กาหรือหงส์ ตอน ๓๕
กาหรือหงส์ ตอน ๓๕แล้ววันแข่งเรือก็มาถึง พลอยใสกับวันวิสาได้เตรียมความพร้อมสำหรับกิจกรรมสำหรับวันนี้มาอย่างเต็มที่แล้ว ทั้งเสื้อผ้าหน้าผมจัดแต่งมาด้วยความสวยงามและอลังการยิ่งกว่าใคร กองเชียร์ทั้งกลุ่มนักเรียนที่มีหน้าที่แปลอักษรและประชุมเชียร์บนที่นั่งอัศจรรย์ ... มะยมกับกลุ่มสาวซ่าส์ทั้งหมดมีหน้าที่เป็นทีมงานควบคุมนักเรียนทั้งสองร้อยกว่าชีวิตอยู่ด้านหน้าอัศจรรย์เชียร์ที่ได้สร้างไว้อย่างสวยงามติดริมน้ำน่าน ห่างจากจุดเส้นชัยเรือแข่งไม่ถึงห้าสิบเมตร เสียงเพลง เสียงพากย์ ดังกลบก้องไปทั่วคุ้งสายน้ำอันกว้างใหญ่สลับกับเสียงเชียร์จากแต่ละหน่วยงานที่ส่งเรือพายเข้าประกวด เสียงกังวาลดังจนไม่รู้เสียงใครเป็นเสียงใคร..ครูเมตตากับครูเพทายยืนกอดอก ทอดตามองไปยังนักเรียนทำกิจกรรมด้วยความภาคภูมิใจที่ได้เข้าร่วมในครั้งนี้ แต่ก็แสดงสีหน้าปริวิตกไปบ้างเมื่อเห็นว่าเวทีแสตนเชียร์ถูกสร้างให้อยู่ใกล้ริมน้ำน่าจจนเกินไป จนอดจะเอ่ยออกมาไม่ได้ว่า ...“ อาจารย์คิดเหมือนผมมั้ยครับว่าโรงเรียนเราทำเวทีอยู่ติดกับริมฝั่งน้ำจนเกินไป แถมดูยังก่อสร้างไม่ค่อยแข็งแรงเท่าที่ควร”“ ฉันก็กำลังจะบอกครูตั้งแต่แข่งวันแรก ๆ อยู่เหมือนกัน แต่ก็ลืมไปซะทุกที”“ เวทีมันเกินออกมาริมน้ำจนดู จะเอนไปข้างหน้าแล้วนะครับ”“ ใช่! ดูตรงที่ยัยมะยมกับเพื่อนยืนอยู่ตรงนั้นสิ มันโย้ยื่นออกจนถึงลำน้ำแล้ว สงสัยคนที่อยู่ที่นั่นคงจะไม่ทันสังเกต ฉันว่าเราต้องทำอะไรสักอย่างแล้วนะเพทาย” ครูเมตตาละล่ำละลักเอ่ยออกมาด้วยทีท่าวิตกกังวล เกรงจะไม่ทันกาลเพราะเสียงปืนเป็นสัญญาณว่าเรือพายแข่งขนาดเล็กรอบชิงชนะเลิศระหว่างโรงเรียนมัธยมท่าวังหินกับบ้านน้ำล้อม ตัวเต็งอันดับหนึ่ง ได้ถูกปล่อยดังขึ้นมาจากคุ้งน้ำทางด้านทิศเหนือแล้ว ...“ สงสัยจะไม่ทันซะแล้วครับครู เรือแข่งปล่อยตัวมาแล้ว ”“ ว้ายตายแล้ว ! นี่จะทำไงดีล่ะเพทาย เด็ก ๆ กำลังขย่มสแตนเชียร์กันซะเต็มที่ขนาดนั้น คุณพระคุณเจ้าช่วยลูกด้วยเถอะ ”“ เดี๋ยวผมจะวิ่งไปดูทางโน้นก่อนครับ”“ รีบไปเถอะเพทาย ครูจะเป็นลม ....”ครูเมตตายกมือขึ้นมาทาบอกคล้ายจะเป็นลม ไม่อยากจะนึกถึงภาพที่อาจจะเกิดขึ้นในอีกวินาทีข้างหน้า วินาทีใดก็ได้ ...