จินตนาการสำคัญกว่าความรู้
Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2553
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
6 สิงหาคม 2553
 
All Blogs
 

กาหรือหงส์ ตอน ๒๖

กาหรือหงส์ ตอนที่ ๒๖





ทุกชีวิตบนโลกใบเล็กใบนี้มักเริ่มต้นวันใหม่ด้วยแสงสีทองจากดวงอาทิตย์ที่เจิดจ้า ทอประกายเหลืองอร่ามทาทาบผืนแผ่นดินอันรื่นรมย์ผืนนี้ให้มีความงามควรค่าแก่การมีชีวิตอยู่ในวันใหม่ที่กำลังเคลื่อนไหวในอีกไม่กีนาทีข้างหน้า ...

มะยมตื่นเช้าด้วยความสดชื่นตามปกติ ออกวิ่งเบาไปตามถนนสายลาดยางสายจังหวัดหน้าโรงเรียน พร้อมกับเจ้าแสนดีที่เห่าทักทายเป็นระยะๆ อยู่ข้างๆ อากาศยามเช้าที่มีละอองหมอกเย็นฉ่ำสดชื่นเช่นนี้ทำให้เด็กสาวลืมเรื่องร้าย ๆ ที่เกิดขึ้นเมื่อวันก่อนไปได้ชั่วขณะ...บรรดาแม่ค้าพ่อค้าในตลาดที่ทยอยขับมอเตอร์ไซค์บรรทุกของไปขายเต็มรถเอ่ยทักทายมะยมไปจนตลอดเส้นทาง จนกระทั่งถึงบ้านพักจึงเข้าไปจัดเตรียมอาหารจนเสร็จออกไปรับน้ำหวานที่บ้านตามปกติ …

วันนี้อาจารย์อภิชัย หัวหน้าหมวดฝ่ายกีฬาขึ้นพูดที่หน้าเสาธงด้วยท่าทีเคร่งขรึมตามบุคลิกประจำตัวของอาจารย์ฝ่ายปกครอง เรื่องที่ครูอภิชัยพูดถึงวันนี้เป็นเรื่องการแข่งขันกีฬาสีที่จะจัดขึ้นในวันเสาร์ที่จะถึงนี้ ครูทุกคนขอให้ประธานสีที่ได้เลือกไว้แล้ว ทำหน้าที่ตามที่ได้รับมอบหมายให้ได้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ มะยมหันไปมองเพื่อน ๆ ในแถวเพื่อจะนัดแนะในการร่วมแบ่งงานกันทำ จนเวลาผ่านไปพอสมควรครูอภิชัยกล่าวจบ ขอให้นักเรียนทุกระดับชั้นไปอยู่ตามกลุ่มสีของตนเองทั้งสี่สี คือ สีแดง สีเขียว สีน้ำเงิน และสีชมพู
มะยมเรียกคณะกรรมการสีชมพูมายืนอยู่แถวหน้าทั้งหมด ก่อนจะแนะนำทุกคนพร้อมตัวเองในตำแหน่งประธานสีชมพู นักเรียนทั้งหมดเกือบห้าร้อยคนปรบมือต้อนรับพร้อมกัน ก่อนจะรับฟังคำอธิบายในกิจกรรมกีฬาแต่ละประเภท แล้วแยกกันไปตามนั้น น้ำหวานยิ้มชื่นโผล่เข้ามาหามะยมเป็นคนแรกแล้วถามว่า

“ พี่ยมเหนื่อยมั้ยค่ะ เดี๋ยวหวานจะไปซื้อน้ำอัดลมมาให้ รอแป๊บนึงนะพี่..”

“ หวานไม่ต้องหรอก มีคนเอามาให้แล้ว มามะกินด้วยกัน..”

