จินตนาการสำคัญกว่าความรู้
Group Blog
สุขใจที่ได้อ่าน
ผลงานของเมฆชรา
กาพย์กลอน
เที่ยวท่องไปในโลกกว้าง
ความจริงของชีวิต
<<
กรกฏาคม 2553
>>
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
24 กรกฏาคม 2553
กาหรือหงส์ ตอน ๒๑
All Blogs
ภมรดอกงิ้ว ๒๐ (ปลายทางฉิมพลี) อวสาน
ภมรดอกงิ้ว ๑๙ (สุดทางสวรรค์) จบ
ภมรดอกงิ้ว ๑๘ (ในลึก)
ภมรดอกงิ้ว ๑๗ (บันไดที่ปลายทาง)
ภมรดอกงิ้ว ๑๖ (วังวนใจ)
ภมรดอกงิ้ว ๑๕ (สายน้ำไม่ไหลกลับ)
ภมรดอกงิ้ว ๑๔ (สองมือพ่อ .. จักโอบเจ้าให้เศร้าคลาย)
ภมรดอกงิ้ว ๑๓ (across the universes )
ภมรดอกงิ้ว ๑๒ (ฤดีแก้วสกาวใส)
ภมรดอกงิ้ว ๑๑ (วสันต์ในเหมันต์)
ภมรดอกงิ้ว ๑๐ (เวียนว่ายไปในเวิ้งมหานที)
ภมรดอกงิ้ว ๙ (กากีสะอื้น) * เมฆชรา
ภมรดอกงิ้ว ๘ (วิหคหลงรัง) * เมฆชรา
ภมรดอกงิ้ว ๗ (เงาความทรงจำ) * เมฆชรา
ภมรดอกงิ้ว ๖ (สายบ่หยุด เสน่ห์หาย) * เมฆชรา
ภมรดอกงิ้ว ๕ (ชีวิตเป็นของเรา) * เมฆชรา
ภมรดอกงิ้ว ๔ (ปลายทางความใคร่) * เมฆชรา
ภมรดอกงิ้ว ๓/๒ (ในห้วงเสน่หา) * เมฆชรา
ภมรดอกงิ้ว ๓/๑ (ในห้วงเสน่หา) * เมฆชรา
ภมรดอกงิ้ว ๒ (ระเริงไฟ) * เมฆชรา
ภมรดอกงิ้ว ๑ (ความผิดครั้งแรก)
ภมรดอกงิ้ว (เร่ิมฉิมพลี)
กาหรือหงส์ ตอน ๕๓
หนังสือมรณะ ๓
กาหรือหงส์ ตอน ๕๒
หนังสือมรณะ ๒
หนังสือมรณะ ๑
กาหรือหงส์ ตอน ๕๑
กาหรือหงส์ ตอน ๕๐
กาหรือหงส์ ตอน ๔๙
กาหรือหงส์ ตอน ๔๘
กาหรือหงส์ ตอน ๔๗
กาหรือหงส์ ตอน ๔๖
กาหรือหงส์ ตอน ๔๕
กาหรือหงส์ ตอน ๔๔
กาหรือหงส์ ตอน ๔๓
กาหรือหงส์ ตอน ๔๒
กาหรือหงส์ ตอน ๔๑
กาหรือหงส์ ตอน ๔๐
กาหรือหงส์ ตอน ๓๙
กาหรือหงส์ ตอน ๓๘
กาหรือหงส์ ตอน ๓๗
กาหรือหงส์ ตอน ๓๖
กาหรือหงส์ ตอน ๓๕
กาหรือหงส์ ตอน ๓๔
กาหรือหงส์ ตอน ๓๓
กาหรือหงส์ ตอน ๓๒
กาหรือหงส์ ตอน ๓๑
กาหรือหงส์ ตอน ๓๐
กาหรือหงส์ ตอน ๒๙
กาหรือหงส์ ตอน ๒๘
กาหรือหงส์ ตอน ๒๗
กาหรือหงส์ ตอน ๒๖
กาหรือหงส์ ตอน ๒๕
กาหรือหงส์ ตอน ๒๔
กาหรือหงส์ ตอน ๒๓
กาหรือหงส์ ตอน ๒๒
กาหรือหงส์ ตอน ๒๑
กาหรือหงส์ ตอน ๒๐
กาหรือหงส์ ตอน ๑๙
กาหรือหงส์ ตอน ๑๘
กาหรือหงส์ ตอน ๑๗
กาหรือหงส์ ตอน ๑๖
กาหรือหงส์ ตอน ๑๕
กาหรือหงส์ ตอน ๑๔
