|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 |
6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 |
13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 |
20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 |
27 | 28 | 29 | 30 | |
|
|
|
|
|
|
|
มหากาพย์แห่งเหมาซาน - ผจญภูติผีวิญญาณและสุสาน
เรื่อง มหากาพย์แห่งเหมาซาน แต่งโดย ต้าลี่จินกังจ่าง (Da Li Jin Gang Zhang) แปลโดย หลินหยาง
--- MAJOR SPOILER ALERT ---
บท 'แขกชน' เริ่มเรื่องในช่วงปฏิวัติวัฒนธรรม ครูโรงเรียนเทคนิค-อาชีวะ จางกั๋วจง ที่เป็นเลขานุการคณะกรรมการปฏิวัติวัฒนธรรมในสถานศึกษาได้รับงานให้เขียนบทความวิพากษ์บันทึกเหมาซานฉบับปลายสมัยราชวงศ์ชิงที่ยึดมาก แต่จางกั๋วจงมองไม่เห็นแนวทางในการวิพากษ์ ปู่เลยแนะนำให้ลองทำตามเพื่อพิสูจน์ ผลคือจางกั๋วจงได้ลองช่วย หลี่ต้าหมิง ชาวนาที่ถูกแขกชน (วิญญาณที่เข้าสิงร่าง) ในหมู่บ้านห่างไกล ถึงไม่สำเร็จเต็มร้อยแต่ก็ทำให้จางกั๋วจงสนใจมาก
เมื่อจางกั๋วจงต้องออกสู่ชนบทเลยเลือกมาที่หมู่บ้านนี้อีกครั้ง นอกจากจะได้แต่งงานกับ หลี่เอ้อร์ยา ลูกสาวของหลี่ต้าหมิง (อีกนานได้ลูกชายชื่อ จางอี้เฉิง) ยังได้เป็นศิษย์ของนักพรตหม่าเจินเหรินหรือ หม่าฉุนอี ประมุขนิกายเฉินเจินรุ่นที่หนึ่งร้อยแปดและเหมาซานรุ่นที่เก้าร้อยห้าสิบสอง หม่าเจินเหรินเคยอยู่อารามทงเทียนก่อนจะถูกไล่เมื่อเกิดปฏิวัติวัฒนธรรม ในอดีตสำนักเหมาซานมีศิษย์ ลั่วโซวหยาง ที่เข้าสู่ด้านมืดไปตั้งนิกายเสียง (สยบ)
แถวหมู่บ้านมีสุสานนิกายเสียงตามผังสามชั่วร้ายที่โยงใยกัน เช่น สุสานผังเมฆดำทำให้ชาวบ้านเกือบตายยกแผง, ผังอัคคีแดงที่จักรพรรดิ หย่งเล่อ ฝังขุนนาง จ้าวเล่อ งานหนึ่งทำให้หม่าเจินเหรินเสียชีวิต ก่อนตายตั้งให้จางกั๋วจงเป็นทายาทสืบทอดตำแหน่งเพราะศิษย์อีกคน หลิวจื่อเวย ไม่เหมาะสม
บท 'ถ้ำมหาสมบัติแห่งปาซัน' หลังจางกั๋วจงย้ายเข้าเมืองเทียนจิน ก็มีคนมาขอให้ช่วยเรื่องหยกเฮี้ยน ขายไปแล้วยังกลับมาได้ สุดท้ายจางกั๋วจงร่วมมือกับหลิวจื่อเวยและผู้เชี่ยวชาญโบราณคดี ฉินเกอ เข้าสุสานเรื่องหยกจนกลายเป็นเรื่องติดพันกับราชลัญจกรสืบสานแผ่นดินหรือหยกเหอสื้อปี้ (ชิ้นนี้ฮิตจริงๆ ในนิยายจีน)
'วิญญาณร้ายแห่งเขาอู้หลิง' ที่ทั้งสามไปฮ่องกงเพื่อช่วยมหาเศรษฐีที่ถูกทายาทนิกายสยบ จ้าวคุนเฉิง ทรยศและรังควาน ได้ค่าตอยฃบแทนมหาศาลและได้เบาะแสชี้ไปที่สุสานของ จ้าวหมิงชวน ที่เขาอู้หลิงในเหอเป่ยซึ่งพ่อของจ้าวคุนเฉิงเสียชีวิต (สงสัยหน่อยว่าเมื่อพ่อตายตั้งแต่จ้าวคุนเฉิงยังจำความไม่ได้ แล้วใครเป็นคนสอนวิชาประจำตระกูลให้) จางกั๋วจง หลิวจื่อเวย และฉินเกอก็ได้ความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญในหน่วยสำรวจรังวัดแห่งสถาบันวิทยาศาสตร์จีน ซ่งควน ผู้มีบรรพบุรุษเป็นนักวิทยาศาสตร์สมัยราชวงศ์หมิง ถึงเอาลัญจกรออกมาไม่ได้ แต่จางกั๋วจงก็ได้ดาบจวี้เชวียที่เป็นผลงานของ โอวเหยียจื่อ
