จินตนาการสำคัญกว่าความรู้
Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2553
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
30 สิงหาคม 2553
 
All Blogs
 

กาหรือหงส์ ตอน ๓๗

กาหรือหงส์ ตอน ๓๗





ยิ่งดึกดื่นขึ้นเท่าใดการสนทนาของคนทั้งสองเริ่มเข้มข้นเป็นจริงเป็นจังมากยิ่งขึ้น มะยมรู้สึกปลอดโปร่งโล่งใจกว่าปกติ รู้สึกเป็นกันเองกับชายหนุ่มที่นั่งกุมมือตาจ้องมองมิวางมาอยู่จนต้องหลบสายตาคมปราบไปในบางครั้ง ....

“ เรื่องราวต่างๆ ที่ฉันเล่าให้อิสฟังทั้งหมดในวันนี้ ถือว่าเป็นความลับระหว่างเราจะได้มั้ย”

“ ได้สิ ผมรับปากคุณ แต่เรื่องที่ผมจะขอให้ท่านพ่อมาทาบทามหมั้นหมายมะยมกับคุณลุง มะยมยังไม่ตอบผมเลยนะครับว่าตกลงตามนี้หรือเปล่า ”

“ ฟังให้ดีนะอิสรา ตอนนี้ฉันยอมแพ้ความดีของนายแล้ว แต่เรื่องของอนาคตเป็นสิ่งที่เราหรือใคร ๆ จะมากำหนดกฎเกณฑ์ไว้ไม่ได้ วันข้างหน้าจะเป็นยังไง จะเดินไปทางไหนกัน ... ฉันยังไม่รู้อะไรเลย ถ้านายผูกสัญญาไว้ที่ตัวฉัน ฉันกลัวว่าถ้าหากวันใดวันหนึ่งต่อไปข้างหน้า นายมีความคิดเปลี่ยนไปจากนี้ คนที่จะเสียใจในวันนั้นก็คือนายเองนะ ”

“ ผมมั่นใจในตัวคุณและตัวของผมเอง ท่านพ่อกับแม่ก็ถามคำถามนี้มาแล้ว ผมก็ยังยืนยันคำตอบเดิมว่าผมต้องการเป็นคู่ชีวิตกับมะยมคนเดียวเท่านั้น”

“ ขอบใจนายนะอิส ที่ทำให้ตัวฉันดูมีค่าขึ้นเป็นกอง”

“ มะยมเป็นคนดี พระคุ้มครองคนดีเสมอ อะไรก็มาทำร้ายไม่ได้แม่อุ่นเรือนยังบอกเตือนผมเสมอว่ามะยมเป็นทองคำแท้ ไม่มีวันจะเป็นกรวดทรายหรือเพชรสีอื่นๆ ได้ ผมก็เชื่อเช่นนั้นเหมือนกันกับแม่”

“ ไม่ต้องชมมากก็ได้ ฉันก็เขินเป็นนะ”

มะยมแก้เขินโดยการค้อนไปหนึ่งทีก่อนจะหัวเราะออกไปด้วยเสียงอันกังวารสดใสกลบเกลื่อนเรื่องราวดีดีที่คนร่างสูงตรงหน้าเอ่ยออกมาเมื่อครู่ กระทั่งเสียงทุ้มนุ่มตอบกลับมาอีกครั้ง ...

“ ถ้าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ผมจะขอหมั้นจองมะยมไว้ก่อนที่เราจะจบชั้นมัธยมปลาย เราสองคนจะไปเรียนหนังสือที่กรุงเทพ ฯ ด้วยกัน พอเรียนจบมหาวิทยาลัยก็ค่อยกลับมาที่ท่าวังหิน แล้วแต่งงานกันในตอนนั้น มะยมเห็นว่ายังไง”

“ บอกตรง ๆ นะอิส ฉันไม่กล้าคิดไปไกลถึงขนาดนั้นหรอก ... ปัญหาและอุปสรรคที่เราต้องฝ่าฟันไปข้างหน้ามีมากมายเหลือเยอะแยะเหลือเกิน ไหนจะเรื่องฐานะทรัพย์สินที่แตกต่างหรือชาติตระกูลที่เหลื่อมล้ำ และอื่น ๆ มากมายจิปาถะที่เราสองคนจะหลอกตัวเองไม่ได้ถ้าจะเดินไปในเส้นทางเส้นนี้ด้วยกัน”