“ ใครเป็นคนเอามาให้ล่ะพี่” คนถามอดแปลกใจไม่ได้ที่การแสดงน้ำใจของตนเองมีคนทำก่อนหน้าแล้ว
“ อ้าวพี่นึกว่าน้ำหวานใช่ให้ใครเอามาให้พี่ เมื่อกี้นี่เอง …”

“ น้ำหวานเปล่าเอามาให้นะคะ หนูเพิ่งลงมาจากห้องพักครูมาแป๊บเดียวเอง เอ๊ะ ! พี่ยมใครเป็นคนเอามาให้กันนี่ ..” น้ำหวานทำตาโตสงสัยขึ้นมา จนมะยมพูดตัดบทว่า “ คงเพื่อน ๆ พี่ อามาให้ล่ะมั่ง อย่าไปสนใจเลยมามะมาช่วยพี่ไปดูพวกเชียร์ลีดเดอร์ทางโน้นดีกว่า..” มะยมลากน้ำหวานไปข้างหน้าอย่างทุลักทุเล ทั้ง ๆ ที่ในใจก็อยากรู้เหมือนกันว่าแก้วน้ำอัดลมที่เด็กนักเรียนชั้นมอหนึ่งยื่นแก้วมาให้ พร้อมกระซิบเบา ๆ ว่าอะไรตนเองก็ไม่ได้สนใจฟัง เพราะมัวแต่สั่งงานรุ่นน้องหลายๆ คน กว่าทุกอย่างจะเรียบร้อยเข้าที่เข้าทางได้มะยมแทบจะทรุดลงไปกองกับพื้นด้วยความเหนื่อย กลับบ้านได้ในเวลาเกือบหกโมงเย็น ครูพลนั่งริมระเบียงฟังข่าวจากวิทยุเครื่องโปรดอยู่เงียบ ๆ ก่อนจะเอ่ยทักเมื่อมะยมถอดรองเท้าเดินขึ้นมาตรงบันใดบ้านแล้ว …

“ ดูท่าทางเหนื่อยมากเลยนะลูก วันนี้มีกีฬาใช่มั้ย”

“ พ่อรู้ได้ยังไงจ๊ะ หนูว่าจะมาขออนุญาตกลับเย็นทุกวันเสียหน่อย..”

“ ก็พี่เรามาขออนุญาตพ่อไปเมื่อกี้แล้วไงล่ะ ... พ่อถึงได้รู้ก่อนมะยมจะกลับมาถึงบ้านอีก นี่เมื่อกี้คุณอุ่นเรือนใช่ให้เจ้าหยามมันเอาผลไม้ในไร่ฟ้าเมฆามาให้ชะลอมใหญ่ ก็ไม่รู้จะเอามาให้ทำไมกัน .. พ่อล่ะเกรงใจจะแย่ แต่พลอยสิหน้าบานเป็นกระด้ง สงสัยคงปลื้มที่คนในวังฟ้าเมฆามาบ้าน ..”

“ ทำไมฝ่ายโน้นเค้าใจดีกับคนบ้านเราจังพ่อ ..”

มะยมอดที่จะแหย่แกมประชดไปกับผู้เป็นพ่อไปไม่ได้ เหมือนจะไม่รู้เรื่องราวอะไรเลย ทั้งๆ ที่ตัวเองรู้อย่าเต็มอกว่าเพราะอะไร …

“ สงสัยเค้าอยากได้สะใภ้คนบ้านเรามั้งลูก ..”

“ อ๊าย! พ่อจ๋าคนไหนล่ะจ๊ะพ่อ หวังว่าคงไม่ใช่หนูนะ ”

“ มันก็ไม่แน่ ทางโน้นเค้าอาจอยากจะได้ของแปลกไว้ประดับวงศ์ตระกูลก็ได้นะ ฮ่ะ ฮ่ะ ฮะ”

“ พ่อน่ะพ่อ ฝากไว้ก่อนเหอะ นี่หนูเห็นว่าพ่อเพิ่งหายป่วยนะ ไม่งั้นหนูขอทำโทษด้วยการงดทำอาหารอร่อย ให้พ่อทานหนึ่งมื้อเลย ..”

“ เฮ้ย ! พ่อพูดเล่นอย่าทำยังงั้นเชียวนา พ่อกำลังเจริญอาหารอยู่พอดีเลยเชียว ..”

