เพราะคิดถึง จึงกลับบ้าน : พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติสงขลาฉบับปรับปรุง
เท่าที่จำความได้เคยไปเที่ยว"พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติสงขลา" เมื่อสมัยประถม คงไม่ต่ำกว่าสามสิบปีแล้วล่ะ แทบจะนึกไม่ออกเลยว่าภายในเป็นอย่างไรบ้าง ความรู้สึกว่ามืดๆ ดำๆ มีแต่ของเก่าๆ น่ากลัวๆ และจากนั้นก็ไม่คิดจะเข้าอีกเลย ได้แต่ผ่านๆ ทั้งที่อยู่ไม่ไกลจากบ้านของเรา เดินไปก็ยังได้
หลังจากกลับไปภูมิลำเนาคราวนี้ พอดีมีข่าวว่าพิพิธภัณฑ์ทั่วประเทศกำลังเกิดวิกฤตเพราะไม่มีนักท่องเที่ยวเข้าไปเที่ยวชมหรือลดความสำคัญลงไป ไม่ได้ถูกบรรจุลงในโปรแกรมทัวร์ พูดง่ายๆ ว่าพิพิธภัณฑ์กำลังจะตาย โดยเฉพาะพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เราเล่าให้แม่ฟัง แม่บอกว่า แม่ก็ชวนเพื่อนไปเที่ยว ก็ไม่มีใครไปด้วย เราจึงบอกว่า งั้นพรุ่งนี้เราไปกัน แม่ทำหน้าแหยๆ... มันไม่มีอะไร อ้าว! ไหนว่าอยากไปแต่เพื่อนไม่ไปด้วย พอชวนจริงๆ ก็ไม่ไป สุดท้ายแม่ก็ต้องไปกับ เพราะแม่ก็ไม่เคยเข้าไปมาก่อน
ค่าตั๋วเข้าชมคนไทยคนละ 30 บาท ส่วนแม่เข้าฟรีอีกแล้ว เพราะอายุเกิน 60 ปี (ข้อดีของผู้สูงอายุ) ที่นี่ถ่ายภาพได้ แต่ห้ามใช้แฟลชและห้ามซูมในเห็นรายละเอียด (สงสัยกลัวจะเอาไปลงแคตตาล็อกขายต่อ)
เสน่ห์แรกเห็นของที่นี่คือ รูปทรงของอาคารค่ะ เป็นสถาปัตยกรรมแบบจีนผสมยุโรป สมัยรัชกาลที่ 5 ดูโดดเด่นสง่างามด้วยสีขาวสลับแดง ตัดกับสีเขียวของสนามหญ้า ดูร่มรื่นดี
ภาพความทรงจำในวัยเยาว์ของเราเปลี่ยนไป เมื่อเห็นการเปลี่ยนแปลงและปรับปรุงใหม่ของพิพิธภัณฑ์ไม่มืด ไม่น่ากลัวเหมือนอดีตอีกแล้ว เพราะได้จัดแสง สี ให้นุ่มนวล มีบรรยากาศอบอุ่น ย้อนยุค มีการจัดทำข้อมูลที่เป็นเอกสาร และการจำลองเพื่อให้การเข้าชมและศึกษาสมบูรณ์ยิ่งขึ้น
ถ้าเราอ่านอย่างตั้งใจและศึกษาอย่างจริงจัง เราจะได้อะไรมากมายจากที่นี่ ข้อมูลหลายๆ อย่างทำให้เรารู้ว่าฝั่งหัวเขาแดง โดยเฉพาะอ.สิงหนคร และอ.ระโนด มีของเก่าที่ขุดเจอเยอะมาก เรียกว่าเป็นแหล่งประวัติศาสตร์ที่สำคัญของภูมิภาคเลยก็ว่าได้ ทั้งในแง่ศาสนา การเมือง การปกครอง และวิถีชีวิต
มีการรักษาความปลอดภัยที่แน่นหนา รวมทั้งกล้องวงจรปิดด้วย
มีประวัติ อิทธิพล และความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับชนชาติต่างๆ เช่น มุสลิม จีน จึงไม่น่าแปลกใจว่าทำไมเราหน้าตาแบบนี้ โธ่! ไอ้เราก็นึกว่ามีเชื้อฝรั่งซะอีก
ของไทยๆ
หงส์แดงถอดแบบมาจากนี่เอง
ช่องลมสมัยก่อน ปัจจุบันหลายบ้านก็ยังมีให้เห็นอยู่
การแกะสลักไม้แบบศิลปะจีน
ความเชื่อ
พักสายตา
สังเกตโครงสร้างภายในอาคารทำด้วยไม้ยังคงสมบูรณ์แข็งแรงอยู่
แม่เดินสักพักหมดแรง จึงแอบงีบแบบไม่เกรงใจประชาชน เพราะแทบไม่มีใครมา นอกจากคู่พ่อลูกที่มาก่อนหน้าเราแล้ว อากาศก็เย็นสบาย แม้แต่เจ้าหน้าที่ที่ดูแลก็ยังนั่งหลับ
ต้องโทษตัวเราเองเหมือนกันที่ไม่เคยสนใจหรือใยดีที่จะเข้าไปชม ใกล้เกลือกินด่างแท้ๆ ไม่รู้ว่ามีสิ่งดีๆ อยู่ใกล้ตัว มัวแต่ไปเที่ยวของจังหวัดอื่นๆ ตั้งนาน
ก่อนกลับเห็นหนุ่มสาวมาเที่ยวอีกหนึ่งคู่ นึกดีใจ---เจ้าหน้าที่จะได้ไม่เหงา ไม่ใช่แค่เราที่อยากจะมานะ
ฉะนั้น ถ้าใครมีโอกาสแวะเวียนมาจังหวัดสงขลา อย่าลืมบรรจุพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติสงขลาลงในโปรแกรมเที่ยวด้วยนะ แล้วคุณจะรู้จักสงขลามากขึ้น
ยังไม่อยากให้พิพิธภัณฑ์ตายค่ะ อยากให้คนไทยหันมาสนใจมากขึ้น นอกจากจะได้รู้กำพืดตัวเองแล้วยังได้ความรู้มากกว่าแค่อ่านหนังสือด้วย โดยเฉพาะเยาวชน แต่จะทำอย่างไรดี ส่งเสริมหรือพูดอย่างเดียวไม่พอค่ะ มันต้องอาศัยการสื่อสารในรูปแบบอื่นด้วย
เราสัญญากับตัวเองว่าจะหาเวลาไปเที่ยวชมพิพิธภัณฑ์ตามจังหวัดต่างๆ เท่าที่จะทำได้ ใครชอบแนวนี้---ไปด้วยกันมั้ยคะ??
Create Date : 26 ตุลาคม 2555 |
|
4 comments |
Last Update : 26 ตุลาคม 2555 11:32:28 น. |
Counter : 3232 Pageviews. |
|
|
ภายในมีแต่ของน่าชมทั้งนั้นเลย ปกติแล้วภายในพิพิธภัณฑ์มักไม่ค่อยอนุญาตให้ถ่ายภาพ แต่นี่อนุญาตให้ถ่ายได้ ดีจัง..^^ มีโอกาสก็จะหาเวลาไปเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ใกล้ ๆ บ้านบ้างน่ะนะคะ