'คำสาปแห่งไคโร' จางกั๋วจงบูรณะอารามทงเทียนขึ้นมาใหม่ เอาเงินมาลงทุนทำฟาร์ม หลายปีผ่านไป น้องชาย จางกั๋วอี้ ก็เจริญก้าวหน้าเป็นเลขาอธิบดีและหัวหน้าสำนักงาน สามารถเอาจางอี้เฉิงเข้ามัธยมปลายชื่อดังได้ ชีวิตสงบสุขจนฉินเกอเอาเรื่องจอกสุราหยกของ ฮั่นอู่ตี้ มายั่วหลิวจื่อเวยให้ช่วย ซุนถิง นักโบราณคดีผู้เป็นลูกชายมหาเศรษฐีที่เจอคำสาปในอียิปต์ งานนี้ไปเยือนพีระมิดกลับหัวใต้ดินของฟาโรห์ เจดีเฟร และเทพอียิปต์เวอร์ชั่นใหม่ (มีพูดเรื่องคำสาปของสุสานหลวงตุตันคามุนทำให้เป็นที่ต้องห้าม จขบ. คงโดนแล้วมั๊ง 555 แถมพีระมิดของตุตันคามุนด้วยนะ)
'ปริศนาร่องรอยของหลานถิงซวี่' จางกั๋วจงถูกหลิวจื่อเวยตามตัวมาฟังซุนถิงเล่าเรื่องนักพรต อวิ๋นหลิงจื่อ แห่งเขาอู่ตังที่มีตบะสูงส่งสมัยปลายราชวงศ์ชิง ซุนถิงยังมอบบันทึกของอวิ๋นหลิงจื่อให้จางกั๋วจง เมื่อมีข่าวของหลานถิงซวี่ที่เป็นสมบัติของ ถังไท่จง จากซุนถิง จางกั๋วจงก็ต้องออกตามหาเพราะเรื่องเกี่ยวพันกับผู้อาวุโสของเหมาซานสมัยต่อต้านญี่ปุ่นช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง เดินทางไปป่าชายแดนพม่าที่ว่ามีขุมสมบัติยามาชิตะ (ขุมทองโกโบริ) ใน 'เขากงหมิง' ที่ผู้ค้ายาเสพติดใช่เป็นฐาน และ 'ผาร้อยฉื่อ' ที่เป็นเรื่องปฏิบัติการลับของนักพรตหลายสำนัก จนได้เบาะแสผู้ทรยศที่ตามตัวไปถึงมาเลเซีย
'พิษภัยจากเชื้อร้าย' จางอี้เฉิงที่อยู่มัธยมต้นถือเป็นนักเรียนเกเร ย้ายโรงเรียนมาหลายรอบ ระหว่างที่จางกั๋วจงบอกเพื่อนร่วมชั้นหญิง หลิ่วเหมิงเมิ่ง ว่ามีวิญญาณติดตามจนเธอป่วยหนัก เลยถูกจะไล่ออก จางกั๋วอี้เลยช่วยให้จางอี้เฉิงจัดการจนเรียบร้อย เป็นที่สนใจของพ่อ หลิ่วตงเซิง ซึ่งเป็นหัวหน้าตำรวจสืบสวนสอบสวนและเพื่อนร่วมชั้นของจางกั๋วจง เมื่อพ่อตาของหลิ่วตงเซิงเกิดคลุ้มคลั่งฆ่าคนลอบซื้อขายวัตถุโบราณ ก็ได้จางอี้เฉิงช่วยด้วย ในการสืบคดีค้าวัตถุโบราณที่โยงไปถึงสุสานโบราณที่เพิ่งพบในส่านซี หลิ่วตงเซิงจึงขอความช่วยเหลือจากจางอี้เฉิงต่อ ... เรื่องนี้ก็เป็นการผจญภัยเหนือธรรมชาติที่น่าตื่นเต้นดีนะคะ อารมณ์ออกแนว 'คนขุดสุสาน' และ 'บันทึกจอมโจรแห่งสุสาน' อยู่มาก ถึงพระเอกจะเป็นฝ่ายสว่าง แต่ก็บุกสุสานกันหลายครั้งนะคะ เท่าที่อ่านมาในเล่มหนึ่ง เรื่องสมัยปฏิวัติวัฒนธรรมก็น่าสนใจดี แบบว่ามีการวิพากษ์ประจาน ปิดข่าวเขียนรายงานกับยืดหยุ่น แต่พอเล่มสองสามก็เริ่มออกแนวชาตินิยมขึ้นเยอะ มีความมั่วเพื่อสนับสนุนแนวคิดนี้โผล่เข้ามาเพิ่มอย่างเรื่องการถอดรหัสญี่ปุ่นเรื่องการบุกเพิร์ลฮาเบอร์
ในการดำเนินเรื่องช่าวแรกก็รู้สึกติดดินดีค่ะ แต่พอผ่านไปก็เวอร์ขึ้นเยอะ (ไม่นับเรื่องไสยศาสตร์) บางครั้งงงๆ กับตัวละคร และที่แปลกไปกว่าเรื่องอื่นคือพระเอกเป็นผู้ที่ระดับวิชาสูงกว่าคนอื่นในเรื่อง เวลาอธิบายว่าทำอะไรเลยรู้สึกจะมีรายละเอียดบางอย่างทำให้มึนมาก และเลเวลของความซับซ้อนด้านไสยศาสตร์ก็มากขึ้นเรื่อยๆ ด้วย สรุปว่าอ่านได้เรื่อยๆ ค่ะ
[01/11/16, 10/01/17, 19/02/17] ที่มา [1] ต้าลี่จินกังจ่าง (หลินหยาง แปล). มหากาพย์แห่งเหมาซาน. สยามอินเตอร์บุ๊คส์, เล่ม 1-3, 384 + 368 + 376 หน้า, 2559-2560.
Create Date : 01 พฤศจิกายน 2559 |
|
4 comments |
Last Update : 19 กุมภาพันธ์ 2560 19:23:09 น. |
Counter : 13708 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: ออโอ 4 พฤศจิกายน 2559 0:28:27 น. |
|
|
|
| |
โดย: คนชอบนิยาย IP: 1.46.76.113 24 มกราคม 2560 16:32:04 น. |
|
|
|
|
|
|
|