“ งั้นทีหลังอย่าล้อหนูเล่นให้ใจหายอีกนะพ่อจ๋า หนูขอไปอาบน้ำก่อนนะ ..”

“ เออ ! ไปเหอะพ่อบอกให้พลอยเตรียมกับข้าวไว้ในตู้ให้ลูกแล้วด้วย รีบมากินก่อนจะไปทำการบ้านนะมะยม ..”

ครูพลตะโกนไปสั่งลูกสาวคนเล็กอีกครั้งอย่างอารมณ์ดี ก่อนจะก้มหน้าก้มตาอ่านหนังสือพิมพ์ต่อไป โดยมีเสียงวิทยุเครื่องเก่าดังแผ่วลอยไปไกลได้ยินเป็นระยะๆ แทรกไปในอากาศที่มีสายลมเป็นตัวสื่อนำให้คนที่กำลังอาบน้ำในห้องน้ำอมยิ้มอย่างสบายอกสบายใจ …

มะยมออกมาจากห้องนอนหลังจากผัดหน้าปะแป้งหลังตามประสาผู้หญิงที่อาจจะมีไม่มากนัก แล้วจึงเดินตรงมายังห้องครัวที่เปิดไฟส่องสว่างไว้ด้วยความหิวที่กระตุ้นแสดงอาการออกมาให้ได้ยินเป็นเสียงท้องดังจ๊อก ๆ ก่อนจะเปิดประตูตู้กับข้าวเสียงดังแอด ๆ ...

เด็กสาวต้องนิ่งขึงไปในทันทีที่พบว่าตู้กับข้าวมีแต่ความว่างเปล่า ไม่มีกับข้าวอย่างที่ครูพลบอกเมื่อครู่แต่อย่างใด จึงปิดประตูตู้กับข้าวลงอย่างเบามือแล้วใจสั่งว่าให้ลงไปหาเจ้าแสนดีข้างล่าง จนสักครู่มะยมก็มานั่งที่โต๊ะกินข้าวพร้อมอาหารที่เตรียมไว้แล้ว …

พอทรุดตัวลงนั่งได้สักพักครูพลเดินเข้ามาตบที่หัวเบา ๆ พร้อมถามว่าแกงเลียงบวมใส่เนื้อปลาแห้งอร่อยมั้ย มะยมไม่ตอบกลับก้มหน้าไม่พูดจาอะไร ผู้อาวุโสจึงเกิดความสงสัยจึงถามอีกครั้งว่า ..

“ ตกลงเรากำลังกินอะไรกันแน่มะยม ทำเป็นเงียบเชียวนะ ..”

“ มาม่าต้มแสนอร่อยกินจ๊ะพ่อ อร่อยและประหยัดกะตังดีด้วยนะ..”

“ เฮ้ย! ทำไมมากินอาหารขยะอย่างนี้ แล้วกับข้าวในตู้ล่ะไปไหนเสียล่ะมะยม เมื่อกี้พ่อเห็นอยู่นะ มีแกงสองอย่างกับผัดคะน้าน้ำมันหอยอีกอย่างด้วย”

ครูพลเตรียมถอนหายใจเมื่อรู้เรื่องที่ไม่น่าเกิดขึ้นในบ้านอย่างที่กำลังเกิดตอนนี้ได้

“พ่อจ๋าอย่าไปพูดถึงมันเลย เรื่องมันผ่านไปแล้ว หนูก็มีอาหารกินเรียบร้อยแล้วนี่ .”

“ ไม่ได้หรอกมะยม พ่อต้องไปพูดกับพลอยใสให้รู้เรื่องอีกครั้ง”

“ ไม่เอาน่าพ่ออย่าโมโหสิ ลุงหมอเขาห้ามโมโหง่ายๆ อย่างนี้จำได้หรือเปล่า ประเดี๋ยวความดงความดันขึ้นพรวด หนูไม่รับผิดชอบนา ... ขี้เกียจพาคนตัวหนักไปโรงพยาบาลอีกแล้วนะ ..”

