เมื่อผิว..ยกธงขาว
อาการแพ้บนผิวหนังเป็นสิ่งที่ควรรู้ เพื่อกระตุ้นให้คุณระมัดระวังผลิตภัณฑ์ที่ใช้ รู้ได้อย่างไรว่าผิวแพ้ ลองทำแบบทดสอบข้างล่างนี้ดูนะคะ
1. คุณไม่ใช่คนผิวแห้ง แต่หลังอาบน้ำรู้สึก... * คันยิบๆ ทั่วตัว * ผิวแห้งลอก
2. ทาครีมบำรุงที่เพิ่งซื้อมาบนหน้า ปรากฏว่าช่วง 10 นาทีแรก... * คันยิบๆ บนหน้าแต่ไม่มีผื่น * ผิวลอกเป็นขุย * มีตุ่มน้ำใส น้ำเหลืองไหล แห้งแล้วตกสะเก็ด
3. เมื่อทาครีมไปนานกว่า 1 สัปดาห์ มีอาการ... * หนังตาบวม * มีผื่นแดงขึ้น ตุ่มน้ำขนาดใหญ่ และคันบริเวณที่ทา * ปวดแสบปวดร้อน
4. ครีมที่ทาทุกวันมีกลิ่นหอมถูกใจ แต่ผิวคุณกลับ... * มีผื่นดำเกิดขึ้น
5. ครีมหน้าขาว ทำให้ผิวคุณ... * มีผื่นขาว * ภายใน1-2 สัปดาห์ สีผิวขาวขึ้นอย่างสม่ำเสมอทั่วใบหน้า * ผ่านไป 1 เดือน สีผิวยังไม่เปลี่ยนเลย
6. ริมฝีปากของคุณมีลักษณะอย่างไร * เรียบเนียน สีเข้มกว่าสีผิวมาก * เรียบเนียน สีเท่ากับสีผิว * แห้งแตกเป็นขุย สีเข้มกว่าสีผิวนิดหน่อย
หากคุณตอบตรงกับข้อใดข้อหนึ่งแสดงว่าแพ้ครีมบำรุงที่ใช้ รายละเอียดแจกแจงตามข้อต่างๆ ดังนี้
*ข้อที่ 1. ทดสอบ ว่าคุณแพ้สบู่อาบน้ำหรือไม่ หากคุณมีผิวปกติดีแต่พอใช้สบู่ยี่ห้อนี้เกิดคันยิบๆ ทั่วตัว แสดงว่ามีส่วนผสมบางอย่างในสบู่ เช่น กลิ่นหอมจากน้ำหอม ที่ทำให้คุณแพ้หรือระคายเคือง ควรหยุดใช้ทันที
*ข้อที่ 2. ทดลองว่าครีมบำรุงหน้าขวดใหม่ที่เพิ่งซื้อมามีสารที่ทำให้คุณแพ้แบบระคาย เคือง หรือไม่ โดยทาทิ้งไว้ 10 นาทีจะปรากฏอาการตั้งแต่แพ้อ่อนๆ เช่น คันแต่ไม่มีผื่น จนถึงผิวแห้งลอก แตกเป็นขุยหรือเป็นหนักจนกระทั่งกลายเป็นตุ่มน้ำใส
*ข้อที่ 3. ทดสอบการแพ้ ต้องรอดูอาการนานถึง 7 วัน หากผิวแพ้ส่วนประกอบบางอย่างจากครีมที่ทาจะปรากฏอาการเริ่มต้นคือ อาการคัน ผื่นแดง ถ้าแพ้มากอาจเกิดอาการหนังตาบวม ต่อมาอาจบวมทั้งหน้า เหนื่อยหอบ บางคนรู้สึกเกิดปวดแสบ ปวดร้อน หรือตุ่มน้ำขนาดใหญ่บริเวณที่ทาได้
*ข้อที่ 4. ในบรรดาส่วนผสมของครีมบำรุงทั้งหลาย พบว่าส่วนผสมน้ำหอมทำให้เกิดอาการแพ้มากที่สุด คือ มีผื่นดำเกิดขึ้น เช่น น้ำหอมที่สกัดจากพืชสมุนไพรจำพวก แตงกวา มะนาว มะกรูด เพราะเมื่อถูกแสงแดดแล้ว จะเห็นรอยดำที่หน้าได้
*ข้อที่ 5. ครีมปรับสีผิวทำลายเซลล์สร้างเม็ดสี ทำให้หน้าขาว ซึ่งปกติครีมช่วยให้ผิวขาวขึ้น กินเวลา 2 สัปดาห์ จนถึง 1 เดือน ตามสภาพผลัดเซลล์ผิว หากครีมที่ใช้มีส่วนผสมของสารปรอท โมโนอีเทอร์ ไฮโดรควิโนน เข้มข้นสูงช่วยเร่งให้ผิวขาวเร็ว เสี่ยงต่อการเกิดผื่นขาวเนื่องจากเม็ดสีถูกทำลายมากเกินไปและไม่สม่ำเสมอ บางครั้งเป็นรอยด่างขาวถาวร เมื่อหยุดใช้แล้วสีไม่กลับคืน ส่วนครีมที่ให้ผลชัดเจนรวดเร็วภายใน 1-2 สัปดาห์ จัดว่าทำให้ขาวเร็วเกินไป คุณอาจแพ้แบบระคายเคืองในเวลาต่อมาได้ เนื่องจากกรด AHA, BHA เข้มข้นมากเกินไป หากครีมที่ใช้ไม่เปลี่ยนสีผิวคุณเลย เป็นไปได้ว่าครีมนั้น อาจมีส่วนผสมหลักน้อยเกินไป
