จินตนาการสำคัญกว่าความรู้
Group Blog
สุขใจที่ได้อ่าน
ผลงานของเมฆชรา
กาพย์กลอน
เที่ยวท่องไปในโลกกว้าง
ความจริงของชีวิต
<<
สิงหาคม 2553
>>
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
8 สิงหาคม 2553
กาหรือหงส์ ตอน ๒๗
All Blogs
ภมรดอกงิ้ว ๒๐ (ปลายทางฉิมพลี) อวสาน
ภมรดอกงิ้ว ๑๙ (สุดทางสวรรค์) จบ
ภมรดอกงิ้ว ๑๘ (ในลึก)
ภมรดอกงิ้ว ๑๗ (บันไดที่ปลายทาง)
ภมรดอกงิ้ว ๑๖ (วังวนใจ)
ภมรดอกงิ้ว ๑๕ (สายน้ำไม่ไหลกลับ)
ภมรดอกงิ้ว ๑๔ (สองมือพ่อ .. จักโอบเจ้าให้เศร้าคลาย)
ภมรดอกงิ้ว ๑๓ (across the universes )
ภมรดอกงิ้ว ๑๒ (ฤดีแก้วสกาวใส)
ภมรดอกงิ้ว ๑๑ (วสันต์ในเหมันต์)
ภมรดอกงิ้ว ๑๐ (เวียนว่ายไปในเวิ้งมหานที)
ภมรดอกงิ้ว ๙ (กากีสะอื้น) * เมฆชรา
ภมรดอกงิ้ว ๘ (วิหคหลงรัง) * เมฆชรา
ภมรดอกงิ้ว ๗ (เงาความทรงจำ) * เมฆชรา
ภมรดอกงิ้ว ๖ (สายบ่หยุด เสน่ห์หาย) * เมฆชรา
ภมรดอกงิ้ว ๕ (ชีวิตเป็นของเรา) * เมฆชรา
ภมรดอกงิ้ว ๔ (ปลายทางความใคร่) * เมฆชรา
ภมรดอกงิ้ว ๓/๒ (ในห้วงเสน่หา) * เมฆชรา
ภมรดอกงิ้ว ๓/๑ (ในห้วงเสน่หา) * เมฆชรา
ภมรดอกงิ้ว ๒ (ระเริงไฟ) * เมฆชรา
ภมรดอกงิ้ว ๑ (ความผิดครั้งแรก)
ภมรดอกงิ้ว (เร่ิมฉิมพลี)
กาหรือหงส์ ตอน ๕๓
หนังสือมรณะ ๓
กาหรือหงส์ ตอน ๕๒
หนังสือมรณะ ๒
หนังสือมรณะ ๑
กาหรือหงส์ ตอน ๕๑
กาหรือหงส์ ตอน ๕๐
กาหรือหงส์ ตอน ๔๙
กาหรือหงส์ ตอน ๔๘
กาหรือหงส์ ตอน ๔๗
กาหรือหงส์ ตอน ๔๖
กาหรือหงส์ ตอน ๔๕
กาหรือหงส์ ตอน ๔๔
กาหรือหงส์ ตอน ๔๓
กาหรือหงส์ ตอน ๔๒
กาหรือหงส์ ตอน ๔๑
กาหรือหงส์ ตอน ๔๐
กาหรือหงส์ ตอน ๓๙
กาหรือหงส์ ตอน ๓๘
กาหรือหงส์ ตอน ๓๗
กาหรือหงส์ ตอน ๓๖
กาหรือหงส์ ตอน ๓๕
กาหรือหงส์ ตอน ๓๔
กาหรือหงส์ ตอน ๓๓
กาหรือหงส์ ตอน ๓๒
กาหรือหงส์ ตอน ๓๑
กาหรือหงส์ ตอน ๓๐
กาหรือหงส์ ตอน ๒๙
กาหรือหงส์ ตอน ๒๘
กาหรือหงส์ ตอน ๒๗
กาหรือหงส์ ตอน ๒๖
กาหรือหงส์ ตอน ๒๕
กาหรือหงส์ ตอน ๒๔
กาหรือหงส์ ตอน ๒๓
กาหรือหงส์ ตอน ๒๒
กาหรือหงส์ ตอน ๒๑