“ เอาล่ะพ่อเชื่อ แต่พอกินประทังไปไหวมั้ยไอ้เจ้ามาม่าไร้สาระอะไรนี่”

“ โอ๊ยพ่อจ๋า ! สอบอมอยอหอ แปลว่าสบายมากอย่าห่วง มะยมกินง่าย นอนง่าย อยู่ง่ายมาตั้งแต่เด็กแล้ว พ่อจำไม่ได้หรือไง อย่างตอนเด็กๆ สมัยเรียนชั้นอนุบาลมะยมยังห่อข้าวไปกินที่โรงเรียนด้วยไข่ต้มหนึ่งใบกับน้ำพริกหนุ่มทุกวัน จนครูแซวว่ายายมะยมไข่ต้มพ่อมารับที่หน้าโรงเรียนแล้ว จำได้มั้ยจ๊ะพ่อ ..”

“ อื่อๆ พ่อจำได้สิตอนนั้นลูกอายุได้สามสี่ขวบเท่านั้น ขี้อ้อนขี้แย ติดแม่การะเกดเป็นที่หนึ่ง ”

“ พอพูดถึงแม่ หนูก็คิดถึงขึ้นมาอีกแล้ว ป่านนี้แม่คงอยู่สบายที่บนฟ้าแล้วเนอะพ่อจ๋า ”

“ คงเป็นอย่างนั้นแหละลูก ... แม่การะเกดของหนูเป็นคนดี จิตใจประเสริฐ ชอบช่วยเหลือคนตกทุกข์ได้ยากเสมอ บนฟ้าบนสวรรค์ต้องต้อนรับได้ความยินดีแน่นอน แต่เอ๊ะ ไปมาเราสองคนวกมาคุยเรื่องเก่าๆ ได้ไง ทานข้าวต่อไปแต่อย่านอนดึกล่ะ .. เดี๋ยวจะต้องใช้แรงงานในงานกีฬาสีอีกหลายวัน ..”

“ พ่อไปนอนเถอะจ๊ะ เดี๋ยวหนูจะล้างจาน อ่านหนังสือนิดหน่อยแล้วจะเข้านอนเลย”


“ โอเคพ่อจะไปนอนแล้วพรุ่งนี้วันพระอย่าลืมปลุกพ่อใส่บาตรด้วยล่ะ..”

“ ไม่ลืมแน่นอนพ่อ รีบนอนเถอะ ..”

มะยมทำท่าปล่อยพลัง เอามือดุนหลังผู้เป็นพ่ออย่างเป็นกันเองแล้วผลักร่างอ้วนพุ้ยไปข้างหน้าคล้ายผลักของหนัก ก่อนที่ร่างนั่นจะลับตาไป จึงมานั่งที่เดิมเพื่อเก็บสแปร์มาม่าที่เหลือให้หมด แล้วยกน้ำดื่มสะอาดที่ตั้งวางข้างๆ ขึ้นดื่ม จ่อมจมกับความคิดแวบเข้ามาในทันทีที่น้ำดื่มหมดแก้ว ..

เด็กสาวคิดว่าเป็นการดีแล้วที่ตนเองไม่เล่าเรื่องพลอยใสเทกับข้าวเย็นทั้งสามอย่างไปให้เจ้าแสนดีกินอย่างเอร็ดอร่อยในชามข้าวของมันข้างล่างให้ครูพลฟัง ...

มิฉะนั้นอาการป่วยของผู้เป็นพ่อที่กำลังดีกระเตื้องขึ้นมาก อาจจะทรุดลงไปอีก ถึงตอนนั้นทุกอย่างอาจจะสายเกินแก้ไปแล้วก็เป็นได้ มะยมถอนหายใจแรงอีกครั้งก่อนจะเข้าไปในครัวเพื่อล้างจานด้วยความเหนื่อยใจเหนื่อยกายเหมือนทุกครั้งที่เกิดเรื่องหมางใจระหว่างตนเองกับพลอยใส …