“ ผมไม่สนหรอกว่าจะสูญเสียอะไรไป ... เพราะไม่เคยนึกว่าตัวเองจะวิเศษไปกว่าคนอื่น ผมก็แค่เด็กชายธรรมดาคนหนึ่ง มีรัก มีสมหวัง มีทุกข์และเสียใจผิดหวังบ้างเป็นเรื่องธรรมดา ไม่เคยเลยที่จะอยู่เหนือใคร แม้แต่ลูกจ้างภายในไร่ของผม ”

“ ฉันก็คิดว่านายเป็นคนดีคนหนึ่งนะอิสรา อยากจะบอกนายว่าฉันรู้สึกดีที่มีนายอยู่ข้างกายทุกครั้ง”
“ งั้นเราหมั้นกันต้นเดือนหน้าเลยดีมั้ยมะยม “

“ โอ๊ย..เร็วไปจ๊ะพ่อคุณ นี่ถ้าเล่าเรื่องที่เธอขอหมั้นฉันให้พ่อฟัง แกคงหัวเราะเสียงดังลั่นบ้านแน่ ๆ ”

“ ผมใจร้อนเพราะอยากให้ทุกอย่างเป็นไปตามที่หวังไว้ ปละเชื่อว่าคุณลุงคงจะเห็นใจ”

“ งั้นนายก็ลองคุยกับพ่อดูนะ ”

สายลมเย็นที่พัดเอาอากาศเย็นฉ่ำจากข้างนอกเข้ามากระทบคนทั้งสองทำให้มะยมถึงกับหลับตาพริ้มสูดอากาศที่เย็นสบายเข้าให้เต็มปอด ในหัวสมองคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยอยู่นานสองนาน ก่อนจะลืมตาขึ้นช้า ๆ เมื่อรู้สกผ่อนคลาย แล้วจ้องมองหานาฬิกาสีขาวเด่นสง่าที่แขวนข้างฝา ก่อนจะก้มดูอีกฝ่ายที่เงียบเสียงไปตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ จนมองเห็นว่าร่างสูงใหญ่ได้ฟุบหลับไปข้าง ๆ ตัวเองตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ ...

เด็กสาวบ้านป่าบ้านนา เหม่อมองคุณชายผู้สูงศักดิ์แห่งคฤหาสน์ฟ้าเมฆาอันโอ่อ่าที่นอนหลับตาพริ้มอยู่ข้างเตียงด้วยใจที่เป็นสุขยิ่ง อยากจะหยุดวันและเวลาดี ๆ อย่างนี้ไว้ตราบนานเท่านาน ...

อิสรารังสรรค์ ผู้สูงศักดิ์ ผู้เป็นที่รัก ที่หมายปองของใครหลายคน รวมทั้งพี่สาวร่วมสายเลือดของตัวเองด้วย ไฉนถึงต้องมาเป็นดวงใจของเด็กบ้านนอกจน ๆ อย่างตัวเราก็ไม่รู้ ?
ทำไมเราต้องเจอกันและรักกันในสถานการณ์ที่ไม่เป็นใจเลยสักอย่าง ?
ฉันอยากจะรู้นักว่าอนาคตของความรักของสองเราจะเป็นอย่างไร?
จะสมหวังในรักแท้หรือไม่อย่างไร ?

โอว ... มันช่างโหดร้ายเกินจะคาดเดาได้ ฉันหวังว่ารักแท้ของสองเรา จะทำให้ผ่านเรื่องราวร้าย ๆ ไปสู่เรื่องที่ดีได้ในกาลข้างหน้า ...

