ตอนนี้ไม่มีอะไรดีเท่ากับฟังเพลงคนกับควายและหาศิล 5 ข้อมาอ่าน
เปิดเวปโน้นเวปนี้ เจอบอร์ดแตกแยกเป็นสองสี เออนะ...พูดกันไม่เลิก เล่นกันไม่เลิก แต่ละคนปากจัดตะไกรยังเรียกพี่..สรรหามาด่าทอกัน..แค่ว่ากันก็นับว่ามากแล้ว...เพื่ออะไรหรือ...ก็เพราะยังมีวิบากกรรมเป็นตัวนำให้ต่างคนต่างทำ เพื่อให้อีกฝ่ายเจ็บใจ เจ็บแค้น พอพูดถึงวิบากกรรม ทำให้นึกถึงกรรมวิบาก สังคมยุคนี้ที่ผู้คนไม่ว่าผู้นำประเทศ ไล่ตามลงมาจนถึงประชาชนขาดศิล ขาดธรรมกันคิดจะฆ่าแกงกันแค่นึกก็ทำกันได้แล้วฆ่ากันเหมือนเป็นผักปลา บางคนฆ่าแกงคนอื่นแล้วยังมาทำหน้าซื่อตาใสให้คนอื่นเห็นว่าบริสุทธิ์ผุดผ่อง (ซะเหลือเกิน) สังคมปัจจุบันแก่งแย่งชิงดีชิงเด่นกันอาจสรุปได้ว่าเพื่อ "อำนาจ" เพื่อให้ได้มาซึ่ง "เงินตรา" ตัวเดียวแสวงหาความร่ำรวยโดยขาดจิตสำนึกความเป็นคนดีทำทุกวิถีทางเพื่อให้ตัวเองสมหวังในสิ่งที่ตัวเองอยากได้ เช่น อยากได้ตำแหน่งใหญ่โต อยากได้เงิน อยากได้ที่ดินทั้งที่เป็นที่ดินสาธารณะประโยชน์ อยากได้ทุกอย่างมาเป็นของตัวเองและพรรคพวก จนบางคน บางกลุ่มพยายามร่วมขบวนการทุกอย่างทำทุกอย่างเพื่อให้ได้มาจากสิ่งที่กล่าวข้างต้น บางคนก็ทำสำเร็จ บางคนก็ทำไม่สำเร็จก็เพราะวิบากกรรมและขาดศิลธรรม โดยเฉพาะศิล 5 นั่นเอง ทำให้นั่งนึกต่อไปว่าศิล 5 มีอะไรบ้างซึ่งชาวพุทธทุกคนจะรู้ดีว่า ศิล คืออะไรและศิล 5 ข้อมีอะไรบ้าง
ศีล หมายถึง ข้อกำหนดรู้สิ่งดีและชั่ว เพื่อให้กาย วาจา และใจ พ้นจากการกระทำที่เป็นการเบียดเบียนตนเอง และผู้อื่น
ศีล 5 คือ ศีลที่พระพุทธองค์ทรงสอนให้ฆราวาสที่อยู่ในการครองเรือนประพฤติปฏิบัติและรักษา มี 5 ประการ
1. ปาณาติปาตา เว้นจากการฆ่าสัตว์ด้วยตนเองและไม่ใช้ให้ผู้อื่นฆ่า หรือควรรู้จักคุณค่าและรักษาสิ่งมีชีวิตทั้งปวง 2. อทินนาทานา เว้นจากการลัก ,ฉ้อ ของผู้อื่นด้วยตนเอง และไม่ใช่ให้ผู้อื่นลัก ฉ้อ หรือไม่พึงปรารถนาในทรัพย์สินที่มิใช่ของตน 3. กาเมสุมิจฺฉาจารา เว้นจากการประพฤติผิดในกาม หรือไม่หมกมุ่นในกามคุณ 4. มุสาวาทา เว้นจากการพูดเท็จ คำไม่เป็นจริง และคำล่อลวง อำพรางผู้อื่น หรือเป็นผู้มีสัจจะและรักษาความจริง 5. สุราเมรยมชฺชปมาทฏฺฐานา เว้นจากการดื่มสุรา เมรัย เครื่องดองของทำใจให้คลั่งไคล้ต่าง ๆ หรือรู้จักรักษาสติ และควบคุมอารมณ์ของตนเอง
คนที่จะรักษาศิลได้ต้องมีความมั่นคงและความตั้งใจที่จะปฏิบัติด้วย กาย วาจา และใจนั่นก็คือ