ฝ่ายมะยมกับจิ๊บและเพื่อน ๆ ทีมงานทั้งหมดยืนอยู่ด้านหน้าอัศจรรย์เชียร์ด้วยใจเต้นตึกตั๊ก ๆ หึกเหิมกว่าปกติ เมื่อมีใครคนหนึ่งตะโกนออกมาว่า เรือแข่งโรงเรียนมัธยมท่าวังหินกำลังออกตัวมาพร้อมกับชัยชนะที่อยู่แค่เอื้อม ...“ พวกเราตอนนี้เรือโรงเรียนเรากำลังขึ้นนำเรือบ้านน้ำล้อมแล้ว เย้ ๆๆๆๆ เอ้าน้อง ๆ เชียร์ดัง ๆ สิ ตะโกนออกไปเลย ท่าวังหินสู้ ๆๆๆๆ ”เสียงนักเรียนรุ่นพี่ที่ตะโกนปลุกเร้าให้น้อง ๆ มอต้นที่อยู่บนอัศจรรย์ส่งเสียงและตะโกนเต็มที่ ความคึกคักโกลาหล สนุกกันเต็มที่เมื่อเรื่อแข่งโผล่จากโค้งคุ้งน้ำข้างหน้าแล้ว ...มะยมชะโงกหน้าไปจนสุดราว เพื่อดูเรือแข่งที่กำลังห้อตะบึง จ้ำอ้าวมาอย่างไม่มีใครยอมใคร ความเร็วกับความได้เปรียบสูสีจนแทบจะแยกกันไม่ออกว่าใครกำลังเป็นฝ่ายนำ ... “ เฮ้ยนังยม ... แกรู้สึกเหมือนฉันมั้ยวะ”“ มีอะไรเหรอจิ๊บ ...”“ ตอนนี้เวทีมันเลื่อน และฉันกำลังรู้สึกเวียนหัวอย่างแรง แกลองสังเกตดูสิ ”“ เออ !จริง ๆ ด้วยว่ะจิ๊บ เฮ้ย ๆ นังจิ๊บ อัศจรรย์ข้างบนกำลังจะล้มลงมาแล้ว แกหลบไป หลบไป ” มะยมมองเห็นภาพข้างหน้า เหมือนที่เคยเห็นในรายการทีวีประเภทเรื่องจริงผ่านทีวีอะไรซักอย่าง เพราะภาพที่เห็นมันเหมือนนรกตอนกำลังมีความสุขยังไงยังงั้น ...ภาพนักเรียนร่วมสามร้อยกระโจนลงจากอัศจรรย์เชียร์ ด้วยท่าทีหนีตายกันอลหม่าน เสียงร้อง กรี๊ดกร๊าด ร้องขอให้ช่วยเซ็งแซ่ครวญคราญดังระงมไปทั่วบริเวณนั้น มะยมรู้สึกว่าตัวเองกำลังถูกแยกจากเวทีแล้วลอยลงไปตามน้ำที่ไหลเชี่ยวพร้อมกับเชียรรีดเดอร์ส่วนหนึ่ง ในจำนวนนั้นมีบุคคลสองคนที่มะยมแทบจะตกใจช็อกเมื่อเห็นหน้าค่าตาแล้ว ...เป็นพลอยใสกับวันวิสานั่นเอง ...วันวิสานั่งหมอบลงไปกับพื้นเอื้อมมือทั้งสองข้างเกาะกับราวไม้ไผ่ ใบหน้า แววตาเถือกถลนตใจเต็มที ปากร้องตะโกนออกมาว่า ...“ ช่วยด้วย ๆ ๆ แม่จ๋าช่วยวิสาด้วย วิสายังไม่อยากตาย ฮือ ๆๆ ๆ ”ส่วนพลอยใส ยังคงนิ่งขึงกึ่งตกใจกึ่ทำอะไรไม่ถูก แต่ก็ยังมีกำลังใจที่ดีกว่าอีกฝ่ายโดยไม่แสดงอาการตกใจอะไรออกมาเลย ทำได้แค่เพียง หันซ้ายแลขวามองกลุ่มคนที่ติดบนเวทีลอยน้ำ มองเห็นวันวิสากำลังกรีดร้อง ขวัญหนี หน้าตาซีดเซียวไร้สีเลือดใบหน้า เสมองเลยไปอีกนิดจนพบว่าน้องสาวตัวดีกับนังเพื่อนสาวมาดทอมบอยติดมาด้วยสองคน ...