มะยมหลับตาพริ้มพร้อมหยดน้ำตาแห่งความเศร้าหมองอีกครั้ง ก่อนจะเผลอหลับไปด้วยความอ่อนเพลียมาทั้งวัน จนกระทั่งได้ยินเสียงขยับเก้าดังมาจากข้าง ๆ ห้องน้ำ จึงค่อย ๆ ลืมตาขึ้นช้า ๆ สู้แสงไฟนีออนสะท้อนแสงจ้าบนที่นอน จนมองเห็นว่าเป็นใครจึงเอ่ยทักด้วยอาการสลึมสะลือง่วงนอนอยู่กลาย ๆ

“ พ่อจ๋ามาถึงตั้งแต่เมื่อไหร่ ... ทำไมไม่ปลุกหนู”

“ มาถึงเมื่อครู่ พอทราบข่าวของเราก็รีบบึ่งรถมาที่นี่เลย แต่ไม่นึกว่าจะมีคนเฝ้าเราแล้ว”

ผู้เป็นพ่อพาดพิงถึงคนที่นอนหลับอุตุไม่รู้สึกตัวอยู่บนขอบเตียง มะยมก็นึกขึ้นได้ว่าตอนนี้ตัวเองกำลังทำกิริยาไม่เหมาะสมอยู่ ก็คือ อิสรานอนหลับตาพริ้มเกาะกุมมือไว้แน่นแนบกับอกอยู่ ... จึงแก้เขขินด้วยการค่อย ๆ ดึงมือออกอย่างช้า ๆ ก่อนจะเหลือบตามองผู้เป็นพ่ออย่างรู้สึกเกรงใจเต็มที่ ...

ครูพล ก็เห็นมาตั้งแต่แรกเข้ามาในห้องเยี่ยมไข้แห่งนี้แล้วว่า ทั้งสองกำลังทำตัวไม่เหมาะสม กระทำการไม่งามในที่รโหฐาน คิดไพล่ไปว่าอาจจะมีคนอื่นที่ไม่เห็นด้วยนำเรื่องไปติฉินนินทา เรื่องราวจะบานปลายใหญ่โตเอาได้ ... แต่ด้วยความที่ตนเองเข้าใจคนทั้งสองดีว่าจะไม่ทำอะไรที่เกินเลยกว่านี้แน่นอน จึงแสร้งเฉยเสียให้คนทั้งสองรู้สึกตัวจะดีกว่า ...

ฝ่ายมะยม เมื่อรู้ตัวว่าผิด ... ด้วยนิสัยที่ติดตัวมาตั้งแต่เด็ก ครูพลก็ทราบดีว่า ลูกสาวคนนี้จะรับรู้อารมณ์และความคิดของผู้เป็นพ่อได้ดีกว่าอีกคนเร็วกว่าปกติ จึงเอ่ยขอโทษออกมาแผ่วเบา ...

“ หนูกราบขอโทษพ่อด้วยที่ทำตัวไม่เหมาะสม หนูน่าจะห้ามเค้าได้ แต่หนู .. .เอ่อ ...”

“ ไม่ต้องอธิบายหรอกมะยม พ่อเข้าใจเรา .... เพียงแต่อยากจะขอให้ระมัดระวังกิริยาให้มากกว่านี้หน่อย หน้าต่างมีหูประตูมีตานะ คนอื่นมาเห็นจะว่าเราเสีย ๆ หาย ๆ เอาได้ ”

“ อิสราอาสานอนเฝ้าไข้เป็นเพื่อนหนู ตั้งแต่เพื่อน ๆ กลับช่วงค่ำ เราสองคนเผลอหลับไปตอนไหนก็ไม่รู้จนพ่อจ๋าโผล่มานี่แหละ”

มะยมรู้สึกโล่งใจที่น้ำเสียงของผู้เป็นพ่ออ่อนโยน ไม่แข็งกร้าวกว่าที่ตนเองคาดเดาเอาไว้ จึงกล้าที่จะพูดหรือเล่าอะไรมากขึ้น “หนูรู้สึกดีขึ้นแล้วจ๊ะพ่อ อิสราลงไปช่วยหนูในน้ำ ไม่งั้นคงได้มีข่าวร้ายกันแน่ ”

“ เรื่องราวทั้งหมด ส้มโอเล่าให้พ่อฟังหมดแล้ว เป็นเดชะบุญแล้วที่คนดี ๆ อย่างอิสราได้มาช่วยเอาไว้ทัน ไม่งั้นพ่อคงเสียใจไปตลอดชีวิตแน่ ”

“ มันเป็นอุบัติเหตุนะจ๊ะพ่อ ไม่มีใครอยากจะให้เรื่องร้าย ๆ อย่างนี้เกิดขึ้นหรอก”

“ พ่อก็อยากให้มันเป็นแค่อุบัติเหตุ ไม่อยากให้เป็นการฆาตกรรมหรือจงใจทำร้ายอย่างนี้”

“ พ ะ ะ ... พ่อ หมายความว่าไงจ๊ะ ..”

