PLAN 3

ไปเที่ยวสถานที่สำคัญอีกแห่งของกรุงลอนดอนกัน นั่นคือ St.Paul Cathedral

ST. PAUL’S CATHEDRAL

มหาวิหารแห่งนี้ยิ่งใหญ่คู่กับกรุงลอนดอนจริงๆสร้างขึ้นครั้งแรกตั้งแต่ยุคโบราณมากจนกระทั่งโดนไฟใหม้ครั้งใหญ่ทำให้มีการบูรณะเป็นสภาพปัจจุบันในสมัยพระเจ้าชารล์ที่ 2จุดเด่นของมหาวิหารแห่งนี้คือยอดโดมที่มีความยิ่งใหญ่มากค่ะเป็นรองก็เพียงโบสถ์เซนต์ปีเตอร์ในนครวาติกันเท่านั้น งานสำคัญของอังกฤษหลายๆงานก็มาจัดที่St. Paul เช่น งานฉลองครองราชย์ครบ 60 ปี ของพระราชินีวิคตอเรียและงานอภิเษกสมรสของเจ้าฟ้าชายชาร์ลและเลดี้ไดอาน่า

มหาวิหารแห่งนี้สามารถเดินทางมาง่ายมาก โดย Tube สถานี St.Paul’s ขึ้นมาปุ๊ปก็ถึงเลยค่ะ เสียค่าเข้าชม 14 ปอนด์นะคะ เรามีข้อสังเกตอยู่นิดนึงถ้าเป็นประเทศอังกฤษ การเข้าชมพิพิธภัณฑ์ เค้าจะไม่เก็บค่าเข้าชมแต่สำหรับโบสถ์ในอังกฤษ เค้าจะเก็บค่าเข้าชมค่ะ (ต่างกับประเทศฝรั่งเศสนะคะที่ฝรั่งเศส เที่ยวพิพิธภัณฑ์จะเสียค่าเข้าชม แต่ถ้าเข้าโบสถ์จะไม่เสียเงิน)

ข้างนอกว่าสวยแล้ว เข้าไปด้านในยิ่งสวยมากๆเลยค่ะ เสียดายที่เค้าไม่ให้ถ่ายรูปด้านใน พอซื้อบัตรแล้วเค้าจะมีอุปกรณ์ให้ฟังบรรยายตามจุดที่เตรียมไว้ค่ะเทปบรรยายจะเล่าถึงประวัติการก่อสร้าง แนะนำส่วนต่างๆที่สำคัญ ซึ่งสามารถแบ่งได้เป็น 4 ส่วนสำคัญ คือ The Nave ห้องโถงทางเข้าถึงแท่นบูชาThe Crypt อยู่ด้านล่างสุดเป็นที่ฝังศพของบุคคลสำคัญ The Quire เป็นบริเวณแท่นบูชาและส่วนสุดท้ายที่ดังที่สุดคงจะเป็น The Dome and The Whispering Gallery เดินขึ้นบันได259 ขั้นขึ้นไปจะถึงระเบียงชั้นสองค่ะ เป็นส่วนที่เรียกว่า ระเบียงเสียงกระซิบความพิเศษอยู๋ตรงที่ถ้าเราพูดใส่กำแพงแม้จะเป็นเพียงเสียงเบาๆแต่เสียงของเราจะไปดังอยู่อีกด้านของกำแพงค่ะ ฟังดูเหลือเชื่อนะ แต่เราลองทำแล้ว(โชคดีที่วันนั้นเรามีเพื่อนไป) ได้ยินจริงๆ สุดยอดอะ ใครไปอย่าลืมลองเล่นดูนะคะ และเราสามารถเดินขึ้นไปยังระเบียงรอบนอกเพื่อดูวิวกรุงลอนดอนจากมุมสูงได้ค่ะ

ก่อนกลับแวะทานขนมและเครื่องดื่มอร่อยๆจากร้าน Paul ร้านเบเกอรี่ชื่อดังจากฝรั่งเศสค่ะเรารับประกันความอร่อย

