จอมคาถามหาติงต๊อง - ศิษย์ก็ด้วย เรื่อง จอมคาถามหาติงต๊อง แต่งโดย Seba หูเตี๋ย แปลโดย อินากะ --- MAJOR SPOILER ALERT --- เจินฉีหลิน - ฮุ่ยเหนียง - ซ่งหมิงเฟิง - หลัวซา หนุ่มไต้หวัน ซ่งหมิงเฟิง มีครอบครัวขยายอยู่เมืองไถจง พ่อเป็นลูกคนที่สามและมีพี่ชายสองน้องสาวสอง ทำให้มีลูกพี่ลูกน้องเยอะแยะ แต่มีเพียงหมิงเฟิงที่มีพลังเนตรอินหยางทำให้เห็นเทพเป็นพวกดึงดูดปีศาจที่อยากกิน หมิงเฟิงจึงต้องเป็นทายาทวิชาสำนักเหมาซานในตระกูลอย่างหนักหน่วง เมื่อโตขึ้นพ่อก็ส่งไปเรียนในระดับอินเตอร์ที่หน่วยบรรเทาภัยพิบัติกาชาดที่ตั้งอยู่ที่ปราสาทในยุโรป หน่วยงานนี้ดูแลกิจการโลกวิญญาณ (ไม่รับเรื่องมนุษย์ต่างดาว) แต่วิชาพรตกำลังตกต่ำ ทำให้หมิงเฟิงต้องหาวิชาลงแทบแย่ เพื่อนสนิทระหว่างเรียนคือหนุ่มสวย คุระฮาชิ โอโตนาชิ ที่เป็นทายาทศาลเจ้าที่ลงเรียนวิชาศาสตร์แห่งยันต์ด้วยกัน เรียนไป 5 ปี (ปักธงเวลาที่ปี 2004) อาจารย์ สมิธ ที่แนะแนวไม่รู้จะให้หมิงเฟิงทำงานอะไร ที่มีตำแหน่งอย่างบรรณารักษ์ก็ไม่อยากเป็น เลยส่งหมิงเฟิงไปเป็นผู้ช่วยจอมคาถา เจินฉีหลิน สาวน้อย (!?) ฉีหลินมีพลังและเบื้องหลังไม่น่าเชื่อ เธอมีมหาเทพฉีเทียนต้าเสิ้ง ซึงหงอคง เป็นย่าเทียด (สมัยเป็นปีศาจแปลงร่างเป็นสาวงามเพื่อหลอกกินคน กรรมติดจรวดโดนบัณฑิตหนุ่ม 'กิน' แทน) แถมลูกชายของย่าเทียดยังแต่งกับ จื่อหลิน ผู้อาวุโสเผ่าเทพกิเลน ทำให้ตระกูลเจินได้รับความเอ็นดูอย่างมาก โดยเฉพาะทายาทคนสุดท้ายที่มีสายเลือดเข้มข้นสุดๆ ฉีหลินสามารถอัญเชิญเทพ (โดยเฉพาะท่านย่าเทียด) ลงมาตัวเป็นๆ และปราบปีศาจได้ด้วยบทเจรจาคาถาจากโปเกมอน มืออสูรล่าปีศาจ องเมียวจิ โจโจ้ล่าข้ามศตวรรษ ถึงเพลงของดาเลอร์ เมห์นดี (ชาวบังคลาเทศ) ฯลฯ มีเทพประจำตัว ฮุ่ยเหนียง ผีดิบตบะแปดร้อยปี ใช้รถแท็กซี่เส้นทางยมโลก ฉีหลินก็เป็นพวกดึงดูดปีศาจแบบเดียวกับหมิงเฟิง ทำให้มีนิสัยชอบซ้อมสัตว์ประหลาดออกกำลัง ชอบกินเหล้า กินอาหาร เกียจคร้าน เอะอะโวยวาย ใส่สายเดี่ยวไม่สนอะไรร่อนไปเรื่อย ไม่สมกับความสวยและชื่อเสียงเอาเสียเลย (แต่อย่างว่านะ เหล่าเทพก็เกรงกลัวเธออย่างยิ่ง เนื่องจากถ้าถูกอัญเชิญเป็นต้องขายหน้าไม่มีที่สิ้นสุด) ความจริงฉีหลินอายุมากแล้ว เคยถูกเซียนฟ้าทำร้ายจนตาย แต่เง็กเซียนยอมให้คืนชีพ ถึงไม่แก่ไม่ตายแต่ก็ไม่เป็นมนุษย์สมบูรณ์ ไม่ใช่เซียนเทพ พลังเวทเสื่อมถอยไปเรื่อยๆ จนถูกกลืนกิน