จินตนาการสำคัญกว่าความรู้
Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2553
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
27 กรกฏาคม 2553
 
All Blogs
 
กาหรือหงส์ ตอน ๒๒

กาหรือหงส์ ตอน ๒๒





ความโกลาหลวุ่นวายจอแจของตลาดทำเอาวันวิสา แทบจะเป็นบ้าร้องกรี๊ดกร๊าดออกมา เพราะกลิ่นความชื้น ผู้คน และสภาพโดยรอบเอาเสียตอนนั้นให้ได้ คิดๆไปนึกโทษตัวเองที่เสนอตัวมาจ่ายตลาดกับคุณอุ่นเรือน และอิสราทำไมก็ไม่รู้ คิดไปคิดมาแล้วน่าเจ็บใจตัวเองที่คิดผิดไปถนัดว่าคุณอุ่นเรือนคงจะไปจ่ายตลาดในห้างใหญ่ตัวเมืองมากกว่าจะมาเดินตลาดที่สกปรกโสโครกที่เห็นประจักษ์สายตาในตอนนี้ …

คุณอุ่นเรือนเดินนำหน้าโดยมีอิสรากับตาแม้น คนขับรถเดินตามหลังมาติด ๆ จับจ่ายซื้อของไม่ว่าจะเป็นของสด เช่น ปลา เนื้อหมู ไก่ กุ้ง เป็นต้น หรือของแห้ง อาทิ ปลาหมึก กุ้งแห้ง อย่างนี้เป็นต้น เพื่อจัดเตรียมไว้ในงานทำบุญในไร่สำหรับเสาร์อาทิตย์ที่จะถึงนี้ โดยมีคนเดินรั้งท้ายสุดก็คือสาวน้อยหน้าคมเฉี่ยวที่เดินส่ายไปมาเพราะมัวแต่เอามือจะปิดจมูก และเดินหลบผู้คนที่ผ่านไปมา ดูแล้วน่าสงสารมาก …

กระทั่งคุณอุ่นเรือนเห็นว่าวันวิสา ท่าจะทนเก็บอาการไว้ได้ไม่นานแน่ ๆ จึงบอกให้ลุงแม้นไปเปิดประตูรถ แล้วพาวันวิสาไปรอที่นั่น เด็กสาวมองมาทางอิสราเพื่อขอความเห็นใจ เด็กหนุ่มจึงเมินหน้าไปมองทางอื่นเสีย วันวิสาสะบัดหน้าแล้วเดินจากไปในทันที …

กว่าที่คุณอุ่นเรือนจะจัดการกับรายการซื้อของข้าวต่าง ๆ เสร็จเรียบร้อยทุกอย่างเวลาก็ผ่านไปหลายชั่วโมง อิสราเดินกลับมายังรถก่อนที่คุณอุ่นเรือนจะแวะไปซื้อดูดอกไม้บูชาพระ …

เสียงกระดิ่งจักรยานดังกริ๊ง ๆ มาจากมุมถนนติดหน้าซุปเปอร์มาเกต อิสราหันกลับไปมองอย่างช้าด้วยความรู้สึกพิเศษเหมือนใครซักคนกำลังจะมา เพียงแค่เห็นเสี้ยวหน้าขาวนวลแอร่มแสนคุ้นเคยที่ลอยมาแต่ไกล ทำเอาเด็กหนุ่มแทบจะทิ้งข้าวของที่ถือทั้งหมด แล้ววิ่งตรงไปหายังจุดสนใจในทันที แต่อิสราก็ทำได้แค่ยืนมอง เมื่อเห็นว่ามะยมจอดรถแล้วหยิบของจากหน้าตะกร้าแล้วเดินเข้าไปในร้านขายของชำเล็ก ๆ ก่อนจะรีบออกมาในเวลาชั่วอึดใจอิสราจึงตะโกนเรียกถามมะยมไปว่า ..

“ มะยมครับ มะยม ..”

