทความของผมใน blog คุณจะพบว่า เมื่อคุณฝึกฝนไปมาก ๆ จะมีอาการที่แยกตัวออกมาของจิตรู้ ซึ่งถึงแม้จิตรู้จะแยกตัวออกมาได้แล้ว อาการต่าง ๆ ที่ปรากฏขึ้นของขันธ์ 5 มันก็ยังมีอยู่ มันไม่หายไปง่าย ๆ แต่ผุ้ปฏิบัติจะสามารถตัดเรื่องต่าง ๆ ที่ทำให้ทุกข์ใจได้เร็วขึ้นกว่าเดิมที่ยังไม่ได้ฝึก
ขอให้เข้าใจการพัฒนาที่ค่อยเป็นค่อยไป
และมีความตั้งใจในการฝึกฝนต่อไปทุก ๆ วัน


โดย: นมสิการ วันที่: 27 กันยายน 2552 เวลา:16:50:39 น.  

 
ผมจำเป็นต้องปิดการเขียนของท่านผู้อ่าน เนื่องจากกฏหมายอินเตอร์เนท
ที่อาจมีสิ่งผิดกฏหมายใส่เข้ามาใน blog

ท่านที่จะสนทนา หรือ ถามคำถาม ขอให้ส่ง email ถึงผมได้ที่
asknamasikarn@gmail.com

หรือสำหรับสมาชิก pantip จะส่งมาทางหลังไมค์ก็ได้เช่นกัน


โดย: นมสิการ วันที่: 29 มกราคม 2555 เวลา:19:16:50 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะ VIP Friend
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

นมสิการ
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 142 คน [?]




หลักปฏิบัติ ...รู้สึกตัว ผ่อนคลาย เฉย ๆ สบาย ๆ

มากกว่า 20 ปีที่ไปหลงทำสมถภาวนาแบบสมาธิแบบฤาษีโดยที่ไม่รู้จักกับคำว่า อะไรคือสัมมาสติ สัมมาสมาธิ ผลที่ได้คือความสงบขณะกำลังนั่งสมาธิจนตัวนิ่งแข็งเป็นก้อนหิน แต่ผลข้างเคียงตามมาก็คือการเป็นคนเจ้าโทสะอย่างรุนแรงขณะเวลาไม่ได้นั่งสมาธิ และ ที่อยู่ในชีวิตประจำวัน....

จนได้พบกัลยณมิตรแดนไกล ที่ได้ชักนำให้มารู้จักวิธีปฏิบัติแบบหลวงพ่อเทียน จนได้พบกับพระอาจารย์ในสายหลวงพ่อเทียน ที่ผมได้เรียนการปฏิบัติจากท่าน จนเข้าใจว่า สัมมาสติ สัมมาสมาธิ คืออะไร แล้วลงมือฝึกฝน การปฏิบัติก็รุดหน้าและได้ลิ้มรสสิ่งบริสุทธิในจิตใจอันเป็นผลจากการปฏิบัติด้วยเวลาเพียง 5 ปี

ธรรมปฏิบัติจากฆราวาสเขียนเป็นสิ่งที่ยอมรับได้ยากในสังคมไทย ผมรู้ได้จากที่เขียนใน blog ผมได้พบกับการก่อกวนใน blog การเขียนเหน็บแนม กระแหนะกระแหน ตำหนิการการปฏิบัติที่ผมเขียนใน blog ว่าผิดทาง เขียนแบบคาดเดาเอา ไม่รู้จริง ให้ผมหยุดเขียนแนวนี้ได้แล้ว และไปโมทนาสาธุแนะนำการปฏิบัติสมาธิแบบฤาษีให้กับผมอีกว่านี่คือทางที่ถูกต้อง ...

บทความใน blog จึงเกิดขึ้นมา เพื่อแบ่งปันประสบการณ์ในการภาวนา
แก่ผู้อื่นที่กำลังเดินทางในสายแห่งอริยมรรคนี้

เมื่อท่านได้เข้ามาอ่านข้อเขียนใน blog กรุณาอย่าได้เชื่อผมจนกว่า ท่านได้ทดลองปฏิบัติแล้วและพิสูจน์ด้วยตัวท่านเอง

**กรุณา .อย่า.ได้บริจาคเงินให้ blog ผมทาง e-wallet ครับ **

******
บทความต่าง ๆ ใน blog นี้
ขอสงวนสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537
ห้ามนำไปดัดแปลง ลอกเลียน หรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต

****
New Comments
Friends' blogs
[Add นมสิการ's blog to your web]
Links
 
MY VIP Friend


 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.