-------------------------------------

วันนี้เป็นวันที่แสนวุ่นวายสำหรับมะยมอีกวันเพราะเป็นวันกีฬาสีวันสุดท้าย กิจกรรมกีฬาได้แข่งขันกันหมดแทบทุกประเภทเหลือแต่เพียงกีฬาชนิดสุดท้ายคือ การแข่งขันกีฬาฟุตบอลระหว่างคณาจารย์กับคณะกรรมการแต่ละสี มะยมในชุดกีฬาทะมัดทะแมงยืนเป็นกองหน้าคู่กับอิสราเตรียมตะลุยฝ่ายตรงข้ามซึ่งเป็นครูบาอาจารย์ที่เคารพทั้งสิ้น อิสราเอ่ยทักทาย ยิ้มยวนยั่วล้อไปว่า ..

“ เล่นให้เต็มที่นะครับ อย่าให้เสียชื่อประธานนักเรียนได้ล่ะมะยม เดี๋ยวคุณเล่นตามแผนที่ผมวางไว้นะครับ จำได้หรือเปล่า”

อิสราเอื้อมมือป้องปากกระซิบที่ข้างหู จนมะยมรู้สึกว่ามันใกล้จนรู้สึกจักกะจี้ จึงเบี่ยงตัวหลบไปเล็กน้อย เว้นระยะห่างพอสมควร ก่อนจะนิ่งฟังต่อไปว่า …

“ แผนของผมคือจะให้คุณครูวิ่งมากๆ แล้วพวกเราค่อยชิงทำประตูในตอนหลัง ..”

“ ตกลงทำตามที่นายว่าแล้วกัน..”

มะยมรีบตอบเพราะเห็นว่าสายตาทุกคู่ทั้งในสนามและนอกสนามจ้องเขม็งมองมาเป็นสายตาเดียวกัน รวมทั้งสายตาสองคู่ที่จ้องมองมาอย่างไม่ปรารถนาดีอยู่มุมสนามนั่นด้วย

“ แต่อย่าลืมกติกาของพวกเราที่จะเล่นให้แพ้นะครับ พวกอาจารย์จะได้ดีใจตกลงตามนี้เขี่ยบอลเลยดีกว่า ..”

อิสราเน้นย้ำเจตนาอีกครั้งก่อนจะ วิ่งออกไปข้างหน้าเมื่อเสียงนกหวีดจากกรรมการตัดสินดังขึ้นก้องกระจายไปทั่วบริเวณสนาม …

มะยมเขี่ยลูกบอลให้กลิ้งไปยังเดี่ยว หัวหน้าแก็งหนุ่มแสบในทันที …

พอเสียงนกหวีดดังยางครั้งเดียวของกรรมการผู้ตัดสินเป่าหมดเวลาในครึ่งหลังกีฬาฟุตบอลเชื่อมความสัมพันธ์ไมตรีระหว่างคณาจารย์กับคณะกรรมการแต่ละสีโรงเรียนมัธยมท่าวังหิน มะยมถึงกับหอบแหก ๆ เดินตรงมายังร่มต้นหูกวางที่มีสมาชิกสาวซ่าส์หน้าสลอนแย่งกันยื่นน้ำส่งมาให้โดยพร้อมเพรียงกัน แต่คนมาถึงกลับเลือกแก้วของสาวหน้าหวานคนเดิม …

“ แก้วนี้ดีกว่าอร่อยกว่าแก้วอื่นเยอะเลย ..”

มะยมหยิบแก้วสีเขียวสดใส น้ำแข็งบางๆ ลอยฟูฟ่องน่ากินที่สุดเข้าดื่มอักๆ ไม่เกรงอกเกรงใจคนอื่น ๆ เลย จนสาวทอมบอยมาดนิ่มคือ จิ๊บ ที่นั่งยักคิ้วหลิ่วตาให้กับเพื่อนคนอื่นก่อนจะเอ่ยแซวออกมาว่า

“ โอ๊ยจะอ้วกแตก มาหวานเรี่ยราดอะไรกันแถวนี้ยะหล่อน วันนี้แข่งกีฬาวันสุดท้ายน่าจะทำตัวให้สมเป็นประธานสีหน่อย ไม่ใช่ติ๊งต๊องคอยตาสบตาชายหนุ่มระหว่างแข่งกีฬา ..”

