จินตนาการสำคัญกว่าความรู้
Group Blog
สุขใจที่ได้อ่าน
ผลงานของเมฆชรา
กาพย์กลอน
เที่ยวท่องไปในโลกกว้าง
ความจริงของชีวิต
<<
สิงหาคม 2553
>>
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
20 สิงหาคม 2553
กาหรือหงส์ ตอน ๓๓
All Blogs
ภมรดอกงิ้ว ๒๐ (ปลายทางฉิมพลี) อวสาน
ภมรดอกงิ้ว ๑๙ (สุดทางสวรรค์) จบ
ภมรดอกงิ้ว ๑๘ (ในลึก)
ภมรดอกงิ้ว ๑๗ (บันไดที่ปลายทาง)
ภมรดอกงิ้ว ๑๖ (วังวนใจ)
ภมรดอกงิ้ว ๑๕ (สายน้ำไม่ไหลกลับ)
ภมรดอกงิ้ว ๑๔ (สองมือพ่อ .. จักโอบเจ้าให้เศร้าคลาย)
ภมรดอกงิ้ว ๑๓ (across the universes )
ภมรดอกงิ้ว ๑๒ (ฤดีแก้วสกาวใส)
ภมรดอกงิ้ว ๑๑ (วสันต์ในเหมันต์)
ภมรดอกงิ้ว ๑๐ (เวียนว่ายไปในเวิ้งมหานที)
ภมรดอกงิ้ว ๙ (กากีสะอื้น) * เมฆชรา
ภมรดอกงิ้ว ๘ (วิหคหลงรัง) * เมฆชรา
ภมรดอกงิ้ว ๗ (เงาความทรงจำ) * เมฆชรา
ภมรดอกงิ้ว ๖ (สายบ่หยุด เสน่ห์หาย) * เมฆชรา
ภมรดอกงิ้ว ๕ (ชีวิตเป็นของเรา) * เมฆชรา
ภมรดอกงิ้ว ๔ (ปลายทางความใคร่) * เมฆชรา
ภมรดอกงิ้ว ๓/๒ (ในห้วงเสน่หา) * เมฆชรา
ภมรดอกงิ้ว ๓/๑ (ในห้วงเสน่หา) * เมฆชรา
ภมรดอกงิ้ว ๒ (ระเริงไฟ) * เมฆชรา
ภมรดอกงิ้ว ๑ (ความผิดครั้งแรก)
ภมรดอกงิ้ว (เร่ิมฉิมพลี)
กาหรือหงส์ ตอน ๕๓
หนังสือมรณะ ๓
กาหรือหงส์ ตอน ๕๒
หนังสือมรณะ ๒
หนังสือมรณะ ๑
กาหรือหงส์ ตอน ๕๑
กาหรือหงส์ ตอน ๕๐
กาหรือหงส์ ตอน ๔๙
กาหรือหงส์ ตอน ๔๘
กาหรือหงส์ ตอน ๔๗
กาหรือหงส์ ตอน ๔๖
กาหรือหงส์ ตอน ๔๕
กาหรือหงส์ ตอน ๔๔
กาหรือหงส์ ตอน ๔๓
กาหรือหงส์ ตอน ๔๒
กาหรือหงส์ ตอน ๔๑
กาหรือหงส์ ตอน ๔๐
กาหรือหงส์ ตอน ๓๙
กาหรือหงส์ ตอน ๓๘
กาหรือหงส์ ตอน ๓๗
กาหรือหงส์ ตอน ๓๖
กาหรือหงส์ ตอน ๓๕
กาหรือหงส์ ตอน ๓๔
กาหรือหงส์ ตอน ๓๓
กาหรือหงส์ ตอน ๓๒
กาหรือหงส์ ตอน ๓๑
กาหรือหงส์ ตอน ๓๐
กาหรือหงส์ ตอน ๒๙
กาหรือหงส์ ตอน ๒๘
กาหรือหงส์ ตอน ๒๗
กาหรือหงส์ ตอน ๒๖
กาหรือหงส์ ตอน ๒๕
กาหรือหงส์ ตอน ๒๔
กาหรือหงส์ ตอน ๒๓
กาหรือหงส์ ตอน ๒๒
กาหรือหงส์ ตอน ๒๑
กาหรือหงส์ ตอน ๒๐