มะยมตกใจจนหน้าซีดเมื่อได้ยินถ้อยแถลงที่เอ่ยออกมาจากปากผู้เป็นพ่อ. ..

“ พ่อเป็นพ่อเรานะมะยม เรื่องราวร้าย ๆ วันนี้ ทำไมพ่อจะไม่รู้เรื่อง มีใครตั้งหลายคนที่รักและเป็นห่วงมะยมมาเล่าเหตุการณ์ให้พ่อฟังตั้งมากมายหลายคน เราไม่ต้องถามหรอกนะว่าใครบ้าง เอาเป็นว่าเรื่องนี้พ่อจะต้องจัดการกับตัวต้นเหตุอย่างเด็ดขาดกันเสียทีแล้ว ”

“ พ่อจ๋า .. อย่าทำอย่างนั้นเลยนะหนูขอร้อง มันเป็นอุบัติเหตุ มันเป็นอุบัติเหตุจริงๆ หนูขอยืนยัน”

“ มันจะเป็นอุบัติเหตุไปได้ยังไงมะยม ในเมื่อคนทำร้ายหนูเล่นจะให้ถึงตายขนาดนั้น .... แล้วนี่ถ้าพ่อหนุ่มที่นอนหลับอยู่ตรงนี้ไม่กระโดดจากเรือแข่งลงไปช่วยลูกในตอนนั้น .... ป่านนี้พ่อคงต้องเสียใจที่ลูกรักของพ่อต้องจากไป แต่เหลือลูกเลว ๆ อยู่ลอยนวลรกหูรกตาอย่างนี้ได้ตลอดชีวิต ”

“ เค้าเป็นคนน่าสงสารนะจ๊ะพ่อ ... พ่อมีลูกสาวอยู่สองคน ต้องรักให้เท่ากันสิจ๊ะ”

“ โธ่! เจ้ายมเอ๊ย ... ทำไมถึงเป็นคนอย่างนี้”

อารมณ์ที่ร้อนรุ่มเป็นไฟสุมออกของครูพล ทำเอาเจ้าตัวอยู่กับที่ไม่ติด จึงเดินฉับ ๆ แล้วกระชากลูกบิดประตูออกห้องพิเศษไปอย่างอารมณ์ไม่ดี มะยมถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนจะสะกิดคนร่างสูงเหมือนยักษ์ปักหลั่นให้ตื่นรับรู้เรื่องราวของโลกใบแคบนี้ทันที ...

“ พ่อฉันมาเฝ้าไข้แล้ว ตื่น ตื่นสิ อิสรา” คนร่างสูงงัวเงียๆ ค่อยลืมตาขึ้นมาสู้เสียงจากความสว่างของห้องๆ ช้า ก่อนจะเอ่ยถามว่ามันกี่โมง กี่ยามแล้ว ...

“ เวลาตอนนี้ตีหนึ่งครึ่งแล้ว ฉันว่านายกลับไร่ฟ้าเมฆาเถอะ ... สงสารลุงแม้นคงมานั่งรอนายอยู่ข้างล่างตึกใช่หรือเปล่าอิสรา ”

“ ฮื่อ! ไม่นะมะยม ผมให้ลุงแกกลับไปตั้งแต่ช่วงค่ำแล้ว”

“ เอ ! เมื่อตะกี้หูฉันแว่วได้ยินเสียงรถสปอร์ตหรูของนายแล่นเข้ามาที่ลานจอดรถด้านล่างนั่นน่ะ”

“ สงสัยมะยมหูเผื่อนไปหรือเปล่า ! ลุงแม้นจะกลับมาทำไมที่นี่อีก ก็ตอนเย็นผมฝากไปบอกแม่แล้วว่าจะนอนที่โรงพยาบาลนี่ ไม่ต้องเป็นห่วง มารับตอนเช้าเลย ”

“ ฉันอาจจะหูเผื่อนอย่างที่นายว่าจริงๆ แหละ ... แต่เอ๊ะ!นั้นใครกำลังตะโกนเสียงดังลั่นมาจากระเบียงหน้านั่นล่ะ ... นายชะโงกไปดูหน่อยสิ ”

