กาหรือหงส์ ตอน ๒๗
กาหรือหงสื ตอน ๒๗ ณ เวทีเล็ก ๆ ที่จัดขึ้นหน้าเสาธงขนาดใหญ่ เป็นเวทีที่สร้างเพียงชั่วคราวสำหรับพิธีมอบรางวัลทุกประเภทกีฬาที่จัดแข่งขันกันในวันนี้ ถ้วยรางวัลสีสันสวยงามถูกจัดวางไว้เรียงลำดับตามประเภท ประธานจัดการแข่งขันคือ ท่านนายอำเภอภิมุขยืนแจกรางวัลมาตั้งแต่ต้นรายการจนมาถึงรายการสำคัญครูประพันธ์ โฆษกประจำโรงเรียนมัธยมท่าวังหินก็ขอเชิญผู้เชิญรางวัลสำคัญนั้นก็คือวันวิสา เพื่อมาเชิญรางวัลชนะเลิศรวมกีฬาทุกประเภทซึ่งสีที่ชนะเลิศและรองชนะเลิศก็คือ สีแดงกับสีชมพู ครูประพันธ์จึงเรียกประธานสีทั้งสองขึ้นมาบนเวที เสียงปรบมือกึกก้องไปทั้งเสาธง เพราะรางวัลนี้เป็นรางวัลสำคัญที่สุดในการแข่งขันกีฬาครั้งนี้เลยทีเดียว ทุกสีต่างมุ่งหวังที่จะได้ครอบครองถ้วยรางวัลชนะเลิศ พร้อมเงินรางวัลจำนวนหนึ่งสำหรับฉลองชัยชนะเล็ก ๆ น้อย ๆ …ทั้งสองขึ้นไปบนเวทีด้วยความประหม่าจนเห็นได้ชัดจากการพยายามเดินอยู่ห่างกัน ครูประพันธ์จึงเรียกให้ทั้งสองมายืนข้างหลังประธานฯ เพื่อลุ้นผลรางวัลพร้อมกันกับนักเรียนทั้งสามพันคน มะยมทำหน้าปูเลี่ยน ๆ คล้ายอยู่ในสถานการณ์คับขันมาก อิสราอมยิ้มด้วยความขบขันที่มะยมประหม่าจนควบคุมตัวเองแทบไม่อยู่เดินตัวบิดไปมา ไม่สมเป็นประธานนักเรียนและประธานสีชมพู จึงแกล้งเอ่ยทักทายไปเย้าเล่นๆ ว่า “ มะยมตื่นเต้นอะไรขนาดนั้นครับ ผมยังเฉยๆ ไม่รู้สึกอะไรเลยตั้งแต่ขึ้นมาหายใจเข้าลึกๆ สิครับ““ ก็นายมันเก่งนี่ แต่ฉันสิขาสั่นไปหมดแล้ว อาจารย์เมตตานะอาจารย์ ให้ฉันเป็นประธานติ๊งต๊องนี่ได้ไงหน้อ คนอื่นเก่งกว่าชั้นมีตั้งเยอะแยะทำไมไม่เลือก แค่เป็นประธานนักเรียนก็เหนื่อยมากแล้ว นี่ต้องมาดูแลพวกลิงทโมนนักกีฬาอีก ไหนจะกองเชียร์อีกเล่า เฮ้อ! เหนื่อยดีจัง..”“ ฮื่อ ! ปกติผมไม่ค่อยเห็นมะยมบ่อยว่าเหนื่อยอะไรเลยนะ อย่างเช่นตอนขุดดินปลูกข้าววันนั้นไง ”“ ก็แหงล่ะนั่นมันงานกรรมกรที่ฉันถนัดนี่นา แต่ถ้าให้ออกหน้าอย่างตอนนี้ ให้ฉันลงแดงตายไปตอนนี้ยังจะง่ายเสียกว่าอีก “ มะยมบ่นอุบกับอิสรา เมื่อเห็นว่ายืนรอนานพอสมควรแล้ว แต่ครูประพันธ์ไม่ยอมเรียกเสียที แต่การสนทนาต้องหยุดไว้แค่นั้น เมื่อมีสายตาคู่หนึ่งของสาวน้อยหน้าคมกังยืนจ้องในระหว่างถือถ้วยรางวัลอยู่ข้างหลัง