กาหรือหงส์ ตอน ๑๓
กาหรือหงส์ ตอน ๑๒
กาหรือหงส์ ตอน ๑๑
กาหรือหงส์ ตอน ๑๐
กาหรือหงส์ ตอน ๙
กาหรือหงส์ ตอน ๘
กาหรือหงส์ ตอน ๗
กาหรือหงส์ ตอน ๖
กาหรือหงส์ ตอน ๕
กาหรือหงส์ ตอน ๔
กาหรือหงส์ ตอน ๓
กาหรือหงส์ ตอน ๒
กาหรือหงส์ ตอน ๑
ฟ้ายังมีดาว ตอนที่ ๑๐
ฟ้ายังมีดาว ตอนที่ ๙
ฟ้ายังมีดาว ตอนที่ ๘
ฟ้ายังมีดาว ตอนที่ ๗
ฟ้ายังมีดาว ตอนที่ ๖
ฟ้ายังมีดาว ตอนที่ ๕
ฟ้ายังมีดาว ตอนที่ ๔
ฟ้ายังมีดาว ตอนที่ ๓
ฟ้ายังมีดาว ตอนที่ ๒
ฟ้ายังมีดาว ตอนที่ ๑
ฟ้ายังมีดาว (บทนำ)
**-** ดอกไม้กับงูพิษ (เรื่องสั้นพิเศษ) โดย เมฆชรา
๛๛๛>>>> อ้อมอกภูเขา <<<< ๛๛ เฉลิมศักดิ์ แหงมงาม ๛๛๛
กาหรือหงส์ ตอน ๒๑
กาหรือหงส์ ตอน ๒๑
พลอยใสเขยิบตัวให้ลีบด้วยความเกรงกลัวต่อวาจาที่เน้นย้ำและทรงพลังของครูพล ก่อนจะเอ่ยปากอธิบายเรื่องราวที่ตัวเองถูกเรียกในวันนี้ว่า …
“ หนูไปทำการบ้านที่บ้านเพื่อนมาค่ะพ่อ พอดีบ้านโน้นเค้าชวนกินข้าวเย็นก็เลยอยู่ต่อ ไม่คิดว่าจะกลับบ้านดึกอย่างนี้ ต้องขอโทษด้วยที่ทำให้รอ..”
“ ไม่ใช่เรื่องนี้หรอกพลอยใส พ่ออยากจะถามเรื่องบางเรื่องเท่านั้นเอง..”
“ มันเรื่องเกี่ยวกับตัวหนูหรือเอ่อ คนอื่นคะ..” คนพูดทำหน้าง้ำคว่ำตวัดสายตาไปยังห้องด้านในบ้าน
“ เรื่องของเรานั่นแหละ พ่ออยากจะถามว่าทำไมเราสองพี่น้องไม่คุยกัน ช่วยเหลือกันเหมือนที่พ่อได้สั่งสอนเอาไว้ หรือว่าเราจำคำพูดที่เคยรับปากแม่การะเกดไว้ไม่ได้แล้ว..” ครูพลตัดพ้อเหมือนจะน้อยใจที่ลูกสาวคนโตเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ไม่ได้ดีกว่าเก่า แต่สาวหน้าหวานตอบสวนมาในทันทีว่า
“ มันก็ไม่มีอะไรมากนี่คะพ่อ แค่หนูไม่อยากจะเสวนากับพวกเห็นแก่ตัว ชอบแย่งของชาวบ้าน.. ก็เท่านั้นเอง ..” ครูพลชันกายลุกขึ้นยืนด้วยความรู้สึกแน่นหน้าอกพูดไม่ออก แล้วเอ่ยต่อไปว่า “ ทำไมพี่น้องกันต้องมาเป็นศัตรู ห้ำหั่นกันไม่เข้าท่าอย่างนี้ ทำไม! ตอบพ่อมาสิพลอยใส ..”
“ ความถูกต้องไงคะพ่อ คนของพ่อไม่มีในข้อนี้ วันๆเอาแต่หน้า ไม่เคยจริงใจกับใครสักคน”
“ ยังไงเค้าก็เป็นน้อง จะผิดจะพลาดอะไร ก็ให้อภัยกัน ไม่ใช่เป็นศัตรูอยู่กันคนละด้านอย่างนี้..”