ยังไม่ทันที่เด็กหนุ่มเมืองกรุงร่างสูงจะลุกจากเก้าอี้ที่นั่งไปถึงประตูห้อง ก็มีเสียงดังแว๊ดของผู้เสียงดังแว่วมาพร้อมประตูที่ถูกกระชากมาจากข้างนอกห้องอย่างรุนแรง จนคนทั้งสองจ้องมองกลุ่มคนที่มีมากกว่าสามคนอย่างไม่คาดคิดว่าจะมารวมกันอยู่ที่นี่ ในค่ำคืนดึกดื่นเวลานี้ได้ ...

“ ไหน ไหน วิสา ! นังคนไหนที่มันหน้าด้านกักตัวคู่หมั้นลูกไว้น่ะ แม่ขอดูหน้ามันหน่อยซิ ”

หม่อมราชวงศ์หญิงพักตร์วิลาสส่งเสียงแหลมเล็กแทรกโสตประสาทและทะลุทะลวงอากาศเข้ามาในห้องทันที่ที่ถึงห้องคนป่วย โดยที่มะยมกับอิสรายังงงกับกลุ่มคนกลุ่มที่ไม่ได้นัดหมายและรับเชิญกลุ่มนี้ ..จึงเอ่ยถามออกไปด้วยความสงสัยแกมตกใจ งุนงงในเหตุการณ์ ...

“ หม่อมน้า วิสา แม่เยื้อน ป้าแช่ม ลุงแม้นมาทำอะไรที่นี่ครับ”

“ ก็มาทวงสิทธิ์ที่กำลังจะถูกคนไร้ชาติตระกูล สันดานไพร่มันมาลัก มาขโมยเอาน่ะซี่หลานอิส”

“ อะไรกัน!หม่อมน้าที่ยกคนมาทั้งบ้านตั้งมากมายกลางดึกกลางดื่นขนาดนี้ ก็แค่มาทวงสิทธิ์ไร้สาระ หน่อมแน้ม ปัญญาอ่อนแค่นี้มันไม่สมเหตุสมผลไปหน่อยหรือครับ”

อิสราเอ่ยตอบหม่อมราชวงศ์หญิงพักตร์พิลาสด้วยความพะอืดพะอมอยากจะหัวเราะและร้องไห้ในเวลาเดียวกัน ...
“ ไม่ได้หรอกชายอิส ... คนมันจ้อง มีจังหวะเป็นต้องฉวยโอกาสทันที นี่ลงทุนสำออยเจ็บไข้ได้ป่วยถึงกับเข้าโรงพยาบาลเพื่อขอความเห็นใจกันเลย แห้ม ! ลงทุนน่าดูเลยนะแม่คุ๊ณ ”

“ หม่อมน้าครับ นี่โรงพยาบาลไม่ใช่ตลาดสด อายคนอื่นเขาบ้างสิครับ โน้นพวกพยาบาลมามุงดูเต็มหน้าห้องแล้ว” อิสราตะคอกไปสุดเสียง เมื่อรู้สึกอับอายผู้เป็นเสมือนญาติที่ทำตัวไร้คุณสมบัติผู้ดี จนคนไข้ หมอ พยาบาล และญาติผู้ป่วยพากันเดินออกมาริมระเบียงเพื่อรับฟังเรื่องราวมากขึ้น ๆ ทุกที ...

“ เอ๊ะพ่ออิส ... มาตะคอกใส่น้าทำไม ก็มันเรื่องจริงนี่นา ใครทำอะไรไว้ก็ควรรู้อยู่เต็มหัวอก”

หม่อมราชวงศ์หญิงพักตร์วิลาสปรายตามองไปยังร่างเล็กบางของคนไข้ที่ขณะนี้กำลังตัวสั่นเทิ้มเหมือนคนจะเป็นไข้ด้วยสายตาเหยียดหยามแกมสมเพชอย่างเต็มที่ จนต้องตกใจสุดตัวเมื่อร่าง ๆ นั้นกรีดร้องออกมาสุดเสียง พร้อมกับปาข้าวของออกมาจากหัวเตียงจนคนทั้งหมดที่เพิ่งเข้ามาต้องหลบออกนอกห้องกันอย่างชุลมุนวุ่นวาย โกลาหลไปหมด ....

