• [ kidney ] > [ คิด - หนี่ ] > //www.thefreedictionary.com/kidney > noun = ไต


• [ bean ] > [ บี้น ] > //www.thefreedictionary.com/bean > noun = ถั่ว ถั่วเมล็ดแห้ง เช่น ถั่วเหลือง ถั่วเขียว ฯลฯ

ศัพท์พี่ๆ น้องๆ ได้แก่

• [ kidney bean ] = ถั่วแดงหลวง ถั่วแดงเม็ดโต-เปลือกหนา; ถั่วชนิดนี้มีรูปร่างคล้ายไต; แนะนำให้ดูตัวอย่างไตหมู ตรงกับภาษาบาลีว่า "วักกัง" เป็น 1 ในอาการ 32 (กายคตาสติ) ได้ที่แมโคร แล้วน้อมเข้ามาในกายว่า แม้กายเราก็มีความเป็นปฏิกูล (ไม่น่าดู ไม่น่าชม) เช่นนี้ (คล้ายๆ กัน)


• [ pea ] > [ พี่ ] > //www.thefreedictionary.com/pea > noun = ถั่วฝัก ถั่วเปียก เช่น ถั่วพู ถั่วฝักยาว ฯลฯ

สำนักข่าวฝรั่งเคยตีพิมพ์ภาพร้าน "พี่พร" ของไทย, ที่ป้ายมีคำ 'Pee Porn' เป็นป้ายของแปลก เพราะเสียง "พี่ (pee)" ภาษาอังกฤษ = ฉี่ (ปัสสาวะ); ส่วน "พร (porn)" ภาษาอังกฤษ = เซ็กส์ เรื่องเซ็กส์ (คำ "พร" มาจาก "วร / วะระ" ภาษาบาลี = ผู้ประเสริฐ ตรงกับภาษาไทยว่า "พระ"

• [ pee ] > [ พี่ ] > //www.thefreedictionary.com/pee > noun = ปัสสาวะ ฉี่; verb = ถ่ายปัสสาวะ ฉี่ (คำนี้น่าจะมาจากการเลียนเสียงธรรมชาติ สังเกตได้จากเสียง "อี" ของ 'pee' คล้าย "ฉี่" ในภาษาไทย


• [ porn ] > [ พ่อน ] = ชื่อย่อของ 'pornography' > //www.thefreedictionary.com/porn > noun = เรื่อง-ภาพ-หนังสือลามก ปกขาว

การศึกษาก่อนหน้านี้พบว่า อาหารแบบเมดดิเตอร์เรเนียน (Mediterranean) หรืออาหารเมดฯ ซึ่งมีปลาที่ไม่ผ่านการทอด ผัก ผลไม้ทั้งผล (ไม่ใช่น้ำผลไม้กรองกากทิ้ง), ธัญพืชไม่ขัดสี เช่น ข้าวกล้อง ฯลฯ, น้ำมันที่มีกรดไขมันไม่อิ่มตัวตำแหน่งเดียว เช่น น้ำมันมะกอก-คาโนลา-เมล็ดชา-ถั่วลิสง-รำข้าว ฯลฯ น่าจะดีกับสุขภาพสมอง

ทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัยบอสตัน ทำการวิเคราะห์ข้อมูลจากการศึกษาติดตามสุขภาพหัวใจของกลุ่มตัวอย่าง อาย 36-83 ปี 1,400 ราย โดยใช้แบบทดสอบความสามารถในการคิดอ่าน-ความจำ และตรวจสแกนสมองด้วยเครื่องตรวจสนามแม่เหล็ก-วิทยุ (MRI)

ผลการศึกษาพบว่า กลุ่มตัวอย่างที่กินอาหารธรรมชาติที่มีสารโคลีนสูง (ไม่ใช่สารสกัดอัดเม็ด) มีความจำดีกว่าคนที่กินสารนี้จากธรรมชาติน้อยชัดเจน ทว่า... ความสามารถในการคิดอ่านไม่ต่างกันชัดเจน

ผลการตรวจสแกนสมองพบว่า กลุ่มที่กินอาหารธรรมชาติที่มีสารโคลีนสูง มีสภาพสมองส่วนใน (white matter) ดีกว่า ซึ่งบ่งชี้ว่า หลอดเลือดสมองน่าจะดีกว่า

มีความเป็นไปได้ว่า สารโคลีนเป็นสารตั้งต้น (precursor) ที่สมองใช้ผลิตสารสื่อประสาทอะซีทิลโคลีน (acetylcholine) ซึ่งใช้ในสมองส่วนที่ใช้จำ และคิดอ่าน

