การเดินทางในเซียงไฮ้

สามารถใช้บริการรถไฟฟ้าหรือใช้บริการแทกซี่ก็สะดวกสบาย สิ่งที่ชอบมากอย่างหนึ่งในเมืองจีนนี่คือค่าเดินทาง ไม่แพงเลย รู้สึกว่าอะไรก็ตามที่เป็นบริการสาธารณะนี่รัฐบาลจีนเค้าทุ่มให้คนจีนมาก ต่างด้าวอย่างเราก็ได้รับอานิสงส์ไปด้วย อิอิ

รถไฟฟ้าที่เซียงไฮ้มีทั้งหมด 11 สายด้วยกันค่าเดินทางจะคิดตามระยะทาง เริ่มต้นที่ 3 หยวน ถ้าหากซื้อ Smart card เรียบร้อยแล้ว ก็แค่แตะบัตรที่เครื่องเดินทางได้สะดวกสบายสุดๆไปเล้ย เรามาดูเส้นทางรถไฟฟ้าของเซียงไฮ้กัน

การใช้แทกซี่ก็เป็นอีกวิธีที่เป็นที่นิยมค่ะ เพราะราคาไม่ได้แพงเวอร์ มิเตอร์เริ่มที่ 13 หยวน สำหรับ 3 กิโลเมตรแรก เพียงแต่ต้องพอพูดภาษาจีนได้บ้างเพื่อบอกสถานที่ที่จะไปกับคนขับ แต่ถ้าไปแหล่งท่องเที่ยวหลักๆก็คงไม่มีปัญหา แทกซี่ที่เซียงไฮ้ก็ใช้วิธีโบกเหมือนเมืองไทยเลยค่ะ ว่างก็ขึ้นไปเลย เวลาจ่ายเงินจะใช้เงินสด หรือถ้าใครมี smart card ก็ติ๊ดเพื่อตัดเงินได้เลย

ทริปนี้ขออนุญาตรีวิวแบบคร่าวๆนะคะ พร้อมทั้งเอารูปสวยๆมาฝากทุกคนค่ะ ลองไปชมกันเลย  !! 

Day 1 : ขึ้น City Sightseeing Bus ชมเมืองแบบ intensive

หลังๆมานี้เราแทบจะไม่ได้ขึ้นรถแบบนี้เลยเวลาไปต่างประเทศ แต่พอมาขึ้นที่นี่แล้ว อุ๊ย มันก็ดีเหมือนกันนะเนี่ย!! เนื่องจากเป็นวันแรกยังไม่ค่อยรู้เรื่องรู้ราวเท่าไหร่ ก็เลยมาใช้บริการรถนำเที่ยวดูค่ะ รถนำเที่ยวจะมีทั้งหมด 2 สายด้วยกัน สายที่ 1 จะวิ่งอยู่ในเมืองเก่า หรือคือฝั่ง Puxi ส่วนสาย 2 นี้จะวิ่งจากเมืองเก่าเข้าไปยังเขตเมืองใหม่ ฝั่ง Pudong ที่มีตึกสูงๆเยอะๆ

ตั๋วรถราคา 40 หยวน เราสามารถใช้บริการรถได้ทั้ง 2 สาย วิธีการเดินทาง คือ รถบัสจะเดินทางไปตามเส้นทางที่ระบุไว้ โดยมีจุดให้ขึ้นลงตามสถานที่สำคัญต่างๆ หากจุดไหนเราไม่อยากลงเราก็นั่งต่อไป จุดไหนอยากลงก็ลงไปเที่ยว เที่ยวเสร็จก็กลับมารอที่จุดเดิมเพื่อขึ้นรถไปต่อค่ะ อุปกรณ์เสริมที่จะได้จากรถนำเที่ยว คือ หูฟัง เอาไว้เสียบตรงที่นั่งเพื่อฟังคำบรรยาย เลือกภาษาได้ด้วย สบายเลยเปิดฟังเป็นภาษาอังกฤษ

บรรยากาศบนรถ

ด้านล่างนี้เป็นรูปที่ถ่ายจากบนรถค่ะ ได้มุมแปลกๆเยอะเลย

 ตากผ้ากันจริงจังมาก

Yuyuan Garden

ถึงแล้ว destination ของเรา Yu Garden หรือ Yuyuan Garden เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของเซียงไฮ้ Yu Garden ตั้งอยู่ในย่านเมืองเก่า ไม่ห่างมากจาก The Bund สถานที่นี้มีบริเวณค่อนข้างใหญ่ ภายในประกอบด้วย Yu Garden และ City God Temple เรามาเริ่มจากการเที่ยววัดกันก่อนดีกว่า