“ อ้อ ! นี่คงมาเล่าเรื่องไม่ดีของพลอยให้ฟังแล้วน่ะสิ ถึงได้เข้าข้างกันเป็นปี่เป็นขลุยอย่างนี้..”
“ หยุดว่าคนอื่นได้แล้วพลอยใส ..ทุกคนไม่ได้เป็นเหมือนตัวเองหรอกนะ..”
“ พลอยพูดความจริงไม่ได้หาเรื่องใคร พ่อยังไม่รู้อะไรมาก สักวันหนึ่งถ้าความจริงปรากฏคงไม่มาด่าว่าหนูปาวๆ อย่างนี้หรอก ..”
พลอยใสเหยียดริมฝีปากคล้ายจะปลงตกในความอยุติธรรมของผู้เป็นพ่อที่รักลูกสาวไม่เท่ากัน แม้จะพยายามบอกคนอื่นว่าลูกสำคัญเท่ากัน แต่ในความเป็นจริงยังลำเอียงรักคนเล็กนอกใส้อยู่ดี..
“ มีเหตุผลอะไรไปว่าน้องไม่ดีอย่างนั้นน่ะพลอย มะยมเค้าก็กลับบ้านตรงเวลา ไม่เคยไปเที่ยวเถลไถลไกลๆเลยสักครั้งเดียว และที่สำคัญเค้าเสมอต้นเสมอปลายทุกอย่าง ..”
“ เฮอะ ! เสมอต้นเสมอปลายทุกอย่าง โกหกสร้างภาพน่ะไม่ว่า ..”
“ หยุดว่าน้องได้แล้วพลอย พ่อขอสั่งว่าต่อไปนี้ห้ามออกจากบ้านหลังพระอาทิตย์ตกดิน และขอให้พยายามพูดและคิดดีกับน้องด้วย เข้าใจและพอจะทำได้มั้ยพลอย..”
“ หนูทำได้แน่นอนอยู่แล้ว ว่าแต่ว่าพ่อช่วยไปเตือนคนบางคนหน่อยนะว่า อย่าคิดอะไรสูงเลย เพราะตกลงมามันจะเจ็บเอา ”
พลอยใสเลิกคิ้วไม่ยี่หร่าต่อคำต่อว่าของครูพล แถมยังเหน็บใครบางคนเข้าให้อีก จนครูพลที่จ้องเขม็งมองมาอีกครั้งแล้วส่ายหน้าอย่างเหนื่อยหน่ายในหัวใจ ก่อนจะพูดด้วยเสียงกร้าวขึ้นมาว่า …
“ ใครมักใหญ่ใฝ่สูงกัน พ่อไม่เคยสอนให้ลูกพูดอะไรอย่างนี้เลยนะพลอย ถ้าคนที่ลูกกำลังพาดพิงถึงคือน้อง พ่อก็ขอยืนยันว่ามะยมไม่ได้เป็นคนคิดเล็กอย่างนั้นแน่นอน พ่อเลี้ยงมากับมือ พ่อรู้ว่าใครมีนิสัยเป็นอย่างไง ”
“ เชิญยกยอสรรเสริญกันเข้าไป ไหนๆ หนูก็เป็นลูกเลวแล้วนี่ จะมีอะไรดีให้พ่อได้ชื่นใจได้เล่า ... พ่อก็เป็นซะอย่างนี้ เข้าข้างกันตะบี้ตะบัน รักจนทูนไว้เหนือเกล้า เห็นผิดเป็นชอบไปซะทุกเรื่อง พลอยทำอะไรก็กลายเป็นผิดไปหมด อย่างนี้จะเรียกว่าพ่อเลี้ยงลูกด้วยความยุติธรรมได้ยังไง ..”
“ หยุดก้าวร้าวระรานคนอื่นเดี๋ยวนี้นะพลอยใส เราชักจะคุยกันไม่รู้เรื่องแล้วเอาไว้เราค่อยคุยกันวันหลังดีกว่าตอนนี้พ่อจะไปนอนล่ะ”
ครูพลคุมอารมณ์ที่เดือดปุด ๆ ไว้ด้วยใบหน้าที่แดงกล่ำกว่าปกติ จนพลอยใสไม่สามารถมองเห็นได้ว่าผู้เป็นพ่อกำลังโกรธจัด จึงคิดว่าพ่อยังจะตำหนิอยู่ต่อไป จึงกรีดร้องออกมาด้วยเสียงอันดังก้องไปทั่วทั้งบ้าน
“ กรี๊ด กรี๊ด กรี๊ด พ่อรักลูกไม่เท่ากัน ไม่เคยเข้าใจพลอยเลย ไม่เข้าใจจริงๆ”
“ หยุด หยุดแหกปากเดี๋ยวนี้นะพลอย อายชาวบ้านชาวช่องเค้ามั่ง ดูสิแตกตื่นกันไปหมดแล้ว อย่าเซ้าซี้น่ารำคาญอีกต่อไปเลยพ่อขอร้องเถอะ”
“ ไม่ พลอยไม่หยุดจนกว่าพ่อจะบอกว่าพลอยไม่ผิดอะไร..”