กาหรือหงส์ ตอน ๒๐
กาหรือหงส์ ตอน ๑๙
กาหรือหงส์ ตอน ๑๘
กาหรือหงส์ ตอน ๑๗
กาหรือหงส์ ตอน ๑๖
กาหรือหงส์ ตอน ๑๕
กาหรือหงส์ ตอน ๑๔
กาหรือหงส์ ตอน ๑๓
กาหรือหงส์ ตอน ๑๒
กาหรือหงส์ ตอน ๑๑
กาหรือหงส์ ตอน ๑๐
กาหรือหงส์ ตอน ๙
กาหรือหงส์ ตอน ๘
กาหรือหงส์ ตอน ๗
กาหรือหงส์ ตอน ๖
กาหรือหงส์ ตอน ๕
กาหรือหงส์ ตอน ๔
กาหรือหงส์ ตอน ๓
กาหรือหงส์ ตอน ๒
กาหรือหงส์ ตอน ๑
ฟ้ายังมีดาว ตอนที่ ๑๐
ฟ้ายังมีดาว ตอนที่ ๙
ฟ้ายังมีดาว ตอนที่ ๘
ฟ้ายังมีดาว ตอนที่ ๗
ฟ้ายังมีดาว ตอนที่ ๖
ฟ้ายังมีดาว ตอนที่ ๕
ฟ้ายังมีดาว ตอนที่ ๔
ฟ้ายังมีดาว ตอนที่ ๓
ฟ้ายังมีดาว ตอนที่ ๒
ฟ้ายังมีดาว ตอนที่ ๑
ฟ้ายังมีดาว (บทนำ)
**-** ดอกไม้กับงูพิษ (เรื่องสั้นพิเศษ) โดย เมฆชรา
๛๛๛>>>> อ้อมอกภูเขา <<<< ๛๛ เฉลิมศักดิ์ แหงมงาม ๛๛๛
กาหรือหงส์ ตอน ๒๗
กาหรือหงสื ตอน ๒๗
ณ เวทีเล็ก ๆ ที่จัดขึ้นหน้าเสาธงขนาดใหญ่ เป็นเวทีที่สร้างเพียงชั่วคราวสำหรับพิธีมอบรางวัลทุกประเภทกีฬาที่จัดแข่งขันกันในวันนี้ ถ้วยรางวัลสีสันสวยงามถูกจัดวางไว้เรียงลำดับตามประเภท ประธานจัดการแข่งขันคือ ท่านนายอำเภอภิมุขยืนแจกรางวัลมาตั้งแต่ต้นรายการจนมาถึงรายการสำคัญ
ครูประพันธ์ โฆษกประจำโรงเรียนมัธยมท่าวังหินก็ขอเชิญผู้เชิญรางวัลสำคัญนั้นก็คือวันวิสา เพื่อมาเชิญรางวัลชนะเลิศรวมกีฬาทุกประเภทซึ่งสีที่ชนะเลิศและรองชนะเลิศก็คือ สีแดงกับสีชมพู ครูประพันธ์จึงเรียกประธานสีทั้งสองขึ้นมาบนเวที เสียงปรบมือกึกก้องไปทั้งเสาธง เพราะรางวัลนี้เป็นรางวัลสำคัญที่สุดในการแข่งขันกีฬาครั้งนี้เลยทีเดียว ทุกสีต่างมุ่งหวังที่จะได้ครอบครองถ้วยรางวัลชนะเลิศ พร้อมเงินรางวัลจำนวนหนึ่งสำหรับฉลองชัยชนะเล็ก ๆ น้อย ๆ …
ทั้งสองขึ้นไปบนเวทีด้วยความประหม่าจนเห็นได้ชัดจากการพยายามเดินอยู่ห่างกัน ครูประพันธ์จึงเรียกให้ทั้งสองมายืนข้างหลังประธานฯ เพื่อลุ้นผลรางวัลพร้อมกันกับนักเรียนทั้งสามพันคน มะยมทำหน้าปูเลี่ยน ๆ คล้ายอยู่ในสถานการณ์คับขันมาก อิสราอมยิ้มด้วยความขบขันที่มะยมประหม่าจนควบคุมตัวเองแทบไม่อยู่เดินตัวบิดไปมา ไม่สมเป็นประธานนักเรียนและประธานสีชมพู จึงแกล้งเอ่ยทักทายไปเย้าเล่นๆ ว่า