เดินเข้าไปปุ๊ปตกตะลึงกับร้านค้าเล็กหน่อย ปากทางเข้านี่มีทั้งตึก มีทั้งซุ้มขายอาหาร คนก็เยอะมากเลยค่ะ เดินทะลุเข้าไปข้างในเรื่อยๆถึงจะมีป้ายบอกทาง  City God Temple เดิมชื่อ Jinshan God Temple และได้เปลี่ยนมาเป็นชื่อนี้ในปี 1403 ในยุคราชวงศ์หมิง วัดแห่งนี้ผ่านช่วงเวลาที่เจริญรุ่งเรืองและช่วงเวลาที่มีการปฏิวัติวัฒนธรรม (cultural revolution) ในยุคเหมาเจ๋อตุง จนถึงกับต้องปิดวัดมาแล้ว กว่าจะมาเปิดและบูรณะเป็นวัดที่เราเห็นอยู่นี้ก็ล่วงเลยมาจนถึงปี 1994

แวะหาอะไรรองท้องซักหน่อย

City God คือ God องค์ไหนบ้าง?

ตามข้อมูลใน Wikipedia ประกอบด้วยเทพเจ้า 3 องค์ด้วยกัน ได้แก่ Huo Guang (?- 68 BC), Qin Yubo (1295–1373) และ Chen Huacheng(1776–1842) ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นบุคคลสำคัญที่ทำคุณงามความดีในแต่ละยุค

ด้านในมีผู้คนมาไหว้พระเยอะพอสมควรค่ะ มีรูปปั้นเทพเจ้าต่างๆ ต้องเสียค่าเข้าชมด้านในเพิ่มคนละ 10 หยวนนะจ๊ะ เปิดตั้งแต่ 8.30 – 16.30

ธูปหลากสี กว่าจะได้รูปนี้เกือบสำลักควัน

ไหว้พระเสร็จเรียบร้อยเราก็มาเดินเล่นสวนกัน

Yu Garden สร้างขึ้นในสมัยราชวงศ์หมิง ในปี 1577 เดิม Yu Garden เป็นสวนส่วนบุคคล โดยเป็นสวนของตระกูล Pan ซึ่ง Pan Yundan สร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นที่พักผ่อนหย่อนใจของพ่อแม่ของเขานั่นเอง Yu ในภาษาจีนแปลว่า Pleasing and satisfying ความหมายดีมั๊ยคะ? ดังนั้นผู้ใดมาเยือนสวนนี้ก็จะได้รับความอิ่มเอมใจกลับบ้านไปด้วย Yu Garden มีพื้นที่ 20,000 ตารางเมตร ภายในประกอบไปด้วย Pavilions, halls, บ่อน้ำขนาดใหญ่, สะพานสวยๆมากมายค่ะ แค่ได้เดินเล่นไปรอบๆ ชมดอกไม้ ชมปลาในบ่อน้ำ ชมศาลาแบบจีนในสมัยโบราณ ก็ฟินแล้วค่ะ ช่างเป็นภาพที่น่าประทับใจจริงๆ

ดอกไม้สวยๆที่สวน

ออกมาจากโซนสวนด้านในแล้ว ด้านนอกของ Yu Garden ก็เป็นเหมือนกับ complex ย่อมๆ มีศาลาสูงที่เปิดเป็นร้านอาหารและร้านขายของ มีร้าน Starbucks แบบตึกจีนด้วยนะ น่ารักดีค่ะ ที่นี่มีร้านเสี่ยวหลงเปาชื่อดัง Nanxiang Mantou Dian อยู่ที่ชั้น 1 เดินไปเดินมาก็เจอ ร้านที่มีคนต่อคิวเยอะๆนั่นแหละค่ะ

การเดินทางมา Yu Garden และ City God Temple สามารถนั่งรถไฟฟ้าสาย 10 ลงสถานี Yuyuan Garden ออกทางออก 1 แล้วเดินต่อมาอีกนิดหน่อยค่ะ หรือถ้าใครมา City Sightseeing Bus ก็ลงป้าย Yuyuan Garden ถึงปากทางเข้าเลย

ค่าเข้าชม 40 หยวน (1 เมษายน– 30 มิถุนายน; 1 กันยายน – 30 พฤศจิกายน) และ 30 หยวน (1 กรกฎาคม – 31 สิงหาคม; 1 ธันวาคม – 31 มีนาคม) เปิดตั้งแต่ 8.30-16.45