สาวร่างบางดูทะมัดทะแมงหันควับไปตามเสียงเรียกทันที ต้องตกใจที่เห็นอิสราในตลาดแห่งนี้ นึกโทษตัวเองที่เมื่อครู่มองไม่เห็นไปได้ไง กว่าจะเอ่ยปากตอบไปเด็กหนุ่มก็เดินมาถึงรถจักรยานคันโปรดแล้ว …

“ มาทำอะไรที่ตลาดนี้ครับ มะยม ..”

“ ฉันมาส่งขนมให้ป้าแวว แม่บ้านที่โรงเรียน นี่กะจะไปทำงานต่อแล้ว ..” มะยมทำท่าจะผละไปในทันทีเหลือบตามมองไปไกลในรถเห็นวันวิสาคอตั้งคล้ายยีราฟอยู่ด้านใน ..

“ อ้าวจะรีบไปไหนล่ะครับมะยม รอเจอท่านแม่ของผมก่อน นั่นท่านเดินมาจากด้านโน้นแล้วครับ .. “

มะยมจ้องมองไปยังหญิงสาวที่สาวสะคราญ ใบหน้าสวยหวานล้ำ กระจ่างสว่างมาแต่ไกล ยิ่งมองยิ่งสวยแบบประหลาด สวยอย่างที่เรียกว่าต้องมองซ้ำไปในหลายครั้ง คุณอุ่นเรือนสวมชุดล้านนาประยุกต์สีเหลืองแกมทอง ผ้าซิ่นลายผ้าทอน้ำไหลสีดำสลับแดง ตัดเรียบด้วยฝีมือที่ประณีตสวยงามเปี่ยมด้วยฝีมือช่างอย่างแท้จริง อิสราเดินล่วงหน้าไปจูงมือคุณอุ่นเรือนให้เดินมาทางที่มะยมยืนอยู่ ก่อนจะเอ่ยแนะนำว่า..

“ มะยมครับ ! นี่แม่ของผม … แม่ครับ … นี่มะยมที่เคยเล่าให้ฟังบ่อย ๆ ไงครับ..”

เด็กสาวก้มกราบผู้อาวุโสที่ตอนนี้กำลังจ้องมองมาด้วยสายตาพินิจพิเคราะห์เป็นพิเศษ จนเจ้าตัวถึงกับหลบสายตา ก่อนจะได้สติเมื่อผู้อาวุโสหันมาเอ่ยทักทายด้วยใบหน้าที่เอื้ออารีจนสัมผัสได้ด้วยสายตา ..

“ มะยมใช่มั้ยลูก … น่ารักสมกับได้ยินมาจริง ๆ แล้วไปไงมาไงถึงมาเจออิสราที่ตลาดนี่จ๊ะ..”

“ หนูมาส่งขนมให้ร้านขายของชำที่นี่ค่ะคุณป้า เลยเจอเอ่อ .. นายอิสรา..”

“ มะยมเค้าช่วยป้าแม่บ้านที่โรงเรียนส่งขนมขายตามร้านค้าในตลาดนี่เกือบทุกร้านครับแม่ แล้วอีกประเดี๋ยวก็จะไปทำงานพิเศษเสาร์-อาทิตย์ ที่ร้านเบเกอรี่จนถึงตอนเย็นครับ..”

“ งั้นเหรออิสรา … แล้วนี่จะไปเข้างานกี่โมงล่ะลูก..”

“ ใกล้ถึงเวลาเข้าร้านแล้วค่ะ ร้านอยู่แค่หัวมุมถนนตรงข้างหน้านี้เองค่ะ ..”

“ งั้นหนูรีบไปเถอะ เดี๋ยวจะโดนตัดเงินเดือนถ้าไปไม่ทัน ..”

“ หนูลาคุณป้าเลยนะค่ะ สวัสดีค่ะ..”

“ วันหน้าป้าจะให้อิสราไปรับหนูที่บ้าน แล้วเราไปทำอาหารกินที่บ้านป้ากันนะลูกนะ..”

“ ได้ค่ะคุณป้า หนูไปก่อนนะคะ..”