MILLENIUM BRIDGE

สะพานแห่งนี้เป็นสะพานสำหรับให้คนเดินข้ามแม่น้ำเทมส์ค่ะ เชื่อมระหว่าง St.Paul กับ Tate Modern แต่ดูๆไปก็แปลกค่ะเพราะลักษณะของสะพานดูโมเดิร์นมากๆ ไม่ค่อยจะเข้ากับมหาวิหารซักเท่าไหร่ แต่ก็นะชื่อสะพานก็บอกแล้วว่าสร้างสมัยปี 2000เลยต้องให้ทันสมัยเข้ากับยุคปัจจุบันซักหน่อย ถ่ายรูปบนนี้สวยดีนะคะ เห็นวิวชัดดี

TATE MODERN

อีกหนึ่งพิพิธภัณฑ์ที่แสดงผลงานศิลปะในช่วงสมัย 1900ถึงศิลปะร่วมสมัยในปัจจุบัน ผลงานสำคัญที่แสดงอยู่ที่นี่ เช่น Nude, Green leaves and Bust และ The Three Dancers ของ Pablo Picasso, Water-Lilies ของ Claude Monet และ Painting ของ Joan Miro พิพิธภัณฑ์แห่งนี้สร้างบนพื้นที่ของโรงไฟฟ้าเก่าค่ะหน้าตาของตึกก็เก๋มากๆ เป็นตึกอิฐสีแดง

ที่นี่ไม่เก็บค่าเข้าชมนะคะ เปิดทุกวัน โดยเฉพาะวันศุกร์และเสาร์เปิดถึง22.00 ชมกันให้จุใจเลย

SOHO

เริ่มเย็นแล้วค่ะ ดินเนอร์วันนี้ไปที่ย่าน Soho กันย่านนี้เป็นแหล่งรวมอาหารอร่อยค่ะ เป็นที่ตั้งของ China town มีร้านอาหารจีนชื่อดังมากมายเช่น Wanchai และ เป็ด Four Season นั่นเอง เพื่อนๆเลือกร้านได้ตามใจชอบเลยนะคะใครชอบอาหารจีนสไตล์ไหนมาจากมณฑลไหนที่นี่มีหมด

M&M WORLD

เดินจากย่าน Soho มา 5 นาทีก็ถึงที่นี่แล้วค่ะ M&MWorld สาขานี้เป็นสาขาแรกที่อยู่นอกประเทศอเมริกา และเป็นสาขาที่ 4ของโลกค่ะ ด้านในสีสันสดใสมาก เหมาะสำหรับการถ่ายรูป  ที่นี่ไม่เสียเงินค่าเข้านะคะของที่ขายนอกจาก M&M หลากสีเลือกได้เองแล้ว ยังมีเครื่องประดับเสื้อผ้า หมอน ข้าวของเครื่องใช้สำหรับแฟนๆ M&M ค่ะ

ดูเด็กคนนี้สิค่ะ ส่อแววเท่แต่เด็กเลย

REGENT STREET

สวรรค์แห่งการชอปปิ้งค่ะ แบรนด์ดังๆ เช่น GAP, H&M, Mango,Superdry, Zara ตั้งอยู่บนถนนเส้นนี้แหละค่ะ Regent Street เป็นถนนที่สวยมากถนนกว้างทอดยาวแนวโค้ง ตึกที่อยู่บนถนนเส้นนี้ได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดีตอนนั้นที่เราไปก็มืดแล้ว แต่ประดับไฟสวยงามมากค่ะได้ข่าวว่าช่วงคริส์ตมาสนี่ไฟสวยสุดๆไปเลย เดินตาม Regent Street มาเรื่อยๆก็จะบรรจบกับOxford Street ที่ Tube สถานี Oxford Circus พอดี

Oxford Street ก็เป็นอีกหนึ่งสวรรค์ของนักช้อปนะคะ มีทั้งห้าง JohnLewis, Debenhams, Selfridges และ Mark & Spencer ตั้งอยู่