... กรี๊ด ๆๆ ไปให้พ้นนะ ไปให้พ้นทุกคนเลย ไป ...

“ มะยม มะยม ... ผมอิสรานะ คุณเป็นอะไร”

“ กรี๊ด ๆ ๆ ไปให้พ้นเลย ไปให้หมดเลย อย่ามาให้ฉันเห็นหน้าอีก ... ไป ไป๊ ”

อิสราเป็นคนสุดท้ายที่ถลันออกห้องไป สวนทางกับพยาบาลและหมอประจำคนไข้ที่เร่งรีบเข้าห้องมาด้วยสีหน้าที่เป็นกังวลกันทุกคน ...

เด็กหนุ่มช่างใจอยู่นอกห้องได้เพียงครู่ก่อนจะเดินคอตกออกไปยังที่จอดรถด้วยใจเป็นกังวลกว่าครั้งไหน ๆ กระทั่งจะก้าวเท้าลงบันใดตึกอำนวยการด้านหน้าต้องตกตะลึงกับเสียงคนสองคนที่กำลังทะเลาะกันด้วยถ้อยคำที่รุนแรง ....

“ พวกคุณคิดเหรอว่าการทำตัวอย่างนี้เขาเรียกว่า“ ผู้ดีแปดสาแหรก” รังแก ซ้ำเติม คนไม่มีทางสู้ ช่างน่าไม่อายเลยจริงๆ”

“ แกมันก็แค่ครูบ้านนอก กระจอก ๆ ที่พยายามถีบตัวขึ้นเทียบเท่าพวกชั้น”

“ ใช่ ... ผมมันคนบ้านนอกจนๆไม่รวยล้นฟ้าคาบช้อนเงินช้อนทองมาเกิดเป็นเทวดาอย่างพวกคุณนี่นา จะได้เอ่ยถ้อยมธุรสที่แม้นแต่ไพร่อย่างพวกผมยังคิดคำพวกนี้ไม่ออก”

“ ไพร่ ต่ำสถุนจริงๆ ฉันไม่อยากจะเสวนากับคนชั้นต่ำอย่างนี้อีกแล้ว ไปตาแม้นกลับฟ้าเมฆา วันวิสาตามชายอิสมาขึ้นรถด้วย”

หม่อมราชวงศ์หญิงพักตร์วิลาสก้าวขาขึ้นรถหรูราคาแพงลิบด้วยอาการกระฟัดกระเฟียด มิวายหันหลังกลับมาค้อนครูพลที่ยืนจะต้องเขม็งกัดฟันนิ่งสงบอย่างข่มอารมณ์ที่สุด ก่อนจะมารู้สึกตัวเมื่อได้ยินเสียงทุ้มกังวานของใครบางคนเอ่ยดังแว่วอยู่ใกล้ ๆ จึงค่อย ๆ หันมอง ...

“ ผมกราบขอโทษคุณสำหรับเรื่องราวในวันนี้นะครับ”

“ ครูว่าเราคงไม่มีเรื่องที่จะคุยกันอีกแล้วนะ และหวังว่าวันหลังนายคงไม่ไปหรือข้องแวะกับลูกสาวของฉันอีกนะ ขอให้เรื่องทั้งหมดจบลงที่นี่ ในวันนี้ ”

ครูพลพูดด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว เอาจริงเอาจังจนเด็กหนุ่มคิดว่าควรจะกลับไปก่อน แล้วค่อยมาอธิบายหรือขอโทษในภายหลัง จึงยกมือไหว้ไปอีกครั้ง ก่อนจะเดินก้าวขึ้นรถหรูที่สตาร์ทเครืองไว้รอ ก่อนจะเคลื่อนจากไปในทันที ...

บรรยากาศภายในห้องพิเศษที่เคยโกลาหลเมื่อครู่ ตอนนี้ทุกอย่างเข้าสู่ภาวะปกติ ครูพลหยิบผ้าเย็นผืนสีขาวบิดน้ำออกให้แห้งพอหมาด ๆ ก่อนจะสลัดน้ำออกไปอีกครั้ง แล้ววางทาบบนหน้าผากของมะยมที่นอนลืมตาเหม่อมองผู้เป็นพ่อด้วยความรู้สึกเลื่อนลอย จนกระทั่งผู้เป็นพ่อต้องเอ่ยอะไรออกมาเพื่อแทรกบรรยากาศที่เงียบเหงาจนเกินไป “ รู้สึกดีขึ้นบ้างมั้ย ยังปวดหัวอยู่หรือเปล่า บอกพ่อได้นะมะยม ” แต่คนร่างบางกลับไม่เอ่ยอะไรออกมากระทั่งต้องถอนหายใจออกมาอีกครั้ง ถึงจะพูดอะไรออกมาได้ ...