*ข้อที่ 6. ทดสอบว่าคุณแพ้ลิปสติกที่คุณใช้หรือไม่ ปกติริมฝีปากจะมีสีเข้มกว่าสีผิวนิดหน่อย สีของริมฝีปากบ่งบอกสุขภาพระดับน้ำในร่างกายได้ เช่น ภาวะร่างกายขาดน้ำหรือเป็นไข้ ทำให้เลือดเข้มข้น ริมฝีปากจึงมีสีเข้มมาก หากร่างกายเสียเลือดหรือเป็นโรคโลหิตจาง ร่างกายสูญเสียทั้งเลือดและน้ำ ริมฝีปากปรากฏสีอ่อนมากจนเกือบกลายเป็นสีเท่าผิวหนัง ส่วนริมฝีปากแห้งแตกเป็นขุยนั้นเกิดจากการแพ้ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ดูแลริมฝีปาก และฟัน หรือชอบเลียริมฝีปาก เป็นต้น
ผิวยกธงขาวเป็นอย่างไร? การแพ้เครื่องสำอาง แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ *แพ้จากสารเคมี ถึงแม้สัมผัสปริมาณเล็กน้อย อาจก่อให้เกิดอาการแพ้ได้ทันที *และอีกประเภทหนึ่งคือ แพ้แบบระคายเคือง เนื่องจากได้รับสารเคมีปริมาณมากเกินไป แสดงอาการแพ้ได้ ทั้งที่ใช้ปริมาณน้อยไม่เกิดอาการแพ้ใดๆ
สาเหตุการแพ้อาจเกิดจากสารเคมีในเครื่องสำอางทำปฏิกิริยากับผิวคุณ หรือผิวมีความไวผิดปกติต่อสารเคมีในเครื่องสำอางนั้น แต่ไม่ว่าจะมาจากสาเหตุใด ล้วนสร้างความเจ็บ ปวด คัน น่ารำคาญ
ทำอย่างไรเมื่อผิวแพ้? ควรหยุดใช้ทันทีแล้วล้างหน้าด้วยน้ำเปล่า ภายใน 2-3 วันผิวของคุณจะกลับมาเนียนสวยเหมือนเดิม หากคุณต้องการทราบว่าสารที่แพ้นั้นคืออะไร ควรเข้าพบแพทย์เพื่อรับการตรวจ PATCH TEST ซึ่งเป็นวิธีทดสอบการแพ้สารเคมีบนผิวหนัง โดยใช้สารเคมีที่สงสัยว่าแพ้ นำมาแปะติดลงบนหลังของผู้ป่วย ทิ้งไว้ 2 วันแล้วอ่านผล ถ้ามีอาการผื่นแดงขึ้นบริเวณที่ทดสอบแสดงว่าแพ้สารนั้น
SAFETY FIRST *ปลอดภัยไว้ก่อนควรเลือกครีมบำรุงที่ได้มาตรฐานรับรองจาก อย. *และ ในผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย ควรเลือกครีมที่ไม่มีสารที่ทำให้แพ้ผสมอยู่ เช่น ไม่มีน้ำหอม (Fragrance free , Perfume free, Hypo-allergic, Non-irritant, High tolerance, For sensitive skin) และไม่มีสารที่ทำให้แพ้ผสมอยู่ (รู้ได้จากการตรวจ PATCH TEST) อายุหลังผลิตไม่เกิน 2 ปี *เนื้อครีมไม่จับตัวเป็นก้อน สี และกลิ่นไม่เปลี่ยนแปลง ที่สำคัญคือ ควรทาครีมตามเวลาที่ระบุ เช่น *ไนท์ครีมควรทาบาง ๆ ตอนกลางคืน เพราะกรดเรติโนอิก (retinoic acid) ที่ช่วยลดสิวและริ้วรอย มีผลทำให้ผิวบวมแดงเมื่อถูกแสงแดด *ส่วนครีมกันแดดควรทาทุกๆ 2-3 ชั่วโมง (SPF 15) เพราะสารกันแดดจะช่วยปกป้องผิวได้เพียงระยะหนึ่งเท่านั้น
*สิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้ คือ ควรหลีกเลี่ยง ฝุ่นละออง อาบน้ำอุ่น ซาวน่า ว่ายน้ำ ลอกหน้า ขัดหน้า *หรืออยู่ห้องแอร์นานกว่า 8 ชั่วโมงต่อวัน *และเพื่อริมฝีปากสวยๆ ควรหลีกเลี่ยงยาสีฟันที่มีฟองมากหรือผสมแอลกอฮอล์ ฟลูออไรด์เข้มข้นสูง มีรสเผ็ดซ่า *เลี่ยงลิปสติกสีเข้ม มีกลิ่นฉุน เลิกเลียริมฝีปาก อย่าลืมดื่มน้ำให้มากขึ้นด้วยนะคะ
ที่มา Health & Cuisine
สารบัญ บทความเรื่อง เคล็ดลับความงาม ที่มีในบล็อกค่ะ คลิกดู ที่นี่ค่ะ
Create Date : 24 กรกฎาคม 2552 |
|
0 comments |
Last Update : 24 กรกฎาคม 2552 12:44:27 น. |
Counter : 782 Pageviews. |
|
|
|