“ เฮ้ยนังจิ๊บ … แกพูดอะไรบ้าเว่อร์ไปเหรอเปล่า ชั้นไปสบตาใคร ตอนไหนย่ะหล่อน..”

“ อ้าวก็กับพ่อยอดขมองอิ่มนายอิสราสุดหล่อนั่นไง เตะบอลไปสบตาปิ้งๆกันไป ใครๆ แถวนี้อิจฉาตาร้อนผ่าวๆกันไปหมดแล้ว ...ไม่เชื่อถามทุกคนสิ..”

จิ๊บโยนลูกให้กับเพื่อนทุกคน ... มะยมหันไปมองรอบโต๊ะกลมก็เห็นเพื่อนพยักหน้าเห็นด้วยกันหมด จึงส่ายหน้าไปมาด้วยความอ่อนใจ ก่อนจะเอ่ยถามไปอย่างข้องใจในตอนที่กำลังอารมณ์ดีอยู่ในตอนนี้ ..

“ คิดกันไปโน้นเลยนะเพื่อนๆ ฉันก็แค่ทำตามแผนการเล่นตามที่ตกลงกันไว้กับนายอิสราเท่านั้น ไม่มีอะไรอย่างที่พวกแกคิด แล้วนี่พวกแกลากฉันเข้าไปสู่วิมานฉิมพลีที่พวกแกสร้างขึ้นมาได้ไงเนี่ยฉันงงจริง ”

“ ไม่ต้องปฏิเสธเลยนังยม แกอ้าปากฉันก็เห็นลิ้นไก่แก พวกฉันจับตาแกมาตั้งแต่เขี่ยบอลครึ่งแรกแล้ว แหม! เตะบอลทีมองกันทีกว่าจะจบเกมส์มดแมงบินว่อนกันไปทั่วเต็มสนาม ”

“ พวกแกบ้าไปแล้ว ฉันนี่นะเตะบอลไปสบตากับหนุ่มไป เพี้ยนหรือเปล่า”

“ เอาเหอะๆ นังยม ฉันไม่แซวแกแล้วนะดูซิพวกเรา แค่แซวเล่นๆ แค่นี่หน้าแดงเป็นตำลึงสุกเชียวนะยะหล่อน เขินใช่มั้ยนี่นังยม ยอมรับมาเถอะน่าไม่ต้องอายพวกเราหรอก ”

“ นังพวกบ้าเอ๊ยฉันจะไปล่ะ ขืนอยู่นี่นานอาจโดนพวกแกกัดซะเยินทั้งตัวเลย ไปกันดีกว่า เดี๋ยวอาจารย์จะเรียกรวมแจกถ้วยรางวัลแล้ว ไปนะเพื่อนๆ ”

มะยมกึ่งลากกึ่งจูงน้ำหวานไปข้างหน้าอย่างทุลักทุเล สาวน้อยหน้าหวานทำสีหน้าปุเลี่ยนๆ คล้ายอยากจะอยู่คุยกับพี่ๆมากกว่าจะไปกับสาวห้าวข้างตัว…

แต่เด็กสาวก็ต้องสะดุ้งสุดตัวเมื่อได้ยินเสียงแหลมปรี๊ดของใครบางคนดังลั่นมาจากมุมตึกข้างโรงอาหารที่อยู่ห่างไปไม่ถึงสองเมตร “ หยุดคุยกันก่อนสิมะยม ฉันมีเรื่องจะถามเธอ ..” เป็นวันวิสากับพลอยใสคนเดิมนั่นเอง คราวนี้ทั้งคู่มาในมาดใหม่ ดูนุ่มนวลใจเย็นกว่าเดิมจนน่าผิดปกติ ..

“ มีเรื่องอะไรจะคุยกับฉันเหรอวิสา หวังว่าคงไม่ใช่เรื่องไร้สาระอะไรพรรณนั้นนะ..”