มะยมถีบจักรยานคู่ใจออกจากตลาดมาด้วยความรู้สึกประหลาดใจกึ่งงุนงงสงสัยในความบังเอิญที่เจอแม่ของอิสรา เพราะตนเองจำได้ว่ามะหมี่ เพื่อนสาวสวยสุดในกลุ่มเคยเล่าเรื่องคุณอุ่นเรือน แม่ของอิสราว่าเป็นคนจิตใจดี อ่อนโยน น่าเข้าไปใกล้เป็นที่สุด เมื่อได้เจอตัวจริง ๆ แบบบังเอิญในวันนี้ มะยมยิ่งเชื่อว่ามะหมี่ไม่ได้พูดเกินเลยไปจริงๆ พอคล้อยร่างบอบบางของสาวมาดห้าวไป อิสราตรงเข้าถือของที่คุณอุ่นเรือนถือไว้ก่อนจะทำเสียงอ่อย ๆ เชิงขอร้องว่า ..

“ เดี๋ยวผมไปส่งแม่ที่บ้านเรียบร้อยแล้ว ว่าจะขอเข้ามาซื้อของในตลาดหน่อยได้มั้ยครับแม่..”

“ แม่รู้นะว่าจะไปหาสาว ๆ คนเมื่อกี้ใช่มั้ยล่ะอิส ..”

“ แม่อย่าเอ็ดไปนะครับเดี๋ยวคนในรถได้ยิน” อิสราหมายถึงวันวิสาที่มองมาทางนี้เป็นครั้งที่ร้อยได้กระมัง “ ตกลงจ๊ะอิส แม่อนุญาตได้ แต่เราต้องช่วยแม่เอาของพวกนี้เข้าครัวให้เสร็จก่อนนะ..”

“ ครับแม่ ขอบคุณมากครับ เรารีบไปกันเถอะ..”

เมื่ออิสรากับคุณอุ่นเรือนได้เข้าไปนั่งในรถเบนซ์สีดำขลับด้วยสภาพที่เย็นฉ่ำของปรับอากาศภายในรถจนตามั่นเคลื่อนรถออกไปอย่างนิ่มนวลและแผ่วเบาจนแทบไม่รู้สึกว่ารถเคลื่อนไปข้างหน้าอย่างช้าจนหลุดออกมาจากตัวตลาดอำเภอท่าวังหินแล้ว เด็กหนุ่มเหลือบตามองไปยังสาวหน้าใสที่นั่งอยู่ข้างอย่างช้า ๆ ก็ต้องอดสะดุ้งเมื่อเห็นว่าใบหน้าคมเฉี่ยวของวันวิสาไม่มีความอ่อนโยน ใจเย็นอยู่บนนั้นเลย …

วันวิสายังคงบูดบึ้ง อารมณ์เสียมาตั้งแต่เห็นอิสราเสวนากับมะยมเมื่อครู่ใหญ่แล้ว และอารมณ์คุเป็นเหล็กไฟร้อนฉ่ายิ่งขึ้น เมื่อเห็นคุณอุ่นเรือนหยุดสนทนาแล้วแสดงวามชื่นชมออกมาจากสีหน้าอย่างเห็นชัดเจน จนทำให้เด็กสาวถึงกับต้องจิกมือแน่นจนห้อเลือดบนฝ่ามือกล้ำกลืนความรู้สึกร้าวราญอยู่ข้างในเพียงคนเดียว ก่อนจะอดทนไม่ไหวเมื่อถึงจุดระเบิดแล้วจริง ๆ …

“ เพิ่งรู้ว่าป้าอุ่นเรือนรู้จักมักจี่กับแม่มะยมบ้านป่าคนนี้ด้วย..” คนพูดทำน้ำเสียงเยาะเย้ยได้บาดอารมณ์คนฟังที่สุด จนผู้อาวุโสทนฟังไม่ไหวเอ่ยตักเตือนกลับไปว่า “ เค้าก็ดูเป็นเด็กดีมีสัมมาคารวะดีนี่นาวิสา แถมหน้าตาก็ดูสดใส น่ารัก ดูซื่อ ๆ เป็นกันเองอีกต่างหาก ป้าชอบเด็กคนนี้นะ..”

“ กรี๊ด ป้าจะชอบยายบ้านนอกคนนี้ไม่ได้นะ มันเป็นคนเลว ใคร ๆก็รู้..”

