เมษายน 2557

 
 
1
2
3
4
5
6
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
 
 
20 เมษายน 2557
All Blog
UK [Review] London (part 1/3)
สวัสดีค่ะ และแล้วก็มาถึงเมืองที่ทุกคนรอคอยนะคะ กรุงลอนดอนเมืองหลวงของประเทศอังกฤษนั่นเอง ใครมาอังกฤษก็ต้องมาที่นี่เนอะ บางคนถามว่ามาเที่ยวอังกฤษต้องมากี่วันตอบยากจังเลยค่ะ เพราะสำหรับเรา แค่เที่ยวในลอนดอน 6 วันยังไม่เต็มอิ่มเลยแต่ก็เรียกได้ว่าเก็บมาได้หลายที่ค่ะ จากที่เคยบอกมาแล้วใน UK Episode 1 ว่าเรามาทำงานที่อังกฤษและก็ไม่ได้มาอยู่ที่ลอนดอนด้วยเพราะฉะนั้นเราก็มาเที่ยวลอนดอนได้เฉพาะแค่เสาร์อาทิตย์เท่านั้นตลอดเวลาที่มาทำงานอังกฤษ 3 เดือน ได้มาเที่ยวลอนดอนทั้งหมด 6 วันค่ะ

ทริปลอนดอนที่จะมานำเสนอเพื่อนๆครั้งนี้ ไม่ได้แพลนให้เป็น 6วันติดแต่อย่างใด แต่จะเป็นแพลนแยกย่อย 6 แพลน Theme ที่จะไปเที่ยวในแต่ละแพลนก็ไม่เหมือนกันเยลลี่คิดว่าทำแบบนี้น่าจะง่ายต่อเพื่อนๆในการเลือกแพลนที่ตัวเองสนใจไปปรับใช้กันค่ะถ้าหากใครจะเอาไปผสมกันและจะให้เราช่วยแพลนยังไงก็คอมเมนต์มาได้เลยนะคะเดี๋ยวจะช่วยดูให้ค่ะ Smiley


การเดินทางในลอนดอนมีหลายวิธีค่ะแต่วิธีที่เราใช้มากที่สุดคือทางรถไฟใต้ดิน หรือที่เรียกกันติดปากว่า “Tube”ค่ะโดยใช้ Oyster Card เป็นบัตรในการเดินทาง บัตรนี้มีค่าธรรมเนียมการซื้อบัตร 5 ปอนด์ค่ะ หลังจากนั้นก็เติมเงินไปเรื่อยๆตามสถานีTube และร้านสะดวกซื้อที่มีเครื่องหมาย Oyster card

Oyster card สามารถใช้เดินทางใน Tube, รถเมล์, หรือแม้กระทั่งเรือล่องแม่น้ำเทมส์การใช้ Oyster card จะช่วยลดราคาค่าเดินทางได้ เช่น ราคารถใต้ดินเที่ยวเดียว 4 ปอนด์แต่ถ้าจ่ายด้วย Oyster จะเหลือเพียงเที่ยวละ 1.60 ปอนด์เท่านั้น ราคาค่าเดินทางในลอนดอนโดย Tubeค่าโดยสารจะขึ้นกับโซนที่เราไปเที่ยวค่ะลอนดอนแบ่งออกเป็น 6 โซนด้วยกันซึ่งส่วนมากสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญจะอยู่ในโซนเมืองคือโซน 1 และ 2 เท่านั้น..แต่จริงๆแล้วมือใหม่หัดเที่ยวอย่างเราไม่ต้องกังวลไปเลยค่ะถ้าใช้ Oyster card เนื่องจาก Oyster card จะคำนวณหาราคาค่าโดยสารที่ถูกที่สุดให้เราเองอัตโนมัตินอกจากนั้น Oyster card ยังมีระบบ Price cap กล่าวง่ายๆคือ เมื่อไหร่ที่ราคาเกิน cap ที่กำหนดไว้แล้วในแต่ละวันก็จะไม่หักเงินค่าโดยสารเราอีก