ฉีหลินรับศิษย์ทุกห้าปี ถึงตอนนี้ก็มี 8 คน ล้วนแล้วแต่เก่งกาจถอดนิสัยออกมา ถนัดเรื่องโจมตีล้างผลาญและรักอาจารย์อย่างยิ่ง ในช่วงที่หมิงเฟิงมาอยู่ด้วย ฉีหลินกำลังอยู่ในช่วงพักผ่อนหนึ่งปีทุกห้าปีที่หมู่บ้านจงซิ่ง โดยสร้างทางปรโลกไปเมืองไถจง หมิงเฟิงโดนให้ให้ทำอาหาร งานบ้าน ฯลฯ แต่ก็ฝึกพลังสมาธิไปด้วยอย่างไม่รู้ตัว ระหว่างนี้ก็ได้เห็นการใช้พลังอันโดดเด่นของฉีหลิน (และถูกฝึก) ในการปราบปีศาจดาวเทพจิ้งจอก, ช่วยผู้ประสานงานระหว่างรัฐบาลไต้หวันและโลกมนตรา หลินหยุนเซิง แห่งสำนักไป๋เหลียนแก้ปัญหาเรื่องคนฆ่าตัวตายเพราะบัตรเครคิต, ซ่งหมิงฉี ลูกพี่ลูกน้องสาวที่พลังไม่มากแต่ยุ่งได้ยุ่งดีมาขอให้ช่วยแฟนที่โดนผีสาวติดตามตัว (งานนี้ฉีหลินได้กองทหารหญิงของ หลินซื่อเหนียง ไว้ใช้งานเป็นเทพประจำตัวอีกกลุ่ม) ฯลฯ ทำให้ฝีมือของหมิงเฟิงก้าวกระโดดขนาดทำให้โอโตนาชิที่มาเยี่ยมตาค้าง ถึงหมิงเฟิงอาจไม่เต็มใจกับคาถาพิศดาร แต่ก็ใช้เมื่อเผลอตัวและเริ่มเหมือนอาจารย์เข้าไปทุกที ใช้คาถาการ์ตูนและอนิเม พัฒนาเพลงพื้นบ้าน ลอร์ดออฟเดอะริง ฮอบบิท ฯลฯ (ที่ฮามากคือทั้งคู่มีแนวทางพาคนเมาไปนอนแบบเดียวกัน วาดยันต์ผีดิบให้กระโดดไปเตียง!) หมิงเฟิงสามารถทำพิธีปัดรังความชำระล้างปีศาจและสามารถอัญเชิญเทพได้ เมื่อน้องอีกคน ซ่งหมิงอี้ เจอผีดูดเลือดที่โดดขนาดฉีหลินต้องเรียกอารักษ์สี่สิบเก้าตนออกมาทำให้ฉีหลินเจ็บหนัก หมิงเฟิงก็สามารถรับอารักษ์ไว้แทน เมื่อฉีหลินเริ่มทำงานก็โหดไม่เบา เช่น ตอนขึ้นเครื่องบินไปฮ่องกงก็เจอ อิงจวิ้น นกปีศาจกูฮั่วเหนี่ยวเก้าหัว แม่ชื้อเทพพิทักษ์เครื่องบิน ที่หมิงเฟิงได้เป็นเทพพิทักษ์ส่วนตัวหลังถล่มปีศาจขนทองสัตว์เลี้ยงเจ้าแม่การุณแห่งทะเลทักษิณ ที่ฮ่องกงทำพิธีสะเดาะเคราะห์ห้าปีครั้ง หมิงเฟิงได้คู่หมั้นเป็น ธิดามังกร สกุลฝูซีที่ยังอยู่ในไข่ ไปเมืองโบราณทางเหนือของจีนทำพิธีบวงสรวงสวรรค์ก็เจออสูรความฝันสิงในหมอนิติเวช เจิ้งฟู่เซียน ที่คอยดูแลให้เมืองสงบจนเกิดคดีฆาตกรรมต่อเนื่อง ตามด้วยการบุกเข้าสุสานจิ๋นซีเพื่อช่วงลูกศิษย์ฉีหลินคนหนึ่งที่เจอหนักจนฉีหลินขอเกษียณพักอยู่บ้าน แต่หมิงเฟิงก็ไม่ได้อยู่เฉยๆ ไปทำพิธีเซ่นถนน ช่วยเพื่อนของหมิงฉีที่ไปทำแท้ง ปลอบใจอิงจวิ้นที่อกหักกับแฟนในเน็ตจนได้หมิงอี้มาดามหัวใจให้ ฯลฯ ซ่งหมิงเฟิง/หลัวซา - เจินฉีหลิน/ซ่งหมิงเฟิง - ซ่งหมิงเฟิง/เจินฉีหลิน - เยี่ยซูฉี