“ อ้าวหนู …ทำไมไปว่ามะยมอย่างงั้นล่ะจ๊ะ ไม่น่ารักเลยนะ..”

“ อ๋อนี่ ! ป้าอุ่นคงไม่รู้อะไรดี ๆ อิสคงไม่ได้เล่าเรื่องชั่ว ๆ ของนังบ้านนอกคนนี้ให้ฟังล่ะสิ..”

“ ทำไมป้าต้องอยากฟังเรื่องที่ไม่เป็นมงคลหูด้วยล่ะลูกวันวิสา มะยมก็ดูเป็นเด็กดีอยู่นะ..”

“ มันคงดีแตกสักวันหนึ่งหรอกค่ะคุณป้า อย่าให้หนูสาธยายความเลวของมันเลยค่ะ มันกระดากปากผู้ดีอย่างพวกเรา ๆ จะที่เอ่ยถึงมัน แค่เรื่องชู้สาวจนเพื่อนในห้องตายก็ฉาวโฉ่ไปทั้งโรงเรียนแล้วค่ะคุณป้า..”

“ ทำไมวันนี้วิสาพูดจาไม่น่ารักเลยล่ะจ๊ะ … เรื่องของมะยม ป้าว่าหนูมีทิฐิเกินไปนะอย่ามองคนในแง่ร้ายสิลูก คนเราเกิดมาทุกคน ขอแค่ทำตัวเองให้เป็นคนดีแค่นี้ป้าว่าก็น่าจะพอสำหรับการอยู่ร่วมกันในสังคมแล้วนะ แล้วนี่มะยมยังเป็นคนขยันทำมาหากินอีก ยิ่งน่ายกย่องสรรเสริญขึ้นไปอีก แล้วเห็นอิสบอกว่ามะยมเรียนเก่งมาก ๆ ด้วยใช่มั้ยลูก..”

คุณอุ่นเรือนเห็นว่าสถานการณ์เช่นนี้ตัวเองคงเอาไม่ไหวแน่ จึงเรียกบุตรชายมาช่วยอีกคน อิสราส่ายหน้าช้าๆ อย่างคนที่อดทนฟังเรื่องราวไร้สาระมานาน ก่อนจะเอ่ยปากพูดเป็นครั้งแรกด้วยประโยคที่เพิ่มไฟในในของวันวิสาให้ลุกโชนขึ้นมาอีก …

“ หยุดพล่ามเรื่องไม่จริงจะได้มั้ยวิสา เธอก็รู้ไม่ใช่เหรอว่าฉันไม่ชอบคนโกหก ”

“ อิสรา เธอกล้าว่าฉันเหรอเนี่ย กรี๊ด ..”

“ โอ๊ย! ฉันหนวกหูจะตายอยู่แล้วนะวิสา เอะอะอะไรก็กรี๊ด เกรงใจแม่หน่อยสิ แล้วเรื่องที่เล่าๆ มาน่ะอย่าตีไข่ใส่ความเท็จไปมากนัก ละอายปากเสียมั้งเวลาเล่าเรื่องไม่จริงน่ะ เดี๋ยวถึงบ้านหาอะไรล้างปากเสียมั่งจะได้หอมสะอาดขึ้นหน่อย..”

“ เออนังนั่นมันดี มันเก่ง มันวิเศษ มันสูงด้วยชาติตระกูลก็เอามาเป็นสะใภ้เสียเลยซิ จะได้ไปบอกท่านแม่กับหม่อมยายว่าให้ยกเลิกการหมั้นระหว่างนายกับฉันซะ ถึงตอนนั้นอยากจะรู้นักว่าวังฟ้าเมฆาจะอยู่ได้ยังไงถ้าครอบครัวตระกูลพิทักษ์มนตรีไม่โอบอุ้มช่วยเหลือ ..”

“ มันชักจะมากไปแล้วนะวันวิสา นี่เธอกล้าขู่ฉันกับแม่เหรอ..”