กาหรือหงส์ ตอน ๑๙
กาหรือหงส์ ตอน ๑๘
กาหรือหงส์ ตอน ๑๗
กาหรือหงส์ ตอน ๑๖
กาหรือหงส์ ตอน ๑๕
กาหรือหงส์ ตอน ๑๔
กาหรือหงส์ ตอน ๑๓
กาหรือหงส์ ตอน ๑๒
กาหรือหงส์ ตอน ๑๑
กาหรือหงส์ ตอน ๑๐
กาหรือหงส์ ตอน ๙
กาหรือหงส์ ตอน ๘
กาหรือหงส์ ตอน ๗
กาหรือหงส์ ตอน ๖
กาหรือหงส์ ตอน ๕
กาหรือหงส์ ตอน ๔
กาหรือหงส์ ตอน ๓
กาหรือหงส์ ตอน ๒
กาหรือหงส์ ตอน ๑
ฟ้ายังมีดาว ตอนที่ ๑๐
ฟ้ายังมีดาว ตอนที่ ๙
ฟ้ายังมีดาว ตอนที่ ๘
ฟ้ายังมีดาว ตอนที่ ๗
ฟ้ายังมีดาว ตอนที่ ๖
ฟ้ายังมีดาว ตอนที่ ๕
ฟ้ายังมีดาว ตอนที่ ๔
ฟ้ายังมีดาว ตอนที่ ๓
ฟ้ายังมีดาว ตอนที่ ๒
ฟ้ายังมีดาว ตอนที่ ๑
ฟ้ายังมีดาว (บทนำ)
**-** ดอกไม้กับงูพิษ (เรื่องสั้นพิเศษ) โดย เมฆชรา
๛๛๛>>>> อ้อมอกภูเขา <<<< ๛๛ เฉลิมศักดิ์ แหงมงาม ๛๛๛
กาหรือหงส์ ตอน ๓๓
กาหรือหงส์ ตอน ๓๓
ปู่คำตันมองสองหนุ่มสาวที่หัวเราะต่อกระซิกเริงร่าบนเรือไม้ซุงแบบดั่งเดิม เปิดปีกหัวและท้ายแล้วเจาะด้านในเป็นร่องเรือเป็นเหมือนรางใส่ข้าวหมู โดยทำกระดูกงูเป็นสันนูนตลอดไปทั้งลำเรือเพื่อให้คนพายและคนนั่งไปยืนอยู่ตรงกลางเพื่อถ่วงน้ำหนักเรือเอาไว้พอดี มะยมจับขอบเรือไว้แน่นก่อนจะเอ่ยถามปู่คำตันเมื่อมือน้อยสัมผัสอะไรสากสีขาว ๆ กลิ่นแปลก ๆ …
“ ปู่ขาที่หนูกำลังจับอยู่ตรงขอบเรือ เป็นยางเหนียว ๆ เรียกว่าอะไรหรือค่ะ “
“ อ้อนั่นเขาเรียกว่าขี้ระย้า มันเป็นน้ำยางไม้พื้นบ้านเรานี่แหละเอามาต้มกับกวาง นี่ไม่ใช่สัตว์สี่ขานะลูก แต่เป็นน้ำยางไม่เหมือนกัน นำมาต้มให้เข้ากันแล้วใส่ผสมกับผลไม้ที่มีรสเปรี้ยวต่าง ๆ อย่างมะกรูด มะนาว มะเฟือง อย่างนี้ เคี่ยวจนได้ที่ รอจนเย็นตัวจะได้กาวธรรมชาติอย่างที่เราสองคนกำลังจับเล่นนั่นแหละ “
“ โอ้โห! น่าทึ่งภูมิปัญญาคนโบราณจริงเลย แล้วตอนนี้คุณปู่จะพาเราสองคนไปที่ไหนครับ “
“ อ้าวก็ไหนพวกเอ็งอยากจะเห็นเขาทำเรือแข่งไม่ใช่หรือ นั่นเลยคุ้งน้ำข้างหน้าก็จะถึงแล้ว ไอ้หนุ่มออกแรงช่วยปู่พายเร็ว ๆ หน่อยสิลูก “
“ เอ้าปู่ครับ ! ฮุยเลฮุย เอ้าฮุยเลฮุย ๆ ๆ ๆ ..”