ต้องมีหูไว้พิจารณาและฟัง แล้วจึงนำสิ่งที่ดีไปประพฤติปฏิบัติ ต้องมีตา ไว้พิจารณา และมองอะไรทุกอย่าง ด้วยความเป็นธรรม ต้องมีจมูก ไว้พิจารณาถึงกลิ่น ไม่ว่าจะเป็นกลิ่นใด ที่อาจทำให้เกิดราคะ คงจะหมายถึงการไม่ยึดติดกับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ต้องมีลิ้น ไว้พิจารณาสิ่งสัมผัสทางลิ้น ด้วยการไม่ยึดติดในรสชาติ ต้องมีกาย ไว้พิจารณาถึงสิ่งต่างๆ รอบกาย ที่เป็นประโยชน์ต่อตนและส่วนรวม ต้องมีใจ ที่เป็นธรรม มีเมตตาธรรม
น่าจะสรุปได้ว่า ฟังหูไว้หู อย่าเชื่อแค่ฟัง อย่าเชื่อแค่ตามองเห้นแต่ยังไม่รู้เรื่องเป็นมาอย่างไรและไม่ยึดติดคิดว่าสิ่งที่ฟังและมองเป็นเรื่องจริงต้องพิจารณาสิ่งต่างๆ ด้วยใจที่เป็นธรรมที่มีประโยชน์กับส่วนรวมและตนเอง ไม่คิดเองเออเอง และยึดติดว่าสิ่งที่ตัวเองคิดเป็นสิ่งที่ถูกและไปกล่าวหาใส่ร้ายผู้อื่นโดยไม่มีความจริง
คนที่รักษาศิล ถ้าใครทำได้ก็จะได้ประโยชน์ดังนี้ - จะมีความเมตตา กรุณา - จะเป็นที่สรรเสริญ ยกย่อง นับถือ และเป็นแบบอย่างต่อผู้อื่น และจะไม่ทำให้เกิดเรื่องครหาด่าทอได้ภายหลัง - จะทำให้ไม่เสียเงินทองโดยเปล่าประโยชน์ - จะทำให้เกิดความสงบสุข ต่อตนเอง และผู้อื่น - และสุดท้ายจะเป็นหนทางสู่ความสำเร็จทำให้เกิดอานิสงค์ได้ในสิ่งที่ควรได้ควรเป็นโดยไม่ต้องไปแก่งแย่งชิงดีชิงเด่นให้เกิดเรื่องราวมากมายเช่นสังคมที่เป็นอยู่ในเวลานี้
จขบ. คิดว่าถ้าผู้นำประเทศทุกคนทุกยุคทุกสมัย และประชาชน นักการเมือง คนทั่วไป มีศิลแค่ 5 ข้ออยู่ในใจกันทุกคน เรื่องราวต่างๆ ที่เกิดในเทศกาลวันสงกรานต์ที่ผ่านมานี้ก็จะไม่เกิดขึ้นเด็ดขาด
จากศิล 5 ข้อที่กล่าวข้างต้น จะมีอานิสงส์ที่เกิดสำหรับคนที่ไม่ปฏิบัติตัวอยู่ในศิล ซึ่ง จขบ. ขอเลือกมาแค่ 3 ข้อและขอมอบให้กับคณะก่อการที่ทำร้ายประชาชนที่มีอาวุธแค่ มีด ไม้ อาวุธที่หาได้แถวนั้น กับระเบิดเพลิงที่ทำขึ้นเอง ที่เขวี้ยงไปแล้วเหมือนเด็กเล่นของเล่นชิ้นหนึ่งที่แตกต่างจากการป้องกัน (ที่เค้าอ้าง) ของอีกฝ่าย คือใช้ เอม 16 ในการป้องกันตัวเอง และยิงไม่เลือก เค้าว่ากันว่าถ้าใครไม่ประพฤติปฏิบัติ หรือผิดศิลข้อใดข้อหนึ่งจะเป็นดังนี้ค่ะ
ปาณาติปาตา (ฆ่าสัตว์) จะได้รับกรรมวิบาก ๕ สถาน คือ ๑.ย่อมเกิดในนรก ๒.ย่อมเกิดในกำเนิดสัตว์ดิรัจฉาน ๓.ย่อมเกิดในกำเนิดเปตวิสัย (แดนแห่งเปรต) ๔.ย่อมเป็นผู้มีอวัยวะพิการ ๕.โทษเบาที่สุด หากเกิดเป็นมนุษย์ ย่อมเป็นผู้มีอายุสั้น
อทินนาทานา (ถือเอาสิ่งของที่เจ้าของไม่ได้ให้ด้วยอาการแห่งขโมย/ลักทรัพย์) จะได้รับกรรมวิบาก ๕ สถาน ได้แก่.- ๑.ย่อมเกิดในนรก ๒.ย่อมเกิดในกำเนิดสัตว์ ดิรัจฉาน ๓.ย่อมเกิดในกำเนิดเปตวิสัย ๔.ย่อมเป็นผู้ยากจนเข็ญในไร้ที่พึง ๕.โทษเบาที่สุด หากเกิดเป็นมนุษย์ ทรัพย์ย่อมฉิบหาย
มุสาวาทา (พูดเท็จ) จะได้รับกรรมวิบาก ๕ สถาน ได้แก่.- ๑.ย่อมเกิดในนรก ๒.ย่อมเกิดในกำเนิดสัตว์เดรัจฉาน ๓.ย่อมเกิดในกำเนิดเปตวิสัย ๔.ย่อมเป็นผู้มีวาจาไม่เป็นที่เชื่อถือ มีกลิ่นปากเหม็นจัด ๕.โทษเบาที่สุด หากเกิดเป็นมนุษย์ จะถูกกล่าวตู่อยู่เสมอ
ไม่มีอะไรหรอกค่ะ แค่เอามาฝากเพื่อให้ทุกคนจำใส่ใจไว้ เพราะประเทศไทยเป็นเมืองพุทธ ประชาชนส่วนใหญ่นับถือพุทธศาสนา นับถือคำสอนของพระพุทธองค์ แต่ตอนนี้เกิดอะไรขึ้น จะเรียกว่าถึงยุค ศิลธรรมเสื่อมทรามได้หรือไม่ ผู้คนถึงได้ทำร้าย ฆ่าแกงกันได้ขนาดนี้ เพื่อสนองความอยากของตัวเอง..ก็เลยเอาศิล 5 ข้อมาแปะไว้เผื่อใครสนใจผ่านไปผ่านมาได้อ่าน และสิ่งสำคัญสูงสุดเผื่อผู้นำของประเทศจะแวะเวียน ลิ่วล้อก็ได้ค่ะได้เข้ามาอ่านแล้วนำไปบอกเล่า และนำไปประพฤติปฏิบัติ เพื่อเป็นตัวอย่างและเยี่ยงอย่างที่ดีให้กับคนอื่นๆ โดยเฉพาะในคณะก่อการ(ร้าย)ที่ทำร้ายประชาชนเมื่อไม่กี่วันนี้ค่ะ...
ศิล 5 ข้อสำหรับ 3 ข้อที่คัดสรรมาให้กับคนบางคนถึงผลที่ได้จากการไม่อยู่ในศิล ซึ่งพูดคุยกันสนุกๆ ตามประสาดังนี้ค่ะ
ในข้อปาณาติปาตานั้นแปลแบบชาวบ้านๆ บ๊องส์ๆได้ว่า "แกฆ่าคนอื่น จ้างวานฆ่าคนอื่น สั่งการ บงการฆ่าคนอื่น ถ้าแกตายไปเมื่อไรแกต้องตกนรกแน่ๆ สัตว์เดรัจฉานเอ๋ย อ้ายเปรตชิงหมาเกิด แกต้องแขนขาด้วน อ้ายนั่นก็ด้วนด้วยและแกก็ไม่ตายดีหรอก (คอยดู)
ในข้ออทินนาทานา แปลแบบบ๊องส์ต๊องๆ ได้ว่า "สัตว์นรกชิงหมาเกิดอ้ายเป-ระ-ตะ ขอให้แกไร้คนเหลียวแลเข้าข้างขอให้ฉิบหายๆ วอดวายเหมือนที่ทำกับคนอื่นจะได้รู้ว่ากรรมเวรมีจริง
ในข้อมุสาวาทา แปลแบบที่ไหนคงไม่แปลแบบนี้ได้ว่า "อ้ายนรก(ไม่เอา)สัตว์เดรัจฉานจริงๆเลยแก ขอให้เป็นเปรตปากเท่ารูเข็มโทษฐานที่ชอบออกมาโกหกหลอกลวงกล่าวเท็จ ขอให้แกได้รับผลกรรมไม่มีใครกล้าเข้าใกล้เพราะปากแกจะเหม็นมากเกิดเป็นมนุษย์ทั้งทีหาค่าอันใดไม่ได้ชอบทำแต่สิ่งที่ชัวร้าย อ้ายเวร...
อ่านกันเล่นๆ นะคะบอกแล้วว่าใครหนอมาแปลแบบต๊องส์แบบนี้ได้นะ...55555...
คนกับควาย คาราวาน
Create Date : 17 เมษายน 2552 |
|
27 comments |
Last Update : 4 พฤษภาคม 2552 20:05:29 น. |
Counter : 927 Pageviews. |
|
|
|
น่าจะคิดแบบเดียวกัน
เพราะอัพเนื้อหาเกี่ยวกับธรรมะเหมือนกันเลย
ขอบคุณที่นำมาแบ่งปันนะคะ