สวัสดีปีใหม่ จ๊ะที่รัก....

ตี 5 ครึ่งเช้าวันขึ้นปีใหม่ เสียงผู้คนภายนอกเต็นท์ส่งเสียงดังจนตกใจตื่น”นี่เราหลับไปโดยไม่รู้ตัวเลยเหรอนี้ลืมอาบน้ำเลย” รีบลุกขึ้นวิ่งตามรถสองแถวที่จอดรถอยู่แล้ว ไปจุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้น เราใช้เส้นทางอุ้มผาง-บ้านปะละทะ ระยะทางประมาณ 10 กิโลเมตร มีทางขึ้นดอยเป็นถนนลูกรัง กว่าเราจะถึงยอดดอยก็สายแล้ว ดอยแห่งนี้จึงเต็มไปด้วยหัวคน จึงเป็นที่มาของชื่อดอย… ดอยหัว(หัวคนเต็มไป)….หมด ดอยหัวหมดเป็นภูเขาที่มีแนวยาวหลายลูกติดต่อกัน ไม่มีไม้ชนิดใหญ่ขึ้นเลย มีแต่ต้นหญ้าและไม้เตี้ยๆ เช่น ปรง ขึ้นอยู่ทั่วไปสลับกับโขดหินเป็นระยะๆ หากมองจากด้านล่างจะคล้ายพรมสีเขียว ...

นักท่องเที่ยวหลายคนเริ่มผิดหวังที่ไม่เห็นดวงอาทิตย์ขึ้นเริ่มทยอยกลับ โอกาสเริ่มมีสำหรับพวกที่มาสาย พวกเราสามารถแทรกตัวขึ้นดอยแห่งนี้ได้ แต่กว่าจะขึ้นไปถึงบนยอดก็เล่นเอาเหนื่อยพอสมควร สามารถเห็นแนวเทือกเขาถนนธงชัย อุทยานแห่งชาติแม่วงก์ และทะเลหมอกขึ้นอยู่โดยรอบดอย การรอคอยก็ไม่ผิดหวัง ดังคำที่ว่า Everything comes to him who waits แสงอาทิตย์ยามเช้าสีทองตัดสายหมอกสวยงามมาก ความสว่างเริ่มมาเยือนทำให้ได้เห็นภาพมีคู่รักหลายคู่นั่งเคลียคลอชมธรรมชาติยามเช้า จนทำให้เราต้องสูดหายใจเข้าปอดลึกๆ เพราะทนไม่ไหวในความคิดถึง...

Everything comes to him who waits...

พบเพื่อลาจากทีลอซู...

สวัสดีที่รัก….วันสุดท้ายแล้วนะจ๊ะ....

ทีลอซู วันนี้เปลี่ยนแปลงไปมาก เมื่อก่อน ที่รักจำได้ไหมว่า เดิมทางเข้าเป็นพื้นดินธรรมชาติ ทางเดิน เลี้ยวไป คดมา ผ่านขอนไม้ ลำห้วยเล็กๆ จำได้ว่า กว่าจะเดินถึงน้ำตกเล่นเอาเหงื่อตกไปหลายเม็ดเลย มีความรู้สึกว่าทางเดินเมื่อก่อนนั้นทำไมไกลเหลือเกิน แต่ปัจจุบันทางเดินเป็นทางเดินปูน ทำให้ระยะทางเพียง 1.8 กิโลเมตรดูสั้นไปถนัดใจ ประหยัดเวลาในการเดินทางกว่าเมื่อก่อนมาก การทำทางเดินแบบนี้ นักอนุรักษ์นิยมอาจไม่ชอบ แต่เราคิดว่าน่าจะดีอย่างน้อยก็เป็นเส้นทางบังคับให้นักท่องเที่ยวไม่ออกนอกเส้นทางไปรบกวนธรรมชาติ ระหว่างทางผ่านกอไผ่ตรง รู้สึกว่าจะใหญ่และสมบูรณ์กว่าทุกกอที่ผ่านมา เห็นกอไผ่ที่นี้นึกถึงข้าวหลามเลย น่าจะได้กระบอกใหญ่นะ...

ที่รักของเธอ...

