จินตนาการสำคัญกว่าความรู้
Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2553
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
14 สิงหาคม 2553
 
All Blogs
 

กาหรือหงส์ ตอน ๓๐

กาหรือหงส์ ตอน ๓๐






ท่านชายปกรณ์เทวาถอนหายใจออกมาอีกครั้ง เมื่อนึกถึงสิ่งที่บุตรชายสุดรักสุดดวงใจจะพบเจอสิ่งเหล่านี้ในวันข้างหน้า …

“ ลุงเข้าใจในความต้องการของหนูนะลูก แต่ลุงก็ต้องขอเวลาให้อิสราจบมัธยมก่อน แล้วเราค่อยมาคุยกันอีกที ถึงตอนนั้นทุกอย่างก็คงจะ … เอ่อ .. ไม่สายจนเกินไป “

“ หนูคิดว่าลุงคงจะจำคำพูดของตัวเองในวันนี้ไว้ให้ดีดีนะคะ เผื่อวันหน้าเกิดลืมหนูจะมาย้ำคำถามอีกที หนูจะไปนอนแล้วล่ะค่ะ ราตรีสวัสดิ์นะคะคุณลุง “

วันวิสายักไหล่ ใบหน้าเชิดตั้งตรงขึ้น คล้ายเป็นต่อชายอาวุโสที่นั่งบนเก้าอี้บุนวมนิ่มมือทั้งสองข้างวางพนักทำท่าครุ่นคิดตรงหน้าอย่างมีแต้มต่อ ก่อนจะสะบัดตัวเดินลิ่วออกจากห้องไป สวนทางกับคุณอุ่นเรือนที่เดินตรงเข้าจนแทบไหล่ชนไหล่เลยทีเดียว แต่เด็กสาวไม่สนใจหน้าเชิดคอตั้งเช่นเดิมแล้วเดินหายลับไปในมุมระเบียงในทันที คุณอุ่นเรือนที่เซไปเล็กน้อยจากการชนเมื่อครู่ จนพอตั้งตัวได้ก็เดินลิ่วเข้าไปในห้องทันที กระทั่งมองเห็นว่าท่านชายปกรณ์เทวากำลังทรุดตัวนั่งด้วยอาการคล้ายโรคหัวใจกำเริบ …

“ เป็นอะไรไป หายใจไม่ออกหรือเปล่าคะ “

“ ปละ…เปล่า ผมไม่เป็นไรแค่หน้ามืดนิดหน่อย ไปเอายาพ่นที่โต๊ะมาซิ “

“ แต่ท่านหน้าซีดมากเลยนะคะ ไปพักผ่อนที่ห้องเถอะ “

คุณอุ่นเรือนตรงเข้าประคองแล้วเดินออกมาจากห้องด้วยกัน “ วันวิสามาคุยเรื่องนั้นอีกแล้วใช่มั้ยคะ ทำไมย้ำคิดย้ำทำนักก็ไม่รู้ นี่คงพูดเรื่องเดิมจนท่าน เอ่อ…“

“ แม่อุ่นหยุดพูดเรื่องนี้กันเถอะ ผมปวดหัว เดี๋ยวเดินไปผมจะเล่าให้ฟัง “

“ ค่ะท่าน ดิฉันก็ใจร้อนไม่เข้าท่าขอโทษด้วยนะคะ ท่านคงกลุ่มใจเรื่องนี้มาก อาการโรคเก่าเลยกำเริบ “

“ ไม่มีอะไรมากหรอกก็เรื่องเดิม ๆ ผมไม่อยากจะเอ่ยถึงมันเลยเพราะสงสารชายอิสที่ต้องมารับกรรมที่ตัวเองไม่ได้ก่อ ผมนี่แหละมีส่วนผิดอย่างมหันต์ไปรับเงื่อนไขบ้า ๆ บอ ๆ จากหญิงพักตร์มาได้ไงก็ไม่รู้ ทั้งที่ก็รู้ทั้งรู้ว่าวันข้างหน้ายังไงฝ่ายเราก็เป็นฝ่ายเสียเปรียบอยู่วันยังค่ำ “

“ แต่เรื่องมันก็เนิ่นนานจนกฎกติกาเก่า ๆ น่าจะยกเลิกหรือเปลี่ยนแปลงกันได้แล้วนะคะ “