ถ้าใครพอมีข้อมูลบ้างก็จะพอทราบว่านอกจาก Oyster card แล้วยังมีบัตรโดยสารประเภทอื่นๆอีกเช่น Travel Card ที่เป็นเหมือนตั๋วราคาเหมาจ่าย มีแบบ 1 วัน 2 วัน 3 วันหรือ 7 วันและตั๋วรายเดือน ซึ่งเราต้องซื้อบัตรประเภทนี้ตั้งแต่ที่เมืองไทยค่ะแต่โดยส่วนตัวของเรานะ เราคิดว่า Oyster Card ดีที่สุดราคาก็ประหยัดพอๆกับ Travel card และยังคล่องตัวมากอีกด้วยค่ะ Smiley


ลองดู Itinerary ข้างล่างนะคะ จะพบว่ามีทั้งหมด 6 แพลนด้วยกันซึ่งใน London Blog แรกนี้ ขอเล่าถึง 2 แพลนแรกก่อน ส่วนอีก 4 แพลน จะค่อยๆทยอยอัพให้นะคะ



PLAN 1Smiley

BUCKINGHAM PALACE

สร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค..1705 ค่ะ โดยผู้ที่ทรงเสร็จมาประทับพระองค์แรกที่นี่คือ เจ้าหญิงวิคตอเรีย ซึ่งภายหลังทรงขึ้นครองราชย์ในปี ค..1837ปัจจุบันมีรูปปั้นของพระองค์ตั้งอยู่ทางวงเวียนด้านหน้า หันหน้าเข้าพระราชวังค่ะปัจจุบันผู้ที่ประทับอยู่ที่นี่ก็คือ พระราชินีอลิซาเบทที่ 2 ค่ะหากเห็นธงชาติปลิวสไวอยู่หน้าพระราชวังนั่นก็หมายถึงพระราชินีทรงประทับอยู่ข้างในค่ะ

แต่ส่วนภายในพระราชวังจะไม่เปิดให้บุคคลภายนอกเข้าชมนะยกเว้นในช่วงฤดูร้อน เดือนสิงหาคมถึงกันยายนของทุกปีจะเปิดให้เข้าชมเนื่องจากพระราชินีเสร็จแปรพระราชฐานไปประทับที่พระราชวังอื่นค่ะ กิจกรรมหลักของคนมาเที่ยวที่นี่คือการดูพิธีการเปลี่ยนเวรยามของทหารโดยพิธีจะเริ่มเวลา 11.00 ในวันจันทร์ถึงเสาร์ และเริ่ม 10.00 ในวันอาทิตย์นะคะถ้าใครจะมาดูแนะนำให้มาก่อนซัก 1 ชั่วโมงก็ได้ค่ะ มาถ่ายรูปบรรยากาศรอบๆก่อนเพราะใกล้เวลาคนจะเยอะมาก

วันนั้นที่เราไปฝนตกค่ะ เปียกปอนนิดหน่อยเลยไม่ได้อยู่รอดูการเปลี่ยนการ์ด ถ้าเพื่อนๆคนไหนไปชมมาแล้วมาเล่ากันด้วยนะคะว่าสวยและสง่ามากขนาดไหน


ST. JAMES’S PARK

สวนนี้อยู่ใกล้กับพระราชวังมากเลยค่ะ เดินออกมาอีกนิดนึงก็ถึงแล้วบรรยากาศร่มรื่น มีสัตว์เยอะแยะเลย ทั้งเป็ด นก กระรอก น่ารักสุดๆใครมาแถวนี้ก็ลองมาเดินสูดอากาศที่นี่ได้นะคะ




BIG BEN AND THE PARLIAMENT

อาคารรัฐสภาตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเทมส์ รัฐสภาหลังนี้ได้รับการบูรณะภายหลังเหตุไฟไหม้โดยรัฐสภาหลังใหม่นี้สร้างโดยใช้สถาบัตยกรรมแบบโกธิคปัจจุบันใช้เป็นที่ประชุมรัฐสภาส่วนหอนาฬิกาบิ๊กเบนก็เป็นส่วนหนึ่งของอาคารรัฐสภานี่แหละค่ะ Big Ben เป็นหอนาฬิกาที่มีหน้าปัดใหญ่ที่สุดในโลกจะตีระฆังทุกชั่วโมงค่ะ เดิมหอนาฬิกานี้มีชื่อว่า หอนาฬิกาเวสต์มินสเตอร์แต่ภายหลังก็เรียกกันติดปากว่า Big Ben ไป ส่วนที่มาของชื่อนี้มีหลายแนวเลยค่ะแนวนึงเค้าเล่ากันว่ามาจากชื่อ “เบนจามิน ฮอลล์”หัวหน้าผู้คุมงานติดตั้งระฆัง

