On ne voit bien qu'avec le cœur. L'essentiel est invisible pour les yeux
Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2550
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
23 ธันวาคม 2550
 
All Blogs
 

ซีซาร์สลัด (Caesar Salad) ....งานนี้ จูเลียส ซีซาร์ ไม่มีเอี่ยว



ค่าที่บ้านเรามีอาหารลงท้ายด้วยคำว่า “โบราณ” หลายอย่าง
ตอนที่กัสซี่ได้ยินชื่อ “ซีซาร์ สลัด” เป็นหนแรก
ใจก็นึกไปว่า มันคงจะเป็นสลัดของพวกโรมันที่ตกทอดมาแต่โบราณ
แต่พอมาค้นหาต้นตอแหล่งกำเนิดของมันแล้ว ก็ต้องขำกับสมมติฐานของตัวเอง
เพราะต้นกำเนิดของซีซาร์ สลัด นี้ แท้จริงแล้วเพิ่งมีมาไม่ถึงร้อยปีนี่เอง


ประวัติของสลัดจานนี้ บ้างก็ว่า
มีกระทาชายนายหนึ่งนามว่า Caesar Cardini
ภูมิลำเนาเดิม อยู่ที่เมืองเซซาเร่ ประเทศอิตาลี
ได้โยกย้ายครอบครัวไปอยู่ที่เมืองซานดิเอโก้ สหรัฐปาลีรัฐอเมริกา
แต่ว่ามีำธุรกิจโรงแรมอยู่เมืองติฮัวนา ประเทศเม็กซิโก
(ห่างกันแค่ข้ามพรมแดน เท่านั้นเอง)
นาย Caesar นี้ นอกจากจะเป็นเจ้าของโรงแรมแล้ว ยังเป็นเชฟฝีมือดีอีกด้วย
เขาคิดค้นสลัดจานนี้ขึ้นมา ในวันที่ 4 กรกฎาคม 1924
เมื่อตอนที่ลูกค้าเต็มเพียบร้าน แล้วข้าวของหมด
นาย Caesar ก็เลยจับแพะชนแกะ เอาวัตถุดิบที่เหลือ ๆอยู่
มาคลุก มาเคล้าต่อหน้า ลูกค้า เกิดเป็นอาหารจานเด็ดที่ติดอกติดใจของลูกค้าขึ้น



ประวัติอีกกระแสหนึ่งก็บอกว่า
วันดีคืนดีพี่ชายของนาย Caesar คือ นาย Alex Cardini
อดีตนักบินในกองทัพอากาศของอิตาลี
ก็เดินทางข้ามพรมแดนประเทศสหปาลีรัฐอเมริกา ไปเยี่ยมน้องชาย
เพื่อเฉลิมฉลองวันชาติสหรัฐ เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 1924


แล้วมันก็แปลกที่ว่า คนอเมริกันที่อยู่ละแวกพรมแดนเม็กซิโกนั้น
นิยมขับรถข้ามไปฉลองวันชาติอเมริกัน ที่เม็กซิโกกันมาก
เพราะงานฉลองที่เม็กซิโก มีสีสันจัดจ้านสนุกสนานกว่าที่อเมริกาเยอะ


นาย Alex ผู้อุตส่าห์ข้ามพรมแดนไปหาน้องชายนาย Caesar
ก็ไปพบว่า ที่โรงแรมของน้องชายนั้น มีแขกมากินอาหารถล่มทลาย
อาหารมีเท่าไหร่ เท่าไหร่ ก็ไม่พอขาย แถมขายดีจนทำแทบไม่ทัน
ยอดพี่ชายนาย Alex เห็นเข้าดังนั้น ก็ถลกแขนเสื้อเข้าไปช่วยน้องชายในครัวทันที

ปรากฏว่าวัตถุดิบที่พอจะมีหลงเหลืออยู่ในครัวนั้นมีเพียงแค่
ผัก Romain , ขนมปังกรอบ Croutons, ไข่ต้ม กระเทียม
น้ำมันมะกอก พาเมซานชีส เลมอน และ วูสเตอร์ซอส เท่านั้น