“ ใครเค้าจะยอมเสียเปรียบกันละแม่อุ่น ตอนนั้นสภาพคล่องของไร่ฟ้าเมฆาจวนอยู่จวนล้ม ถ้าทางฝ่ายโน้นไม่ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ เราคงไม่มีวันนี้ “

“ แต่ก็ไม่ควรเอาอนาคตทั้งชีวิตของใครสักคนมาเสี่ยงแบบผิด ๆ แบบนี้นี่นา “

“ แม่อุ่นคงหมายถึงการแต่งงานระหว่างชายอิสกับวันวิสาที่กำลังจะเกิดขึ้นเร็ววันนี้ใช่มั้ย “

“ ค่ะ อุ่นเป็นห่วงลูกกลัวจะเข้ากันไม่ได้แล้วเตลิดเปิดเปิงไปกันใหญ่ดูเหมือนว่าคนทางโน้น“ แรง “ จนน่ากลัว แถมไม่เคยไว้หน้าหรือให้เกียรติกับทางฝ่ายเราเลย ฉันเพิ่งโดนมาเมื่อครู่ “

“ เอาน่าแม่อุ่นก็อดทนเอาหน่อย แล้วอย่าไปเล่าเรื่องนี้ให้อิสราฟังว่า ผมจะจัดงานหมั้นให้มันจบ ๆ ไปซะในเร็ววันนี้ “ ท่านชายปกรณ์เทวาตัดสินสรุปจบแบบห้วน ๆ จนคุณอุ่นเรือนเอามือทาบอกคล้ายคนตกใจอย่างรุนแรง“ ท่านชาย! ทรงทำอย่างนี้กับลูกได้ยังไงค่ะ แล้วชายอิสจะยอมเหรอ เห็นเป็นไม้เบื่อไม่เมากันตลอดเวลา แล้วดิฉันคิดว่าลูกเรากำลังมีความรัก... “

“ มีความรักหรือ … แล้วมีกับใคร ออย่าบอกผมนะว่าเป็นแม่กุหลาบไพรคนนั้น “

“ คนนี้แหละค่ะที่อิสราอยากจะอยู่ด้วยตลอดชีวิต และที่สำคัญก็คือคนทั้งสองรักกัน “

“ อะไรนะ ! ชายอิสรักกับเด็กกะโปโลมะยมนั่น มันเป็นไปได้ไง “

“ เรื่องนี้แหละที่ดิฉันจะมาเรียนท่านชายในวันนี้ เด็กคนนี้เป็นเด็กดี น่ารัก มารยาทงาม มีน้ำใจ ไม่ชอบเอาเปรียบใคร มีความซื่อบริสุทธิ์ ไม่เสแสร้งแกล้งทำ อุ่นอยากได้คนข้างกายของลูกเป็นคนแบบนี้ “

“ แม่อุ่นแน่ใจหรือว่า ลูกสาวข้าราชการชั้นโทที่ถูกเลี้ยงดูแบบคนพื้นบ้าน จะมาเป็นส่วนหนึ่งในครอบครัวที่มีชาติตระกูลสูงส่งและบริวารพรั่งพร้อมอย่างพวกเราตอนนี้ “

ท่านชายปกรณ์เทวาพยายามหาเหตุผลมากล่าวอ้าง เพื่อจะชักจูงให้คุณอุ่นเรือนเปลี่ยนใจแล้วเปลี่ยนความคิดตามมา แต่มันก็ไม่ได้ผลนัก เมื่ออีกฝ่ายตอบสวนกลับมาด้วยน้ำเสียงที่เคร่งเครียดกว่าปกติเมื่อสักครู่

“ ท่านชายคงลืมไปแล้วมังคะว่าดิฉันก็มาจากตระกูลชาวไร่ชาวนาเหมือนเด็กมะยมนั้น ถ้าเราจะมองให้ยุติธรรมขึ้นไปอีกนิดก็จะเห็นว่าชนชั้นสูงที่เราอุปโลกน์หรือยกขึ้นว่าอยู่บนชั้นฟ้า แท้ที่จริงก็คือคนธรรมดามีทุกข์ มีสุข มีรัก มีโกรธ มีเศร้า มีผิดหวังเหมือน ๆ กันกับทุกคน ถ้าหากเลือกเกิดกันได้ดิฉันก็เชื่อว่าทุกคนคงจะเลือกเกิดเป็นคนชนชั้นสูง มีเงินทองจับจ่ายไม่ขาดมือตลอดชีวิต ไม่อดมื้อกินมื้อหรือลำบากยากแค้นแสนสาหัสเหมือนผู้คนส่วนมากในไร่ของเรา หรือคนทั้งอำเภอท่าวังหินนี่ “

