เดินทางตามหาแรงบันดาลใจที่เขื่อนจุฬาภรณ์

สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เราตั้งใจ(อยู่คนเดียว)ว่าจะต้องไปหาแรงบันดาลใจในการทำงานสร้างสรรค์ ชวนใครหลายคนไม่มีใครอยากไป สุดท้ายก็ได้เพื่อนใหม่ไปด้วย ทีแรกจะไปกันสี่คน สุดท้ายเหลือสองคน ดีนะที่ไม่เหลือไปคนเดียว จุดหมายปลายทางในการเดินทางตามหาแรงบันดาลใจในคราวนี้คือเขื่อนจุฬาภรณ์ อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ ซึ่งเป็นที่ที่เคยตั้งใจจะไปเมื่อประมาณ 5 ปีที่แล้ว แต่จนแล้วจนรอดก็ยังไม่ได้ไปสักที กระทั่งครั้งนี้

ฤกษ์งามยามดีช่วงปลายฝนต้นหนาว ซึ่งตรงกับช่วงที่มีพายุแกมี (Gaemi) กำลังจะเข้าไทยพอดิบพอดี ด้วยที่ความตั้งใจมันแรงกล้ามากกว่า จึงไปแบบลุ้นเอาว่าจะเจอพายุหรือไม่

เราออกเดินทางตอนสายๆ ไปถึงขอนแก่นราวเที่ยงแล้วไปต่อทางอ.ชุมแพตรงไปยังอ.คอนสารเพื่อไปสู่จุดหมายปลายทางที่จะมีป้ายบอกว่าเลี้ยวซ้ายไปอีก 40 กม. นับว่าโชคดีที่ตลอดทางเราไม่เจอฝนตกเลย แสดงว่าแกมี แต่แกไม่มา (ฮา)

40 กม.ที่เข้าไปยังเขื่อนเป็นทางขึ้นเขาค่ะ เป็นครั้งแรกในชีวิตที่เราขับรถขึ้นเขา ถือเป็นบททดสอบของเราอีกบทหนึ่ง เราขับเดาๆ เอา ไม่รู้เกียร์ไหนเป็นเกียร์ไหนแล้ว 40 กม.ใช้เวลาประมาณ 1 ชม. เล่นเอาหูอื้อเลยทีเดียว ถ้าไม่ได้ขับเอง อาจจะมีเมารถ 555 ดีที่มีที่จอดแวะให้ชมวิวก่อนถึงที่หมาย



เราขึ้นมาสูงพอสมควร มองเห็นยอดเขาต่างๆ ที่เรียงรายสวยงาม มองไปข้างหน้าคือ ยอดภูกระดึง





อีกไม่กี่กิโล เราเข้าเขตของเขื่อนจุฬาภรณ์ บรรยากาศที่นี่ดีมาก จริงๆ เข้าเขตป่าแล้วไม่จำเป็นต้องเปิดแอร์ก็ได้ เปิดหน้าต่างรับลมธรรมชาติได้เลยเพราะอากาศเย็นสบาย มันจะสดชื่นมากยิ่งขึ้น แถมประหยัดน้ำมันด้วย อ้อ สัญญาณโทรศัพท์ที่นี่มีแต่ Dtac กับ AIS เท่านั้นค่ะ ไม่มี wi-fi ด้วย

เราไปถึงเขื่อนประมาณบ่ายสามโมง เข้าที่พัก ซึ่งเป็นที่พักที่ถูกที่สุด เนื่องจากวันหยุดเสาร์อาทิตย์คณะสัมมนาต่างๆ มาทำกิจกรรมกันมากมายจนที่พักเต็ม ห้องเล็กๆ จึงเหมาะสำหรับนอนพักอย่างเดียว ไม่ต้องทอดหุ่ยอะไรมาก ไปชมบรรยากาศข้างนอกดีกว่า







ไปชมไร่ทดลองของมข.









มาถึงช่วงเวลาบ่ายแก่ๆ ก็ดีค่ะ เพราะยังมีเวลาให้ชมบรรยากาศภายในเขื่อนได้อยู่กระทั่งพระอาทิตย์ตกดิน ขับรถวนไปเวียนมา หลงบ้างไรบ้าง แม้จะได้แผนที่จากเขื่อนมาก็ช่วยอะไรไม่ได้ เพราะดูไม่เป็น 555

ที่นี่เหมาะจะมาพักแบบบ้านเป็นหลังๆ แล้วมาทำอาหารกินกันเป็นเรื่องเป็นราว ราคาก็จะแตกต่างกันไป ส่วนถ้ามาน้อยๆ ก็มีห้องพักขนาดย่อมให้เลือกเช่นกัน ราคาลดได้ 20% สำหรับข้าราชการและพนักงานรัฐวิสาหกิจ ชอบตรงนี้แหละ









เราคิดมาแล้วว่าตกเย็น เราจะวิ่งออกกำลังกายตรงสันเขื่อน เปลี่ยนชุดเตรียมวิ่งเรียบร้อย แต่พอเอาเข้าจริง เห็นความสวยงามของเขื่อนแล้ว ต้องถ่ายรูปอย่างเดียวเลย สรุปว่าไม่ได้วิ่งค่ะ เดินถ่ายรูปแทน







ข้างหนึ่งเป็นน้ำ อีกข้างหนึ่งเป็นป่า









ฟ้าสวยใสมาก ดีใจที่ฝนไม่ตก





เดินเล่นจนตะวันตกดิน อากาศที่นี่ประมาณ 20-22 องศา





มื้อเย็นเราไม่ได้นั่งทานที่ร้านอาหาร เพราะคณะสัมมนาจองเต็มหมดแล้ว จึงต้องซื้อไปนั่งกินที่หน้าห้องพัก ดีที่ไม่มียุง (มันคงบินไม่ถึง) คืนนั้นเข้านอนแต่หัวค่ำ เพราะเพลียจากการขับรถ เหนื่อยจริงๆ แฮะ แล้วความรู้สึกใกล้ชิดธรรมชาติจะบังเกิดขึ้น เมื่อได้ยินเสียงช้างร้องเสียงดังมาก จนเหมือนมันอยู่แถวนั้นจนน่ากลัว 555

ตกกลางคืน ไม่ต้องเปิดแอร์เลยค่ะ เพราะอากาศเย็นกำลังดี ห่มผ้านิดหน่อยก็หลับได้แล้ว แต่ตื่นเช้าเกือบเจ็ดโมง เพราะห้องอื่นๆ ตื่นกันแล้วคุยกันจึงเราต้องตื่นด้วย ลุกมาสูดอากาศยามเช้า ดีเลยค่ะ อยากจะหอบไปฝากเพื่อนๆ เสียจริงๆ น้ำค้างเกาะเต็มรถ เดาว่าคงมีหมอกเยอะเหมือนกัน เพียงแต่เราลุกมาตอนหมอกสลายไปแล้ว



ตามหาแรงบันดาลใจอย่างที่เคยฝันไว้อย่างมีรอยยิ้มสมดังใจ เราไม่ค่อยเห็นใครได้รีวิวเขื่อนจุฬาภรณ์ ฉะนั้นเราขอเป็นหนึ่งในคนที่รีวิวที่นี่ เพื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับหน้าหนาวที่หลายคนอาจจะมองข้ามไปนะ แต่ขอบอกว่า “จองห้องพักล่วงหน้า” ด้วยค่ะ

Create Date : 09 ตุลาคม 2555		3 comments
Last Update : 9 ตุลาคม 2555 17:43:37 น.
Counter : 5376 Pageviews.
Share Tweet