นาย Alex ได้ที ก็จัดแจง เอาชามไม้ใบใหญ่ ไปไว้ข้าง ๆ โต๊ะของลูกค้า
แล้ว ฉีกผัก Romain เป็นชิ้น ๆ ใส่ลงไป
คลุกเคล้าด้วยส่วนผสมต่าง ๆ ที่เหลือ
ได้เป็นสลัดผักรสชาติถูกใจลูกค้ากันถ้วนหน้า
นาย Caesar จึงตั้งชื่อสลัดจานนั้นว่า “Aviator’s Salad”
แต่ต่อมาก็ได้เปลี่ยนชือเป็น Caesar Salad ตามชื่อโรงแรมในที่สุด

จะสังเกตว่า ธรรมเนียมแรกเดิมของ การทำซีซาร์สลัดนั้น
จะไม่ได้คลุกผักกับน้ำสลัดมาแต่ในครัว แต่จะนำมาคลุกต่อหน้าลูกค้า
นัยว่าเป็นการสร้างความบันเทิงทางสายตาให้กับลูกค้า
และส่วนผสมดั้งเดิมในน้ำสลัดซีซาร์สลัดนั้น "ไม่มี" การใส่แอนโชวี่เลย
แต่กลิ่นแอนโชวี ที่มีอยู่ในน้ำสลัดนั้น มาจากกลิ่นในวูสเตอร์ซอส


เดี๋ยวนี้ซีซาร์สลัดพัฒนาหน้าตาและรสชาติไปหลายอย่าง
มีทั้งแบบใส่ไข่ลวก ใส่เบคอน ใส่ไก่ย่าง ใส่มะเขือเทศ
ในบ้านเราก็มีการใส่ปลาอินทรีย์เค็มแทนแอนโชวีในน้ำสลัดด้วย
หรืออย่างสูตรของพี่หมึกแดง นั่นใส่น้ำปลาแทนเลย


แต่อย่างไรก็ตาม ขอให้จำไว้เสมอว่า
ส่วนผสมหลักในซีซาร์สลัด คือ ผัก Cos หรือ Romain เท่านั้น
แล้วก็ต้องมี Croutons กับ Parmesan Cheese ขูดด้วย
รสของน้ำสลัดซีซาร์ จะมีแต่รสเค็ม มัน เท่านั้น
ไม่มีรสหวานเจือปน โดยเฉพาะรสหวานที่มาจากน้ำตาลทรายหรือนมข้น


เอาล่ะ เอาล่ะ คราวนี้ก็มาถึงเวลาร่วมด้วยช่วยกัน
กัสซี่อยากขอแรงเพื่อนพ้องพี่น้องที่มาร่วมทักทายกันในกระทู้นี้
ช่วย ๆ กันนำสูตรการทำ Caesar Dressing
แบบที่คุณ ๆ เคยทำและคิดว่าอร่อยมาแบ่งปันกันหน่อย
ห้าคนแรก ที่ใจดี นำเอาสูตรมาปะไว้ในกระทู้นี้
กัสซี่จะแจกหนังสือชื่อ "ไม่รักไม่บอก 3" (ฉบับไม่รักก็บอก)
หนังสือรวบรวมลายแทงของกินเจ้าเด็ดในเชียงใหม่ ให้คนละ 1 เล่ม
(มีแจกแค่ 5 เล่ม เท่านั้นนะจ๊ะ)



ขอให้มีความสุขกันถ้วนหน้า
บุญพระรักษาทุกคนเลยจ้า









 

Create Date : 23 ธันวาคม 2550
13 comments
Last Update : 23 ธันวาคม 2550 19:17:24 น.
Counter : 21385 Pageviews.

 

เป็นคนแรกที่เข้ามาแต่ไม่มีสูตรมาให้

เพราะมารอสูตรได้หรือเปล่าจ๊ะน้องกัสซี่

 

โดย: Batgirl 2001 23 ธันวาคม 2550 20:22:05 น.  

 

ว้าว บล็อคเสนอทั้งอาหารอร่อยๆ น่าทาน พร้อมกับประวัติด้วยนะครับ อย่างนี้ทั้งอิ่มท้องและได้ความรู้ไปในตัวเลยนะครับ

 

โดย: ซอร์บอนน์ (ซอร์บอนน์ ) 23 ธันวาคม 2550 21:21:04 น.  