“ ที่เธอพูดมาทั้งหมดไม่มีอะไรผิด แต่ทุกคนย่อมจะเลือกสิ่งที่ดีกว่าให้กับชีวิตทั้งชีวิต นั่นคือผมกำลังจะเลือกให้ตัวแทนของผมอยู่ตอนนี้ไง “

“ เลือกโดยที่ไม่ได้ถามความสมัครใจคนอยู่เลยสักนิด โบราณท่านก็เคยสอนไว้ว่าปลูกเรือนตามใจผู้อยู่ ปลูกอู่ตามใจคนนอนนะคะท่านชาย “ คุณอุ่นเรือนประคองท่านชายปกรณ์เทวาด้วยอารมณ์ขุ่นมัวขึ้นมาอีกครั้ง

“ ผมจะไม่พูดเรื่องนี้อีกแล้วนะ สิ่งที่แม่อุ่นต้องทำเลยในตอนนี้คือไปบอกอิสราให้เตรียมตัวหมั้นกับหนูวันวิสาในอีกสามเดือนต่อจากนี้ เข้าใจมั้ย “

“ ค่ะ ดิฉันก็ต้องเข้าใจในสิ่งที่ท่านประสงค์อยู่แล้วนี่คะ “

“ งั้นก็ดีแล้วไปจัดการตามที่เธอเห็นสมควรเถอะ ตอนนี้ฉันจะเข้านอนแล้วนะ “ ประมุขแห่งวังฟ้าเมฆาก้มเช็ดเท้ากับพรม แล้วทำท่าจะก้าวขึ้นเตียงนอนที่วิจิตรกระการตาน่าเอนกายลงนอนเป็นที่สุด …

“ รอสักประเดี๋ยวนะคะ ดิฉันจะไปเตรียมน้ำอุ่นมาล้างมือให้ท่านค่ะ “

“ อื่อ ! รีบไปรีบมาล่ะ “คุณอุ่นเรือนรีบถลันออกจากห้องไปในทันที แต่ก็สะดุดตากับเงาดำ ๆ แว่บที่มุมผ้าม่านข้างๆประตู จึงชะงักเท้าแล้วหันไปมองอย่างช้า พอเห็นร่างสูงคุณอุ่นเรือนก็คลายใจ แล้วเอ่ยถามว่า ..

“ อิสมายืนลับ ๆ ล่อ ๆ ที่ริมประตูทำไมลูก มีธุระจะสนทนากับท่านพ่อหรือเปล่า “

“ ไม่มีอะไรครับ ผมกำลังจะกลับไปนอน แม่ไปเตรียมน้ำอุ่นให้ท่านพ่อก่อนเถอะ“

“ อ้าว ! แล้วลูกรู้ได้ยังไงว่าแม้กำลังจะไปเอาน้ำอุ่นมาให้ท่านพ่อ หรือว่า …”

“ ใช่แล้วแม่จ๋า อิสรับรู้และได้ยินเรื่องราวในห้องเมื่อกี้หมดแล้ว “

“ ตายจริง ! จบกันพอดี ลูกอย่าคิดอะไรมากนะจ๊ะ แม่เชื่อว่าทุกอย่างมันต้องมีวิธีแก้ไข “

“ ลูกรู้ว่าการเป็นลูกที่ดีต้องกตัญญูต่อพ่อแม่ และยอมทำตามในสิ่งที่ท่านต้องการ “

“ แต่มันคือความสุข ความทุกข์ที่ลูกต้องอยู่กับมันตลอดชีวิตนะอิสรา เชื่อแม่เถอะถ้าหากวันนี้ตัดสินใจผิดไปแล้ว วันหน้าจะเสียใจไปจนตลอดชีวิต “ คุณอุ่นเรือนพยายามเกลี้ยกล่อมให้อิสราเห็นสิ่งที่จะเกิดในอนาคต