อิสราเริ่มส่งเสียงดังประหนึ่งว่าตนเองกำลังจะพายเรือในสนามแข่งขันเรือชิงถ้วยพระราชทานในตัวจังหวัดยังไงยังไง จนมะยมที่กำลังจ้องเริ่มหมั่นไส้ขึ้นมานิด ๆ เอ่ยแซวว่า …
“ นายต้องจำท่าทางวันนี้ให้ได้นะอิส อาทิตย์หน้าอาจารย์เพทายจะนัดซ้อมฝีพายแล้ว แถมอาจารย์จะให้นายเป็นหัวหน้าฝึกร่วมกับอาจารย์ด้วย งานนี้หนักแน่ๆ จ๊ะ ”
“ ผมทราบครับมะยม เคยเห็นในทีวี แต่ดูท่าทางสนุกมาก วันนี้เลยจะมาขอฝากตัวกับคุณปู่ช่วยชี้แนะพวกเราสองคนด้วยครับ “ คนตัวสูงโยนลูกถามไปยังชายชราที่ทำท่าอมยิ้มในใจ …
“ เอาล่ะจะบอกเคล็ดลับให้แน่ๆแต่ตอนนี้เร่งพายอีกหน่อยพ่อหนุ่มใกล้ถึงท่าน้ำข้างหน้าก็จอดได้เลย “
“ ตรงต้นไทรต้นนั้นเหรอครับคุณปู่ วังเวงน่ากลัวจัง “
“ นั่นแหละเจ้าพวกฝีพายเก่งๆ มารวมตัวกันที่นี่ทุกวัน ถ้าเอ็งอยากได้วิชาความรู้ต้องอ่อนน้อมถ่อมตนเข้าไว้ พวกพี่ๆ เขาจะได้เมตตาสอนสั่งและถ่ายทอดความรู้ให้ “
“ งั้นเหรอครับปู่ ผมจอดที่ท่านี้เลยนะ“
“ เออ เออ เบา เบาล่ะอย่าเก้ ๆ กัง ๆ เหมือนตอนขึ้นเรือมา ข้ากลัวเรือของข้าล่มเต็มที “
“ ฮ่ะ ๆ ๆ ๆ “
เสียงหัวเราะสดใสร่าเริงดังกังวารแว่วมาจากข้างหลังเมื่อปู่คำตันพูดจบ ถึงจะเป็นการหัวเราะเพื่อเยาะเย้ยแต่ในความคิดของอิสรากลับ เป็นน้ำเสียงที่ไพเราะเพราะพริ้งมากถึงมากที่สุดเมื่อได้ยินเสียง ๆ นี้จบลง คนตัวสูงกระโดดลงไปบนท่าเรือที่ทำขึ้นมาอย่างง่าย ๆ คือต่อไม้กระดานแผ่นใหญ่ยื่นออกมาในน้ำ แล้วทำเป็นหลักไม้เพื่อผูกเชือกเวลาจอด พร้อมกับโบกมือให้คนทั้งสองที่ลุกขึ้นจนเรือโยงโคลงเคลงไปมา …
“ ทำเป็นหัวเราะไปนะครับมะยม คุณปู่ส่งมือมาสิครับผมจะได้ดึงขึ้น “
พอผู้อาวุโสยื่นมือมาอิสราก็ค่อยดึงขึ้นมาบนท่าน้ำ ปู่คำตันเดินหายลับไปในทันที พออิสราจะหันกลับไปดึงมะยมบ้าง ก็พบว่าสาวเจ้ากระโดดขึ้นมาบนท่าเรียบร้อยแล้ว แถมเดินตัวปลิวตาปู่คำตันไปอย่างรวดเร็ว … อิสราส่ายหน้าแล้วยิ้มให้กับตัวเองอย่างขำขำ ที่พยายามจะสร้างโอกาสใกล้ชิดสาวมาดเข้มคนนี้ตลอดเวลา แต่อีกฝ่ายก็มักจะรู้ทันไปซะทุกที จึงรีบเดินตามไปยังเรือนหลังคามุงแฝกเปิดโล่งริมน้ำไปในทันที
