จินตนาการสำคัญกว่าความรู้
Group Blog
 
 
มีนาคม 2565
 
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
22 มีนาคม 2565
 
All Blogs
 

เคล็ดลับแห่งความสุข



เคล็ดลับแห่งความสุข

“ ความสุขไม่ใช่ของสำเร็จรูป แต่มันจะเกิดจากการกระทำของเราเอง ..”
                                                  (องค์ดาไลลามะ : มหาสมุทรแห่งความการุณย์)
 
ความสุขทุกวันนี้หาได้ไม่ยาก  ยิ่งมีสิ่งบันเทิงมาเร่งเร้าให้วิ่งเข้าหากันได้อย่างง่ายดายโดยไม่ต้องใช้สมองคิดให้วุ่นวายปวดหัว  คนแห่งยุคสมัยจึงตกอยู่ในทาสของความสุข ไม่ว่าจะอยู่ในรูปวัตถุ สิ่งของ ทรัพย์สิน ชื่อเสียง วาสนา อำนาจ เงินทอง และอื่นๆอีกมากมายที่ดลบันดาลทำให้คนเหล่านี้เรียกมันว่า .. ความสุข

แต่ทว่าทุกอย่างเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และก็ดับไป ไม่มีอะไรยั้งยืนเป็นนิรันดร เก่าไปใหม่มา ไม่สามรถยึดติดเป็นของตัวได้สักอย่าง แต่ผู้คนก็ยังแสวงหาความสุขอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน แต่ด้วยกลวิธีต่างๆ มักจะผิดหวัง สมหวัง สุข ทุกข์ สลับสับเปลี่ยนวนเวียนอยู่แบบนี้ตลอดเวลา จนความสุขไม่ถาวรจีรังเลยสักอย่าง

กลวิธีสำคัญในการพิชิตความสุขให้อยู่ถาวรหรือลุเลาเบาทุกข์ ยึดมั่นถือมั่นไปได้บ้าง
มีวิธีการดังนี้

  1.   ความสุขทุกอย่างล้วนตั้งอยู่บนความเงียบสงบ ไม่ว่าจะสงบในธรรมมะ สงบในวิถีชีวิต สงบในทางโลกหรือสงบในห้วงใจ เมื่อปฏิบัติได้ เกิดภาวะพิเศษ อิ่มในสุขได้ถาวร
  2.    ความสุขหาได้โดยรอบๆตัว  นั่งฟังเสียงธรรมชาติในป่า เดินริมหาดทรายพระอาทิตย์ตกดิน ตื่นยามเช้าเดินบนหญ้าสัมผัสน้ำค้างที่เย็นฉ่ำ อยู่ท่ามกลางความแออัดของสังคมเมืองเรียนรู้สังคมชีวิต และอีกหลายวิธีที่จะดำเนินชีวิตอย่างเข้าใจธรรมชาติสิ่งรอบตัวเรา
  3.     ให้อภัยต่อทุกสิ่ง  เป็นการยากที่เราจะเลี่ยงการกระทบกระทั่งเมื่ออยู่ในสังคม แต่ถ้าเราเรียนรู้ซึ่งกันและกัน รู้จักข้อดีข้อเสียของอีกฝ่าย ให้อภัยถึงสิ่งที่แล้วมา ละจริตที่ขุ่นมัวในอดีต มองหาแนวทางใหม่ในการอยู่ร่วมกันอย่างสันติ เท่านี้สังคมโดยรวมก็ร่มเย็นแล้ว
  4.     ทำบุญใส่บาตรตอนเช้า เข้าวัดฟังธรรมในวันพระใหญ่ เข้าคอร์ทธรรมะเพื่อขัดเกลาชีวิต และทำบุญปล่อยนก ปล่อยปลา ปล่อยเต่า และสัตว์ที่ทุกข์ยากเพื่อเป็นสิริมงคลให้กับชีวิต เรียนรู้ละทำบาปทุกประเภท สวดมนต์แผ่เมตตา เดินจงกรม ทำวิปัสสานากรรมฐาน เสริมสร้างชีวิตให้เป็นมงคลในทุกวัน ชีวิตที่เติบโตงอกงามจะเป็นชีวิตที่ดี
  5.     ไม่อิจฉาริษยา เมื่อเห็นคนอื่นได้ดีหรือคิดไปเองว่าผลประโยชน์ที่คนอื่นได้เป็นตัวเองมากกว่า วางใจให้เป็นกลาง นึกถึงผลประโยชน์ส่วนรวมเป็นใหญ่ ลดอัตตาตัวกู ของกูไป ชีวิตเจริญเป็นเช่นนี้แล
  6.     เป็นคนที่ให้คนอื่นเสียบ้าง  การอยู่ในสังคมทั้งในที่ทำงาน ที่บ้าน หรือในส่วนชุมชน เราต้องรู้หน้าที่รับผิดชอบ หัดแบ่งปันให้คนอื่น ไม่ควรรับมาฝ่ายเดียว ให้ในสิ่งที่ควรให้ เป็นประโยชน์ที่คนอื่นจะไปดำรงต่อ เป็นการตัดกิเลสอีกช่องทางหนึ่งด้วย
  7.       ออกเสาะแสวงหากัลยามิตร  การได้เกิดเป็นคนนี้ว่ายากแล้ว แต่การได้พบมิตรที่ประเสริฐ สามารถช่วยเหลือกันในยามคับขันและทุกข์ยากเป็นที่สุด นี่สิหายากยิ่งกว่า .. การมีมิตรดี เท่ากับมีแก้วไว้ประดับกาย มิตรดีมีแต่เกื้อกูลกันให้เจริญรุ่งเรือง ยั้งยืนสถาพร .. มิตรชั่วพาแต่เรื่องเลวร้ายมาให้ ก็ต้องเลือกเอาล่ะว่าจะมีกัลยามิตรที่ดีหรือเพื่อนชั่ว ดีกว่ากัน
  8.       รู้รักษาตัวรักษากายให้สมบูรณ์แข็งแรงอยู่เสมอ หลีกเลี่ยงการเป็นโรคภัยไข้เจ็บ เพราะร่างกายที่ดีส่งผลต่อจิตใจที่ดีงามด้วย
  9.       ทำการจัดระเบียบชีวิตตัวเองอยู่เสมอ  สร้างวินัยในการทำงานและใช้ชีวิต  หลีกเลี่ยงปัญหายุ่งยากจากเรื่องไม่เป็นเรื่อง คิด พิจารณาไตร่ตรอง เรื่องราวที่เข้ามาให้ดี รอบคอบ ถี่ถ้วนอยู่เสมอ เป็นการป้องกันปัญหาที่จะยุ่งยากตามมาได้ดี
  10. เปิดใจยอมรับการเปลี่ยนแปลงหรือเรื่องเลวร้ายที่อาจเกิดขึ้นในชีวิต เพระชีวิตคือการเปลี่ยนแปลง หน้าที่ของเราที่เกิดมา คือ ชดใช้การกระทำที่ผ่านมาในอดีต เราไม่สามารถแก้ไขบางสถานการณ์ได้ แต่ก็มีวิธีทุเลาหรือรอดพ้นบ่วงนี้ไปได้ นั่นก็คือ ตั้งมั่นในความดี อยู่ในศีลธรรม ละเว้นการทำชั่วทุกชนิด บำรุงศาสนาตามกำลังที่มี ดำรงตนตามหน้าที่ที่ได้รับ ไม่ก้าวก่ายบทบาทคนอื่น ให้บริจาคทานอยู่เสมอ .. เท่านี้ความเปลี่ยนที่เกิดขึ้นจะมาสัมผัสเพียงผิวกาย
  11. มองโลกในแง่ดีเสมอ คิดบวกอยู่ตลอดเวลา  จะทำให้ชีวิตราบรื่นไม่อุปสรรคใดใด
 