“ แม่จ๋า! ที่ลูกคิดอย่างนี้ก็เพราะสงสารท่านพ่อ กลัวโรคเก่าจะกำเริบขึ้นมาอีก ลูกเลยคิดว่าต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อเป็นการทดแทนบุญคุณพ่อกับแม่ที่เลี้ยงดูกันมาด้วยความยากลำบาก “

“ มันไม่ลำบากขนาดนั้นหรอกลูกอิสรา พ่อกับแม่พอจะหาทางแก้ไขปัญหาเรื่องนี้ได้ ไม่ต้องกังวลใจไปเลย ตอนนี้เรามีหน้าที่เรียนหนังสือ เพื่อจะได้มีความรู้ติดตัวในวันข้างหน้า “

“ ลูกก็หวังอย่างนั้นเช่นกัน งั้นลูกขอตัวขึ้นนอนดีกว่านะจ๊ะแม่พรุ่งนี้ต้องไปโรงเรียนแต่เช้า อาจารย์อภิชาติจะให้เป็นตัวแทนโรงเรียนหาข้อมูลและดำเนินการจัดการเกี่ยวกับการแข่งเรือที่จังหวัดในเดือนหน้านี้ “

“ ไปเถอะอิส เดี๋ยวแม่จะไปเอาน้ำอุ่นให้ทานพ่อก่อน “

“ ราตรีสวัสดิ์ครับแม่ คืนนี้ฝันดีนะครับ “

“ จ๊ะ ไปนอนเถอะลูก “

-------------------------

พอตื่นเช้าขึ้นมาตามเวลาปกติประจำวันมะยมก็รีบกุลีกุจอไปรับน้ำหวานที่บ้านตามเวลาที่เคยนัดหมายกันไว้ แต่ก็ต้องผิดหวังเพราะป้าสายคำป้าที่เลี้ยงน้ำหวานมาตั้งแต่แบเบาะบอกว่ายัยหวานไปกับเพื่อนที่โรงเรียนที่มารับตั้งแต่เช้าแล้ว และให้บอกมะยมด้วยว่าต่อไปไม่ต้องลำบากมารับอีกก็ได้ …

มะยมข้องใจว่าน้ำหวาน ที่เคยผูกสมัครรักใคร่กันดีมาตลอด ตอนนี้เป็นอะไรไปก็ไม่รู้ ด้วยความขุ่นข้องในใจจนต้องรีบบึ่งรถไปที่โรงเรียนแล้วทำการชักถามให้ได้ความจริง … ก็พบว่าน้ำหวานนั่งอยู่ที่โต๊ะหินอ่อนที่ประจำของกลุ่มสาวซ่าส์อย่างที่คาดไว้จริง ๆ จึงรีบนำมอเตอร์ไซต์คันโปรดเข้าไปเก็บที่อาคารโรงรถ ใต้ถุนอาคารเรียน แล้วรีบวิ่งมายังโต๊ะหินอ่อนใต้ต้นหูกวางในทันที … มะยมต้องชะงักไปเมื่อเห็นแต่ความว่างเปล่า ไม่มีวี่แววของน้ำหวานที่นั่งเหม่อลอยเมื่อครู่เลย …

ความคิดแว่บขึ้นมาในหัวสมอง ตั้งเป็นโจทย์คำถามว่าที่ที่ไหนในโรงเรียนแห่งนี้ที่เด็กสาวหน้าหวานหยดย้อยคนนี้ชอบไปอยู่อย่างเงียบสงบ มะยมคิดออกว่ามีที่นั่นที่เดียวที่น้ำหวานชอบไปมากที่สุด จึงสืบเท้าก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วจนผ่านส้มโอ เพื่อนสาวลูกลุงภารโรงในภารโรงอย่างเฉียดฉิว โดยไม่ฟังเสียงร้องเรียกที่ดังตามมาข้างหลัง …

“ นั่นนังยม ! มันจะรีบไปตามควายที่ไหนของมันวะ “

มะยมมองเห็นส้มโอแล้ว แต่แสร้งทำเป็นไม่เห็นด้วยความอยากแกล้งเพื่อนและเร่งไปตามน้ำหวานที่ศาลาริมน้ำข้างอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ พอไปถึงก็พบว่าน้ำหวานนั่งหลบมุมอยู่ข้างบันใดที่ทอดลงไปในสระน้ำ จึงค่อยย่องลงไปนั่งข้างสาวน้อยหน้าหวานที่ตอนนี้กำลังหน้ามุ่ย เพราะเกิดอาการงอนอะไรซักอย่าง …