“ มะยมตื่นเต้นอะไรขนาดนั้นครับ ผมยังเฉยๆ ไม่รู้สึกอะไรเลยตั้งแต่ขึ้นมาหายใจเข้าลึกๆ สิครับ“
“ ก็นายมันเก่งนี่ แต่ฉันสิขาสั่นไปหมดแล้ว อาจารย์เมตตานะอาจารย์ ให้ฉันเป็นประธานติ๊งต๊องนี่ได้ไงหน้อ คนอื่นเก่งกว่าชั้นมีตั้งเยอะแยะทำไมไม่เลือก แค่เป็นประธานนักเรียนก็เหนื่อยมากแล้ว นี่ต้องมาดูแลพวกลิงทโมนนักกีฬาอีก ไหนจะกองเชียร์อีกเล่า เฮ้อ! เหนื่อยดีจัง..”
“ ฮื่อ ! ปกติผมไม่ค่อยเห็นมะยมบ่อยว่าเหนื่อยอะไรเลยนะ อย่างเช่นตอนขุดดินปลูกข้าววันนั้นไง ”
“ ก็แหงล่ะนั่นมันงานกรรมกรที่ฉันถนัดนี่นา แต่ถ้าให้ออกหน้าอย่างตอนนี้ ให้ฉันลงแดงตายไปตอนนี้ยังจะง่ายเสียกว่าอีก “
มะยมบ่นอุบกับอิสรา เมื่อเห็นว่ายืนรอนานพอสมควรแล้ว แต่ครูประพันธ์ไม่ยอมเรียกเสียที แต่การสนทนาต้องหยุดไว้แค่นั้น เมื่อมีสายตาคู่หนึ่งของสาวน้อยหน้าคมกังยืนจ้องในระหว่างถือถ้วยรางวัลอยู่ข้างหลัง อย่างเงียบๆ ผิดสังเกต … “
ประเดี๋ยวอาจารย์ก็จะเรียกแล้ว นั่งไงอาจารย์ใหญ่เดินมาแจกรางวัลที่สองแล้ว มะยมเขยิบไปข้างหน้าเถอะ“ อิสราดุนร่างบอบบางของสาวมาดมั่นที่ไม่มาดมั่นเสียแล้วในตอนนี้ ให้เดินออกไปหน้าเวทีเคียงคู่กัน จนกระทั่งนักเรียนที่เข้าแถวหยุดเงียบคุยกัน เมื่อครูประพันธ์ประกาศว่า ..
“ เอาล่ะนักเรียนเงียบ ๆ กันหน่อย ครูจะประกาศผลรางวัลถ้วยรวมกีฬาทุกประเภทในการแข่งขันกีฬาสีของงานแข่งขันกีฬาสีประจำปีของโรงเรียนเราในปีนี้ระหว่างสีแดง กับสีชมพู และถ้วยรางวัลชนะเลิศรางวัลรวมปีนี้ได้แก่ สี สีอะไรดีครับนักเรียน …”
ครูประพันธ์เว้นจังหวะหายใจโดยการเรียกเสียงจากนักเรียนทุกสี ให้ตะโกนเชียร์กันเข้ามา …
“ สีแดง สีชมพู สีชมพู สีแดง สีแดง สีแดง สีชมพู สีแดง สีชมพู …….. “
“ สีที่ได้รับรางวัลชนะเลิศได้แก่ สีแดงคร้าบบบ …”
… เฮ้ ๆ ๆ เย้ ๆ ๆ กรี๊ด ๆ ๆ...