“ ฉันไม่ได้ขู่ แค่ฉันพูดความจริงเท่านั้น ..” คนพูดยักไหล่ไม่สนใจว่าอีกฝ่ายจะโกรธจนหน้าแดงแล้ว

“ ถ้าเธอคิดได้อย่างนี้ เราคงไม่ต้องมาพูดเรื่องนี้อีกแล้ววันวิสา เชิญไปบอกหม่อมแม่ของเธอด้วยว่าจะไม่มีการหมั้นระหว่างเธอกับฉันเกิดขึ้นแน่นอน..” อิสราจ้องเขม็งไปยังวันวิสาอย่างโกรธสุด ๆ แล้ว …

“ แม่ว่าทั้งสองคนใจเย็น ๆ ไว้ก่อนน่า ค่อย ๆ พูดค่อยจากันก็ได้ เรื่องเล็กแค่นี้เองไม่น่าจะทำให้มันเป็นเรื่องใหญ่โตเลยนี่ลูก เอ้านายมั่นรีบขับไวไวหน่อย ฉันจะรีบไปทำกับข้าวให้ท่านชาย..”

คุณอุ่นเรือนพูดตัดบทไปให้คนทั้งสองที่กำลังโต้คารมอย่างดุเด็ดเผ็ดมันลดความรุนแรงของการสนทนาลงบ้าง ด้วยความอับอายตามั่นคนขับรถที่อาจเอาเรื่องนี้ไปโพนทะนาให้คนงานในวังหรือในไร่รู่เรื่องกันหมดก็คราวนี้กันพอดี นี่เป็นในหลายครั้งที่หญิงสาวมองเห็นการปะทะกันของสองตระกูล ไล่เรียงกันมาตั้งแต่รุ่นใหญ่ ท่านปู่ของอิสรากับหม่อมยายของวันวิสา หรือท่านชายปกรณ์เทวากับหม่อมราชวงศ์หญิงพักตร์พิลาส แม่ของวิสา จนมาถึงรุ่นหลานระหว่างอิสรากับวันวิสาเองในขณะนี้ ทุกอย่างยังไม่มีข้อยุติอยู่เช่นเดิม

คุณอุ่นเรือนเบนสายตามองไปยังทิวทัศน์ที่เลื่อนไหลไปข้างหลัง พลางครุ่นคิดถึงความสัมพันธ์ที่ง่อนแง่น เตรียมแตกสลายในเวลาอีกไม่นานของสองตระกูลนับต่อจากนี้แล้วไม่อยากจะให้ถึงวันนั้นเลย เพราะสงสารท่านชายปกรณ์เทวา ผู้เป็นสามีที่เป็นคนกลางในเรื่องนี้ทั้งหมด จะต้องแบกรับปัญหาอันหนักอึ้งนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ส่วนอิสราก็น่าสงสารเข้าไปอีก ถ้าได้เด็กสาวที่สวยงามแต่ภายนอกเช่นวันวิสา มาเป็นคู่ครองอยู่กันจนแก่เฒ่าไปตลอดชีวิต ด้วยเพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสด ๆ ร้อน ๆ เมื่อครู่ ทำให้คุณอุ่นเรือนตัดสินแล้วว่าคืนนี้จะขอปิดห้องเจรจาในเรื่องนี้ กับท่านชายปกรณ์เทวาอย่างแน่นอน จะเป็นอย่างไงก็เป็นกัน คุณอุ่นเรือนโล่งใจอีกครั้งเมื่อรถเบนซ์คันหรูแล่นเข้าสู่ไร่ฟ้าเมฆาอย่างช้าๆ เพื่อมุ่งสู่วังฟ้าเมฆาที่ใหญ่สูงทะมึนอยู่ข้างหน้า …

---------------------------

กว่าที่อิสราจะปลีกตัวให้เจ้าหยาม ลูกตามั่นเอามอเตอร์ไซต์มาส่งยังตลาดท่าวังหินอีกครั้ง ก็ต้องทำหลบซ่อนอยู่เป็นนานสองนานที่จะหนีจากการตามหาของวันวิสา พอออกจากไร่ฟ้าเมฆาได้สักครู่สยามหรือ เจ้าหยามจึงเอ่ยถามขึ้นมาว่า ..