ทีลอซู วันนี้เปลี่ยนแปลงไปมาก เมื่อก่อน ที่รักจำได้ไหมว่า เดิมทางเข้าเป็นพื้นดินธรรมชาติ ทางเดิน เลี้ยวไป คดมา ผ่านขอนไม้ ลำห้วยเล็กๆ จำได้ว่า กว่าจะเดินถึงน้ำตกเล่นเอาเหงื่อตกไปหลายเม็ดเลย มีความรู้สึกว่าทางเดินเมื่อก่อนนั้นทำไมไกลเหลือเกิน แต่ปัจจุบันทางเดินเป็นทางเดินปูน ทำให้ระยะทางเพียง 1.8 กิโลเมตรดูสั้นไปถนัดใจ ประหยัดเวลาในการเดินทางกว่าเมื่อก่อนมาก การทำทางเดินแบบนี้ นักอนุรักษ์นิยมอาจไม่ชอบ แต่เราคิดว่าน่าจะดีอย่างน้อยก็เป็นเส้นทางบังคับให้นักท่องเที่ยวไม่ออกนอกเส้นทางไปรบกวนธรรมชาติ ระหว่างทางผ่านกอไผ่ตรง รู้สึกว่าจะใหญ่และสมบูรณ์กว่าทุกกอที่ผ่านมา เห็นกอไผ่ที่นี้นึกถึงข้าวหลามเลย น่าจะได้กระบอกใหญ่นะ...

ที่รักของเธอ...

ถามว่าตอนนี้เหงาไหม …..ไม่เหงานะ ทั้งที่ตอนแรกคิดว่าจะเหงา.......

เรามีสายน้ำเป็นเพื่อนคุย.....

เรามีแสงแดดปลอบโยนให้คลายเหงา.......

เรามีความรักอบอุ่นอยู่มากมาย....
แต่ในใจลึกๆคิดถึงเธอ.....

ปล. พรุ่งนี้เจอกันแล้วนะ ของฝากเป็นน้ำตกทีลอซูใส่ถุงอย่างดีมาฝาก เบี้ยเลี้ยงเอาไปทำบุญช่วยทุนการศึกษาเด็กที่อุ้มผางหมดแล้วจ๊ะ….ก็เขารักเด็ก...

เก็บตกแผนการเที่ยว...

การเดินทางจากกรุงเทพฯ ไปทีลอซู สามารถทำได้โดยการใช้ทางหลวงหมายเลข 1 พหลโยธิน ผ่านนครสวรรค์ ตัดตรงไปกำแพงเพชร แล้วเข้าสู่จังหวัดตาก แล้วใช้ทางหลวงหมายเลข 105 ตาก-แม่สอด ก่อนมาใช้ทางหลวงหมายเลข 1090 ไปอำเภออุ้มผาง 48 กม.แรกจะเป็นทางราบ แต่หลังจากนั้นให้ขับรถด้วยความระมัดระวัง ทางลัดเลาะไปตามเขาสูง ทิวทัศน์สวยงาม สองข้างทางเห็นภูเขาสุดลูกหูลูกตา ระยะทางทั้งสิ้น 164 กม. ใช้เวลาประมาณ 3-4 ชั่วโมง หากนำรถมาเที่ยวเองควรตรวจสภาพรถและเตรียมอุปกรณ์มาให้พร้อม ไม่ควรใช้เส้นทางขณะฝนตกหนัก...

นักท่องเที่ยวที่มาทีลอซูต้องทำหนังสือขออนุญาติเข้าเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าอุ้มผาง ระยะทางจากปากทางแยกบ้านแม่กลองใหม่ถึงที่ทำการเขตฯ ประมาณ 41 กม.ใช้เวลาเดินทาง 4 ชม. ควรใช้รถขับเคลื่อนสีล้อ แต่ถ้าอยากสะดวกให้แนะนำซื้อทัวร์ เพราะท่านจะสะดวกสะบายทั้งการเดินทางและที่พัก สามารถหาซื้อทัวร์ได้ที่กรุงเทพ หรือที่อุ้มผาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเป็นช่วงฤดูฝนซึ่งเป็นช่วงนี้น้ำตกมีความสวยที่สุดแนะนำให้ซื้อทัวร์จะสะดวกที่สุด เพราะฤดูนี้ต้องเดินทางด้วยเรือยางและเดินป่าอีกประมาณ 12 กม.

หมายเหตุ จดหมายฉบับนี้ เขียนถึงใครคนหนึ่งนานแล้วน่าจะ 2 ปีกว่าแล้ว ที่เขาคนนั้นโทรไปก็บอกว่ายุ่ง โทรไปก็บอกว่าไม่ว่าง โทรไปก็ไม่รับสาย ทำให้เรารู้ว่า

"ถ้าเรารักใครสักคน อย่ารักเขาจนหมดหัวใจ สิ่งที่เราทำได้ คือ รักเขาต่อไป ไม่ว่าจะเจ็บปวดรวดร้าวเพียงไรก็ยอม คนบางคนเกิดมาให้เรารัก แต่เขาไม่ได้เกิดมาเพื่อที่จะรักเรา ทั้งรู้ก็รัก" คำพูด ชรัส เฟื่องอารมณ์