“ มันชักจะไปกันใหญ่แล้วนะพลอย ไปไปอาบน้ำอาบท่าเข้านอนได้แล้ว เสียเวล่ำเวลาทำงาน” ครูพลเดินตรงไปยังห้องนอนที่ทำเป็นห้องกึ่งทำงานด้วยความรำคาญและส่ายหน้าเบื่อหน่ายอย่างช้า ๆ
“ พ่อ พ่อไม่รักพลอย … ทำไมไม่ฟังพลอยอธิบายเลย คอยดูนะคอยดูว่าพลอยจะทำอะไรต่อไป..”
เด็กสาวลงส้นกระทืบเท้าแล้วเดินน้ำตานองหน้าจากเข้าห้องไป จนลืมมองเห็นว่ายังมีคนอีกคนหนึ่งกำลังแอบชิดผนังอยู่อย่างเงียบๆ ยืนนิ่งน้ำตาซึมด้วยความท้อแท้ใจ เหน็ดเหนื่อยกับเรื่องราวในครอบครัวที่นับวันจะมีรอยร้าวปริขึ้นไปเรื่อย ๆทุกวัน ..
มะยมกลับมานั่งบนเตียงนอน แล้วหยิบอัลบัมรูปที่เคลือบมันสีออกเหลือง ๆ มัว ๆ รูปเดียวที่ซ่อนไว้ใต้หมอนขึ้นมาพิศดูอยู่เนิ่นนาน ในรูปใบเก่าที่เล่าเรื่องราวในวันวารได้เกือบทั้งหมดเป็นรูปครอบครัวครูพลที่มีการะเกด แม่ของพลอยใสกับมะยม และครูพลนั่งบนเก้าอี้หวายโดยมีลูกสาวในเครื่องแต่งกายนางฟ้าตัวน้อยโทนฟ้ากับชมพูนั่งบนตักทั้งสองด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม เกินจะบรรยายว่ามีความสุขเพียงใด …
เด็กสาวค่อยพับเก็บรูปใบเก่าค่อย ๆ สอดเข้าไปใต้หมอนตามเดิม พร้อมกับเอื้อมมือปาดน้ำตาหยดสุดท้ายที่ไหลรินทิ้งไป ก้มกราบพระที่บนหมอนสีขาวบริสุทธิ์ ก่อนจะอธิษฐานไว้ในใจไปว่า ..
“ หนูอยากขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วยคุ้มครองพ่อและพี่สาวของหนูให้มีสุขภาพกายและใจแข็งแรงสมบูรณ์ตลอดไป อย่ามีเรื่องเลวร้ายมัวหมองเกิดขึ้นกับครอบครัวเราเลย หนูอยากขอแค่นี้แหละค่ะ..”
มะยมก้มกราบลงบนหมอนไปอีกครั้งหนึ่ง แล้วจะล้มตัวนอนพร้อมความคิดวุ่นวายมากมายที่เกิดขึ้นในหัว เหมือนรอวันคลี่คลายด้วยเวลาหรือเงื่อนไขอะไรสักอย่าง …
ก่อนจะหลับเคลิ้มไปด้วยใบหน้าคมเข้ม คุ้นเคยของใครคนหนึ่งลอยไปลอยมาในห้วงฝันคนเจ้าตัวผล็อยหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่ทันรู้สึกตัว ..
--------------------------
วันนี้เป็นวันเสาร์ มะยมไม่ต้องตื่นเช้ามากเท่าไหร่ นอกจากเสียว่าจะเป็นวันพระที่ต้องตื่นขึ้นมาตั้งแต่เช้ามืดเพื่อจัดหาสำรับเครื่องทานไว้สำหรับครูพลในการใส่บาตรในเวลาประมาณหกโมง แต่วันนี้เป็นวันเสาร์ที่ไม่ใช่วันพระ เด็กสาวจึงขอตื่นสายกว่าปกติ แต่ก็ต้องตกใจเมื่อได้ยินเสียงเคาะประตูดังขึ้นมาอย่างระรัวรีบ จึงค่อยบิดขี้เกียจอย่างช้าๆ แล้วเดินไปเปิดประตู แต่มิวายเหลือบตาไปมองนาฬิกาลายการ์ตูนที่แขวนไว้ข้างฝา
“ ใครมาปลุกแต่เช้าวะเนี่ย ..”