การศึกษาก่อนหน้านี้พบว่า คนที่เป็นโรคสมองเสื่อมอัลไซเมอร์มักจะมีสารสื่อประสาทชนิดนี้ต่ำ, ส่วนการทดลองในหนูพบว่า การให้สารโคลีนเสริมช่วยให้ความจำดีขึ้น

ผู้ชายควรได้รับโคลีนจากอาหาร 550 มิลลิกรัม/วัน, ผู้หญิงควรได้ 425 มก./วัน

อ.โอ หัวหน้าคณะวิจัยจากมหาวิทยาลัยบอสตันแนะนำว่า การทำให้ความจำดีส่วนหนึ่งเป็นผลจากพันธุกรรม, อีกส่วนหนึ่งเป็นผลจากการมีแบบแผนในการใช้ชีวิต (lifestyle) ดี

โอกาสทางการศึกษา (คนที่เรียนเร็ว-เรียนนาน มักจะสมองดีกว่าเรียนช้า-เรียนไม่นาน), การเรียนรู้เรื่องใหม่ หรือความรู้ความชำนาญใหม่ตลอดชีวิต มีส่วนช่วยให้คนเราฉลาดขึ้น

และอย่าลืมเคล็ดลับสำคัญ 3 ข้อได้แก่

(1). อาหารสุขภาพอย่างพอดี > หลีกเลี่ยงกินอาหารสุขภาพมากไปจนน้ำหนักเกินหรืออ้วน ไม่ดื่มหนัก และหลีกเลี่ยงหรือลดอาหารขยะ โดยเฉพาะอาหารทอด ฟาสต์ฟูด ขนมใส่ถุง เบเกอรี่

การขาดสารอาหาร โดยเฉพาะช่วงที่อยู่ในท้องแม่-เด็กเล็ก โดยเฉพาะไอโอดีน, ธาตุเหล็ก, โอเมกา-3 จากปลาที่ไม่ผ่านการทอด อาจทำให้ IQ ต่ำลง

การได้รับสารพิษ โดยเฉพาะตะกั่ว ซึ่งพบมากในหมึกพิมพ์ สีทาบ้าน ทำให้ IQ ต่ำลงได้, วิธีป้องกันที่ดี คือ ล้างมือด้วยสบู่ก่อนกินอาหาร-ดื่มน้ำ, หลีกเลี่ยงอาหารใส่สี ไข่เยี่ยวม้า

(2). ออกแรง-ออกกำลังเป็นประจำ > อย่างน้อยเทียบเท่าเดินสะสมเวลาให้ได้ 40 นาที/วัน, ขึ้นลงบันได 4 นาที/วัน

วิธีเดินให้เร็วขึ้นง่ายๆ คือ สวมรองเท้าวิ่งหรือรองเท้าแตะส้นสูง (แนะนำ Adda Play ซึ่งเบา-ไม่อับ-ลุยน้ำท่วมกรุงเทพได้), งอข้อศอกเล็กน้อย, เน้นก้าวให้เร็วขึ้นจาก 60-70-80-90-100 > มากกว่า 100 ก้าว/นาที

ถ้าออกกำลังหนัก เช่น วิ่ง ฯลฯ 20 นาที/วันน่าจะพอ, ถ้าออกกำลังหนักปานกลาง เช่น เดินเร็ว ฯลฯ 30 นาที/วันน่าจะพอ

(3). ไม่สูบบุหรี่ และไม่หายใจเอาควันบุหรี่ที่คนอื่่นสูบเข้าไป โดยเฉพาะในห้องแอร์ เช่น ไนท์คลับ ผับ บาร์ ฯลฯ

.

> [ Twitter ]

• Thank Reuters > SOURCE: bit.ly/rIg1Xf American Journal of Clinical Nutrition, online November 9, 2011.


• นพ.วัลลภ พรเรืองวงศ์ รพ.ห้างฉัตร ลำปาง. 27 พฤศจิกายน 2554. ยินดีให้ท่านนำบทความทั้งหมดไปใช้ได้ > CC: BY-NC-ND.


• ข้อมูลทั้งหมดเป็นไปเพื่อการส่งเสริมสุขภาพ ไม่ใช่วินิจฉัยหรือรักษาโรค; ท่านที่มีโรคประจำตัวหรือความเสี่ยงต่อโรคสูงจำเป็นต้องปรึกษาหมอที่ดูแลท่านก่อนนำข้อมูลไปใช้.

Create Date : 04 ธันวาคม 2554
Last Update : 4 ธันวาคม 2554 10:42:03 น.		4 comments
Counter : 939 Pageviews.
Share Tweet