“ พี่ตามหาเราตั้งเสียหลายที่มาหลบอยู่ที่นี่เองหรือน้ำหวาน “

“ พี่จะตามหาหนูทำไม ในเมื่อหนูบอกป้าไปแล้วว่า .. “

“ ว่าจะไม่ให้พี่ไปรับเราที่บ้านอีกใช่มั้ยหวาน “

“ นี่ตกลงเรางอนพี่เรื่องอะไร พี่กำลังงงอยู่นะ ขอคำอธิบายมาหน่อยสิหวาน “

“ พี่ทำอะไรก็น่าจะรู้อยู่กับใจแล้ว หนูไม่ต้องอธิบายซ้ำให้เสียความรู้สึกหรอก “ คนพูดค้อนด้วยสาตา และสะบัดน้ำเสียงนิด ๆ คล้ายอยากจะบอกว่าตัวมีความผิดอะไร ทำไมไม่รับรู้รับทราบซะทีฮึ !

“ ก็บอกมาตรง ๆ เลยก็สิ้นเรื่องไม่เห็นต้องเดากันไปให้วุ่นวายเลยนี่น้ำหวาน ตอนนี้พี่เริ่มจะมีความอดทนน้อยลงแล้วนะ ขออย่าโยกโย้ได้มั้ย ? พี่เหนื่อยมาตั้งแต่ที่เดินตามหาเราแล้วนะ ”

“ พี่มะยมของหวานเปลี่ยนไปแล้วจริงๆ ฮือ ๆ ๆ “ น้ำหวานเช็ดน้ำตาป้อย ๆ ดูแล้วน่าสงสารจับใจ

“ หวานก็อย่าเอาแต่ร้องไห้สิ บอกพี่มาสิพี่มีความผิดอะไร “

“ ไม่รู้ ไม่เห็นอะไรแล้ว ถ้าพี่อยากรู้เรื่องนี้พี่ก็ไปถามพี่ส้มดูซิ แกคงเล่าอะไรได้ชัดเจนอย่างที่อยากจะฟัง หนูจะขึ้นห้องเรียนแล้ว ขออย่าตามหนูมานะ ตอนนี้อยากอยู่คนเดียว “

“ ประเดี๋ยวสิน้ำหวาน มันเรื่องอะไรกันนี่พี่งงไปหมดแล้ว “

มะยมเรียกสาวร่างเล็กบางใบหน้าหวานละมุนด้วยเสียงตะคอกอันดังลั่นจนแทบจะเรียกได้ว่าตะโกนเลยทีเดียว แต่น้ำหวานไม่แม้แต่จะหันหลังกลับมา ยังคงก้มหน้างุดเดินผ่านทางโรยกรวดหายลับขึ้นอาคารไป …

สาวมาดเข้มส่ายหน้าช้า ๆ ก่อนจะเดินเตะก้อนหินสเปะสปะไปทั่วจุดหมายปลายทางก็คือ ยัยทอมบอยบ้านนอกประจำกลุ่มที่ตอนนี้คงจะสาละวนช่วยแม่ขายข้าวแกงที่โรงอาหารอย่างขะมักเขม้น …

พอไปถึงมะยมก็อดจะแปลกใจไม่ได้ที่เห็นส้มโอนั่งรอที่หัวโต๊ะอาหาร พร้อมจัดเตรียมน้ำส้มไว้ตั้งวางเรียงกันสุดลูกหูลูกตาในโรงอาหารขนาดใหญ่ในโรงเรียนแห่งนี้ จึงเดินเข้าไปตบโต๊ะดังปัง ข่มไว้ก่อนหนึ่งที

“ แกจะเล่าอะไรให้ฉันฟังก็เล่ามาซะดีดีนังส้ม อย่าโยกโย้ยืดความ “

“ แล้วแกอยากจะรู้อะไรจากฉันล่ะยายยมโรคจิต “

“ แกอย่ามาเล่นลิ้นกับฉันได้มั้ยส้ม กำลังอารมณ์ไม่ดีอยู่นะ ฉันอยากจะรู้เรื่องที่น้ำหวานไม่พูดกับฉัน“