อย่างเงียบๆ ผิดสังเกต … “ ประเดี๋ยวอาจารย์ก็จะเรียกแล้ว นั่งไงอาจารย์ใหญ่เดินมาแจกรางวัลที่สองแล้ว มะยมเขยิบไปข้างหน้าเถอะ“ อิสราดุนร่างบอบบางของสาวมาดมั่นที่ไม่มาดมั่นเสียแล้วในตอนนี้ ให้เดินออกไปหน้าเวทีเคียงคู่กัน จนกระทั่งนักเรียนที่เข้าแถวหยุดเงียบคุยกัน เมื่อครูประพันธ์ประกาศว่า ..“ เอาล่ะนักเรียนเงียบ ๆ กันหน่อย ครูจะประกาศผลรางวัลถ้วยรวมกีฬาทุกประเภทในการแข่งขันกีฬาสีของงานแข่งขันกีฬาสีประจำปีของโรงเรียนเราในปีนี้ระหว่างสีแดง กับสีชมพู และถ้วยรางวัลชนะเลิศรางวัลรวมปีนี้ได้แก่ สี สีอะไรดีครับนักเรียน …” ครูประพันธ์เว้นจังหวะหายใจโดยการเรียกเสียงจากนักเรียนทุกสี ให้ตะโกนเชียร์กันเข้ามา …“ สีแดง สีชมพู สีชมพู สีแดง สีแดง สีแดง สีชมพู สีแดง สีชมพู …….. “ “ สีที่ได้รับรางวัลชนะเลิศได้แก่ สีแดงคร้าบบบ …”… เฮ้ ๆ ๆ เย้ ๆ ๆ กรี๊ด ๆ ๆ...เสียงหวีดร้อง โห่ป่าดังลั่นไปทั่วสนามหน้าเสาธง โดยไม่รู้ว่าเสียงใครเป็นเสียงใครกึกก้องดังกระจายไปกลบเสียงพิธีกรที่กำลังพยายามบอกให้คนสองคนยืนมาใกล้ ๆ ประธานจัดงาน กระทั่งอิสราเริ่มรู้สึกตัวเมื่อคนยืนข้าง ๆ ดันตัวเองออกไปข้างหน้าโดยอัตโนมัติ ด้วยความกลัวอีกฝ่ายจะเข้ามาใกล้เหมือนเมื่อครู่ ครูประพันธ์จึงเรียกอิสราให้เข้ารับรางวัลกับนายอำเภอภิมุขทันทีที่เสียงรอบ ๆ เบาลงแล้ว .. “ ขอบคุณมากครับท่าน ..” เด็กหนุ่มยกมือขึ้นไหว้ผู้อาวุโสอย่างนอบน้อม แต่นายอำเภอกับทำท่าพินอบพิเนายิ่งกว่า...“ งานสนุกมากนะครับคุณชาย .. ท่านชายปกรณ์สบายดีนะครับ ” “ ท่านพ่อสบายดีครับ พักนี้ไม่ค่อยเห็นคุณลุงที่ไร่ฟ้าเมฆาเลยนะครับ..”“ โอว …พักนี้ลุงไปราชการเดินทางขึ้นล่องกรุงเทพกับที่นี่เป็นว่าเล่น เลยไม่ค่อยมีเวลาเป็นส่วนตัวสักเท่าไหร่ ไว้ว่างๆ ลุงจะเข้าไปคารวะท่านชายแน่ ๆ ฝากความคิดถึงไปหาท่านด้วยนะครับคุณชาย..”“ ขอบคุณอีกครั้งครับคุณลุง ผมจะเรียนท่านพ่อตามนี้ครับ ”“ เอาล่ะครับนักเรียน ตอนนี้เป็นอันว่าประธานสีแดงรับรางวัลคะแนนรวมไปแล้ว ลำดับต่อไปขอเชิญประธานสีชมพูเข้ามาแสดงความยินดีกับสีแดงด้วยนะครับ เราเป็นนักเรียนต้องหัดมีน้ำใจนักกีฬา ซึ่งถือว่าเป็นหัวใจสำคัญในการจัดงานในวันนี้ .. เชิญมะยมเข้ามาทางนี้เลย ..” มะยมเดินไปยืนอยู่ตรงหน้าอิสราแล้วยื่นมือออกไปแสดงความยินดีที่ทีมสีแดงชนะเลิศคะแนนรวมกีฬาทุกประเภท ด้วยใบหน้าที่เปื้อนยิ้มเต็มที่ ก่อนจะหุบยิ้มลงไปทันทีที่มือสัมผัสกับมือเด็กหนุ่ม แล้วถูกดึงเข้าไปสวมกอดอย่างรวดเร็ว จนตั้งตัวไม่ติด …อายแสนอาย จนแทบจะแทรกแผ่นดินหนี เมื่อเสียงโห่ร้องดังลั่นกึกก้องไปทั่งบริเวณเสาธงอีกครั้งหนึ่ง คราวนี้นานกว่าครั้งแรกมากมายนัก มะยมพยายามดิ้นรนออกจากอ้อมกอดแกร่งของคนตัวใหญ่ แต่มือที่กดทับแขนทั้งสองข้างเหมือนคีมเหล็กอันใหญ่ยักษ์ ยากจะหลุดพ้นจากพันธนาการได้ง่าย ๆ …มะยมรู้สึกอายยิ่งขึ้นไปอีก เมื่อเสียงที่โห่ดังมากขึ้นไปเรื่อย ๆ ไม่มีทีท่าว่าจะหยุดซะที …“ ปละ … ปล่อยฉันนะ ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้ไอ้บ้า บอกให้ปล่อยไง ” เงียบ มีแต่ความเงียบเท่านั้นที่เป็นปฏิกิริยาโต้ตอบของฝ่ายตรงกันข้าม …“ ไม่ปล่อยใช่มั้ย งั้นคงอยากจะลองดีกับอีมะยมคนนี้แน่ ๆ ได้เลยฉันจะจัดให้ ..”… โอ๊ย อู ยยยยยยยย เจ็บ ๆๆๆ …เสียงอิสราดังลั่นออกมาในทันทีที่มะยมกระทืบไปบนเท้าสุดแรงเกิด จนคนร่างสูงต้องคลายอ้อมกอด แล้วปล่อยสาวเจ้าให้หลุดออกมา พร้อมตะโกนเสียงดังลั่นจนได้ยินกันไปทั่ว ก่อนที่มะยมจะเหวี่ยงหมัดหลุน ๆ ข้างใส่ปลายคางผู้รุกล้ำ แม่นยำอย่างกับจับวาง … เด็กหนุ่มมองเห็นภาพตรงหน้าเบลอเหมือนทีวีจอภาพเสื่อม แล้วมีดาวระยิบระยับวิ่งวนไปมารายล้อมอยู่ตรงหน้า …มะยมรู้สึกตกใจในสิ่งที่ตัวเองกระทำในตอนนี้อยู่เหมือนกัน แต่ด้วยความอายแทบแทรกแผ่นดินหนีที่ถูกผู้ชายคนที่ยืนตรงหน้าเอื้อมมือมาสวมกอด แล้วกดร่างไว้เนิ่นนาน ท่ามกลางสายตาคนนับพันๆคนที่กำลังอ้าปากค้างประหนึ่งดูสิ่งมหัศจรรย์อันดับแปดของโลกเกิดขึ้นตรงหน้าก็ไม่ปาน …อิสราเซถลาเหมือนนกปีกหักที่ลอยคว้างอยู่ในอากาศแล้วหล่นตกมาบนเวทีโดยมีวันวิสารับไว้ด้วยความระมัดระวังและมุ่งมั่นในหน้าที่ผู้พิทักษ์อย่างเต็มที่ …ครูประพันธ์ยังคงตกตะลึงในเหตุการณ์ที่กลับตะละปัดไปอย่างไม่น่าเชื่อเช่นนี้ กว่าสติสะตังจะกลับมาเหมือนเดิมได้ก็กินเวลาไปหลายนาที …“ เอาล่ะเป็นอันว่าพิธีการมอบรางวัลเสร็จสิ้นแล้ว ขอให้นักเรียนทุกคนแยกย้ายกันกลับบ้านได้ ขอบคุณทุกคนครับ ปีหน้าเราคงได้สนุกสนานอย่างนี้กันอีกนะครับ..”