เรือนไม้ไผ่ขัดแตะทำขึ้นอย่างลวก ๆ แต่มุงหลังคาด้วยหญ้าแฝกมัดเรียงตัวกันแน่นคลุมกันเป็นหลังคาขนาดยาวไปตามแนวแม่น้ำประมาณยี่สิบกว่าเมตรจุคนที่ตอนนี้กำลังส่งเสียงเจี๊ยวจ๊าวร้องเพลงกันเป็นที่สนุกสนาน กระทั่งมีใครคนหนึ่งตะโกนมาบอกว่า …
“ พ่อปู่มา พ่อปู่มาโว้ยพวกเรา … เงียบ ๆ กันหน่อย “
อิสรากับมะยมเดินเข้ามาสมทบปู่คำตัน โดยยืนอยู่ข้าง ๆ ก่อนที่ผู้อาวุโสจะแนะนำนักเรียนฝึกงานจำเป็นสองคนที่จะเข้ามาหาความรู้กับพี่ ๆ แห่งเรือพายที่ขึ้นชื่อที่สุดของท่าวังหิน ที่ใคร ๆ ไม่รู้จัก …
…. เรือเทพประทานฟ้า ….
ทั้งสองรู้สึกตื่นเต้นจนเหงื่อเริ่มชื้นออกที่มือทั้งสองข้าง ตกประหม่าหน้าซีด เพราะชายฉกรรจ์ที่ยืนจังก้าตรงหน้าประมาณเกือบสิบห้าคนหลากหลายวัยด้วยกันต่างจ้องคนทั้งสองอย่างไม่วางตา ด้วยความไม่เคยเห็น ว่าจะมีวัยรุ่นอายุอานามน้อยนิดจะมาสนใจในการขุดเรือเพื่อเข้าแข่งขัน แถมทั้งสองดูท่าทางบอบบางเป็นคุณหนูขนาดนี้จะมาศึกษาขั้นตอนการขุดเรือไปทำไม จนกระทั่งปู่คำตันเอ่ยแนะนำคนทั้งสองเสร็จสิ้น ความเป็นกันเองเริ่มจะคืนมาสู่บรรยากาศเจี๊ยวจ๊าวตั้งแต่ต้น ….
“ ไหนใครคือลูกครูพลเหรอปู่ น้องผู้ชายหรือน้องผู้หญิง “
“ ไอ้เซ่อพวกเอ็งจำมะยมลูกสาวครูพลไม่ได้จริง ๆ เหรอ เมื่อก่อนตอนเล็ก ๆ ยังมาวิ่งเล่นที่ท่าน้ำนี่เป็นประจำ บ๊ะพวกนี้ยิ่งแก่ยิ่งเลอะเลือน“ ปู่คำตันตำหนิชายผิวคล้ำอายุประมาณสามสิบห้าที่เอ่ยถามอย่างสงสัย
“ อ้าวนังหนูนี่เหรอ แหมโตวัยจัง วันนี้ครูพลไม่มาด้วยเหรอจ๊ะมะยม “
“ วันนี้พ่อมีงานที่โรงเรียนจ๊ะน้าฉันกับเพื่อนเลยมากันสองคน เดินมาหาปู่ที่ท่าน้ำแล้วก็มาที่นี่แหละจ๊ะ”
“ ครูพลแกเคยสอนพวกเราที่นี่เกือบทุกคน ถ้าเป็นเรื่องประเพณีวัฒนธรรมพื้นบ้าน “พ่อครูพล” จะนำหน้าพวกเราทำเสมอ ๆ ไม่เว้นแม้แต่เรือขุดเรือกันในวันนี้ ครูก็เป็นคนไปขอทุนที่อำเภอกับท่านปลัดดนัย จนพวกเราได้มารวมตัวทำอีกครั้ง “
“ อ้าวแล้วไหง ครูพลไม่บอกกล่าวมะยมเองล่ะปู่ ทำไมต้องมาถึงที่นี่ … มันทั้งไกล ทั้งยุงเยอะด้วย “
“ กูก็ไม่รู้มันเหมือนกัน เมื่อวานมันมาหาที่บ้านข้าแล้วบอกว่าลูกสาวจะพาเพื่อนมาหา และให้ข้าช่วยแนะเคล็ดวิชาต่างๆ ให้ “
ปู่คำตันพยายามจะอธิบายความเป็นมาให้กลุ่มฝีพายข้างหน้าฟังอย่างหมดเปลือก จนมะยมเห็นว่าควรจะเอ่ยแทรกขึ้นอะไรขึ้นมาบ้าง ..