“ ปู้โธ่นึกว่าเรื่องอะไร ที่แท้ชะนีงอนไม่คุยด้วยนั้นเอง “ส้มโอทำหน้าตาล้อเลียนจนน่าหมั่นใส้

“ อย่าลีลาลวดลายมากจะเล่าหรือไม่เล่า ถ้าไม่เล่าฉันจี๋เอวแกนะ “ มะยมใช้ไม้ตายที่เคยใช้ได้ผลเป็นประจำกับส้มโอที่เป็นคนบ้าจี้มากที่สุดในกลุ่ม แถมชอบโวยวายก่อนเป็นประจำเมื่อมีใครสักคนจะทำเช่นนี้

“ อย่าเชียวนะโว้ยนังยม ถ้าแกทำมีเคืองมีต่อยนะจะบอกให้ “

“ งั้นก็รีบเล่ามาเลย เรื่องมันเป็นมายังไง “ คนพูดนั่งลงพลางยกแก้วน้ำส้มขึ้นมาดูดเพื่อรับฟัง

“ น้ำหวานงอนเรื่องที่แกไปไร่ฟ้าเมฆาของนายอิสราเมื่อวานนี้ เข้าใจรึยังนังซื่อบื่อ “

“ มันไม่มีอะไรอย่างพวกแกคิดหรอกนะ แค่ฉันเอาของไปฝากป้าอุ่นเรือนและขอโทษที่ไปชกลูกชายเมื่อวันวานก็แค่นั้นเอง ทำไมคิดมากกันจังเลย “ มะยมเกาหัวแกรก ๆ คล้ายโล่งใจที่ไม่มีเรื่องอะไรร้ายแรงเกินจะแก้ไขได้ แต่ทว่าส้มโอก็โพล่งออกมาคล้าย ๆ อยากจะเล่าสิ่งที่ค้างคาในใจมานานว่า ….

“ แต่ว่ามันอาจจะมีความหมายสำหรับน้ำหวาน เพราะน้องเขาคงคิดว่าพักนี้ทำไมแกถึงผูกติดกับนายอิสรา จนแทบจะแยกกันไม่ออก มีแกที่ไหนจะต้องมีนายอิสราคอยตามประกบเหมือนเป็นเงาตามตัว เรื่องนี้ฉันไม่ได้พูดเอง เพื่อนเราทุกคนต่างก็พูดเหมือนฉันกันหมด และที่สำคัญตอนนี้ตัวแกเองก็เปลี่ยนแปลงไปมากด้วย เคยมองดูตัวเองให้ชัด ๆ สักครั้งบ้างไหม ”

“ เฮ้ย ๆ นังส้มเบาหน่อยเพื่อน ฉันไม่ใช่นักโทษแกนะจะได้มาตะคอกกันด้วยน้ำส้มแก้วเดียวแบบนี้ “

“ แกมันก็เป็นซะอย่างนี้ ไม่เคยรับรู้ความรู้สึกคนรอบข้างอะไรเลย แกรู้มั้ยว่าช่วงสามเดือนที่ผ่านมา ตัวแกเองไม่เคยจะเข้ารวมกลุ่มกับพวกเราเหมือนเคยเลย พวกชั้นได้ยินแต่ข่าวแกกุ๊กกิ๊กกับนายอิสที่โน่นที่นี่อยู่ตลอดเวลาไม่ว่าจะเป็นงานออกค่ายอาสา เรื่องบนน้ำตกศิลาแลง และเรื่องการแข่งขันกีฬา … จนพวกเราสรุปง่าย ๆ สั้น ๆ ว่า แกสองคนกำลังตกหลุมรักกัน ” ส้มโอชะงักคำพูดไปเมื่อมะยมสวนตอบกลับมาว่า ..