เสียงหวีดร้อง โห่ป่าดังลั่นไปทั่วสนามหน้าเสาธง โดยไม่รู้ว่าเสียงใครเป็นเสียงใครกึกก้องดังกระจายไปกลบเสียงพิธีกรที่กำลังพยายามบอกให้คนสองคนยืนมาใกล้ ๆ ประธานจัดงาน กระทั่งอิสราเริ่มรู้สึกตัวเมื่อคนยืนข้าง ๆ ดันตัวเองออกไปข้างหน้าโดยอัตโนมัติ ด้วยความกลัวอีกฝ่ายจะเข้ามาใกล้เหมือนเมื่อครู่ ครูประพันธ์จึงเรียกอิสราให้เข้ารับรางวัลกับนายอำเภอภิมุขทันทีที่เสียงรอบ ๆ เบาลงแล้ว ..
“ ขอบคุณมากครับท่าน ..”
เด็กหนุ่มยกมือขึ้นไหว้ผู้อาวุโสอย่างนอบน้อม แต่นายอำเภอกับทำท่าพินอบพิเนายิ่งกว่า...
“ งานสนุกมากนะครับคุณชาย .. ท่านชายปกรณ์สบายดีนะครับ ”
“ ท่านพ่อสบายดีครับ พักนี้ไม่ค่อยเห็นคุณลุงที่ไร่ฟ้าเมฆาเลยนะครับ..”
“ โอว …พักนี้ลุงไปราชการเดินทางขึ้นล่องกรุงเทพกับที่นี่เป็นว่าเล่น เลยไม่ค่อยมีเวลาเป็นส่วนตัวสักเท่าไหร่ ไว้ว่างๆ ลุงจะเข้าไปคารวะท่านชายแน่ ๆ ฝากความคิดถึงไปหาท่านด้วยนะครับคุณชาย..”
“ ขอบคุณอีกครั้งครับคุณลุง ผมจะเรียนท่านพ่อตามนี้ครับ ”
“ เอาล่ะครับนักเรียน ตอนนี้เป็นอันว่าประธานสีแดงรับรางวัลคะแนนรวมไปแล้ว ลำดับต่อไปขอเชิญประธานสีชมพูเข้ามาแสดงความยินดีกับสีแดงด้วยนะครับ เราเป็นนักเรียนต้องหัดมีน้ำใจนักกีฬา ซึ่งถือว่าเป็นหัวใจสำคัญในการจัดงานในวันนี้ .. เชิญมะยมเข้ามาทางนี้เลย ..”
มะยมเดินไปยืนอยู่ตรงหน้าอิสราแล้วยื่นมือออกไปแสดงความยินดีที่ทีมสีแดงชนะเลิศคะแนนรวมกีฬาทุกประเภท ด้วยใบหน้าที่เปื้อนยิ้มเต็มที่ ก่อนจะหุบยิ้มลงไปทันทีที่มือสัมผัสกับมือเด็กหนุ่ม แล้วถูกดึงเข้าไปสวมกอดอย่างรวดเร็ว จนตั้งตัวไม่ติด …
อายแสนอาย จนแทบจะแทรกแผ่นดินหนี เมื่อเสียงโห่ร้องดังลั่นกึกก้องไปทั่งบริเวณเสาธงอีกครั้งหนึ่ง คราวนี้นานกว่าครั้งแรกมากมายนัก มะยมพยายามดิ้นรนออกจากอ้อมกอดแกร่งของคนตัวใหญ่ แต่มือที่กดทับแขนทั้งสองข้างเหมือนคีมเหล็กอันใหญ่ยักษ์ ยากจะหลุดพ้นจากพันธนาการได้ง่าย ๆ …
มะยมรู้สึกอายยิ่งขึ้นไปอีก เมื่อเสียงที่โห่ดังมากขึ้นไปเรื่อย ๆ ไม่มีทีท่าว่าจะหยุดซะที …
“ ปละ … ปล่อยฉันนะ ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้ไอ้บ้า บอกให้ปล่อยไง ”
เงียบ มีแต่ความเงียบเท่านั้นที่เป็นปฏิกิริยาโต้ตอบของฝ่ายตรงกันข้าม …
“ ไม่ปล่อยใช่มั้ย งั้นคงอยากจะลองดีกับอีมะยมคนนี้แน่ ๆ ได้เลยฉันจะจัดให้ ..”