“ หนูไม่เป็นอะไรแล้วจ๊ะพ่อ ... คนพวกนั้นกลับกันหมดแล้วใช่มั้ย”

“ กลับหมดแล้ว และคงไม่กล้าไปบ้านเราอีกแน่ ๆ ”

“ หนูขอโทษที่ควบคุมอารมณ์ไม่อยู่จริง ๆ รู้สึกปวดหัว ... มันเหมือนมีระเบิดฝังอยู่ข้างในประมาณร้อยลูก เหนื่อยก็เหนื่อย อยากพักผ่อนมากมาก หนูเลยวีนแตกกลางวง แตกกระเจิงไปหมด ”

“ ลูกทำดีแล้วไม่ต้องคิดมากหรอก ถ้าไปถือสาพวกผู้ดีพวกนั้นเลย คิดมากเปลืองหัวเปล่า ”

“ หนูพยายามหลีกหนีพวกเขาทุกวิถีทางแล้ว แต่ก็มิวายต้องถูกใครสักคนดึงเข้าไปเกี่ยวข้องด้วยทุกที ก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน แล้วเมื่อกี้พ่อหายไปไหนนานจัง ”

มะยมเอ่ยถามผู้เป็นพ่อด้วยความไม่รู้ว่าเกิดเรื่องทะเลาะวิวาทกับหม่อมราชวงศ์หญิงพักตร์วิลาสที่ลานจอดรถด้านล่าง ครูอาวุโสแห่งท่าวังหินก็นิ่งเงียบเสีย ไม่ต่อความยาว สาวความยืด แสร้งคุยเรื่องอื่นไป ก่อนจะเงยหน้ามองนาฬิกาติดข้างฝา แล้วเอ่ยว่า ...

“ จะตีสามแล้ว พ่อว่ามะยมนอนพักผ่อนเอาแรงก่อนดีกว่า เดี๋ยวพ่อจะไปเอายาจากหมอเวรก่อน นอนซะนะลูก”

“ จ๊ะพ่อ”

มะยมเอนตัวนอนลง พร้อมกับหลับตาพริ้ม ครูพลก้มลงไปจุมพิตที่เปลือกตาลูกสาวคนโปรดที่รักดั่งดวงใจ พลางตวัดใจไปนึกถึงอีกคนที่อยู่ที่บ้าน ลองถามความรู้สึกข้างในของตนเองว่า ถ้าหากคนที่นอนเพรียบไม่สบายอยู่ตรงหน้าตอนนี้เป็นลุกสาวคนโตที่ก่อเรื่องในวันนี้ ตัวเองจะยังคงแสดงความรักอย่างสุดใจอย่างนี้ได้สนิทใจอยู่หรือไม่? ครูอาวุโสถอนหายอีกครั้งก่อนจะก้าวฉับ ๆ ออกจากห้องไป ...

--------------------------

กาหรือหงส์ ตอน ๓๗ จบแล้วติดตามตอนหน้าวันพุธนี้ครับผม .. ขอบพระคุณมากครับที่ติดตามกันมากๆๆๆ ขึ้น กำลังใจของผมมาบานะไท อิอิ ...

นายอิส / เมฆชรา
๓๐ สิงหาคม ๒๕๕๓ เวลา ๑๙ นาฬิกากว่า ๆๆ








 

Create Date : 30 สิงหาคม 2553
1 comments
Last Update : 30 สิงหาคม 2553 19:11:07 น.
Counter : 958 Pageviews.

 

 

โดย: หาแฟนตัวเป็นเกลียว 30 สิงหาคม 2553 21:12:59 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


เมฆชรา
Location :
นครราชสีมา Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 22 คน [?]




เข้าสู่ปีที่ 8
Friends' blogs
[Add เมฆชรา's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.