มุมยอดฮิต




แต่หลังจากมาถ่ายรูปตอนกลางคืนที่นี่แล้ว พบว่าสวยกว่าตอนกลางวันอีกนะคะ แล้วจะอัพรูปให้ดูใน blog ถัดไปค่า

LONDON EYE

จาก Big Ben และ The Parliament เดินข้ามสะพานเวสต์มินสเตอร์มาก็ถึง London Eye ระหว่างเดินข้ามสะพานมาอย่าลืมถ่ายรูปสวยๆจากมุมกว้างเป็นที่ระลึกนะคะ(ขอเตือนว่าระวังกระเป๋ากันหน่อยนะคะ แถวนี้มีพวกล้วงกระเป๋าเยอะ ยิ่งเราดูเหมือนนักท่องเที่ยวแล้วละก็ เป้าหมายหลักพวกเค้าเลย) London Eye ถือว่าเป็น ใน Landmarkหลักของลอนดอนเลย ไหนๆมาเป็นครั้งแรกแล้วก็ขอขึ้น London Eye กันซักที ราคาค่าขึ้น 19.95 ปอนด์ค่ะ กระเช้า (หรือว่าเรียกว่าเคปซูลยักษ์ดี55) จุคนได้ประมาณ 20 คนเลยค่ะ แถมมีม้านั่งตรงกลางด้วยรวมเวลาซื้อตั๋วต่อคิวก็ไม่ได้นานจนเกินไปนะคะ พอรับได้ค่ะ ขึ้นไปข้างบนวิวสวยค่ะแต่จะติดก็ตรงอากาศวันนั้นค่อนข้างแย่ ฝนตกตลอด ฟ้ามัวมั้งวันเลยค่ะวิวเลยไม่ค่อยชัดไม่ค่อยสวยเท่าที่ควร

Great  view from the top of London Eye


TRAFALGAR SQUARE

Trafalgar Square เป็นแหล่งนัดพบสำคัญของชาวลอนดอนค่ะ สามารถนั่ง Tubeมาได้ง่ายๆลงที่สถานี Charing Cross แล้วเดินมานิดเดียวค่ะ จัตุรัสแห่งนี้ใหญ่มาก สร้างไว้เพื่อระลึกถึงเหตุการณ์ที่พลเรือเอกลอร์ดเนลสันถูกยิงเสียชีวิตเมื่อทำยุทธนาวีชนะกองทัพฝรั่งเศสและสเปนที่แหลมทราฟัลการ์ทางตอนใต้ของสเปนในปีค..1805 บริเวณนี้จะมีสระน้ำและน้ำพุใหญ่เชียวค่ะตรงกลางจัตุรัสมีเสาหินเนลสันและสิงโตใหญ่ 4 ตัวตั้งอยู่รอบเสาหินค่ะ


NATIONAL GALLERY

หอศิลป์นี้ใช้แสดงผลงานศิลปะของศิลปินระดับโลกมากมายในช่วงกลางศตวรรษที่13 ถึงศตวรรษที่ 19 ผลงานดังๆที่จัดแสดงที่นี่ ได้แก่ Sunflowers ของ Vincentvan Gogh, Self Portrait at the Age of 34 ของ Rembrandt, Bathers at LaGrenouillere ของ Claude Monet และอื่นๆอีกมากมาย

หน้า National Gallery ก็มีการแสดง Street  Art นะคะ


COVENT GARDEN

เป็นแหล่ง Hip ในลอนดอนที่เราชอบมากเลยแหละ มาได้หลายๆครั้งเลยที่นี่เคยเป็นตลาดขายผักผลไม้เก่าแก่มาก่อนแต่ปัจจุบันเป็นที่ตั้งของร้านค้าแบรนด์ต่างๆทั้งหลาย ทั้งรองเท้า เสื้อผ้ากระเป๋า เครื่องประดับ เดินกันเพลินเลยค่ะ ยังมีร้านอาหารร้านชามากมายให้แวะพักอีกด้วย ใครหาแบรนด์อะไรกลับไปฝากเพื่อนและครอบครัวที่บ้านมาหาดูที่นี่ก็ได้ค่ะ นอกจากนี้ที่ Covent Garden ยังเป็นแหล่งรวมศิลปะตอนเย็นๆจะมีศิลปินเปิดหมวกมาทำโชว์เก๋ๆให้เราได้ดูกัน


