รู้สึกตัว ผ่อนคลาย เฉย ๆ สบาย ๆ **กรุณา .อย่า.ได้บริจาคเงินให้ blog ผม ทาง e-wallet ครับ** **ผมขอสงวนสิทธิการเป็นเจ้าบ้านของ blog ลบข้อเขียนใดๆ ก็ได้ใน blog นี้ตามที่ผมเห็นสมควร**
Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2552
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
4 สิงหาคม 2552
 
All Blogs
 
อุปมา สติ สัมปชัญญะ ในแบบฉบับของผม

นี่คือความสับสนวุ่นวายในแวดวงกรรมฐานของไทย คือ การสื่อความหมาย

เมื่อท่านอ่านบทความธรรมะ หรือ ฟังธรรมปฏิบัติ มักพบว่า มีการใช้คำว่า สติ กันแพร่หลาย และเมื่อมีการเจาะลึกลงไปยังถึง พูดผู้ หรือ ผู้เขียน ก็จะพบว่า เขาหมายความว่า การรู้สึกตัวบ้างละ การระลึกรู้บ้างละ การกำหนดรู้บ้างละ และบางที่ยังมี สติแท้ กับสติไม่แท้ อีก

ไม่เป็นไร เอาอะไรก็ได้แล้วแต่ท่านละกัน มันถูกของท่าน
ผมไม่ขอคัดค้าน หรือ โต้แย้ง ท่าน

สำหรับผมแล้ว ผมมีความเห็นว่า สติ ไม่ใช่ ความรู้สึกตัว
แต่มันเป็น 2 อย่างที่ทำงานเอื้อเฟื้อต่อกัน ถ้าจะเปรียบเทียบในแบบสมัยใหม่เพื่อให้เห็นภาพ

ความรู้สึกตัว เปรียบเหมือน ตัวเครื่องเรดาร์ (ที่อยู่ตามสนามบิน ) ที่เครื่องยนต์ถูกติดแล้ว ส่วน สติ คือ ความละเอียด ความเร็ว ความสามารถ ในการตรวจจับเครื่องบิน

ถ้าเครื่องยนต์ของตัวเรดาร์ดับ เรดาร์ก็ทำงานไม่ได้ เปรียบเหมือน เมื่อขาดความรุ้สึกตัว สติ ก็สิ้นสุดลงไปด้วยเสมอ

ดังนั้น ในการฝึกฝนการปฏิบัติ เพื่อการพ้นทุกข์ ถ้าผู้ปฏิบัติขาดความรู้สึกตัวเสียแล้ว ก็ไม่ใช่การฝึกฝนเพื่อการพ้นทุกข์แบบพุทธ
การขาดความรู้สึกตัว จะถูก ความไม่รู้ตัว หรือ ที่เรียกว่า โมหะ เข้าครอบงำจิต เมื่อโมหะเข้าครอบงำจิตได้เมื่อไร ท่านก็เสร็จกิเลสทันที

สติ นั้นมีอยู่แล้วในคนทุกคน เมื่อความรู้สึตัวเกิด มันก็จะตามมาทันที แต่ว่า มันเป็นสติที่อ่อนแอ ไร้กำลัง เมื่อ สตินั้นอ่อนแอ ไร้กำลัง ความสามารถที่จะต้านทานกิเลส ก็ย่อมมีน้อย จึงต้องมีการฝึก สัมมาสติ เพื่อให้สตินั้น มีกำลังมากขึ้น มากขึ้น เมื่อ สัมมาสติ มีการฝึก และมีกำลังมากขึ้น ก็จะเรียกว่า มีสัมมาสมาธิ ซึ่งเป็น โลกุตรฌาน ในระดับต่าง ๆ ขึ้นกับความตั้งมั่นแห่งสัมมาสมาธิ เมื่อ สัมมาสมาธิตั้งมั่น กิเลส อย่างกลาง ก็จะถูกสัมมาสมาธิโค่นล้มลงไปเองโดยอัตโนมัติ ถ้ามันเกิดโผล่หัวออกมาให้เห็นได้