 

ไม่เคยทำ เคยแต่กิน 55 แต่ยังจะมาขอส่งสูตรให้ไปช่วยเป็นหนูตะเภาลองทำ
สองสูตรนี้ของคุณ Alton Brown ค่ะ สูตรล่างเป็นแบบ no-guilt มีใช้เต้าหู้อ่อนมาทำ
//www.foodnetwork.com/food/recipes/recipe/0,,FOOD_9936_14245,00.html
//www.foodnetwork.com/food/recipes/recipe/0,,FOOD_9936_14311,00.html

 

โดย: BRo0Ke. 23 ธันวาคม 2550 22:16:34 น.  

 

น้ำสลัดง่ายๆของเรา ไม่ใช่ซีซาร์นะคะ แต่จะใส่น้ำมันมะกอก น้ำมะนาว เกลือ พริกไทย น้ำผึ้งนิดนึง ชอบเปรี้ยวๆ หวานๆค่ะ ถ้าเติมพริกขี้หนู กลายเป็นยำได้เลย

แต่ถ้าวันไหนอยากอ้วน จะเปลี่ยนน้ำมันมะกอกเป็น miracle whip แทนค่ะ (คล้ายเมโยเนส แต่ light กว่า) แล้วเอาเซเลอรี่มาจิ้มกิน หย่อยมากค่ะ

 

โดย: Febie 23 ธันวาคม 2550 23:31:44 น.  

 

สลัดน่ากินสุดๆเลยค่ะ
ุถ้าเ้ป็นดิชั้น ก็ราดน้ำส้มบัลซามิกลูกเดียวค่ะ
ใส่เบคอนกับไข่ต้มด้วย อร่อยมากๆ
ครูตงนี่ก็ของโปรดเลยค่ะ อิอิ

 

โดย: Complicatedgirl 28 ธันวาคม 2550 5:16:13 น.  

 

แวะมาสวัสดีปีใหม่ค่ะ ขอให้ในปีใหม่ที่จะมาถึงนี้ เป็นปีที่อุปสรรคความขัดข้องในปีที่ผ่านมาลุล่วงไปด้วยดี ทำมาค้าขึ้น สุขภาพแข็งแรง พี่กั๊ดและครอบครัวมีความสุขทุกวันๆเลยค่ะ

 

โดย: BRo0Ke. 28 ธันวาคม 2550 21:13:10 น.  

 

สูตรของผมนี่ ก็ใช้มั่วๆเอาผสมกับอ่านจากคนอื่น ใช้ความสะดวกเข้าว่า
มายองเนส คิวพี
น้ำส้มบัลซามิก 2 ชต.
กระเทียมขูด 1กลีบ
มัสตาร์ด 1 ชต.
มิริน 1 ชต.
น้ำมันมะกอก
เกลือ พริกไทย
พาเมซานชีสขูด ตามใจชอบ
สำหรับคนเดียวนะฮะ
ผสมเครื่องปรุงทั้งหมดยกเว้น น้ำมันมะกอก และ ชีส
ตีให้เป็นเนื้อเดียวกัน เอาให้ออกเหลวหน่อย แล้วค่อยๆเติมน้ำมันมะกอกจนข้นได้ใจตัวเอง แต่ไม่ควรข้นขนาดครีมสลัดนะครับ
ส่วนใหญ่ใช้กะๆเอาแหละ ให้มีรสเปรี้ยว เค็ม
ส่วนกระเทียมขูดนี่ถ้าไม่ชอบเอาออกได้นะครับ
มิรินนี่ผมใส่เพื่อไม่ให้รสเปรี้ยวแหลมเกินไปเท่านั้นครับ

 

โดย: bamm-bamm IP: 58.8.100.32 30 ธันวาคม 2550 3:15:47 น.  

 

สวัสดีค่ะ เป็นคนชอบทานซีซาร์ สลัดมากเลยค่ะ

ขอร่วมส่งสูตรนี้ด้วยคนนะคะ เพราะทำออกมาทานแล้วชอบใจมากเลยค่ะ

https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=lamiacucina&month=02-2007&date=02&group=4&gblog=1

ไม่ทราบว่าจะถูกใจหรือเปล่านะคะ อุ้มทำออกมาแล้วคล้าย ๆ ของที่ร้านเกร์ฮาวน์เลยค่ะ (ไม่รู้ว่าคิดไปเองหรือเปล่านะคะ)

 

โดย: Vanillaorchid IP: 83.190.207.113 12 มกราคม 2551 19:11:39 น.  