ร้านขายดอกไม้สวยๆ


Street Shows




PLAN 2Smiley

TOWER OF LONDON

อีกหนึ่งสถานที่เที่ยวที่ไม่ควรพลาดค่ะ Tower of London ทำหน้าที่มามากมายตั้งแต่เป็นพระราชวัง ป้อมปราการ โรงกษาปณ์ พิพิธภัณฑ์สวนสัตว์และยังเคยเป็นคุกอีกด้วย แต่ในปัจจุบันได้เปลี่ยนสภาพกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเปิดให้ผู้คนเข้าชมประวัติศาสตร์อันยาวนานนี้ค่าเข้าชมก็อาจจะแพงซักนิดค่ะ ราคา 21.45 ปอนด์

การท่องเที่ยวภายในหอคอยเราจะเดินไปตามทางดูห้องสำคัญต่างๆ มีปืนขึ้นบันไดเวียนบ้างลัดเลาะขอบกำแพงไปอีกหอคอย อีกตึกนึงบ้างนอกจากนี้เรายังได้มีโอกาสยลโฉมมงกุฏของพระราชินีคฑาประจำราชวงศ์และเครื่องประดับอีกมากมาย สวยมากเลยค่ะ เพชร ทับทิมมรกตเม็ดใหญ่มาก ทิ่มตาเลย Smiley เราใช้เวลาเดินที่นี่นานมาก ประมาณเกือบ 3 ชั่วโมงอาจจะเป็นเพราะชอบอ่านนู้นอ่านนี้ พอเดินครบหมดแล้ว ริมทางเดินของหอคอยฝั่งทางออกเราจะได้เห็น Tower Bridge ในมุมที่สวยมากเลยค่ะ กด shutter กันรัวๆ

ด้านในของ Tower of London


อีกมุมหนึ่งจากหน้าต่างหอคอยค่ะ


The White Tower





HARRODS

ถึงแว้วว ห้างดังที่ห้ามพลาด ขึ้น Tube Knightsbridge ปุ๊ป เจอปั๊ปเข้าไปก็ตื่นตาตื่นใจจ้า ห้างอะไรใหญ่โตแล้วยังจะแบ่งเป็นห้องๆอีกก็มีหลงทางกันบ้างค่ะ หาห้องน้ำยังไม่ค่อยเจอเลย 55 ส่วนของที่ขายก็ราคาแพงหูฉี่ซื้อไม่ลงเลยคะ เราก็ได้แต่เดินดูของสวยๆงามๆและการตกแต่งห้างที่สวยงามหรูหราค่ะ..สำหรับสาวกนักชอปตัวยงเดือนมกราคม และ กรกฎาคมจะเป็นช่วง Harrods Annual Sale นะคะถ้าจะชอปของลดราคาเชิญเลยจ้า เวลาเปิดปิดของที่นี่คือ10.00-20.00 วันจันทร์ถึงเสาร์ ส่วนวันอาทิตย์เปิด 11.30-18.00 นะคะ


PICADILLY CIRCUS

วงเวียนเล็กๆแห่งนี้คราคร่ำไปด้วยผู้คนมากมายค่ะเป็นแหล่งนัดพบของหนุ่มสาววัยรุ่นใจกลางวงเวียนมีน้ำพุเล็กๆและรูปปั้นสำริดของเทพอีรอส เป็น God of Love ของกรีก เหมือน “Cupid” ที่เป็น God of love ของโรมันนั่นแหละค่ะบริเวณนี้ยังเป็นที่ตั้งของ Ripley’s Believe It or Not Museum ใครชอบก็แวะเข้าไปเที่ยวกันได้ค่ะส่วนใครสนใจร้านขายเครื่องกีฬาราคาถูก แนะนำร้าน "Lillywhites" ค่ะอยู่ใกล้ๆกับวงเวียนเลย หาไม่ยาก