พอเวทีที่เสมือนแพย่อม ๆ ไหลเคลื่อนย้ายออกจากฝั่งไปทีละนิด ๆ จนกระทั่งไปหยุดนิ่งอยู่กลางลำน้ำแล้วค่อยจมหายไปทีละน้อย ๆ มะยมกับจิ๊บตะกุยน้ำว่ายเข้าหาฝั่งอย่างช้า ๆ ด้วยความสะบักสะบอม จนเกือบจะถึงฝั่งก็มีนักเรียนชายประมาณเกือบสิบคนเข้ามาพยุง โดยที่นักเรียนคนที่เหลือบนแพต่างก็ว่ายน้ำกลับจนถึงฝั่งเกือบหมด คงเหลือคนเพียงสองคนที่ยังเกาะราวไม้ไผ่บนแพอย่างเหนียวแน่น ...“ เธอปล่อยราวนั่นได้แล้ววันวิสา ตอนนี้แพกำลังจะจม ” “ ไม่นะไม่ ถ้าฉันปล่อย ฉันตายแน่ ๆ ฉันว่ายน้ำไม่เป็นนะ ช่วยด้วย ๆ ๆ ”“ แล้วกันวิสา ฉันก็ว่ายน้ำไม่แข็งเลย ...เราจะทำไงดี ”พอขึ้นจากน้ำได้ มะยมมองไปยังแพไม้ไผ่ที่กำลังจะจมไปทีละนิด ๆ เห็นสองสาวกำลังทุ้มเถียงกัน สาวหนึ่งเตรียมจะโผหนีจากแพ ส่วนอีกสาวหนึ่งทรุดนั่งไปบนแพพร้อมกับเกาะราวเล็ก ๆ ที่ยื่นออกมาไว้แน่น ไม่ยอมที่จะว่ายออกมาจากแพที่กำลังจม ...“ วิสา ..ว่ายออกมาเร็วเข้า แพกำลังจม” เสียงตะโกนดังลั่นหลาย ๆเสียง ดังมาจากบนตลิ่งที่ตอนนี้ทุกคนจับจ้องไปยังสองสาวบนแพ ..“ ค่อย ๆ ว่ายมาสิพลอย ” เสียงแผดลั่นของครูเมตตาทำเอาไทยมุงริมฝั่งน้ำน่านแตกฮือไปคนละทิศละทาง ข้างมะยมมองไปยังคนที่อยู่บนแพแล้วถอนหายใจ คิดสงสัยว่างานนี้แม่สาวชาวกรุงปากจัดคงว่ายน้ำไม่เป็นแหงแซะ ....“ ฉันว่าแกว่ายน้ำลงไปช่วยยัยสองคนนั้นเลยป่ะ ดูท่าจะกระบิดกระบวนอีกนาน”“ ได้เพื่อน ฝากดูแลน้องที่เจ็บทางนี้ด้วยนะ”“ เออๆ ! รีบลงน้ำไปช่วยสองคนนั้นก่อนดีกว่า เรื่องอื่นเอาไว้ที่หลัง ”“ โอเคเพื่อน ..”พลันนั้นเด็กสาวบ้านนากระโดดผลุงลงไปในน้ำทันที เพียงครู่เดียวก็ว่ายจนถึงเกือบจะถึงแพเจ้าปัญหาที่อยู่ห่างไปไม่ถึงสิบห้าเมตร ... แต่ก็เด็กสาวกลับได้ยินเสียงว่ายน้ำดังจ๋อมแจ๋มตามมาข้างหลัง พอหันเป็นก็ร้องอ๋อเป็นน้ำฝนนั่นเอง ... “ เฮ้ยมะยม แกจะช่วยใครก่อน ” “ พลอยว่ายน้ำไม่เป็น ฉันกำลังจะไปช่วย” มะยมหันหลังกลับว่ายทวนน้ำไปข้างหน้าอย่างผู้เชี่ยวชาญสมกับเป็นลูกน้ำน่านมาแต่กำเนิด ทั้งสองว่ายมาถึงแพก็พบว่า ตอนนี้แพได้จมมิดไปในลำน้ำเรียบร้อยแล้ว เหลือเพียงสองสาวที่กำลังตะกุยน้ำ ดำผุดดำว่าย จนน้ำแตกกระจายเป็นวงกระเพื่อม เจียนอยู่เจียนจมน้ำแล้วทั้งคู่อยู่ที่บริเวณนั่น .. จึงตะโกนสุดเสียงไปให้พี่สาวร่วมสายเลือดได้ยินสุดแรงว่า ...