ออกจากสวนแล้วก็ขึ้นรถนำเที่ยวต่อ คราวนี้อยากจะข้ามฝั่งแม่น้ำไปดูตึกระฟ้าในเขต Pudong บ้าง Pudong แปลตรงๆหมายถึง East Bank เพราะเขต Pudong นี้อยู่ด้านตะวันออกของแม่น้ำ Huangpu นั่นเอง เราจึงต้องนั่งรถสาย 1 ไปต่อที่ Shanghai museum เพิ่อไปขึ้นรถ สาย 2 ค่ะ รถสาย 2 นี้จะขับข้ามสะพานไปอีกด้านของแม่น้ำ ด้านนี้จะมีตึกสูงๆที่สำคัญได้แก่ Oriental Pearl Tower, Jin Mao Tower, Shanghai World Financial Center, Shanghai Tower ด้านในของตึกเหล่านี้ก็เป็น Shopping complex ร้านอาหาร อาคารสำนักงาน โรงแรม และบางตึกก็มี observatory deck สามารถขึ้นไปชมวิวเซียงไฮ้จากมุมสูง (มาก) ให้ใจหวิวๆกันได้..น่าเสียดายที่ทริปนี้เราไม่ได้ลงไปเดิน ได้แต่เก็บภาพจากบนรถ แต่ก็ทำให้ได้มุมมองแปลกๆไม่ซ้ำใครนะคะ

ตกเย็นแล้วมีนัดทานข้าววันเกิดที่ร้านอาหารอิตาเลียนแถว the Bun ค่ะ

ภาพถ่ายจากบนรถตอนกลางวัน

ตอนเย็นเริ่มเปิดไฟค่ะ

The Bund

ใครไม่ได้มา The bund อาจจะเรียกได้ว่ามาไม่ถึงเซียงไฮ้เลยนะ The Bund เป็นบริเวณที่ครอบคุลมตึกตลอดช่วงถนน Zhongshan และเวิ้งติดแม่น้ำ ส่วนที่ติดแม่น้ำเค้าทำทางเดินโล่งๆให้เดินเล่นชมวิว Skyscrapers จากฝั่ง Pudong ที่จะเปิดไฟอย่างสวยงามค่ะ ส่วนที่ติดถนนก็มีตึกที่มีสถาปัตยกรรมงดงามเรียงกันทั้งหมด 52 ตึก ตึกบริเวณนี้ได้รับอิทธิพลมาจากยุโรป มีหลายสไตล์เลย ทั้ง Gothic, Renaissance, Baroque, neo-classical, และ Art Deco เป็นต้น แต่ละตึกนี่ไม่ธรรมดานะจ๊ะ เป็นธนาคารมั้ง สำนักงานของบริษัทดังๆมั้ง สถานที่ราชการมั้ง

ร้านอาหารที่เราทานชื่อ Mercato อยู่ที่ชั้น 6 ของตึก “Three on the Bund” ค่ะ อาหารอร่อยใช้ได้เลยค่ะขอแนะนำพิซซ่าเห็ดทรัฟเฟิล อร่อยมากๆ สามารถชมวิว Skyscrapers ได้จากร้านนี้ด้วยน้า โรแมนติกมากๆเลย

Birthday Surprised Cake forJellyjourney

ทานข้าวเสร็จเรียบร้อยก็มาเดินเล่นที่ the Bund ค่ะวันนั้นหนาวเหมือนกัน ลมแรงด้วย

บอกเลยว่ามาที่นี่รู้สึกว่าเมืองมันช่างสว่างสไวมาก ทุกตึกพร้อมใจกันเปิดไฟ ทำให้ทัศนียภาพน่าชมมากค่ะ โดยส่วนตัวเราชอบบรรยากาศที่ the Bund มากกว่าที่ฮ่องกงอีกนะ นอกจากฝั่งที่ติดแม่น้ำแล้ว ถ่ายรูปตึกในบริเวณนี้ก็สวยดีนะ

การเดินทางมา the bund: ที่นี่ไม่ได้มีรถไฟฟ้าสถานีไหนที่มาลงที่ the bund ค่ะ แต่สถานีที่ใกล้ที่สุดเห็นจะเป็น East Nanjing Road บนสาย 2 และเดินต่ออีกซัก 5-10 นาที

กลับที่พักไปพักผ่อนเตรียมตัวเดินทางไปหังโจวพรุ่งนี้ค่ะ รอติดตามชมด้วยนะคะ

Shanghai Trip Part 2/2 here