Picadilly Circus นี่อยู่ใกล้กับย่าน SOHO และ Leicester Square เดินแปปเดียวถึงค่ะ ใครหิวก็ไปฝากท้องไว้ได้ที่ร้านอาหารจีนแถวๆนี้ แต่รายละเอียดของ 2 ย่านนี้ขออุปไว้อัพใน Blog ถัดๆไปนะคะ

ขอจบไว้แค่นี้ก่อนนะคะสำหรับ 2 แพลนแรก อีก 2 อาทิตย์จะมาอัพแพลนที่ 3 และ 4 นะจ๊ะ ฝากติดตามกันด้วยนะคะ..หากใครจะไปอังกฤษเร็วๆนี้แล้ว รอเราอัพไม่ไหว มีคำถามอะไรก็มาคอมเมนต์ไว้ได้ค่าา Smiley

all UK blogs  Smiley

1. เรื่องน่ารู้ก่อนเที่ยวอังกฤษ (Thingsyou need to know before going to the UK) here

2. Warwick & Stratford upon Avon (ตามรอยShakespeare) here

3. Oxford here

4. Liverpool here

5. London part 1 part 2 part 3

6. Cardiff here

7. Bourton-on-the-Water here

8. Edinburgh here




Create Date : 20 เมษายน 2557
Last Update : 10 ธันวาคม 2558 14:47:11 น.
Counter : 15387 Pageviews.

3 comments
  
เห็นรูปหล่อสิงโตใหญ่โตมโหฬาร หวนคิดถึงบ้านเรา ไม่รู้ว่ามหาเศรษฐีคนชั้นสูงในเมืองไทยเราท่ีมีเพาเวอร์พอจะจ้างช่างปั้นหล่อรูปช้างม้าวัวควาย ในบ้านเราไว้เป็นอนุสรณ์ไว้ตามท่ีต่าง ๆ บ้างไหมหนอ เพราะว่าสัตว์เหล่านั้นเคยมีบุญคุณกับคนไทยมาเหลือคณานับ โดยเฉพาะควาย ท่ีปัจจุบันนี้ หาดูได้ไม้ง่ายนัก ว่ากันว่าอีก ๑๐ ปีไปหน้า เด็กไทยเวลาจะศึกษาเรื่องควายเป็น ๆ จะต้องไปศึกษาท่ีประเทศสิงคโปร์ เพราะตอนนี้ใรสวนสัตว์ของเขาเล้ียงควายไว้เป็นฝูงใหญ่แล้ว !
โดย: โลวหยั่น (สมาชิกหมายเลข 726927 ) วันที่: 20 เมษายน 2557 เวลา:20:58:17 น.
  
บริการรถตู้พาเที่ยวทั่วประเทศอังกฤษ ,สก็อตแลนด์ ,เวลส์ ,ไอแลนด์เหนือ รวมถึง บริการรับส่งสนามบิน เรายินดีให้บริการทุกท่าน สนใจติดต่อสอบถาม😃Line ID : thailandtraveluk
โดย: Thailandtraveluk IP: 188.165.201.164 วันที่: 18 มิถุนายน 2560 เวลา:19:38:23 น.
  
โอ้ย ทำไมบล็อกJellyjouneyมันยอดเยี่ยมอย่างนี้ครับ เนื้อหาละเอียดมาก รูปก็สวย!!!!!
โดย: ไม่อยากจะอวย IP: 188.165.201.164 วันที่: 9 พฤศจิกายน 2560 เวลา:11:48:36 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

jellyjourney
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 58 คน [?]



สวัสดีค่ะ ชื่อ เยลลี่ นะคะ blog นี้สร้างขึ้นเพื่อเอาไว้แบ่งปันข้อมูลและประสบการณ์ในการไปเที่ยวของเรากับเพื่อนๆทุกคน เข้ามาเยี่ยมชม มาคุยกัน หรือมีอะไรติชมแนะนำกันได้นะคะ

Facebook page: Jellyjourney

follow my Instragram @JELLYJOURNEY for extraordinary pics in my ordinary life
+++ Please stay tuned for "Norway" trip +++