รู้สึกตัว ผ่อนคลาย เฉย ๆ สบาย ๆ **กรุณา .อย่า.ได้บริจาคเงินให้ blog ผม ทาง e-wallet ครับ** **ผมขอสงวนสิทธิการเป็นเจ้าบ้านของ blog ลบข้อเขียนใดๆ ก็ได้ใน blog นี้ตามที่ผมเห็นสมควร**
Group Blog
 
 
พฤษภาคม 2552
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
23 พฤษภาคม 2552
 
All Blogs
 
ความว่างที่ผมพบมาในการปฏิบัติ

ในข้อเขียนนี้ ผมจะเขียนขึ้นจากสิ่งที่ผมประสบมาจากการปฏิบัติธรรมในเรื่องความว่าง

1. ความว่างในบทความนี้ คืออะไร
ความว่าง มันก็คือว่าง ไม่มีอะไรเลย สำหรับสภาวะธรรมแล้ว
ความว่างนี้ จะหมายถึง จิตใจที่กำลังว่างเปล่า ปราศจากการปรุงแต่งใด ๆ ทั้งสิ้นในจิตใจ แต่ยังพร้อมอยู่ด้วยสภาวะของการรู้

2. เมื่อใครก็ตามที่ได้เจริญสติปัฏฐาน 4 อย่างถูกต้องถูกทาง เขาจะพบสิ่งหนึ่งที่เกิดขึ้นในจิตใจของตนเองก็คือ เมื่อมีการปรุงแต่งเกิดขึ้นในจิตใจ ไม่ว่า สิ่งปรุงแต่งนั้นจะดีหรือเลว เป็นบุญหรือว่าเป็นบาป จะมีพลังงานอย่างหนึ่งเกิดขึ้นในจิตใจ ที่ผู้ปฏิบัติจะสัมผัสพลังงานนั้นได้ พลังงานนี้จะมีลักษณะเป็นก้อนเป็นดวงขึ้นมา บอกไม่ได้ว่า ก้อนเล็กหรือก้อนใหญ่ บอกไม่ได้ว่า ตั้งอยู่ที่ใด แต่สามารถสัมผัสถึงก้อนพลังงานนี้ได้ เมื่อก้อนพลังงานอันเกิดจากการปรุงแต่งของจิตใจปรากฏขึ้น เมื่อนั้น จิตใจก็จะไม่ว่างเสียแล้ว

3.ผู้ปฏิบัติธรรมที่ปฏิบัติมาถูกทาง เมื่อเขาได้พบกับความว่าง เขาก็จะเข้าใจได้ว่า ความว่างนั้น ก็สักแต่ว่าเป็นสภาวะธรรมอย่างหนึ่ง มันไม่ใช่ของเรา มันไม่ใช่ตัวเรา ไม่ยินดียินร้ายในสภาวะธรรมที่เป็นความว่างนี้

4 แต่สำหรับผู้ปฏิบัติที่ปฏิบัติมาไม่ตรงทาง เขาจะไปสร้างความว่างขึ้น เกิดความอยากต้องการให้จิตว่าง เพราะมักจะได้ยินสรรพคุณความสุขอันมากจากจิตที่ว่าง เขาจะสร้างจิตว่างขึ้นมาโดยการบังคับจิต กดข่มจิต ไม่ให้จิตใจรับรู้อะไรเลย และเขาเข้าใจว่า จิตใจที่เขาสร้างนี่เป็นความว่าง แต่เขาไม่รู้หรอกว่า อันว่าความว่างชนิดนี้ เป็นความว่างที่ประกอบด้วยความหลง (อันเป็น โมหะ) และ ความต้องการที่จะบังคับจิต และความอยากได้ความว่าง (อันเป็น โลภะ)
มันจึงไม่ใช่ความว่างที่เป็นจิตใจที่ว่างอยู่ตามธรรมชาติมันเอง ผู้ปฏิบัติที่สร้างความว่างชนิดนี้ขึ้นมา มักจะบูชาความว่างนั้น และยอมรับว่า ความว่างนี่เป็นเขา เป็นของเขา เมื่อใครมาทำให้จิตใจของเขาสูญเสียความว่างขึ้นมา เขาก็จะโกรธเป็นอันมาก ความว่างชนิดนี้ มักจะอยู่ได้ในขณะที่กำลังนั่งสมาธิตัวนิ่งแข็ง ไม่ไหวติง ถ้าเมื่อใดที่สมาธิของเขาถอนออก ความว่างชนิดนี้ก็จะหายไปทันที

5.การเข้าถึงความว่างเองตามธรรมชาตินั้น จะได้มาจากการเจริญสัมมาสติ สัมมาสมาธิ อย่างถูกต้องและมีกำลังสัมมาสมาธิค่อนข้างมั่นคงแล้ว
ดังนั้น ความว่างชนิดนี้ จะเกิดอยู่ได้เองถึงแม้ว่าจะไม่ได้นั่งสมาธิ หรือเกิดอยู่ได้เองในขณะที่กำลังทำกิจวัตรประจำวันส่วนตัวอยู่
เมื่อผู้ปฏิบัติที่ยังไม่เคยพบกับความว่างตามธรรมชาติแห่งจิตใจ เขาจะมองไม่ออก จะดูไม่เห็น แต่เขาจะเห็นได้แต่พลังงานจิตปรุงแต่ง (ดังที่เขียนในข้อ 2 ) ที่มันเกิด-หยุด เกิด-หยุด เป็นพัก ๆ ไป ต่อเมื่อเขาเห็นพลังงานจิตปรุงแต่งเกิด-หยุด เกิด-หยุด ได้บ่อย ๆ จนชำนาญ เขาจะพบและเห็นความว่างของจิตใจได้เองสักวันหนึ่ง เมื่อเขาได้พบความว่างแห่งจิตใจได้ 1 ครั้งแล้ว เขาจะไม่มีความลำบากที่จะเห็นความว่างแห่งจิตใจอีกเลย เขาจะเห็นจิตใจที่ว่างได้บ่อย ในทุกอิริยาบท ไม่ใช่เห็นได้แต่เพียงขณะนั่งสมาธิ ตราบเท่าที่สัมมาสมาธิยังตั้งมั่นอยู่ได้