เมื่อกาน้ำแห่งเลี่ยกูเส้อที่เก็บน้ำค้างสวรรค์ถูกตระกูลฉงที่ทายาทในแดนมนุษย์ของเทพ ต้าเฉิงฉง กักขังจนเสื่อมทราม บวกกับเรื่องอื่น ฉีหลินที่หมดพลังต้องใช้เขากินเลนที่ติดตัวมาเกิดเพื่อจัดการ งานนี้หนักหนาสาหัส ทำให้ทั้งฉีหลิน หมิงเฟิง และ ฮุ่ยเหนียง หนีไปโลกปีศาจ ทำให้คนอ่านได้เรียนรู้เรื่องราวเกี่ยวกับโลกนี้เพิ่มเติมอย่างมาก เรื่องคือสวรรค์และปีศาจต้องการมนุษย์พันธุ์บริสุทธิ์มาเกิดใหม่เป็นทายาทสืบต่อ ซึ่งราชาปีศาจคนปัจจุบันก็เล็งหมิงเฟิงถึงขนาดล่อด้วย หลัวซา ที่เล่นพิณ และดึงฉีหลินไว้ด้วยการ์ตูนและนิยายของผู้แต่งสุดโดดเด่นที่ไปเกิดใหม่ แต่สุดท้ายทั้งสามก็หนีได้ กว่าจะกลับโลกมนุษย์ก็ผ่านไปหนึ่งปี ซึ่งอิงจวิ้นแต่งกับหมิงอี้ไปแล้ว ที่เมสสิอาร์สำคัญเพราะเกี่ยวข้องกับพระผู้สร้างโลกที่ทำนายวันโลกาวินาศในหนังสือแห่งอนาคต ในอดีตที่เสาสวรรค์หัก รากพสุธาสลาย เทพีดึกดำบรรพ์ ท่านหญิงทุกข์เทวษ ได้เสียสละเนตรเปลี่ยนผลลัพธ์ชั่วคราว เสาค้ำสวรรค์เกิดใหม่ รากพสุธาซ่อมแซม แต่ก็เป็นเพียงการชลอไว้ เมสสิอาร์รุ่นแล้วรุ่นเล่าเสียสละยืดเวลาออกไปอีก ... ผู้เกี่ยวข้องอื่นๆ เช่น พระธิดามหาเทพ หนี่ว์วา และ เสวียน, จักรพรรดิเทพ ซวงหัว, เจ้ามังกรเผ่าอิ้งหลงและมังกรที่หลงเหลือ หลงเจวี๋ย, ยูนิคอร์น, หลินเย่ว์ ที่เป็นครูใหญ่ขององค์กรซัมเมอร์ไนท์ที่ค้นคว้าวิจัย เยี่ยซูฉี ที่ด้านนอกดูเป็นคุณป้าท้วมๆ หั่นต้นหอมในครัว (จากโปรยปกหลัง) ทำงานฟรีแลนซ์คอมพิวเตอร์ แต่ในโลกวิญญาณเธอเป็นผู้ดูแลนครหลวง สัญลักษณ์ตัวแทนสองโลกผู้ใช้พลังของเทพนารีปีศาจ ฯลฯ บ้างกัดกร่อนตกต่ำคลั่งแค้น บ้างปล่อยตามกระแส บ้างหาทางสู้ ... จุดเด่นของเรื่องนี้คือเป็นแฟนตาซีจีนที่ฮาตลอดค่ะ โครงเรื่องน่าจะถือว่าแบ่งเป็นสองช่วง ช่วงแรกถึงถึงเล่มสามเน้นความฮามากมาย ยิ่งถ้าอ่านการ์ตูน ดูอนิเม เกมส์ และสื่อบันเทิงต่างๆ นี่ยิ่งขำกลิ้ง (น่าเสียดายที่ จขบ. ไม่ได้ดูหลายเรื่องที่อ้างถึง เลยไม่อินถึงที่สุด) มีเรื่องแฝงด้านหลังอยู่ด้วย มุกจบซ้ำเดิมๆ ไปบ้าง อย่างขอลาออกไปเป็นบรรณารักษ์ ตั้งแต่เล่มสี่ไปถึงเจ็ดจะเริ่มหนักขึ้นๆ โครงเรื่องใหญ่บึ้มอลังการงานสร้าง ทำให้การดำเนินเรื่องออกรุ่ยในบางที ตอนจบเร็วจนแทบจะรวดรัดตัดความและให้อารมณ์แบบ Götterdämmerung (จขบ. ไม่ค่อยเข้าใจเรื่องเทพปกรณัมการสร้างโลกของจีนเท่าไหร่ เลยงงๆ ว่ามีการอ้างถึงหรือเติมแต่งเองอะไรบ้าง) ตบท้ายด้วยเล่มแปด 