เด็กสาวขยี้ตาไปมา สางผมที่ยุ่งเหยิงให้กลับมาเรียบร้อยเข้ารูปเข้ารอย พร้อมกับสำรวจเสื้อผ้าที่มิดชิดพอหรือยังจนได้คำตอบที่ชัดเจนแล้วว่าโอเคจึงเปิดประตูผางออกไป ก่อนจะอุทานออกไปว่า…
“ น้ำหวานเองเหรอจ๊ะ มาหาแต่เช้ามีอะไรเหรอ..”
“ หวานมีข่าวจะมาบอกพี่อยู่สองเรื่อง อยากจะฟังข่าวดีหรือข่าวไม่ดีก่อนคะ..”
“ เอ่อ …ขอฟังข่าวดีก่อนแล้วกันจ๊ะ..”มะยมโอบแขนประคองน้ำหวานให้ไปนั่งตรงริมระเบียงรับลมที่เคยนั่งกันเป็นประจำ ก่อนทรุดตัวลงนั่งน้ำหวานจึงเอ่ยเล่าว่า “ ข่าวดีก็คือครูเมตตาไม่ตัดคะแนนจิตพิสัยของพี่มะยมแล้ว ไม่รู้แกเกิดอาการผีเข้าอะไรมา อยู่ดีดีแกก็เรียกพี่จิ๊บเข้าไปพบแล้วบอกว่าครูให้เกรดมะยมเหมือนเดิม ”
“ มันก็แปลกอยู่นะหวาน จู่ ๆ อาจารย์เมตตาจะกลับคำพูดตัวเองแบบนี้..”
“ นั่นนิสิพี่ พวกเพื่อนพี่ในกลุ่มพากันวิจารณ์กันเซ็งแซ่ว่าทำไมครูถึงพลิกคำพูดตัวเองอย่างนั้น..”
“ เรื่องนี้ต้องมีเบื้องหน้าเบื้องหลังแน่นอน ต้องสืบมาให้ได้ ”
“ จ๊ะพี่! แล้วเรื่องที่สองที่หนูจะมาบอกก็คือ เรื่องพี่หยาดทิพย์ ที่ตอนนี้นอนล้างท้องอยู่โรงพยาบาล“
“ ห๊า... อะไรนะหวาน หยาดเป็นอะไรอีกล่ะ..”
คนพูดเผลอลืมตัวเขย่าร่างเล็กบางของสาวน้อยหน้าหวานอย่างลืมตัว จนเด็กสาวต้องจ้องหน้าเขม็งอีกครั้ง สาวร่างบางสูงจึงคลายมือเบาแรงลงไป ..
“ เมื่อคืนนี้…พี่ฝนจะไปเอาการงานบ้านที่ยืมมาไปคืนพี่หยาดที่บ้าน แต่พอไปถึงที่นั่นก็ไม่พบว่าใครอยู่บ้านเลย จึงไปถามป้าที่อยู่ข้างบ้านได้ความว่าพี่หยาดทิพย์พอกลับมาจากโรงเรียนก็เก็บตัวเข้าห้อง ไม่ยอมพูดยอมจากับใคร จนถึงตอนค่ำคุณยายสงสัยว่าทำไมห้องพี่หยาดถึงเงียบผิดปกติ เรียกเท่าไหร่ก็ไม่ตอบรับ แกจึงให้เด็กข้างบ้านปีนหน้าต่างเข้าไปดู แล้วคุณยายก็แทบเป็นลมช็อกตายไปที่ตรงนั่น เมื่อเด็กคนนั้นบอกว่ามองเห็นพี่หยาดทิพย์กำลังชักกระตุก น้ำลายล้นฟูมปากตาเบิกค้าง น่ากลัวมาก ..”
“ หยุด หยุดเล่าได้แล้วน้ำหวาน เราไปโรงพยาบาลเดี๋ยวนี้..”
“ ไปมอเตอร์ไซต์น้ำหวานนะพี่มะยม..”