“ พอน้ำหวานได้ฟังเรื่องที่พวกแกคุยกันเรื่องนี้เข้าเลยงอนตุ๊บป่องใส่ฉัน โดยที่ไม่ฟังความจริงที่ฉันจะขออธิบายจากปากเลยสักนิด แต่เอาเป็นว่าจะอธิบายยังไงมันคงจะไม่มีประโยชน์เพราะพวกแกทุกคนตราหน้าฉันเป็นตัวแดงว่า “ ผิด “ ทุกกรณี “

“ งั้นแกกล้าตอบฉันมาได้มั้ยว่าแกไม่ได้ชอบอิสรารูปหล่อพ่อรวย ชาติตระกูลสูงนั่น “

“ ฉัน…เอ่อ .. ฉันไม่ได้ …ชอบหรือพิศวาสนายคนนี้เลย “

“ เห็นมั้ย ! ฉันว่าแกกำลังตอบหัวใจตัวเองไม่ได้ว่าแกชอบหรือไม่เขา ! แล้วเรื่องน้ำหวานกับแก มันคงจบลงแล้วอย่างถาวรเสียที … ฉันจะได้ไปสรุปกับเพื่อนๆ ว่า แกไม่ได้เป็นทอมบอย เป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่มีเลือดเนื้อ มีความรู้สึกรู้สากับสิ่งเร้ารอบ ๆ กาย และที่สำคัญ แกกำลังมีความรักกับผู้ชาย “

“ เอ้า ! ว่ากันเข้าไปนั่น นี่ฉันยังไม่ได้พูดอะไรเลยสักคำ แกพล่ามมาซะจนฟังแทบไม่ทัน … หยุดคิดฟุ้งซ่านได้แล้วส้มโอจ๋า ฉันจะเล่าเรื่องราวความจริงทั้งหมดให้ฟังทุกขั้นตอน ตั้งใจฟังให้ดีล่ะเพื่อน “

มะยมเล่าเรื่องราวทั้งหมดที่ส้มโอข้องใจตั้งแต่ต้นจนจบ ตั้งแต่อิสราอยู่ท่าวังหิน จนกระทั่งเกิดเรื่องราวมากมายทั้งคอขาดบาดตาย เฉียดคุกเฉียดตาราง เกือบถูกข่มขืน และกูกชกปาก เป็นต้น ไม่ต้องห่วงเรื่องชู้สาว เพราะอีกไม่นานอิสราก็จะกลับไปอยู่กรุงเทพ ฯ แล้วแต่งงานกับวันวิสาแล้ว …

ส้มโอเริ่มเข้าใจ ปะติดปะต่อภาพจิ๊กซอร์เรื่องราวได้แล้ว ก่อนจะถอนหายใจออกมาดัง ๆ พร้อมบ่นว่า

“ ฉันเข้าใจนะนังยม แต่ไม่รู้จะช่วยยังไง ได้แต่ขออวยพรให้แกกับนายอิสราได้เป็นคู่ตุนาหงันจริง ๆ เถอะ แกรู้มั้ยว่าแกทั้งสองเหมาะสมกันมาก เหมือนกิ่งทองใบตำแยยังไงยังงั้น “

“ นี่ส้ม แกชมหรือด่าฉันวะ ! ไปเข้าแถวกันดีกว่าเพื่อน เดี๋ยวเจอกันที่หน้าเสาธง “

ส้มโอผละจากโต๊ะเดินเข้าไปในล็อกขายอาหารเพื่อเปลี่ยนชุดกันเปื้อนออกจากตัว แล้วจัดแจงทำธุระส่วนตัวบางอย่าง ก่อนจะวิ่งไปเข้าแถวเมื่อสัญญาณออดดังขึ้นสามครั้ง พร้อมเพลงมาร์ซประจำโรงเรียนท่าวังหินดังกระหึ่มขึ้นมา …

----------------------

กาหรือหงส์ ๓๐ จบลงแล้ว ติดตามตอนใหม่อีกสองวนเช่นเคย .. ขอบพระคุณเพื่อนๆๆ มากมายที่เข้ามาอ่านงานนักหัดเขียนคนนี้ .. ขอบคุณจากใจนะครับผม ..

นายอิส / เมฆชรา

๑๔สิงหาคม๒๕๕๓
๑๐:๓๐ น.






 

Create Date : 14 สิงหาคม 2553
0 comments
Last Update : 14 สิงหาคม 2553 10:46:52 น.
Counter : 1070 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


เมฆชรา
Location :
นครราชสีมา Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 22 คน [?]




เข้าสู่ปีที่ 8
Friends' blogs
[Add เมฆชรา's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.