“ อย่างนี้จ๊ะน้าคือทางโรงเรียนมีนโยบายที่จะให้นักเรียนมีส่วนร่วมในกิจกรรมของชุมชนสัมพันธ์ ในทุกด้านที่สามารถเข้าร่วมได้ อย่างเช่นการเข้าร่วมการแข่งขันประกวดเรือแข่งของจังหวัดในปีนี้ที่มีการแข่งเรือทั้ง 4 ประเภท คือ เรือเล็ก กลาง ใหญ่ และประเภทสวยงาม ทางโรงเรียนนำโดยอาจารย์ประสงค์ ท่านก็มีความคิดจะให้นักเรียนในโรงเรียนเข้าร่วมในกิจกรรมนี้ด้วย อาจารย์จึงมอบให้ฉันกับอิสรา คนที่ยืนอยู่นี่มาให้พวกน้า ๆ ช่วยแนะเทคนิคหรือเคล็ดลับต่าง ๆ ให้จ๊ะ “
“ มะยมเอ็งอย่าบอกข้านะว่าเอ็งจะลงเป็นฝีพายด้วยน่ะ “
“ เฮ้ย ! มึงจะบ้าหรือไงไอ้หมาน ผู้หญิงจะมาพายเรือแข่งได้ไง จะแซวอะไรก็ดูตาม้าตาเรือมั่งนะโว้ย”
ปู่คำตันทำท่าจะยกขาขึ้นถีบชายหนุ่มรุ่นกระทงที่ดูท่าจะอายุอานามไม่เกินยี่สิบห้าปีด้วยความหมั่นไส้อีกครั้ง “ อย่าไปว่าน้าเค้าเลยจ๊ะปู่ ความจริงฉันก็อยากจะพายเรือแข่งกับเพื่อน ๆ ด้วยเหมือนกัน ท่าทางคงสนุกดีเนอะ“มะยมหัวเราะยิ้มร่าไปพร้อมกับทุกคนที่ส่งเสียงอึกทึกคึกโครมปานจะมีงานอะไรสักอย่าง
ส่วนคนตัวสูงที่ยืนยิ้มอยู่คนเดียว ตอนนี้ก็เริ่มคุ้นเคยและบรรยากาศเริ่มเป็นกันเองบ้างแล้ว …
“ อ้าวหัวเราะสนุกสนานกันใหญ่ปู่เลยลืมแนะนำไอ้หนุ่มรูปหล่อคนนี้ไปเลย เฮ้ยพวกเรา นี่ลูกชายไร่ฟ้าเมฆามาจากกรุงเทพ ตอนนี้ย้ายมาเรียนที่ท่าวังหินแล้ว จะมาขอข้อมูลกับมะยมด้วยอีกคน “
“ สวัสดีครับพี่ทุกคน ฝากเนื้อฝากตัวด้วยครับ “
“ ฮ่ะ ๆ ๆ ไอ้หนุ่มรูปหล่อมีมารยาทดียังกะพระเอกลิเกเลยปู่ ยังงี้พ่อน่าจะไปเป็นพระเอกหนังมากกว่านะพ่อ “ เสียงทุ้มนุ่มเอ่ยแซวดังมาจากข้างหลัง จนทุกคนต้องหันไปมองตามเสียงนั้นทันที …
“ เอาอีกแล้วไอ้ลบ งานเค้ามาดี ๆ จะพังก็เพราะมึงนี่แหละ …อิสราจะมาให้พวกเราแนะวิธีเป็นฝีพายที่ดี พายอย่างไงไม่ให้เรือจม หรือพายยังไงให้ได้ถ้วยชนะเลิศ …เข้าใจมั้ยวะ “
“ เข้าใจแล้วน่าปู่ ผมแซวน้องเขาเฉย ๆ ล้อเล่น ๆ สนุก ๆ ขำขำน่ะ..อย่าซีเรียสสิ ผมก็เคยไปทำงานเป็นคนงานในไร่องุ่นของท่านชานเหมือนกัน ท่านใจดีกับพวกเรามาก ๆ “
“ เออ ๆ วันหลังก็อย่าชักใบให้เรือเสียอย่างนี้สิ เอาพวกลิงทั้งหลายข้าพูดถึงไหนแล้ววะ ..”