“ ตกลงจ๊ะ ไปสตาร์ทรถเลยพี่จะไปบอกพ่อก่อน เดี๋ยวตามไป ..”
น้ำหวานหันหลังกลับแล้ววิ่งลงไปในทันที ส่วนมะยมมองหาครูพลว่าอยู่ที่ไหน จนมองเห็นว่าอยู่คุยกับภารโรงโรงเรียนที่หน้าโรงเรียน จึงรีบวิ่งไปยังที่นั่นในทันทีแล้วบอกว่าจะไปเยี่ยมเพื่อนที่โรงพยาบาลด่วนมาก ครูพลเข้าใจพยักหน้าอนุญาต มะยมค่อยกระโดดซ้อนท้ายรถของน้ำหวานที่รออยู่ แล้วรีบบึ่งออกไปในทันที
กระทั่งถึงโรงพยาบาลท่าวังหิน มะยมก็พบว่ากลุ่มเพื่อน ๆ มารออยู่หน้าห้องฉุกเฉินเพื่อเยี่ยมไข้อาการของหยาดทิพย์กันเต็มไปหมด จึงรีบถลาเข้าไปถามจิ๊บ ที่กำลังคุยเงียบ ๆ กับแพทย์ด้วยสีหน้าเคร่งเครียด แล้วเดินกลับเดินตรงมาหามะยม เมื่อเห็นว่ากำลังรอคำตอบอยู่ …
“ หยาด เป็นยังไงบ้างวะจิ๊บ พอจะรอดปลอดภัยมั้ยเพื่อน..”
“ คุณหมอเวรบอกว่าถ้าพานังหยาดมาส่งโรงพยาบาลช้ากว่านี้อีกนิดเดียว ก็อาจจะสายเกินไป..”
“ เรื่องมันเป็นมายังไงแก เล่าให้ฉันฟังสิจิ๊บ..” คนพูดท่าทางร้อนใจ ส่ายตามองไปยังห้องไอซียูอยู่ตลอดเวลา“ ก็เมื่อเย็นวาน นังหยาดมันไปคุยตกลงกับอาจารย์ประสงค์ที่ห้องพักครูตั้งนานสองนาน ก่อนจะวิ่งร้องไห้ออกมา พร้อมเสียงตะโกนด่าลั่นห้องตามหลังมาด้วยถ้อยคำที่หยาบ ๆ คาย ๆ ฉันก็ไม่เห็นหรอกนะ นังเดือนมันเป็นคนมาเล่าให้ฉันฟัง .. หลังจากนั้นเพื่อนเราทุกคนก็ไม่เห็นนังหยาดมันอีกเลยจนเลิกเรียน ข้าคิดว่ามันแอบหนีกลับบ้านไปตอนนั้นนั่นเองนังยม ”
“ เมื่อวานข้าก็ไม่ได้สังเกตเหมือนกัน มัวแต่ยุ่งๆ เรื่องอะไรก็ไม่รู้ แล้วนี่หมอบอกมั้ยว่าเป็นอะไรมากหรือเปล่า” มะยมพยายามจะถามเพื่อให้แน่ใจว่าหยาดทิพย์ปลอดภัยแน่นอน“ คุณหมอท่านก็ใจดีมาก ๆ แกบอกว่าปัญหาเด็กวัยรุ่นฆ่าตัวตาย เพราะผิดหวังจากความรักแบบนังหยาดเพื่อนเรามีเยอะมากขึ้นทุกวัน ๆ ”
“ ฉันก็คิดอย่างนั้นเหมือนกันว่ะจิ๊บ ดูอย่างแก้วตาที่ถูกฆ่าตายอย่างอนาจนั่นสิ เพราะความรักในวัยเรียนนี้แหละ”
“ แต่ฉันว่าเรื่องนังหยาดมันเลวร้ายยิ่งกว่านะ เรียนก็ไม่รู้จะจบไม่จบดี แถมท้องเริ่มขยายนูนป่องขึ้นมาทุกวันอีก หนำซ้ำคนเป็นพ่อปัดความรับผิดชอบอย่างหน้าด้านๆ อย่างนี้อีก นี่เป็นฉันนะ … ฉันอาจจะเอาปืนกรอกปากตัวเองตายไปซะให้รู้แล้วรู้รอดไปเลยดีกว่าที่จะมากรอกยาฆ่าแมลงให้ทรมานท้องไส้เปล่าๆ ”
“ แกยังไม่เคยเจอสถานการณ์เลวร้ายอย่างหยาดทิพย์ แกก็พูดได้นี่นังจิ๊บ ลองแกไปเป็นมันดูสิ ข้าว่าขี้คร้านเองน้ำตาจะเช็ดหัวเข่าด้าน ๆ ของแก ..”