เนื่องจาก จิต เป็นอนัตตา (ว่ากันตามตำรา ให้เชื่อไว้ก่อน จนกว่า ท่านจะเห็นได้ด้วยตัวเองว่า มันเป็นอนัตตา ) ดังนั้น กำลังแห่ง สัมมาสติ สัมมาสมาธิ จึงปั่นปวน แปรปรวน ไม่แน่นอน สำหรับการฝึกฝน บางวันจะดี บางวันจะไม่ดี บางทีก็เล่นแง่ ไม่ดีเป็นอาทิตย์ หรือ ว่า ดีมาก เป็นอาทิตย์ ก็ยังมี
นี่เพราะ จิต เขาแสดงให้เห็นแล้วซึ่งความเป็นอนัตตา แต่ความเคยชินเรืองความเที่ยงของคน ทำให้ไม่เข้าใจมัน ทำให้คิดเอาเองว่า เคยได้ดีแล้ว มันต้องดีตลอดไป เมื่อมันไม่ดี ก็เลยเกิดทุกข์ใจขึ้นมา

สัมมาสติที่มีกำลัง คือ ความตั้งมั่นแห่งจิต ที่ตั้งอยู่ ไม่ไหล วิ่งไปยึดอารมณ์ที่จิตเข้าไปรู้ ทาง ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ

ถ้าท่านเป็นผู้หนึ่ง ที่เข้าใจว่า สัมมาสติ คือ อะไรแล้ว ขอเพียงหมั่นฝึกฝน ความตั้งมั่นแห่งสัมมาสติไว้ มันจะดีเป็นบางวัน มันจะเลวเป็นบางวัน ก็ปล่อยมัน ขอให้คงความเพีบรการฝึกฝนไว้ จนมันตั้งมั่น แล้วมันจะดีมากกว่าเสีย

..................................

การที่ใครสักคน จะพยายามหลีกหนีจากภัยวัฏฏะ นั้น มันยากแสนยาก แต่ก็ยังมีทางอยู่ ขอให้มีเพียงความเชื่อมั่น มีความรู้ที่ถูกต่อการฝึกฝน แล้ว หมั่นเพียร ท่านย่อมเห็นแสงที่ปลายทางได้แน่ ถึงแม้ว่า อุโมงค์นั้นจะยาวสักเพียงใดก็ตาม

..................................

ยากมากที่จะเปลี่ยนความเชื่อในตัวนักปฏิบัติได้ ถ้าเขาได้เชื่อสิ่งใดแล้ว ยากที่จะเปลี่ยนแปลง ปล่อยเขาไปตามทางของเขา ไม่ใช่เราไม่มีเมตตา
แต่การอุ้มคนอื่นมันหนักมากขึ้นไปอีก ถ้าเราบอกให้เขาลุกเดินแล้วไม่ยอมเดิน ก็คงต้องปล่อยวางไปตามทาง ป่วยการที่จะถกเถียงเพื่อเอาชนะด้วยเหตุและผล เพราะทั้งเหตุและผล มันก็ล้วนเป็นสิ่งปรุงแต่งที่สร้างขึ้นของอัตตานั้นเอง

....................
เทคนิค การปฏิบัติเบื้องต้น มันมีไม่มากเลย ดังนั้น ท่านจะเห็นว่า ผมเขียนเรื่องมาให้อ่าน มันก็วนไปเวียนมาอยู่เพียงเท่านี้ แต่เพื่อใครสักคน ผมก็พร้อมจะเขียนให้เขาเข้าใจและลุกเดินหน้าต่อไปด้วยความเพียร




Create Date : 04 สิงหาคม 2552
Last Update : 29 มกราคม 2555 19:33:21 น. 2 comments
Counter : 1212 Pageviews.