“ คุณชายจะให้ผมไปส่งที่ร้านไอศกรีมที่ชื่อฟ้าครามใช่มั้ยครับ” อิสราจึงตอบว่า

“ ใช่ร้านที่ทาสีสีฟ้าทั้งร้านนั้นแหละ สยามไปถูกหรือเปล่าล่ะ..”

“ ปัดโธ่ดูถูกไอ้หยามคนนี้ไปได้ ผมน่ะเกิดที่นี่ วิ่งเล่นในตลาดมาตั้งแต่ขวบสองขวบ ทำไมจะไม่รู้จักร้านนี้ แต่ก่อนร้านนี้เป็นร้านขายเครื่องใช้ไฟฟ้า สมัยที่ไฟฟ้าเข้ามาที่บ้านท่าวังหินครั้งแรก ตอนนั้นผมยังไม่รู้อีโน่อิเน่อะไรซักอย่าง ยังจำได้ว่าไปลูบ ๆ คลำ ๆหลอดไฟฟ้าสีขาวจนฟ้าต้องตีมือไปหลายครั้ง …”

“ อ้าวเหรอ ! แล้วปีนี้สยามอายุเท่าไหร่แล้วล่ะ..”

“ ปีนี้ผมย่างสิบเจ็ดแล้วครับคุณชาย พ่อชอบว่าผมเป็นหนุ่มที่ไม่รู้จักโตซะที ชอบทำตัวเหมือนเด็ก”

“ ธรรมดาคนแก่น่า ท่านก็อาจจะกลัวเราไปมีเรื่องกับคนอื่นก็เป็นได้นะสยามได้ข่าวว่านายก็ไม่ธรรมดานี่นา ผมว่าสยามอย่าห้าวมากนักนะ เราเป็นวัยรุ่นเลือดมันร้อน จะทำอะไรก็คิดให้ดี ๆ อย่าวู่วาม เอาแต่ใจ ถ้าเกิดเรื่องอะไรขึ้นมาลุงมั่นจะเดือดร้อน สงสารแกหน่อย แกแก่มากแล้ว ..”

“ ครับคุณชาย ผมก็ยึดหลักอย่างที่คุณชายสอนผมนี่แหละ เมื่อตอนเด็ก ผมมีครูคนหนึ่งซึงผมรักมาก ๆ ผมสนิทกับครูคนนี้และลูกสาวคนเล็กของครูดี ครูแกชื่อครูพล สอนอยู่โรงเรียนบ้านท่าวังหินนี่แหละ ตอนนี้ครูได้เป็นครูใหญ่แล้ว ผมไม่ว่างไปกราบท่านเลย ถ้ามีเวลาจะไปสักวัน คุณชายไปหาครูกับผมมั้ยล่ะครับ..”

สยาม หรือ หยาม ลูกชายโทนคนเดียวของตามั่นคนขับรถประจำวังฟ้าเมฆา เริ่มจะชวนคุยมากขึ้น เมื่อเห็นว่าอิสรา หรือคุณชายอิสรา ไม่ได้ดุ เก็กท่าหรือวางมาดผู้ดีข่มคนยากเหมือนคนอื่น ๆ ในวังฟ้าเมฆาแต่อย่างใด แต่กับตรงกันข้ามดูเป็นกันเอง จนสามารถจะคุยหรือเล่าอะไร ๆ ให้ฟังได้อย่างสะดวกปากอย่างน่าประหลาดใจ ส่วนอิสราเริ่มสนุกที่จะคุยกับสยามจึงตอบไปว่า …

“ เอาสิสยามวันหลังเราไปหาครูพล ของนายด้วยกัน...ว่าแต่ว่าลูกสาวคนเล็กของครูพลเป็นยังไงบ้างสวยน่ารัก นิสัยดีมั้ยล่ะ ..”

“ มะยมเป็นเพื่อนเล่นกับผมมาตั้งแต่เด็ก ๆ เราเล่นกันไปทั้งบ้านใต้ บ้านกลางและบ้านเหนือ วันดีคืนดีกลุ่มพวกเรามักจะไปเล่นน้ำกันที่น้ำตกศิลาแลง ทางป่าภูคาฟากโน้นครับ มะยมมันมีนิสัยแก่น ๆ ไม่เหมือนผู้หญิงหรอกครับ แต่มันก็เป็นคนดี รักความยุติธรรม รักพวกพ้องเป็นที่หนึ่ง พวกผมยกให้เป็นหัวหน้ากลุ่มเลยในตอนนั้น ครูพลก็เคยบ่นกับผมว่ามันจะเป็นเด็กผู้ชายหรือเด็กผู้หญิงกันแน่ เฮ้อ ! มะยมนะมะยม เพื่อน..”