          .. พอท่านเกิดได้เพียง 2 ขวบก็ถูกนักบวชกลุ่มหนึ่งพาท่านไปจากชีวิตที่บ้านเกิดอันแสนสงบ ท่านอดทนต่อการฝึกฝนอันเข้มงวด จนถึงอายุ 15 ปีได้ขึ้นเป็นประมุขสูงสุดของรัฐเล็กๆที่ต้องต่อสู้ทานอำนาจรัฐใหญ่ที่มีผู้นำชื่อ .. เหมาเจ๋อตุง ไม้ซีกหรือจะงัดไม้ซุง .. ท่านต้องหนีออกนอกประเทศ คนนับแสนต้องพลีชีวิต การเจรจาความสัมพันธ์ที่มานานนับ 40 ปีล้มเหลว ชะตาพลเมืองและท่านเจ็บปวดแสนสาหัส .. มารดากับน้องรักและอาจารย์มาสิ้นชีวิต ขณะที่ท่านต้องจากบ้านเกิด รอเวลากอบกู้บ้านเมืองคืน (ซึ่งก็ไม่รู้เมื่อไหร่) คนหนุ่มสาว คนอพยพ ผู้รอดชีวิต ต่างทยอยเข้ามาถามคำถาม เล่าเรื่องเลวร้าย และร้องไห้ ไม่เว้นแต่ละวัน เพียรถามคำถามว่า .. 40 ปี แล้วท่านทำอะไรบ้าง มีแต่ให้อภัยกับประนีประนอม ในขณะที่ประชาชนล้มตายไปทุกวัน .. ท่านไม่ตอบ เฝ้ามองโลกแต่ในแง่ดี สงบนิ่งในสันติสุข รู้สึกสัมผัสอิสรภาพอย่างไม่มีอะไรมาเปรียบ และเฝ้ามองความเป็นไปอย่างเยียบเย็น .. หลายคนขนานนามท่านว่า .. ท่านเป็นบุคคลที่มีความสุขที่สุดในขณะมีลมหายใจอยู่บนโลกใบนี้  แล้วองค์ดาไลลามะ องค์ที่ 14 แห่งธิเบต ก็เป็นจริงอย่างที่คนทั่วโลกกล่าวขานกัน ..
 
                   “ ความโง่เขลา  เป็นดั่งคราบสกปรก .. การอ่าน คือ น้ำสะอาดที่ชะล้างความสกปรกได้ ..”
 

   ขอบคุณที่มีกัน ขอจงทำทุกวันให้เป็นวันที่ดี  ------------   เมฆชรา ๒๓ มีค.๖๕


 




 

Create Date : 22 มีนาคม 2565
0 comments
Last Update : 22 มีนาคม 2565 23:13:31 น.
Counter : 553 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


เมฆชรา
Location :
นครราชสีมา Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 22 คน [?]




เข้าสู่ปีที่ 8
Friends' blogs
[Add เมฆชรา's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.