'แฟ้มวิญญาณพิศวงของซูฉี' ที่เกี่ยวกับวิญญาณคนเป็นคนตายที่สิงสถิตในโฟลเดอร์ที่ซูฉีตั้งขึ้นในฮาร์ดดิสก์และไม่ต่อกับเรื่องก่อนหน้านัก อ้อ มีตอนสั้นที่เกี่ยวกับตัวประกอบที่บางทีก็ไม่ค่อยเข้าใจว่ามาได้อย่างไร เข้าใจว่าที่ดูขาดๆ เพราะชุดนิยายมาไม่ครบ ในจากใจผู้เขียนท้ายเล่ม 7 บอกว่ามีเรื่องคู่ขนาน 'จอมคาถามหาติงต๊อง' เจ็ดเล่ม และ 'นครหลวงเงามายา' ที่เป็นเรื่องของซูฉีอีกเจ็ดเล่ม แถมเรื่อง 'ศาลบูชาอิ้งหลง' อีกหนึ่งเล่ม แต่ของไทย 'จอมคาถามหาติงต๊อง' มีแปดเล่ม ที่เรื่องเล่มสุดท้ายไม่เกี่ยวกับฉีหลินหรือหมิงเฟิงเลย ไม่ทราบว่าเอาเรื่องของซูฉีมาโปะหรือเป็นเรื่องแต่งเพิ่ม ทั้งนั้น เล่มอื่นที่ทราบว่ามีอยู่คงต้องภาวนาให้มีใครซื้อมาแปล แต่เนื่องจากคาดว่าเนื้อหาน่าจะไม่ค่อยธรรมดาที่ไม่น่าจะมีตลาดผู้อ่านมากนัก เลยไม่ค่อยมีความหวังเท่าไหร่ -_-" อ้อ บางทีรู้สึกการใช้ศัพท์ไม่ค่อยสม่ำเสมอจากต้นเรื่องถึงท้ายเรื่อง สรุปในภาพรวมมีเอกลักษณ์โดดเด่นที่หยิบมาอ่านได้เรื่อยๆ ล่ะค่ะ (ที่เขียนบล็อกนี้ก็ไม่ใช่อ่านรอบแรก ^^) ที่มา [1] Seba หูเตี๋ย (อินากะ แปล). จอมคาถามหาติงต๊อง 1. สำนักพิมพ์สถาพรบุ๊กส์, 232 หน้า, 2552. [2] Seba หูเตี๋ย (อินากะ แปล). จอมคาถามหาติงต๊อง 2. สำนักพิมพ์สถาพรบุ๊กส์, 208 หน้า, 2552. [3] Seba หูเตี๋ย (อินากะ แปล). จอมคาถามหาติงต๊อง 3. สำนักพิมพ์สถาพรบุ๊กส์, 200 หน้า, 2552. [4] Seba หูเตี๋ย (อินากะ แปล). จอมคาถามหาติงต๊อง 4. สำนักพิมพ์สถาพรบุ๊กส์, 232 หน้า, 2552. [5] Seba หูเตี๋ย (อินากะ แปล). จอมคาถามหาติงต๊อง 5. สำนักพิมพ์สถาพรบุ๊กส์, 256 หน้า, 2552. [6] Seba หูเตี๋ย (อินากะ แปล). จอมคาถามหาติงต๊อง 6. สำนักพิมพ์สถาพรบุ๊กส์, 224 หน้า, 2552. [7] Seba หูเตี๋ย (อินากะ แปล). จอมคาถามหาติงต๊อง 7. สำนักพิมพ์สถาพรบุ๊กส์, 228 หน้า, 2552. [8] Seba หูเตี๋ย (อินากะ แปล). จอมคาถามหาติงต๊อง 8 ภาคพิเศษ แฟ้มวิญญาณพิศวงของซูฉี. สำนักพิมพ์สถาพรบุ๊กส์, 232 หน้า, 2552 (ต้นฉบับ 2008).   Create Date : 08 กรกฎาคม 2557 2 comments Last Update : 1 เมษายน 2559 0:38:19 น. Counter : 11059 Pageviews. Share Tweet

สวดยอดมากเลยค่ะ หนอนยังอ่านมะจบเลยเรื่องนี้ เง้ออ   โดย: nonnoiGiwGiw 9 กรกฎาคม 2557 12:02:31 น.

ปกน่ารักเชียวค่ะ   โดย: kunaom 11 กรกฎาคม 2557 13:24:02 น.