22.9 พระสูตรหลักถัดไป คือสันทกสูตร [พระสูตรที่ 26] การสนทนาธรรมนี้ต่อเนื่องมาจาก 22.8 พระสูตรหลักถัดไป คือสันทกสูตร [พระสูตรที่ 26] ความคิดเห็นที่ 3-82 ความคิดเห็นที่ 3-83 ฐานาฐานะ, 19 กันยายน เวลา 11:46 น. คำถามในรัฐปาลสูตร //84000.org/tipitaka/attha/v.php?B=13&A=6825&Z=7248 1. เมื่อศึกษาพระสูตรนี้ได้อะไรบ้าง? 2. ท่านพระรัฐปาลเถระ เป็นเอตทัคคะด้านใด หรือไม่? 3. ในพระสูตรนี้ มีบุคคลอื่นๆ เกี่ยวข้องมากมาย คือ มารดาบิดา อดีตภรรยา ทาสี เพื่อนสหายของรัฐปาลกุลบุตร พระเจ้าโกรัพยะ และพนักงานรักษาพระราชอุทยาน ขอให้แสดงความเห็นว่า บุคคลเหล่านั้นได้บุญได้บาปอย่างไรบ้าง? ความคิดเห็นที่ 3-84 GravityOfLove, 19 กันยายน เวลา 12:12 น. ตอบคำถามในรัฐปาลสูตร //84000.org/tipitaka/attha/v.php?B=13&A=6825&Z=7248 1. เมื่อศึกษาพระสูตรนี้ได้อะไรบ้าง? ๑. ความเสื่อม ๔, ธัมมุทเทส ๔ ๒. ที่ชื่อว่ารัฐปาละ เพราะเป็นผู้สามารถดำรงรักษารัฐที่แบ่งแยกได้ ชื่อของท่านพระรัฐปาละนั้น เกิดขึ้นเมื่อครั้งพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระนามว่า ปทุมุตตระ -------------------------------------- 2. ท่านพระรัฐปาลเถระ เป็นเอตทัคคะด้านใด หรือไม่? เป็นเอตทัคคะในทางบวชด้วยศรัทธา //84000.org/tipitaka/dic/v_seek.php?text=รัฐบาล //84000.org/tipitaka/dic/v_seek.php?text=อสีติมหาสาวก -------------------------------------- 3. ในพระสูตรนี้ มีบุคคลอื่นๆ เกี่ยวข้องมากมาย คือ มารดาบิดา อดีตภรรยา ทาสี เพื่อนสหายของรัฐปาลกุลบุตร พระเจ้าโกรัพยะ และพนักงานรักษาพระราชอุทยาน ขอให้แสดงความเห็นว่า บุคคลเหล่านั้นได้บุญได้บาปอย่างไรบ้าง? ๑. มารดาบิดา ได้บาป - พยายามจะให้พระลูกชายสึกให้ได้ ด้วยการนำกามคุณมาล่อ และในอรรถกถากล่าวว่า ล๊อกประตูและหาคนแข็งแรงมาปิดทางไม่ให้ออกไปได้ ได้บุญ - ถวายภัตตาหารพระลูกชายด้วยอาหารอันประณีตด้วยมือของตน ๒. อดีตภรรยา ได้บาป - พยายามให้ท่านพระรัฐปาลสึก ได้บุญ - รอท่านพระรัฐปาลมาตลอด (๑๒ ปี) แสดงถึงความภักดีต่ออดีตสามี ๓. ทาสี ได้บุญ - ถวายทานท่านพระรัฐปาล และจำท่านได้แล้วไปบอกมารดาบิดาท่าน ๔. เพื่อนสหายของรัฐปาลกุลบุตร ได้บุญ - ช่วยมารดาบิดาเพื่อนเกลี้ยกล่อมลูกชาย และเมื่อเห็นว่าไม่สำเร็จ ก็ไม่ได้ดึงดันแต่อย่างไร ได้ให้ความเห็นมารดาบิดาเพื่อนว่า ถ้าไม่ได้บวช เขาจะตายแน่ แต่ถ้าได้บวช ก็ยังมีโอกาสได้เห็นหน้าเขา ทำให้รัฐปาลกุลบุตรได้โอกาสบวช ๕. พระเจ้าโกรัพยะ ได้บุญ - จัดสถานที่สำหรับสมณะที่เดินทาง, ถวายภัตตาหารท่านพระรัฐปาละ และพยายามอุปฐากอย่างดี, ตรัสถามปัญหาที่ตนสงสัย เมื่อคลายสงสัยแล้ว ทำให้ตนได้ปัญญายิ่งขึ้น ๖. พนักงานรักษาอุทยาน ได้บุญ - ทำตามหน้าที่ของตนที่ไ้ด้รับมอบหมายมา หน้าที่นั้นก็เป็นหน้าที่ ที่เป็นกุศลธรรม (ดูแลรักษาอุทยานที่จัดไว้สำหรับสมณะเดินทาง), ทราบว่าพระเจ้าโกรัพยะมีความเลื่อมใสในท่านพระรัฐปาล เมื่อเห็นท่าน พระรัฐปาลมาพักในอุทยาน ก็ไปกราบทูลให้ทรงทราบ ทำให้พระองค์ได้ทรงสนทนาธรรม กับท่านพระรัฐปาล ความคิดเห็นที่ 3-85 ฐานาฐานะ, 19 กันยายน เวลา 13:09 น. GravityOfLove, 32 นาทีที่แล้ว ตอบคำถามในรัฐปาลสูตร //84000.org/tipitaka/attha/v.php?B=13&A=6825&Z=7248 ... 12:12 PM 9/19/2013 ตอบคำถามได้ดีครับ ดูเหมือนว่า พอมีคำถามหลายข้อ ทำให้คำตอบในข้อ 1 สั้นลง. การดูเหมือนว่านี้ จริงหรือไม่หนอ? ในข้อ 2 นั้น เมื่อกล่าวหรือจะแสดงถึงเอตทัคคะ ควรทำลิงค์ไปยัง พระไตรปิฎกเล่มที่ 20 ข้อ 146-152 อันเป็นเอตทัคคบาลี เช่นในกรณีนี้ ควรทำลิงค์ไปที่ //84000.org/tipitaka/read/?20/146-152 หรือ //84000.org/tipitaka/read/?20/148 ในข้อ 3 นั้นที่ว่า พระเจ้าโกรัพยะถวายภัตตาหารท่านพระรัฐปาละ ผมไม่เห็นเนื้อความใดๆ ที่แสดงว่า ได้ถวายภัตตาหารท่านพระรัฐปาละ อรรถกถาแสดงนัยว่า พระราชาพระราชทานแก่เหล่าบรรพชิตที่มาถึงในกาลมิใช่เวลา เป็นอันพระราชาให้เสนาสนะที่ร่มรื่นแก่บรรพชิตทั้งหลาย. ในบรรดาคนทั้งหลายเหล่านี้ พระราชาน่าจะได้บุญมากที่สุด เพราะได้สอบถามปัญหา ได้ฟังคำตอบของปัญหา และอนุโมทนาในคำตอบเหล่านั้น อันทำให้เกิดความรู้ความเข้าใจในพระธรรมวินัยยิ่งขึ้น เป็นปัจจัยแก่การบรรลุธรรมในอนาคต. อรรถกถา [บางส่วน] บทว่า มิคาจิเร ได้แก่ พระอุทยานมีชื่ออย่างนี้. ก็พระราชอุทยานนั้น พระราชาพระราชทานแก่เหล่าบรรพชิตที่มาถึงในกาลมิใช่เวลา เป็นอันทรงอนุญาตอย่างนี้ว่า จงใช้สอยอุทยานนี้ตามความสบายเถิด. เพราะฉะนั้น พระเถระไม่เกิดแม้ความคิดว่า เราจะบอกบิดามารดาว่าเรามาแล้ว มารดาบิดานั้นจักส่งน้ำล้างเท้า น้ำมันทาเท้าเป็นต้นแก่เรา แล้วเข้าไปยังพระราชอุทยานนั้นแล. //84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=13&i=423 ความคิดเห็นที่ 3-86 GravityOfLove, 19 กันยายน เวลา 13:14 น. การดูเหมือนว่านี้ จริงหรือไม่หนอ? ไม่จริงค่ะ เพราะทำคำตอบข้อ ๑ เสร็จแ้ล้วตั้งแต่เมื่อวาน ผมไม่เห็นเนื้อความใดๆ ที่แสดงว่า ได้ถวายภัตตาหารท่านพระรัฐปาละ น่าจะจำสับสนกับพระสูตรอื่นค่ะ ขอบพระคุณค่ะ ความคิดเห็นที่ 3-87 ฐานาฐานะ, 19 กันยายน เวลา 13:18 