“ มาเกาะหลังฉันไว้สิพลอย ”..... เงียบ ไม่มีปฏิกิริยาตอบรับจากคนที่กำลังว่ายน้ำสะเปะสะปะข้างหน้า ... “ เกาะหลังฉันไว้พลอย เดี๋ยวหมดแรง จมน้ำนะ”มะยมพยายามจะพูดให้อีกฝ่ายตัดสินทำอะไรสักอย่างอย่างเร่งด่วน ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินแก้ในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า .. “ ยื่นมือมาสิวิสา เธอต้องยื่นมือมาให้ฉันเดี๋ยวนี้ แพกำลังจะจมน้ำแล้ว ”... ความเงียบเข้าปกคลุมมาอีกครั้ง ก่อนจะแทรกด้วยเสียงหวีดร้องมาจากบริเวณใกล้ ๆ “ กรี๊ด ๆ ๆ ช่วยฉันด้วยมะยม ช่วยฉันหน่อย ฉันกำลังจะจมน้ำ แม่จ๋า ย่าจ๋าช่วยหนูด้วย ”มะยมมองผ่านไปยังต้นเสียง ก่อนจะโผว่ายไปอย่างรวดเร็วทันที ..“ ฝนมาช่วยฉันทางนี้... รับวันวิสาหน่อย ”“ ได้จะไปเดี๋ยวนี้แล้ว ” พอเด็กสาวว่ายไปถึงแม่สาวชาวกรุงก็เริ่มจะจมน้ำและสำลักน้ำอย่างเต็มที่แล้ว จึงว่ายเข้าไปประชิดตัวแล้วล็อกคอจากด้านหลังดึงลากขึ้นสู่ผิวน้ำ ส่งให้น้ำฝนที่รอรับอยู่แล้ว ...“ โอเคมะยม ฉันจะลากยายนี่เข้าฝั่งก่อน แกไปดูพี่สาวของแกสิ ”มะยมเหลียวไปตามคำพูดของเพื่อนสาวร่วมแก็งแล้วรู้สึกใจหายวาบ รู้สึกช็อกไปแทบทุกส่วนประสาท เมื่อมองเห็นพลอยใสที่เมื่อครู่ยังว่ายทรงตัวพอประคองให้อยู่กับที่ได้ มาตอนนี้ไร้ร่างของพี่สาวร่วมสายเลือดอยู่ที่ตรงนั้นแล้ว ...ใจไวเท่าความคิด เด็กสาวรีบเร่งดำลงไปในน้ำทันทีด้วยความเป็นห่วงพี่สาวที่ว่ายน้ำไม่เป็น ถึงเป็นก็ไม่แข็งแรงมากนัก แต่แล้วความขุ่นสีแดงของน้ำก็เป็นอุปสรรคจนได้ มะยมเพ่งสายตาฝ่าไปในความสลัวของม่านน้ำไปด้วยความยากลำบากที่จะมองเห็นพลอยใส จึงผุดขึ้นมาสูดอากาศอีกครั้งจนมองเห็นว่าน้ำฝนได้ดึงร่างของวันวิสาไปเกือบถึงฝั่งแล้ว ... มะยมหันรีหันขวางว่าจะมุดดำน้ำเพื่อไปหาพลอยใสตรงไหนดี ภายในใจพร่ำภาวนาของให้แม่การะเกดที่รักยิ่งช่วยมาแสดงปาฎิหารย์อะไรสักอย่างให้ลูกได้ค้นหาพี่สาวด้วยเถอะ ...แต่แล้วทุกอย่างก็เหมือนคำอธิษฐานของเด็กสาว เมื่อสายตาเหลือบไปมองเห็นรองเท้าสีชมพูหวานผุดลอยขึ้นมาจากน้ำวนไหลข้างหน้าที่อยู่ห่างออกไปไม่ถึงห้าเมตร ... มะยมรีบดำมุดลงไปใต้น้ำในจุดนั่นทันที … -----------------------กาหรือหงส์ ตอน ๓๕ จบแล้ว ติดตามตอนที่ ๓๖ ในสองสามวันนี้นะครับผม ขอบพระคุณมากที่ติดตามอ่านกันมาหลายเดือน .. จำนวนเพื่อนหนอนอุ่นหนาฝาคั่งขึ้นทุกครั้ง .. ขอบพระคุณมากกกกกกก อิอินายอิส / เมฆชรา๒๔ สิงหาคม ๒๕๕๓ห้าทุ่มกว่ากว่าครับ