NIGHT AT WESTMINSTER

จาก Oxford Circus station เราก็นั่ง tube ต่อมาลงสถานี Westminster เพื่อมาแวะถ่ายรูปยามค่ำคืนกับ Big Ben, The Parliament และ LondonEye..เรามีเรื่องจะเล่านิดนึงค่ะ ตอนกลางคืนในย่านนี้จะมีกลุ่มคนแต่งตัวแบบCosplay เช่น แต่งเป็น Shrek,Marilyn Monroe มาขอถ่ายรูปกับนักท่องเที่ยวเพื่อขอเงินค่ะเวลาเค้าเข้ามาจะประชิดตัวมากเลย แต่งหน้าแต่งตาจนมองไม่เห็นหน้าตาจริงๆเลยค่ะน่ากลัวมาก เรางี้กำกระเป๋าแน่นเลย กลัวโดนขโมยของ..แต่ซักพักก็จะมีตำรวจมาไล่ค่ะ ถ้าใครไปแถวนั้นช่วงนั้น ระวังตัวกันด้วยนะคะ

ส่วนบรรยากาศตอนกลางคืนนั้น เกินบรรยายค่ะ กล้องพร้อมกดชัตเตอร์กันรัวๆ..ใครที่ชอบถ่ายรูปห้ามพลาดเด็ดขาด

---

PLAN 4

WIMBLEDON

อีกหนึ่งวันเก๋ๆของเจ้าของ Blog ค่าความฝันอย่างนึงของเรา คือการได้เข้าไปชมสนามเทนนิสวิมเบิลดัน 1 ใน 4รายการแกรนด์สแลมระดับโลก การเดินทางค่อนข้างจะไกลนิดนึงแต่ไม่ยากเกินค่ะ นั่ง TubeไปลงสถานีTooting Broadway และต่อรถเมล์สาย 493 ไปลงหน้าสนามเลยค่ะการนั่งรถเมล์ที่นี่ไม่ยากนะคะ เพราะป้ายรถเมล์มีเวลาแบบ Realtime ของสายรถเมล์ที่เรารออยู่ให้ดูเลย

การเข้าชมสนามเราควรจะจองวันและเวลาที่จะเข้าชมไปก่อนเลยนะคะโดยจองผ่านเวบไซด์ here ตอนนั้นที่ไปเราจองรอบเช้าสุด 9 โมงเลยค่ะ ไปถึงก็คิดต่อเคาร์เตอร์ค่าเข้าชม 22 ปอนด์ เป็นราคาที่รวมค่าเข้าชมสนามและค่าเข้าชมพิพิธภัณฑ์ค่ะในพิพิธภัณฑ์จะแสดงประวัติของวิมเบิลดันตั้งแต่ยุคก่อตั้ง จนถึงสมัยปัจจุบันค่ะมีโชว์ถ้วยรางวัลของจริงไว้ให้ดูด้วยพอถึงเวลาที่นัดก็ไปเจอกับผู้บรรยายและรวมตัวกับคนอื่นๆในรอบนั้นค่ะทัวร์สนามกินเวลาประมาณ 2 ชั่วโมงเลยนะคะ เดินกันหลายสนาม ทั้ง Court No.1 และ CentreCourt รวมถึงเข้าไปดูห้องให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนเวลาแข่งเสร็จค่ะ

Inside Centre Court ค่ะ

BURGER AND LOBSTER

ร้านดังในลอนดอนที่ใครๆก็ต้องไปทานค่ะร้านนี้มีหลายสาขาแต่สาขาที่เราไปกินเป็นสาขา Mayfair ลงTube สถานี Green Park เดินมาอีก 5 นาทีก็ถึงร้านค่ะเมนูที่นี่เลือกง่ายๆมี 3 อย่างให้เลือกเท่านั้น ได้แก่ เบอร์เกอร์เนื้อกุ้งลอบสเตอร์ย่างทั้งตัว และ แซนด์วิชไส้กุ้งลอบสเตอร์ผัดซอสญี่ปุ่นค่ะวันนั้นที่เราเลือกทานก็เป็นกุ้งลอบสเตอร์ย่าง ตัวใหญ่จุใจมากเลยค่ะรสชาติโอเคนะคะ (แต่เราว่ากุ้งย่างอยุธยาบ้านเราก็อร่อยกว่าอยู่ดี) แต่ ณ จุดนั้นในลอนดอน อาหารซีฟู้ดสดๆแบบนี้ถือว่าเทพมากๆแล้วค่ะ 55