 

อะไรคือ มิรินครับ

 

โดย: มือใหม่หัด Cook IP: 202.142.200.252 23 มิถุนายน 2551 10:36:54 น.  

 

หวัดดีด้วยคน
พัช เป็นเชฟอยู่ที่ เสม็ดรีสอร์ท ที่ทำอยู่ประจำก็คือ
เตรียมผักกาดแก้ว กับผักกรีนโอ้คเท่านั้นนะ ฉีกให้ชิ้นพอสวยงามแช่น้ำเย็น ทิ้งไว้พอให้เย็นและกรอบ ระหว่างนั้นก็เอาขนมปังไปปิ้ง 1 แผ่น แล้วก็ตัดเป็นเต๋าประมาณ 1 cm.พักไว้ เอาผักมาสะเด็ดน้ำ เตรียมจานหรือถ้วยแกงที่คุณมี แล้วเอาผักใส่ หั่นแองโชวี่ 2 ตัว เป็นชิ้นเล็กประมาณ 1/2 cm. โรยหน้าด้วยแองโชวี่ ตามด้วยขนมปังกรอบ ขูดพามีซานโรยหน้านิดหน่อย เรียบร้อยแล้ว ส่วนน้ำสลัด ก็ใช้สลัดครีม ใส่เกลือปลายช้อนชา พริกไทยนิดหน่อย คนให้เข้ากัน เสริฟได้ ง่ายและก็เร็ว แต่ถ้าเป็นรัสเซีย เค้าจะให้ใส่ไก่ทอดหรือย่าง ฉีกเป็นชิ้นเล็ก ๆ ใส่ให้ด้วย หรือไม่อย่างนั้นก็จะให้เอาแองโชวี่ผสมไปเลยในถ้วยน้ำสลัด จัดไป..! ก็คิดตังเพิ่มไง ไม่ยาก เหอๆๆๆ
แค่เนี้ย..ไปแระ

 

โดย: Chef Patty IP: 125.27.77.166 20 มกราคม 2553 22:23:54 น.  

 

It might be too late to get your book, but it is still not too late to tell you a delicious for the "Caesar Salad 101" from Martha Stewart's Recipe.
//www.marthastewart.com/258470/caesar-salad-101

 

โดย: you know? IP: 118.175.64.110 25 เมษายน 2554 19:05:12 น.  

 

ถ้ามีโอกาสไปเที่ยวหัวหินกัน ขอแนะนำให้ลองแวะชิม ซีซาร์สลัด แสนอร่อยของร้านมะกอก@หัวหิน ซอยหัวหิน 110 ดูบ้างนะ แล้วจะติดใจ ขอบอก บรรยากาศน่านั่งมากเลยแหละ เป็นร้านเปิดใหม่เอี่ยม แต่เชฟเก่าฝีมือเยี่ยม

 

โดย: putthiya50@hotmail.com IP: 192.168.2.57, 202.143.148.34 10 กุมภาพันธ์ 2555 11:08:42 น.  

 

แวะมาแล้ว(ขับรถหลงเจอเอง) อร่อยจริง แต่ที่อร่อยกว่าคือ สปาเก็ตตี้ปลาเค็ม สุดยอด บรรยากาศของร้านสุดหรูสงบๆ ซ่อนอยู่หลังตึก แบบสวนหลังบ้าน ชอบมากที่สุดที่เขาเขียนไว้ที่น้ำตก ว่า ที่นี่...ก็บ้านคุณ รู้สึกอบอุ่นจริงๆ
คราวหน้าจะไปแวะอีก....

 

โดย: chimjung IP: 192.168.2.57, 202.143.148.34 10 กุมภาพันธ์ 2555 11:14:25 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


Guzzie
Location :
เชียงใหม่ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 38 คน [?]




มนุษย์หัวใจอิสระ ปัจจุบันเบื่อหน่ายกรุงเทพขนาดหนักจนต้องย้ายมาอยู่เชียงใหม่ วัน ๆ ไม่ทำอะไรมาก นอกจาก เขียนหนังสือ สอนทำขนม แล้วก็เป็นเชฟปากร้ายใจโหดที่ไม่เคยตามใจคนกิน ใครอยากมากินข้าวด้วยควรนัดหมายล่วงหน้า และขอความกรุณาอย่ากำหนดเมนู !!!
Friends' blogs
[Add Guzzie's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.