มะยมพูดดักคอสาวชาวกรุงที่ยืนยิ้มเยาะอยู่ที่มุมปากนิดๆ ด้วยเรื่องที่เคยมีประวัติกันมาไม่นาน แต่ฝ่ายตรงกันข้ามกับยักไหล่ไม่สนใจอะไรที่เอ่ยมาเมื่อครู่เลย …

“ อาจเป็นเรื่องใหม่ในเรื่องเก่าก็เป็นได้ เธอก็รู้ไม่ใช่เหรอว่าฉันกำลังจะหมั้นกับอิสรา และเธอก็รู้แล้วด้วยว่าฉันไม่ชอบให้เธอไปไหนต่อไหนกับอิสสองต่อสอง ที่ผ่านมาเธอไม่เคยเชื่อที่ฉันพูดเลย แถมยังพยายามทุกอย่างที่จะเข้าใกล้เขาโดยที่เขาไม่ได้เต็มใจซักนิด ฉันไม่เข้าใจ เธอทำยังงั้นทำไมฮึมะยม ..”

“ พูดดีดีนะเธอ ใครไปตามตื้อนายอิสราไม่ทราบ ที่แน่ๆคงไม่ใช่ฉันแน่นอน ..”

มะยมแย้งไปเมื่อเห็นว่ามันเป็นเรื่องน้ำเน่ามาก ๆ ที่จะมาพูดเรื่องไร้สมอง ไร้ความคิดแย่งผู้ชายเช่นนี้

“ ภาพมันฟ้องอยู่โต้ง ๆ แล้วว่าหล่อนพยายามอ่อยอิสราอยู่ตลอดเวลา ในสนามฟุตบอลตะกี้ก็ใช่ ที่น้ำตกจนเกิดเรื่องราวนั่นก็อีก และอีกหลายครั้งฉันไม่อยากจะโพนทะนาให้อับอาย.. เธอกล้าทำมันทั้งๆ ที่ลูกผู้หญิงทั่วไปไม่มีวันที่จะกล้าได้ขนาดนั้น ...มะยมฉันถามเธอหน่อยเธอชอบอิสรามากใช่มั้ย ...”

วันวิสาพูดอะไรต่อมิอะไรออกมาอีกมากมายหลายคำ ล้วนแต่ทำให้มะยมฟังแทบจะทนฟังไม่ได้ ... ตัวสั่นด้วยความโกรธ ... กำหมัดแน่นไปหลายครั้ง .. ได้น้ำหวานที่ยืนฟังข้างๆ ดึงแขนเอาไว้ เด็กสาวจึงคายความร้อนรุ่มในใจไว้แล้วเอ่ยไปอย่างใจเย็นว่า…

“ วันวิสา ฟังฉันนะ คราวนี้จะขอพูดเรื่องนี้เป็นครั้งสุดท้าย ... แล้วกรุณาจำใส่กะโหลกหนาปัญญานิ่มของเธอเอาไว้ซะด้วยว่า คนอย่างอีมะยมไม่ได้พิศวาสอะไรคนของเธอเลย ... ต่อให้หน้าตาหล่อเหลาเลิศฟ้ามาดินกว่านี้สักสิบเท่า ก็ไม่มีผลต่อชีวิตชั้น ขออยู่เงียบๆอย่างนี้ดีแล้ว...ใครหน้าไหนก็อย่ามายุ่งกับฉันก็แล้วกัน ไม่งั้นสวยขอเตือนไว้ก่อน..”

มะยมพาร่างของน้ำหวานปลิวไปตามเรี่ยวแรงที่มีไปข้างหน้าลับหายไปในทันที ปล่อยให้วันวิสากับพลอยใสที่นิ่งเงียบอยู่คนเดียวตั้งนานสองนานอย่างผิดปกติปลดปล่อยอารมณ์คลั่งแค้นออกมาเป็นคำพูดเต็มที่ว่า “ ดูน้องตัวดีของเธอสิพลอย มันขู่ฉันอย่างหน้าด้านคนอะไรพ่อแม่ไม่สั่งสอน ตัวเองมีความผิดแล้วยังมาตีหน้าใสซื่อว่าไม่ผิดอีก...อย่างนี้มันน่าจะตบล้างน้ำให้หายแค้น ..”