“ ปู่กำลังจะฝากสองคนนี้ให้พวกเราดูแลไงครับ “
“ ข้าแก่แล้วหลง ๆ ลืมอย่างนี้เสมอ … ใช่ข้าอยากจะฝากให้พวกเองดูแลพวกเด็ก ๆ ให้เหมือนลูกเหมือนหลานเลยนะ พรุ่งนี้ข้าจะมาพร้อมครูพล มาดูว่าพวกเองทำงานคืบหน้าไปถึงไหนแล้ว หลังจากนั้นก็จะปล่อยให้สองคนนี่มาเสาะหาความรู้ไปถ่ายทอดให้เพื่อน ๆ เค้าต่อไป … แค่นี้พวกเอ็งพอจะทำได้มั้ยวะ “
“ ได้ครับปู่ สบายมากครับ ไม่ต้องเป็นห่วงพวกเราจัดการเอง ..”
เสียงตะโกนดังแทรกขานรับเจตนารมณ์ของผู้อาวุโสที่หอบสังขารอันแก่ชรามาถึงโรงต่อเรือแห่งนี้ในเวลาที่จวนโพล้เพล้เต็มทน ก่อนที่คนทั้งสามจะขอตัวกลับไปในทางเดิม …
อิสรานั่งจ้ำพายเรือไปข้างหน้าฟังคำสนทนาของปู่คำตันกับมะยมอยู่อย่างเงียบ ๆ ก่อนจะตอบคำถามไปในบางครั้ง กระทั่งพายเรือย้อนกลับมายังจุดที่เดิมอีกครั้งหลังจากที่ไปส่งผู้อาวุโสยังบ้านริมแม่น้ำ…
อากาศยามเย็นจวนจะค่ำบริเวณริมน้ำน่าน เย็นยะเยือกผะแผ่วไล้ผิวจนสาวหน้าคมต้องเอามือกอดอก ห่อปากซู่คล้ายไล่ความหนาวให้ไปจากบริเวณนั้น อิสราจ้ำพายเรือไปเงียบ ๆ ก่อนจะหยุดพายแล้วส่งเสื้อแจ๊กเก็ตสีดำส่งให้คนขี้หนาว..
“ อากาศเริ่มเย็นแล้วนะครับมะยม … ผมชอบอากาศอย่างงี้จัง กรุงเทพฯหาไม่ค่อยจะมีเมท่าไหร่ “
“ จะไปมีได้ไงต้นไม้ซักต้นก็ไม่มี หนำซ้ำอากาศเป็นพิษกระจายอยู่เต็มเมืองซะขนาดนั้น จ้างให้ฉันไม่มีวันไปอยู่ที่นั่นหรอก เมืองอะไรก็ไม่รู้ร้อนเป็นบ้า คนอยู่ก็เอาแต่หน้าบูดบึ้ง ไม่ยิ้มแย้มให้กันเลย สู้ที่ท่าวังหินก็ไม่ได้ อากาศดีกว่าตั้งเยอะ “
“ ข้อนี่ผมไม่เถียง กรุงเทพเป็นอย่างนั้นจริง ๆ ครับ แต่มันก็ไม่ถึงกับเลวร้ายเสียเลยทีเดียว มันยังมีแง่มุมสวยงามเยอะแยะเต็มไปหมด อย่างวัดพระแก้ว วัดอรุณฯ พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ หอศิลปินแห่งชาติ ท้องฟ้าจำลอง เป็นต้น ทุก ๆ ที่กล่าวมาผมชอบไปหมด และไปได้บ่อย ๆ ด้วย วันหลังถ้ามีโอกาสผมจะพามะยมไปให้ได้เลยทีเดียวเชียว “
คนพูดทำตาลอยเปี่ยมไปด้วยความหวัง เหมือนดวงดาวที่ส่องแสงระยิบระยับบนฟากฟ้า จนคนนั่งตรงกันข้ามถึงกับย่นคิ้วแลบลิ้นยาวออกมาล้อเลียน …