 
สาธุค่ะ

ขอบพระคุณมากๆค่ะ สำหรับข้อแนะนำเรื่องภาวนา พยายามเดินทางปฏิบัติไปเรื่อยๆ แบบสบายๆ (แต่ไม่ขี้เกียจ)ค่ะ :D


โดย: kaoim IP: 110.49.8.147 วันที่: 5 สิงหาคม 2552 เวลา:12:14:10 น.  

 
ผมจำเป็นต้องปิดการเขียนของท่านผู้อ่าน เนื่องจากกฏหมายอินเตอร์เนท
ที่อาจมีสิ่งผิดกฏหมายใส่เข้ามาใน blog

ท่านที่จะสนทนา หรือ ถามคำถาม ขอให้ส่ง email ถึงผมได้ที่
asknamasikarn@gmail.com

หรือสำหรับสมาชิก pantip จะส่งมาทางหลังไมค์ก็ได้เช่นกัน


โดย: นมสิการ วันที่: 29 มกราคม 2555 เวลา:19:33:39 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะ VIP Friend
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

นมสิการ
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 142 คน [?]




หลักปฏิบัติ ...รู้สึกตัว ผ่อนคลาย เฉย ๆ สบาย ๆ

มากกว่า 20 ปีที่ไปหลงทำสมถภาวนาแบบสมาธิแบบฤาษีโดยที่ไม่รู้จักกับคำว่า อะไรคือสัมมาสติ สัมมาสมาธิ ผลที่ได้คือความสงบขณะกำลังนั่งสมาธิจนตัวนิ่งแข็งเป็นก้อนหิน แต่ผลข้างเคียงตามมาก็คือการเป็นคนเจ้าโทสะอย่างรุนแรงขณะเวลาไม่ได้นั่งสมาธิ และ ที่อยู่ในชีวิตประจำวัน....

จนได้พบกัลยณมิตรแดนไกล ที่ได้ชักนำให้มารู้จักวิธีปฏิบัติแบบหลวงพ่อเทียน จนได้พบกับพระอาจารย์ในสายหลวงพ่อเทียน ที่ผมได้เรียนการปฏิบัติจากท่าน จนเข้าใจว่า สัมมาสติ สัมมาสมาธิ คืออะไร แล้วลงมือฝึกฝน การปฏิบัติก็รุดหน้าและได้ลิ้มรสสิ่งบริสุทธิในจิตใจอันเป็นผลจากการปฏิบัติด้วยเวลาเพียง 5 ปี

ธรรมปฏิบัติจากฆราวาสเขียนเป็นสิ่งที่ยอมรับได้ยากในสังคมไทย ผมรู้ได้จากที่เขียนใน blog ผมได้พบกับการก่อกวนใน blog การเขียนเหน็บแนม กระแหนะกระแหน ตำหนิการการปฏิบัติที่ผมเขียนใน blog ว่าผิดทาง เขียนแบบคาดเดาเอา ไม่รู้จริง ให้ผมหยุดเขียนแนวนี้ได้แล้ว และไปโมทนาสาธุแนะนำการปฏิบัติสมาธิแบบฤาษีให้กับผมอีกว่านี่คือทางที่ถูกต้อง ...

บทความใน blog จึงเกิดขึ้นมา เพื่อแบ่งปันประสบการณ์ในการภาวนา
แก่ผู้อื่นที่กำลังเดินทางในสายแห่งอริยมรรคนี้

เมื่อท่านได้เข้ามาอ่านข้อเขียนใน blog กรุณาอย่าได้เชื่อผมจนกว่า ท่านได้ทดลองปฏิบัติแล้วและพิสูจน์ด้วยตัวท่านเอง

**กรุณา .อย่า.ได้บริจาคเงินให้ blog ผมทาง e-wallet ครับ **

******
บทความต่าง ๆ ใน blog นี้
ขอสงวนสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537
ห้ามนำไปดัดแปลง ลอกเลียน หรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต

****
New Comments
Friends' blogs
[Add นมสิการ's blog to your web]
Links
 
MY VIP Friend


 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.