6.อาจมีผู้สงสัยว่า ความว่างที่ผมพูดนี้คือนิพพานใช่หรือไม่ เรื่องนี้ผมไม่อาจเฉลยได้ อันเนื่องจากว่า นิพพาน ก็เป็นชื่อสภาวะธรรมทางจิตใจอย่างหนึ่งที่ไม่มีการแปรเปลี่ยน

7.อย่าหลงใหลความว่าง อย่าอยากได้ความว่าง อย่าสร้างความว่างขึ้นมาจากความอยาก
ถ้าหลงไหล ถ้าอยากได้ ถ้าสร้างขึ้นมา จิตใจมันก็ไม่ว่างแล้วแล้วท่านจะได้ความว่างได้อย่างไรกัน

8.เรื่องความว่างพูดมากไม่ได้ เพราะคนที่ว่าเขาได้พบความว่างแล้ว เขาก็จะมีทิฐิประจำตัวที่เชื่อว่าสิ่งที่เขาพบนั้นเป็นความว่างจริง ไม่ใช่ของเก๊ แต่เมื่อใดที่เขาได้พบทั้งของจริงและของเก๊ เขาจะรู้ทันทีเลยว่า อันไหนจริง อันไหนเก๊

ขอจบเรื่องนี้เพียงเท่านี้ อย่าได้เชื่อผม จนกว่าท่านจะพบเองทั้งว่างจริง ว่างเก๊ นั้นแหละ


Create Date : 23 พฤษภาคม 2552
Last Update : 20 กรกฎาคม 2560 18:34:08 น. 1 comments
Counter : 1206 Pageviews.

 
ผมจำเป็นต้องปิดการเขียนของท่านผู้อ่าน เนื่องจากกฏหมายอินเตอร์เนท
ที่อาจมีสิ่งผิดกฏหมายใส่เข้ามาใน blog

ท่านที่จะสนทนา หรือ ถามคำถาม ขอให้ส่ง email ถึงผมได้ที่
asknamasikarn@gmail.com

หรือสำหรับสมาชิก pantip จะส่งมาทางหลังไมค์ก็ได้เช่นกัน


โดย: นมสิการ วันที่: 29 มกราคม 2555 เวลา:19:54:46 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะ VIP Friend
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

นมสิการ
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 142 คน [?]




หลักปฏิบัติ ...รู้สึกตัว ผ่อนคลาย เฉย ๆ สบาย ๆ

มากกว่า 20 ปีที่ไปหลงทำสมถภาวนาแบบสมาธิแบบฤาษีโดยที่ไม่รู้จักกับคำว่า อะไรคือสัมมาสติ สัมมาสมาธิ ผลที่ได้คือความสงบขณะกำลังนั่งสมาธิจนตัวนิ่งแข็งเป็นก้อนหิน แต่ผลข้างเคียงตามมาก็คือการเป็นคนเจ้าโทสะอย่างรุนแรงขณะเวลาไม่ได้นั่งสมาธิ และ ที่อยู่ในชีวิตประจำวัน....

จนได้พบกัลยณมิตรแดนไกล ที่ได้ชักนำให้มารู้จักวิธีปฏิบัติแบบหลวงพ่อเทียน จนได้พบกับพระอาจารย์ในสายหลวงพ่อเทียน ที่ผมได้เรียนการปฏิบัติจากท่าน จนเข้าใจว่า สัมมาสติ สัมมาสมาธิ คืออะไร แล้วลงมือฝึกฝน การปฏิบัติก็รุดหน้าและได้ลิ้มรสสิ่งบริสุทธิในจิตใจอันเป็นผลจากการปฏิบัติด้วยเวลาเพียง 5 ปี

ธรรมปฏิบัติจากฆราวาสเขียนเป็นสิ่งที่ยอมรับได้ยากในสังคมไทย ผมรู้ได้จากที่เขียนใน blog ผมได้พบกับการก่อกวนใน blog การเขียนเหน็บแนม กระแหนะกระแหน ตำหนิการการปฏิบัติที่ผมเขียนใน blog ว่าผิดทาง เขียนแบบคาดเดาเอา ไม่รู้จริง ให้ผมหยุดเขียนแนวนี้ได้แล้ว และไปโมทนาสาธุแนะนำการปฏิบัติสมาธิแบบฤาษีให้กับผมอีกว่านี่คือทางที่ถูกต้อง ...

บทความใน blog จึงเกิดขึ้นมา เพื่อแบ่งปันประสบการณ์ในการภาวนา
แก่ผู้อื่นที่กำลังเดินทางในสายแห่งอริยมรรคนี้

เมื่อท่านได้เข้ามาอ่านข้อเขียนใน blog กรุณาอย่าได้เชื่อผมจนกว่า ท่านได้ทดลองปฏิบัติแล้วและพิสูจน์ด้วยตัวท่านเอง

**กรุณา .อย่า.ได้บริจาคเงินให้ blog ผมทาง e-wallet ครับ **

******
บทความต่าง ๆ ใน blog นี้
ขอสงวนสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537
ห้ามนำไปดัดแปลง ลอกเลียน หรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต

****
New Comments
Friends' blogs
[Add นมสิการ's blog to your web]
Links
 
MY VIP Friend


 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.