“ โอ๊ย! … ฉันอยากจะอ้วกออกมาซะตอนนี้จริง ๆ อิสรา หวานจนเลี่ยนเกินไปรึเปล่าจ๊ะพ่อคุณทูนหัว นี่กะจะจีบสาวบนเรือพายนี่เลยเหรอคงซาบซึ้งตายล่ะ เอางี้ไว้วันหลังฉันส่งตัวแทนคือนังมะหมี่มาแทนรับคำป้อยอของนายดีกว่า คงสนุกดีพิลึกเนอะ “
“ โธ่! ผมพูดจริง ๆ นะครับมะยม “
เมื่อพูดจบประโยคอิสราปล่อยพายลงข้างตัวเอาดื้อ ๆ แล้วเอื้อมมือหนาใหญ่มั่นคงมาจับมือเล็กบางของมะยมไว้อย่างทันทีทันควัน จนสาวหน้าคมสะดุ้งเฮือก รู้สึกตกใจตั้งตัวไม่ติดระคนแปลกใจในพฤติกรรมของผู้ชายหน้าตาหล่อระเบิดเถิดเทิงขวัญใจหนึ่งเดียวของกลุ่มสาวซ่าส์ที่ห่ามและรวดเร็วบุ๊ปปั๊บปานกามนิตหนุ่มนั่นทีเดียว … จึงแก้เขินโดยขู่ตะคอกไปเบา ๆ ว่า …
“ เฮ้ยอิสราปล่อยมือฉันเดี๋ยวนี้นะ เดี๋ยวชาวบ้านแถวริมน้ำเห็นข่าวมันจะไม่ดี “
“ ผมปล่อยแน่ ถ้ามะยมรับปากว่าจะไปกรุงเทพฯกับผม… เอ่อ ..เมื่อถึงวันนั้น” คนพูดทำหน้าตาจริงจังเหลือเกิน จนคนฟังสัมผัสได้ถึงความจริงใจที่แสดงออกมาในตอนนี้ มะยมรู้สึกหน้าแดง เลือดสูบฉีดพล่านไปทั้งร่างกาย พลางนึกถึงคำพูดของส้มโอที่ว่าให้สังเกตคนที่ป้วนเปี้ยนรอบ ๆ ตัวคนหนึ่ง ซึ่งตอนนี้เขาคนนั้นกำลังจะผูกมิตรไมตรีอย่างลึกซึ้งกับตัวเธอเองด้วยความพยายามมากกว่าปกติ …
“ พูดอะไรบ้า ๆ ใครจะไปบ้านนายที่กรุงเทพฯด้วย ฉันคนล่ะที่จะขอปฏิเสธ “
“ ผมชอบคุณจริง ๆ นะครับมะยม พ่อกับแม่รู้เรื่องนี้แล้วเมื่อวันก่อน … ผมไปสารภาพกับท่านไปตรง ๆ และขอท่านช่วยให้เราสองคนสมหวัง คุณอาจจะตำหนิว่าเรายังเด็กเกินไปที่จะพูดเรื่องนี้ แต่สำหรับความคิดผม เรื่องนี้ควรจะพูดตั้งแต่ตอนนี้เลย เพราะผมมั่นใจในตัวคุณ ผมมั่นใจจริง ๆ “
“ ถ้าจะมาพูดเรื่องนี้ตอนนี้ ฉันว่านายไปเช็คสมองใหม่ไป แค่คิดเล่นๆว่าจะผ่านด่านคู่หมั้นจอมโวยของนายให้ได้ ฉันก็เริ่มสยองกว่าที่จะคิดเป็นกิ๊กกับนายแล้วล่ะ “
“ เรื่องของวันวิสา ผมจัดการได้แน่นอนมะยมไม่ต้องห่วง เธอไม่มายุ่งวุ่นวายแน่ถ้าฝันของเราสองคนเป็นจริงในวันข้างหน้า“
มะยมเงยหน้ามองใบหน้าคล้ามที่ต้องแดดอ่อน ๆ ยามเย็นอยู่ในตอนนี้อย่างฉงนฉงายในกิริยาที่กำลังแสดงอย่างเอาจริงเอาจังเสียเหลือเกิน จนตัวเองอยากสะบัดมือไปให้พ้น ๆ อุ้งมืออุ่นที่ชื้นไปด้วยเหงื่อของอีกฝ่าย แต่จนแล้วจนรอดความแข็งแกร่งก็ยังคงมีอำนาจเหนืออยู่ดังเดิม จึงทำได้แค่เพียงเหลียวซ้ายแลขวา หาวิธีหลุดพ้นบ่วงบรรณาการในตอนนี้ …