“ อ้าวงั้นเหรอสยาม แล้วนี่ไม่ได้เจอกันมานานกี่ปีแล้ว ..” อิสราถามต่อด้วยความคะนองใจอยู่ต่อไป

“ นานมากเหมือนกัน ตั้งแต่ผมจบ ปอหก แล้วไปต่อที่ ก.ศ.น.ก็ไม่เจออีกเลยครับ ..”

“ งั้นประเดี๋ยวนายจะได้เจอเพื่อนนายคนที่เรากำลังพูดถึงนี่แหละ นายจะจำเธอได้หรือเปล่านี่สิ..”

“ อะไรน่ะครับ ยายมะยมทำงานอยู่ที่ร้านไอศกรีมนี่เหรอคุณชาย ..”

คนถามอดประหลาดใจไม่ได้เมื่อเห็นว่า คนที่คุณชายของคฤหาสน์ฟ้าเมฆากำลังจะไปหาเป็นคน ๆ เดียวที่ตนเองนินทาตั้งนานสองนาน..

“ ใช่แล้วสยาม … มะยมเป็นเพื่อนร่วมห้องเรียนของผม และตอนนี้เรากำลังจะไปหาเธอที่ร้าน… อ้าวคุยไปคุยมาถึงร้านพอดี… เดี๋ยวสยามยืนรอผมที่นี่ก่อนนะ ผมจะเข้าไปหามะยมก่อนอย่าเพิ่งไปไหนนะครับ ”

สยามมองตามร่างสูงใหญ่ของอิสราจนลับประตูร้านที่ทาสีฟ้าทั้งร้านชื่อ ฟ้าคราม จนนานอึดใจก็มองเห็นคนทั้งสองที่มีสาวหน้าใส มัดผมจุกผิวขาวเนียนละเอียด แก้มออกสีชมพูเรื่อ ๆ เดินตรงมาพร้อมรอยยิ้มประพิมพ์ประพาย แสนคุ้นเคย ก่อนจะตะโกนทักทายมาแต่ไกล …

“ เฮ้ย ! ไอ้ลูกหมามาที่นี่ได้ไง …”

อิสรามองคนทั้งสองที่ทักทายประสาคนคุ้ยเคย วิ่งเล่นตั้งแต่เด็กอย่างอารมณ์ดีและมีความสุขอย่างประหลาด คิดอยู่ในใจว่า ตนเองมีความสุขใจทุกครั้งที่เห็นรอยยิ้มกระจ่างใสของสาวเจ้าที่กำลังเริงร่าเหมือนผีเสื้อตัวน้อยโบยบินเล่นลมในวันที่อากาศปลอดโปร่ง และอยากจะจดจำความรู้สึกสวยงามนี้ไว้ตราบจนวันเวลาข้างหน้าเปลี่ยนแปลงไปตามวัฏจักร เด็กหนุ่มบอกกับตัวเองว่า ..

“ ถ้าทุกอย่างเป็นไปตามความฝัน จะขอสิทธิ์เป็นเจ้าของหัวใจผู้หญิงที่ยืนอยู่ตรงหน้าคนนี้ตลอดไป ขอสัญญาด้วยหัวใจ .”

-----------------------

ติดตามตอนที่ ๒๓ สองสามวันนี้ครับผม .. ขอบพระคุณครับ ..
นายอิส เมฆชรา
๒๗ กรกฎาคม ๒๕๕๓





Create Date : 27 กรกฎาคม 2553
Last Update : 27 กรกฎาคม 2553 2:59:03 น. 0 comments
Counter : 792 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

เมฆชรา
Location :
นครราชสีมา Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 22 คน [?]




เข้าสู่ปีที่ 8
Friends' blogs
[Add เมฆชรา's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.