… โอ๊ย อู ยยยยยยยย เจ็บ ๆๆๆ …
เสียงอิสราดังลั่นออกมาในทันทีที่มะยมกระทืบไปบนเท้าสุดแรงเกิด จนคนร่างสูงต้องคลายอ้อมกอด แล้วปล่อยสาวเจ้าให้หลุดออกมา พร้อมตะโกนเสียงดังลั่นจนได้ยินกันไปทั่ว ก่อนที่มะยมจะเหวี่ยงหมัดหลุน ๆ ข้างใส่ปลายคางผู้รุกล้ำ แม่นยำอย่างกับจับวาง …
เด็กหนุ่มมองเห็นภาพตรงหน้าเบลอเหมือนทีวีจอภาพเสื่อม แล้วมีดาวระยิบระยับวิ่งวนไปมารายล้อมอยู่ตรงหน้า …
มะยมรู้สึกตกใจในสิ่งที่ตัวเองกระทำในตอนนี้อยู่เหมือนกัน แต่ด้วยความอายแทบแทรกแผ่นดินหนีที่ถูกผู้ชายคนที่ยืนตรงหน้าเอื้อมมือมาสวมกอด แล้วกดร่างไว้เนิ่นนาน ท่ามกลางสายตาคนนับพันๆคนที่กำลังอ้าปากค้างประหนึ่งดูสิ่งมหัศจรรย์อันดับแปดของโลกเกิดขึ้นตรงหน้าก็ไม่ปาน …
อิสราเซถลาเหมือนนกปีกหักที่ลอยคว้างอยู่ในอากาศแล้วหล่นตกมาบนเวทีโดยมีวันวิสารับไว้ด้วยความระมัดระวังและมุ่งมั่นในหน้าที่ผู้พิทักษ์อย่างเต็มที่ …
ครูประพันธ์ยังคงตกตะลึงในเหตุการณ์ที่กลับตะละปัดไปอย่างไม่น่าเชื่อเช่นนี้ กว่าสติสะตังจะกลับมาเหมือนเดิมได้ก็กินเวลาไปหลายนาที …
“ เอาล่ะเป็นอันว่าพิธีการมอบรางวัลเสร็จสิ้นแล้ว ขอให้นักเรียนทุกคนแยกย้ายกันกลับบ้านได้ ขอบคุณทุกคนครับ ปีหน้าเราคงได้สนุกสนานอย่างนี้กันอีกนะครับ..”
“ อิสรายังมึน ๆ อยู่ ช่วยหนูหน่อยสิคะครู ..”