“ เฮอะ ! ฝันไปล่ะสิ คนอย่างฉันไม่มีใครมาบังคับได้หรอกโว้ย เป็นครูประสงค์ก็เถอะ ถ้าครูเลวๆ ทำพฤติกรรมเป็นสมภารกินไก่วัดอยู่อย่างนี้ ถ้าเจอกับชั้นคงแหลกกันไปข้างแน่”
“ เฮ้ยนังจิ๊บ … แกพูดเบา ๆ หน่อยก็ได้ เดี๋ยวคนอื่นก็รู้เรื่องนี้หมดหรอกว่ะ ..”
“ แกจะกลัวไปทำไมนังยม ในเมื่อมันเป็นเรื่องจริง ฉันไม่ได้พูดเกินเลยตรงไหนเลยนะ..”
“ นั่นแหละแกควรหุบปากแกซะนังจิ๊บ เพราะไม่อย่างงั้นแกจะลำบากเสียเอง อย่าลืมสิว่าหน้าต่างมีหูประตูมีช่องนะเพื่อนนะ ข้าว่าเราเข้าไปข้างในกันเถอะ ป่านนี้หยาดทิพย์คงได้เข้าห้องคนไข้พิเศษแล้วล่ะ ..”
“ ไปสิ ฉันก็ห่วงมันเหมือนกัน ..”
หยาดทิพย์นอนพังพาบกึ่งนั่งกึ่งนอนบนเตียงยกสูงสีขาว โดยมียายอันเป็นที่รักและเป็นทุกสิ่งอย่างเฝ้าปรนนิบัติพัดวีอยู่ไม่ห่าง สายตาผู้อาวุโสที่ทอดส่งมองไปยังร่างบางที่ดูซีดเซียว ไร้ชีวิตชีวาบ่งบอกความหมายได้มากมายเกินจะบรรยายเป็นคำพูดออกมาได้…
มะยมกับเพื่อน ๆ ได้สนทนากับคนป่วยได้เพียงครู่เดียว พยาบาลผู้ดูแลไข้ก็ออกมาเชิญออกจากห้องพิเศษในเวลาเพียงไม่นาน สาว ๆ จึงออกมาด้วยท่าทีที่อิดออด บ่นอุบไปตามเรื่อง ก่อนจะแยกย้ายกลับบ้านใครบ้านมัน เมื่อเห็นว่าหยาดทิพย์อาการดีขึ้นมากแล้ว พยาบาลก็เน้นย้ำว่าคนไข้ต้องการเวลาพักผ่อนมาก ๆ มะยมกับน้ำหวานจึงบึ่งมอเตอร์ไซค์กลับบ้านด้วยความผิดหวังที่จะได้สนทนากับหยาดทิพย์ …
“ ดูพี่พี่หยาด … แกเศร้า ๆ อย่างไงก็ไม่รู้เนอะพี่มะยม ..” น้ำหวานเอ่ยขึ้นมาลอย ๆ ขณะที่มะยมกำลังเหม่อลอยคิดถึงเรื่องจะวกรถกลับไป เยี่ยมหยาดทิพย์ในตอนเย็น ๆ ของวันนี้อีกครั้ง …
“ นั่นสิ ! แสดงว่าหวานก็คิดเหมือนกันกับพี่ หยาดทิพย์ดูเศร้าและไม่มีกำลังใจเอาเสียเลย คงเสียใจหนักเข้าไปอีกที่คิดฆ่าตัวตายแล้วไม่ตายอย่างนี้ ..”
“ หวานว่าแกจะโดนขู่อะไรมาหรือเปล่าพี่ ดูเหมือนหวาดระแวงคนไปทั่ว เห็นตอนที่หวานเอาน้ำไปยื่นให้มั้ยคะ พี่หยาดแกสะบัดแก้วน้ำออกมาหล่นพื้น จนหนูตกใจแทบแย่แน่ะ ..”
“ ใช่พี่เห็นเหตุการณ์ตอนนั้นตลอด ก็เป็นอย่างที่หวานว่านั่นแหละ หยาดทิพย์ดูไม่เป็นตัวของตัวเองเท่าไหร่ จนน่าสงสัยว่าอาจารย์ประสงค์แกพูดไม้ไหนนะ หยาดถึงหวาดกลัวจนถึงขั้นทำร้ายตัวเองเช่นนี้..”