SCIENCE MUSEUM

ขอเกริ่นก่อนว่าในย่าน South Kensington มีพิพิธภัณฑ์ดังๆอยู่3 แห่งด้วยกัน คือ Science Museum, Natural History Museum และ Victoria& Albert Museum การดูพิพิธภัณฑ์แต่ละแห่ง เราก็ต้องใช้เวลานานใช่มั๊ยค่ะดังนั้นเพื่อเก็บให้ครบ เราเลยแบ่งเวลาช่วงนึงของวันนี้มาเยี่ยม ScienceMuseum ก่อน ส่วนอีก 2 ที่ที่เหลือต้องตามต่อในแพลนที่ 5 นะคะ

Science Museum เป็นพิพิธภัณฑ์เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ทั้งหมดค่ะตั้งแต่ยุคเครื่องจักรไอน้ำจนถึงไปอวกาศกันในปัจจุบันเลย อย่างที่เราเคยเรียนกันมาอังกฤษในสมัยก่อนรุ่งเรืองมากก็เพราะเป็นประเทศที่มีนักวิทยาศาสตร์สำคัญของโลกหลายท่าน โดยเฉพาะการคิดค้นเครื่องจักรไอน้ำของ เจมส์ วัตต์ที่เรียกได้ว่าเป็นการปฏิวัติวงการวิทยาศาสตร์และอุตสาหกรรมสมัยนั้นเลย..เข้ามาเดินชมกันได้ไม่เสียค่าใช้จ่ายค่ะ ที่นี่มีทั้งหมด 7 ชั้นด้วยกัน มีเครื่องเล่นแบบ Interactiveให้ลองเยอะเลยนะ

NOTTING HILL

ย่าน Notting Hill รู้จักกันมากยิ่งขึ้นจากหนังรักฮอลลีวู้ดชื่อดัง Notting Hill นำแสดงโดย Julia Roberts และ Hugh Grant ในปี 1999หลายฉากของเรื่องรวมถึงร้านหนังสือของพระเอกก็ถ่ายทำที่ย่านนี้ ที่ตลาด Portobello ค่ะวันนี้เลยขอมาชมด้วยตาตัวเองซักหน่อย ตลาดที่นี่เหมาะมาเดินเสาร์ อาทิตย์นะคะเพราะจะมีร้านมาเปิดขายของริมถนนเพิ่มเติมจากวันธรรมดา ของที่ขายก็เป็นแนวเก๋ๆแฮนด์เมดค่ะ ดูๆไปเหมือนนำเข้ามาจากสำเพ็งเมืองไทยเลยนะ นอกจากของที่ขายจะเก๋ในสายตาของชาวอังกฤษแล้วนั้นจุดเด่นอีกจุดนึงของย่านนี้ก็คือ ตึกรามบ้านช่องทาสีพาสเทล เก๋สุดๆไปเลยค่ะเหมือนเดินอยูในเมืองลูกอม หวานแหวว ถ่ายรูปออกมาสวยเลยแหละ ตลาดนี้ 5โมงเย็นก็ปิดแล้วนะจ๊ะ ถ้าจะมาแนะนำบ่ายแก่ๆค่ะ แดดไม่แรงมาก กำลังดี

ขอจบแพลนวันนี้เพียงเท่านี้นะคะ เป็นไงบ้างค่ะ แพลนของ jellyjourrneyมีให้เลือกหลากหลายเลยใช่มั๊ยหละใครชอบแพลนไหนยังไง หรือเอาแพลนไหนไปมิกซ์กันยังไง เขียนคอมเมนต์มาคุยกันได้นะจ๊ะ

ย้อนกลับไปด้าน part (1/3) ที่นี่

---

all UK blogs  

1. เรื่องน่ารู้ก่อนเที่ยวอังกฤษ (Thingsyou need to know before going to the UK) here

2. Warwick & Stratford upon Avon (ตามรอยShakespeare) here

3. Oxford here

4. Liverpool here

5. London part 1 part 2 part 3

6. Cardiff here

7. Bourton-on-the-Water here

8. Edinburgh here