“ จ๊ะฉันรู้ว่านายเป็นคนเก่ง ทำได้อย่างที่พูดแน่ๆ ตอนนี้ปล่อยมือฉันก่อนสิ โอ๊ยอิส นายดึงฉันไปทำไมน่ะ ฉันเจ็บนะ “
มะยมยิ่งงงกันไปใหญ่ขึ้นมาอีกครั้งที่ตอนนี้ไม่ใช่แค่ถูกจับมือนุ่มไว้แน่นเพียงอย่างเดียวเท่านั้น …
แต่คนร่างสูงกลับดึงร่างบางของตัวเองไว้ในอ้อมแขนแล้วสวมกอดไว้แน่นจนแทบจะหายใจอยู่แล้ว …
“ มะยม ผมชอบคุณนะ … ผมชอบคุณจริง“
“ ว้ายตายแล้ว …นี่นายกำลังทำอะไร ประเดี๋ยวคนแถวนี้เห็นเอาไปฟ้องพ่อฉัน ได้จบเห่กันพอดี …ถ้านายยังอยากจะเป็นเพื่อนฉันและพบเจอกันอีก กรุณาอย่ารุกล้ำสิทธิ์ปล่อยตัวฉันได้แล้ว“
พอเจอไม้ตายสาวน้อยแห่งท่าวังหินเป็นวาจาศักดิ์สิทธิ์เข้าไปเท่านั้น อิสราถึงกับปล่อยร่างบอบบางออกอย่างรวดเร็ว แต่ก็อ้อยอิ่งอยู่นานจนมะยมต้องผลักร่างสูงใหญ่เป็นนักกีฬาออกอีกครั้งหนึ่ง ถึงจะพ้นจากพันธนาการอันแข็งแกร่งนี่ไปได้ ก่อนจะแสร้งหันไปมองทางอื่นเพื่อกลบเกลื่อนใบหน้าที่แดงกล่ำคล้ายดังผลตำลึงสุกของตัวเองโดยปล่อยให้ความเงียบเข้ามาปกคลุมอยู่อย่างนั้นจนกระทั่งกลับถึงบ้าน …
กาหรือหงส์ ตอนนี้ลงจอก่อนหนึ่งวันเพราะเสาร์อาทิตย์ ผมไม่ว่างโพสต์ ขอบพระคุณที่ติดตามกันมาเหนียวแน่น .. ติดตามตอนใหม่ได้สามวันนี้นะครับ .. ขอบพระคุณคร้าบ ...
นายอิส/ เมฆชรา
๒๐ สิงหาคม ๒๕๕๓
๑๙ นาฬิกาหน่อย ๆ อิอิ
Create Date : 20 สิงหาคม 2553
Last Update : 20 สิงหาคม 2553 19:19:39 น.
0 comments
Counter : 709 Pageviews.
Share
Tweet
ชื่อ :
Comment :
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
เมฆชรา
Location :
นครราชสีมา Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 22 คน [
?
]
เข้าสู่ปีที่ 8
Friends' blogs
ศศิศ
โตมิโต กูโชว์ดะ
~:พุดน้ำบุศย์:~
merveillesxx
สาวน้อยเกวลิน
khoon-time
สามปอยหลวง
เมฆชรา
อุ้มสม
Webmaster - BlogGang
[Add เมฆชรา's blog to your web]
Links
BlogGang.com
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.