“ฉันว่าเราหยุดโวยวายก่อนเถอะวิสา ตอนนี้ฉันอายคนรอบๆ ตัวเราแล้วนะ..”

พลอยใสเริ่มจะหงุดหงิดที่วันวิสาพาดพิงถึงคนในครอบครัวโดยเฉพาะถ้าเหมารวมครูพล ผู้เป็นพ่อเช่นนี้ จึงติงเรื่องอื่นไปตามน้ำดีกว่า “ เธอก็เห็นไม่ใช่เหรอว่าบ้านั่น มันยโส กวน …. ฉันมากเลยนะพลอย ..”

วันวิสาฉลาดพอที่จะแสดงอารมณ์ออกมาอย่างเต็มที่ เพื่อความสะใจและทดสอบสาวหน้าใสเด็กสาวหน้าจิ้มลิ้มที่ยืนสนทนาในตอนนี้ว่าอยู่ข้างฝ่ายตัวเองแน่นอน เพราะดูจากพฤติกรรมที่เป็นไม้เบื่อไม่เมากันกับอีกฝ่ายได้ตลอดเวลา แถมหนำซ้ำเวลาสนทนาถามหาอีกคน พลอยใสมักจะอารมณ์เสียไปในทุกครั้ง …

“ เธอจะทำอะไรก็ทำไปเถอะวิสา ฉันไม่ยุ่งเรื่องนี้ แค่นี้ก็ปวดหัวจะแย่อยู่แล้ว”

“ โอเค …คราวหลังถ้าฉันจะทำอะไร คิดอะไรเธออย่ามาห้ามนะพลอย... ฉันถือว่าเธอเห็นดีเห็นงามด้วยกับฉันในทุกเรื่อง” วันวิสาตอบอย่างฉะฉานมั่นใจ จนอีกฝ่ายต้องโต้กลับมาว่า “

เอาเลยเธอจะคิดทำอะไร ทำเลย ฉันอยู่ข้างเธอเสมอตกลงหรือเปล่า ” พลอยใสตอบย้ำด้วยสีหน้าจริงจัง แต่กระด้างในน้ำเสียงจนคนฟังสัมผัสได้ …

แต่คนอย่างวันวิสาจะแคร์อะไรกับเรื่องพลอยใส เพราะเป้าหมายใหญ่ ก้างขว้างคอชั้นดีอยู่ที่คนผู้น้องที่ชื่อมะยมมากกว่า …

“ ฉันจะทำแน่เธอคอยดูไว้ให้ดีแล้วกันพลอย ตอนนี้ฉันว่าเราไปรวมแถวก่อนดีกว่าอาจารย์กวักมือเรียกแถวแล้วไปเถอะพลอย ”

ทั้งสองจึงรีบวิ่งไปยังแถวที่จัดเตรียมทำพิธีมอบรางวัลสำหรับกีฬาประเภทต่าง ๆ หน้าบริเวณเสาธงในทันทีที่ได้ยินเสียงออดดังขึ้นหลังจบเพลงกราวกีฬาดังยาวหนึ่งครั้ง ….

-------------------------
กาหรือหงส์ ตอนที่ ๒๖ จบแล้วติดตามตอนใหม่ในวันมะรืน .. ขอบพระคุณที่ติดตามอ่านกันมาอย่างเหนียวแน่น ติต่างเอาประมาณ ๓๐ ท่าน อิอิ .. ขอบคุณจากใจจริง ๆๆ

นายอิส / เมฆชรา
๗ สิงหาคม ๒๕๕๓
๑๔นาฬิกา ห้านาที





 

Create Date : 06 สิงหาคม 2553
0 comments
Last Update : 6 สิงหาคม 2553 14:11:38 น.
Counter : 967 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


เมฆชรา
Location :
นครราชสีมา Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 22 คน [?]




เข้าสู่ปีที่ 8
Friends' blogs
[Add เมฆชรา's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.