“ หนูดูตามรูปการณ์แล้วคิดว่าอาจารย์คงจะขู่จะเอาชีวิต หรือไม่ก็บอกว่าจะจ้างคนมาทำร้ายครอบครัวของพี่หยาดแน่ ๆ เลยพี่ยม หนูเคยดูหนังมาต้องเป็นแบบนี้ ” น้ำหวานเอื้อมมือไปเคาะที่หัว คล้ายใช้ความคิด จนคนขับข้างหน้าออกความเห็นออกมามั่ง ..
” พี่ว่าเรื่องนี้อย่าเพิ่งเดาอะไรไปเลยนะน้ำหวาน เราปล่อยให้ทุกอย่างมันคลี่คลายตัวเองลงไปจะดีกว่า เพราะเราเป็นแค่เด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ เพียงไม่กี่คนที่เจอเรื่องร้าย ๆ เช่นนี้ในชีวิต ..”
“ จ๊ะพี่มะยม หนูส่งพี่ที่หน้าโรงเรียนนะ ป้าใช้ให้ไปซื้อของที่ท้ายอำเภอต่อ..”
“ ตกลงคนสวย แล้วเจอกันวันจันทร์นะ..”
“ ค่ะพี่ ”
เด็กสาวลงจากรถมอเตอร์ไซค์ก็ตรงขึ้นไปข้างบนบ้านพักครู สายตาเหลือบมองไปยังห้องนอนข้าง ๆ ที่ยังปิดประตูแน่น ข้างในเงียบกริบไม่มีเสียงอะไรลอดออกมา มะยมคิดว่าเรื่องเสียงดังเมื่อคืนคงทำให้พลอยใสยังโกรธครูพลไม่หาย จึงแสร้งนอนตื่นสาย ๆ เพื่อเป็นการประชดนั่นเอง …
มะยมถอนหายใจออกมาดัง ๆ อีกครั้งแล้วเข้าห้องนอนตัวเองไป แล้วรีบแต่งตัวด้วยชุดเครื่องแบบสีเขียวสลับขาวคล้ายนางพยาบาล แต่เป็นชุดสำหรับพนักงานในร้านฟ้าคราม ร้านเบเกอรี่แสนฮิตหนึ่งเดียวของตลาดประจำอำเภอท่าวังหิน ซึ่งเป็นรายได้พิเศษที่เด็กสาวภูมิใจยิ่ง…
แต่สิ่งแรกที่มะยมจะต้องทำก็คือเอาขนมรังผึ้งที่ป้าแวว ป้าแก่ใจดีซึ่งเป็นแม่บ้านของโรงเรียนบ้านท่าวังหินแห่งนี้ ซึ่งมีฐานะยากจน ภาระรับผิดชอบทางครอบครัวมีมาก เด็กสาวจึงรับเป็นธุระในการเอาขนมรังผึ้งไปส่งขายตามร้านต่าง ๆ ในตลาดท่าวังหิน …
มะยมลากจักรยานคันโปรดพร้อมขนมทั้งหมดที่ใส่จัดวางไว้ที่หน้าตะกร้ารถเรียบร้อยแล้ว แล่นถลาความเร็วจักรยานไปข้างหน้าเพื่อตรงไปยังตลาดสดท่าวังหินที่อยู่ห่างไกลออกไปจากโรงเรียนประมาณครึ่งกิโลเมตร …
๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑
กาหรือหงส์ ๒๑ จบแล้ว ตอดตามในตอนหน้าวันมะรืนนี้ครับ .. ขอบพระคุณมากที่เข้าอ่านครับ ..
นายอิส /เมฆชรา
๒๔ กรกฎาคม ๒๕๕๓
๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑
Create Date : 24 กรกฎาคม 2553
Last Update : 24 กรกฎาคม 2553 16:30:38 น.
0 comments
Counter : 712 Pageviews.
Share
Tweet
ชื่อ :
Comment :
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
เมฆชรา
Location :
นครราชสีมา Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 22 คน [
?
]
เข้าสู่ปีที่ 8
Friends' blogs
ศศิศ
โตมิโต กูโชว์ดะ
~:พุดน้ำบุศย์:~
merveillesxx
สาวน้อยเกวลิน
khoon-time
สามปอยหลวง
เมฆชรา
อุ้มสม
Webmaster - BlogGang
[Add เมฆชรา's blog to your web]
Links
BlogGang.com
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.