น. GravityOfLove, 21 วินาทีที่แล้ว การดูเหมือนว่านี้ จริงหรือไม่หนอ? ไม่จริงค่ะ เพราะทำคำตอบข้อ ๑ เสร็จแล้วตั้งแต่เมื่อวาน รับทราบครับว่า 1. ไม่จริง. 2. ทำคำตอบก่อนตั้งคำถาม. ผมไม่เห็นเนื้อความใดๆ ที่แสดงว่า ได้ถวายภัตตาหารท่านพระรัฐปาละ น่าจะจำสับสนกับพระสูตรอื่นค่ะ ขอบพระคุณค่ะ 1:14 PM 9/19/2013 พระสูตรอื่นนั้น คือพระสูตรอะไรหนอ? ความคิดเห็นที่ 3-88 GravityOfLove, 19 กันยายน เวลา 13:21 น. พระสูตรอื่นนั้น คือพระสูตรอะไรหนอ? นึกไม่ออกค่ะ มีหลายพระสูตรมาก อ่านวันละพระสูตรนี่คะ ความคิดเห็นที่ 3-89 ฐานาฐานะ, 19 กันยายน เวลา 13:24 น. รับทราบครับ. ความคิดเห็นที่ 3-90 ฐานาฐานะ, 19 กันยายน เวลา 13:28 น. คำถามเบาๆ ว่า ลักษณะของการขออนุญาตมารดาบิดา เพื่อบรรพชาอุปสมบท ของท่านรัฐปาลกุลบุตร. คุณ GravityOfLove ได้เคยเห็นจากบุคคลอื่น หรือกุลบุตรอื่นๆ หรือไม่ และบุคคลนั้น คือใคร? ความคิดเห็นที่ 3-91 GravityOfLove, 19 กันยายน เวลา 13:42 น. ตอบว่า มารดาของท่านพระกุมารกัสสปค่ะ ได้ยินมาว่า ธิดาของท่านเศรษฐีนั้นเป็นหญิงมีความประสงค์จะบวช แต่ในเวลาที่ยังเป็นกุมารีอยู่ทีเดียว ขออนุญาตมารดาบิดา ไม่ได้รับอนุญาตให้บรรพชา แม้ไปสู่ตระกูลผัว ก็ไม่รู้ว่าตนตั้งครรภ์ ทำสามีให้โปรดปราน จนสามีอนุญาต จึงบวช (ในสำนัก) นางภิกษุณีทั้งหลาย //84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=26&i=298&p=1 ความคิดเห็นที่ 3-92 ฐานาฐานะ, 19 กันยายน เวลา 14:21 น. ลักษณะการขอบวชของธิดาท่านเศรษฐี มีส่วนคล้ายกัน ตรงที่ว่า เมื่อขออนุญาตแล้ว ไม่ได้รับอนุญาต. มารดาของท่านพระกุมารกัสสป เป็นคนฉลาด กล่าวคือ รู้ว่า ใครเป็นศาสดา ใครเป็นสาวก หรือใครเพียงคนเข้ามาบวช. ครั้งหนึ่ง เมื่อมารดาของท่านพระกุมารกัสสป ตั้งครรภ์แล้ว แต่ไม่รู้ว่า ตนเองตั้งครรภ์ ได้บรรพชาอุปสมบทเป็นนางภิกษุณีแล้ว ภายหลังจึงรู้ว่า ตั้งครรภ์ (ก่อนบวช) คราวนั้น พระเทวทัตตวินิจฉัยให้นางภิกษุณีสึกเสีย. นางภิกษุณีแก่ภิกษุณีทั้งหลายว่า อรรถกถา [บางส่วน] แม่เจ้าทั้งหลาย พระเทวทัตเถระไม่ใช่พระพุทธเจ้า การบรรพชาของเรา ในสำนักของพระเทวทัตนั้น ก็หามิได้ ก็บรรพชาของเราในสำนักของ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าผู้เป็นบุคคลเลิศในโลก. อนึ่ง บรรพชานั้น เราได้โดยยาก ท่านทั้งหลายอย่าทำให้การบรรพชานั้น อันตรธานหายไปเสียเลย มาเถิดท่านทั้งหลาย จงพาเราไปยังพระเชตวัน ในสำนักของพระศาสดา ภิกษุณีทั้งหลายจึงพาภิกษุณีสาวนั้นไปจากกรุงราชคฤห์ สิ้นหนทาง ๔๕ โยชน์ ถึงพระเชตวันมหาวิหาร โดยลำดับ ถวายบังคมพระศาสดา แล้วกราบทูลเรื่องนั้นให้ทรงทราบ. //84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=27&i=12 เฉลยว่า ลักษณะการขอบวชของท่านสุทินน์กลันทบุตร คล้าย/เหมือน กับการขอบวชของท่านรัฐปาลกุลบุตร. เรื่องพระสุทินน์ //84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=1&A=316&Z=670 ความคิดเห็นที่ 3-93 ฐานาฐานะ, 19 กันยายน เวลา 14:24 น. เป็นอันว่า พระสูตรชื่อว่า รัฐปาลสูตร จบบริบูรณ์. //84000.org/tipitaka/read/v.php?B=13&A=6825&Z=7248 พระสูตรหลักถัดไป คือมฆเทวสูตร [พระสูตรที่ 33]. พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๓ พระสุตตันตปิฎก เล่ม ๕ มัชฌิมนิกาย มัชฌิมปัณณาสก์ มฆเทวสูตร //84000.org/tipitaka/read/v.php?B=13&A=7249&Z=7473 ศึกษาอรรถกถานี้ ได้ที่ :- //84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=13&i=452 มธุรสูตร //84000.org/tipitaka/read/v.php?B=13&A=7474&Z=7662 ศึกษาอรรถกถานี้ ได้ที่ :- //84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=13&i=464 โพธิราชกุมารสูตร //84000.org/tipitaka/read/v.php?B=13&A=7663&Z=8236 ศึกษาอรรถกถานี้ ได้ที่ :- //84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=13&i=486 ความคิดเห็นที่ 3-94 GravityOfLove, 19 กันยายน เวลา 14:24 น. แกรวิตี้ก็ค้นเจอเรื่องพระสุทินน์อยู่นะคะ แต่เข้าใจว่า ยังไม่เคยเรียน (หรือเปล่าคะ) ![]() ก็เลยไม่ตอบ ความคิดเห็นที่ 3-95 ฐานาฐานะ, 19 กันยายน เวลา 14:27 น. รับทราบครับ. น่าจะยังไม่เคยเรียนครับ ตั้งใจถามเพื่อให้รู้รอบ. ความคิดเห็นที่ 3-96 GravityOfLove, 19 กันยายน เวลา 14:29 น. ขอบพระคุณค่ะ ความคิดเห็นที่ 3-97 GravityOfLove, 19 กันยายน เวลา 23:24 น. คำถามมฆเทวสูตร //84000.org/tipitaka/read/v.php?B=13&A=7249&Z=7473 กรุณาอธิบายค่ะ ๑. อันตรากถานี้เกิดขึ้นแล้วแก่เทวดาชั้นดาวดึงส์ ๒. เทวดาชั้นดาวดึงส์ปรารถนาจะพบเห็นพระองค์ ขอเชิญพระองค์จง อภิรมย์อยู่ในเทวดาทั้งหลายด้วยเทวานุภาพเถิด. ๓. ในข้อนั้น ภิกษุผู้มีศีลเมื่อไม่กระทำความเพียรด้วยคิดว่า เราไม่อาจได้พระอรหัต ชื่อว่าย่อมตัด. กัลยาณวัตรย่อมชื่อว่าอันผู้ทุศีลตัดแล้ว. พระเสกขบุคคลทั้ง ๗ ย่อมให้เป็นไป. ย่อมชื่อว่าอันพระขีณาสพให้เป็นไปแล้ว. ขอบพระคุณค่ะ ย้ายไปที่ |
แก้วมณีโชติรส
![]() ![]() ![]() ![]() ![]() Group Blog
All Blog
Link |
|||
Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved. |
ขอบพระคุณค่ะ