วันวิสาตะโกนขณะกำลังประคองร่างสูงใหญ่ของอิสราด้วยหน้าที่ที่ของตนอย่างแท้จริง ก่อนจะเร่งรัดไปอีกครั้งว่า…
“ คุณครูขาเร็วมาช่วยหนูหน่อยสิคะ อิสรากำลังเป็นลม ยังไม่ฟื้นเลย …
“ อ้าวนั่น ! ฟื้นแล้วนี่วันวิสา งั้นเธออยู่ที่นี่นะเดี๋ยวครูจะลงไปส่งท่านประธานก่อน…”
“ ครูคะเดี๋ยวสิ …ปัดโธ่ไปซะแล้ว “
วันวิสาบ่นอุบอยู่คนเดียว เหลียวมองไปรอบเวทีที่ตอนนี้แล้วเห็นว่านักเรียนต่างแยกย้ายกันไปหมดแล้ว เหลือเพียงยืนมองมาบนเวทีไม่ต่ำกว่าสิบคนเป็นอย่างน้อย … จึงเอื้อมมือไปล้วงกระเป๋าแล้วหยิบยาดมขึ้นมาแล้วนำไปแกว่งบริเวณหน้าอิสราที่ตอนนี้ค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมา ทำหน้างุนงงสงสัย คล้ายไม่แน่ใจว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเองกันแน่ …
“ เขาเลิกงานกันแล้วเหรอวิสา แล้วมะยมล่ะไปไหน”
ทันทีที่อิสราพูดจบวันวิสารู้สึกเดือดดาลขึ้นมาในทันที ทั้ง ๆ ที่เมื่อครู่ยังอารมณ์ดีอยู่แท้ ๆ หมดอารมณ์กันพอดีที่เอ่ยถึงชื่อคนที่เป็นต้นเรื่องทั้งหมดในวันนี้
“ จะบ้าหรือไงอิส ! ยัยบ้านั่นมันเพิ่งจะชกหน้าเธอมาหมาดๆนะ ยังมีหน้าไปถามหาอีก..”
“ ก็เราไปทำมิดีมิร้ายเค้าก่อนนี่นา คงเขินมั้ง “
“ อ้อ ! เขินบ้าเขินบออะไรกัน ถึงกับต้องต่อยปากเธอซะเจ่อ บวมเป่งอย่างงี้นะหรือ ไม่ได้ตั้งใจ เฮอะ! ป่าเถื่อนบ้านนอกไร้การศึกษาสิ้นดี เห็นทีคราวนี้วิสามีเรื่องที่จะไปเล่าให้ท่านแม่ หม่อมยายฟังซะแล้ว ”
“ ไม่เอาน่าวิสา อย่าทำเรื่องเล็กให้มันเป็นเรื่องใหญ่หน่อยจะได้มั้ย เรื่องเล็ก ๆ แค่เนี่ยไม่ควรถึงผู้หลักผู้ใหญ่และเธอไม่ควรจะรื้อฟื้นมันอีกเมื่อกลับไปถึงบ้าน “
“ เรื่องมันไม่จบง่ายๆ หรอกอิส ถึงนายจะไม่เอาเรื่อง ฉันนี่แหละจะเอาเรื่องมันให้ถึงที่สุด เอาให้มันอับอายเหมือนที่มันทำให้เธอเป็น ..”
“ ฉันขอร้องเถอะวันวิสา จบเรื่องราวในวันนี้ไว้เพียงแค่นี้ อย่าให้มันยืดยาวไปกว่านี้เลย ลำพังเหตุการณ์ในวันนี้ฉันก็ไม่รู้ว่าจะสู้หน้ามะยมเค้าได้ยังไงแล้ว..”
“ จะโทษใครล่ะอิส เรื่องราวทั้งหมดเป็นเพราะนายคนเดียวนั่นแหละ …แล้วนี่นึกอะไรขึ้นเหรอถึงไปกอดมันซะกลมดิกยังงั้น พิศวาสอะไรกันนักหนา หรือเป็นเพราะมันให้ท่านายมาก่อนหน้านั่นแล้ว นายเลยมาหน้ามืดเอาตอนนี้ ..”
“ โอ๊ยจะบ้าตาย …อย่าเดาอะไรไร้สาระปัญญาอ่อนอย่างนั้นสิวิสา มันไม่มีอะไรซับซ้อนขนาดนั้นหรอก ฉันแค่อยากจะอยู่ใกล้ๆ เค้าเท่านั้นเอง ... ฉันชอบมะยม เธอรู้มั้ยฉันรักมะยม…”
“ กรี๊ด ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ …ไม่จริง เธอโกหกหลอกลวงชั้น คนชั่วคนสารเลว ..”