“ อิสรายังมึน ๆ อยู่ ช่วยหนูหน่อยสิคะครู ..” วันวิสาตะโกนขณะกำลังประคองร่างสูงใหญ่ของอิสราด้วยหน้าที่ที่ของตนอย่างแท้จริง ก่อนจะเร่งรัดไปอีกครั้งว่า… “ คุณครูขาเร็วมาช่วยหนูหน่อยสิคะ อิสรากำลังเป็นลม ยังไม่ฟื้นเลย …“ อ้าวนั่น ! ฟื้นแล้วนี่วันวิสา งั้นเธออยู่ที่นี่นะเดี๋ยวครูจะลงไปส่งท่านประธานก่อน…”“ ครูคะเดี๋ยวสิ …ปัดโธ่ไปซะแล้ว “ วันวิสาบ่นอุบอยู่คนเดียว เหลียวมองไปรอบเวทีที่ตอนนี้แล้วเห็นว่านักเรียนต่างแยกย้ายกันไปหมดแล้ว เหลือเพียงยืนมองมาบนเวทีไม่ต่ำกว่าสิบคนเป็นอย่างน้อย … จึงเอื้อมมือไปล้วงกระเป๋าแล้วหยิบยาดมขึ้นมาแล้วนำไปแกว่งบริเวณหน้าอิสราที่ตอนนี้ค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมา ทำหน้างุนงงสงสัย คล้ายไม่แน่ใจว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเองกันแน่ … “ เขาเลิกงานกันแล้วเหรอวิสา แล้วมะยมล่ะไปไหน” ทันทีที่อิสราพูดจบวันวิสารู้สึกเดือดดาลขึ้นมาในทันที ทั้ง ๆ ที่เมื่อครู่ยังอารมณ์ดีอยู่แท้ ๆ หมดอารมณ์กันพอดีที่เอ่ยถึงชื่อคนที่เป็นต้นเรื่องทั้งหมดในวันนี้“ จะบ้าหรือไงอิส ! ยัยบ้านั่นมันเพิ่งจะชกหน้าเธอมาหมาดๆนะ ยังมีหน้าไปถามหาอีก..” “ ก็เราไปทำมิดีมิร้ายเค้าก่อนนี่นา คงเขินมั้ง ““ อ้อ ! เขินบ้าเขินบออะไรกัน ถึงกับต้องต่อยปากเธอซะเจ่อ บวมเป่งอย่างงี้นะหรือ ไม่ได้ตั้งใจ เฮอะ! ป่าเถื่อนบ้านนอกไร้การศึกษาสิ้นดี เห็นทีคราวนี้วิสามีเรื่องที่จะไปเล่าให้ท่านแม่ หม่อมยายฟังซะแล้ว ”“ ไม่เอาน่าวิสา อย่าทำเรื่องเล็กให้มันเป็นเรื่องใหญ่หน่อยจะได้มั้ย เรื่องเล็ก ๆ แค่เนี่ยไม่ควรถึงผู้หลักผู้ใหญ่และเธอไม่ควรจะรื้อฟื้นมันอีกเมื่อกลับไปถึงบ้าน ““ เรื่องมันไม่จบง่ายๆ หรอกอิส ถึงนายจะไม่เอาเรื่อง ฉันนี่แหละจะเอาเรื่องมันให้ถึงที่สุด เอาให้มันอับอายเหมือนที่มันทำให้เธอเป็น ..”“ ฉันขอร้องเถอะวันวิสา จบเรื่องราวในวันนี้ไว้เพียงแค่นี้ อย่าให้มันยืดยาวไปกว่านี้เลย ลำพังเหตุการณ์ในวันนี้ฉันก็ไม่รู้ว่าจะสู้หน้ามะยมเค้าได้ยังไงแล้ว..”