“ หยุด หยุดนะ หยุดเดี๋ยวนี้วิสา อย่ามาโวยวายที่นี่อายคนที่เดินผ่านไปมาเสียมั่งสิ ..”
“ ฉันไม่หยุด ใครจะทำไม ฉันจะขอประกาศให้คนในโรงเรียนนี้ว่าฉันกำลังถูกอีนังบ้านนอก ชาติตระกูลชั้นต่ำมาแย่งคนรักที่กำลังจะหมั้นไปอย่างหน้าด้าน ๆ ”
วันวิสาร้องไห้สะอึกสะอื้นฟูมฟายน่าสงสาร อิสราทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว จึงตรงเข้าไปยึดข้อแขนอันเล็กเรียวของเด็กสาวแล้วลากไปข้างหน้าด้วยแรงที่มี ..
“ ไปจากนี้กันเดี๋ยวนี้เลยวิสา ตอนนี้ฉันอายแทบจะแทรกแผ่นดินหนีแล้ว..”
วันวิสาพยายามดิ้นรนขัดขืนจากการลากอย่างสุดแรงของอิสราให้ออกจากหน้าบริเวณเสาธงให้เร็วที่สุด ด้วยความอับอายในเสียงที่แหลมปรี๊ด และกิริยาใจร้อนวู่วามทุรนทุรายเมื่อไม่ได้ดังใจของวันวิสาอย่างถึงขีดสุดแล้ว จนกระทั่งมาถึงรถสปอร์ตสีดำคันหรูที่สตาร์เครื่องรออยู่ที่ประจำแล้ว เด็กหนุ่มจึงโยนร่างเล็กบอบบางของสาวหน้าเฉี่ยวคมล้ำสมัยเข้าไปในตัวรถอย่างไม่ปราณีปราศรัย …
“ กรี๊ด กรี๊ด เรื่องที่นายทำกับฉันในวันนี้มันคงไม่จบง่าย ๆ หรอกนายคอยดูสิ ฮือ ๆ ๆ ..”
“ เธอจะทำอะไรก็ทำไปเลยวิสา ไม่ต้องเกรงใจฉันก็ได้ ฉันก้เริ่มจะเบื่อและรำคาญเสียงกรี๊ด ๆ ของเธอเต็มทนแล้ว เอะอะอะไรก็เอาแต่ส่งเสียง น่ารำคาญชะมัด … ลุงมั่นครับออกรถได้เลย ..”
พอรถเคลื่อนได้สักครู่ บรรยากาศภายในรถก็เงียบงันไปในทันที อิสราอดที่จะสงสารวันวิสาไม่ได้ เพราะตอนนี้สิ้นฤทธิ์หลังพิงพนักเบาะอย่างคนหมดอาลัยตายอยากในทุกอย่าง โดยมีเสียงสะอื้นไห้เบา ๆ ดังออกมาเป็นระยะ ๆ จนกระทั่งถึงไร่ฟ้าเมฆา …
กาหรือหงส์ ตอน ๒๗ จบแล้ว ติดตามตอนที่ ๒๘ วันอังคารนะครับ .. ขอบพระคุณที่ติดตาม .. ขอบคุงก๊าบ อิอิ ...
นายอิส /เมฆชรา
๘ สิงหาคม ๒๕๕๓
๑๔ น. ๒๒ นาที
Create Date : 08 สิงหาคม 2553
Last Update : 8 สิงหาคม 2553 14:22:56 น.
0 comments
Counter : 744 Pageviews.
Share
Tweet
ชื่อ :
Comment :
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
เมฆชรา
Location :
นครราชสีมา Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 22 คน [
?
]
เข้าสู่ปีที่ 8
Friends' blogs
ศศิศ
โตมิโต กูโชว์ดะ
~:พุดน้ำบุศย์:~
merveillesxx
สาวน้อยเกวลิน
khoon-time
สามปอยหลวง
เมฆชรา
อุ้มสม
Webmaster - BlogGang
[Add เมฆชรา's blog to your web]
Links
BlogGang.com
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.