“ จะโทษใครล่ะอิส เรื่องราวทั้งหมดเป็นเพราะนายคนเดียวนั่นแหละ …แล้วนี่นึกอะไรขึ้นเหรอถึงไปกอดมันซะกลมดิกยังงั้น พิศวาสอะไรกันนักหนา หรือเป็นเพราะมันให้ท่านายมาก่อนหน้านั่นแล้ว นายเลยมาหน้ามืดเอาตอนนี้ ..”“ โอ๊ยจะบ้าตาย …อย่าเดาอะไรไร้สาระปัญญาอ่อนอย่างนั้นสิวิสา มันไม่มีอะไรซับซ้อนขนาดนั้นหรอก ฉันแค่อยากจะอยู่ใกล้ๆ เค้าเท่านั้นเอง ... ฉันชอบมะยม เธอรู้มั้ยฉันรักมะยม…”“ กรี๊ด ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ …ไม่จริง เธอโกหกหลอกลวงชั้น คนชั่วคนสารเลว ..”“ หยุด หยุดนะ หยุดเดี๋ยวนี้วิสา อย่ามาโวยวายที่นี่อายคนที่เดินผ่านไปมาเสียมั่งสิ ..”“ ฉันไม่หยุด ใครจะทำไม ฉันจะขอประกาศให้คนในโรงเรียนนี้ว่าฉันกำลังถูกอีนังบ้านนอก ชาติตระกูลชั้นต่ำมาแย่งคนรักที่กำลังจะหมั้นไปอย่างหน้าด้าน ๆ ” วันวิสาร้องไห้สะอึกสะอื้นฟูมฟายน่าสงสาร อิสราทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว จึงตรงเข้าไปยึดข้อแขนอันเล็กเรียวของเด็กสาวแล้วลากไปข้างหน้าด้วยแรงที่มี ..“ ไปจากนี้กันเดี๋ยวนี้เลยวิสา ตอนนี้ฉันอายแทบจะแทรกแผ่นดินหนีแล้ว..” วันวิสาพยายามดิ้นรนขัดขืนจากการลากอย่างสุดแรงของอิสราให้ออกจากหน้าบริเวณเสาธงให้เร็วที่สุด ด้วยความอับอายในเสียงที่แหลมปรี๊ด และกิริยาใจร้อนวู่วามทุรนทุรายเมื่อไม่ได้ดังใจของวันวิสาอย่างถึงขีดสุดแล้ว จนกระทั่งมาถึงรถสปอร์ตสีดำคันหรูที่สตาร์เครื่องรออยู่ที่ประจำแล้ว เด็กหนุ่มจึงโยนร่างเล็กบอบบางของสาวหน้าเฉี่ยวคมล้ำสมัยเข้าไปในตัวรถอย่างไม่ปราณีปราศรัย …“ กรี๊ด กรี๊ด เรื่องที่นายทำกับฉันในวันนี้มันคงไม่จบง่าย ๆ หรอกนายคอยดูสิ ฮือ ๆ ๆ ..”“ เธอจะทำอะไรก็ทำไปเลยวิสา ไม่ต้องเกรงใจฉันก็ได้ ฉันก้เริ่มจะเบื่อและรำคาญเสียงกรี๊ด ๆ ของเธอเต็มทนแล้ว เอะอะอะไรก็เอาแต่ส่งเสียง น่ารำคาญชะมัด … ลุงมั่นครับออกรถได้เลย ..”พอรถเคลื่อนได้สักครู่ บรรยากาศภายในรถก็เงียบงันไปในทันที อิสราอดที่จะสงสารวันวิสาไม่ได้ เพราะตอนนี้สิ้นฤทธิ์หลังพิงพนักเบาะอย่างคนหมดอาลัยตายอยากในทุกอย่าง โดยมีเสียงสะอื้นไห้เบา ๆ ดังออกมาเป็นระยะ ๆ จนกระทั่งถึงไร่ฟ้าเมฆา … กาหรือหงส์ ตอน ๒๗ จบแล้ว ติดตามตอนที่ ๒๘ วันอังคารนะครับ .. ขอบพระคุณที่ติดตาม .. ขอบคุงก๊าบ อิอิ ...นายอิส /เมฆชรา๘ สิงหาคม ๒๕๕๓๑๔ น. ๒๒ นาที