เบื้องหลังสวยใสอ่อนกว่าวัยที่คุณก็ทำได้
เห็นบางคนอายุก็มากแต่ดูเด็กกว่าวัยเป็นสิบปีแล้วนึกอิจฉา ทำไมชั้นไม่มีบุญวาสนาอย่างนั้นบ้างน้อ เรื่องความสวยไม่ใช่เรื่องของบุญวาสนาหรอกค่ะ แล้วครีมลดเลือนริ้วรอยกระปุกละเป็นหมื่นเต็มหน้ากระจก ก็ไม่ได้ให้ความสวยอ่อนวัยที่ถาวร การใส่ใจดูแลศีรษะจรดปลายเท้าอย่างสม่ำเสมอตั้งแต่เนิ่นๆ นั่นต่างหาก คือเบื้องหลังความงามที่แท้จริง และคุณเองก็สามารถเป็นสาวสองพันปีที่เดินเปล่งรัศมีได้เหมือนกัน หากเริ่มปฏิวัติการดูแลความสวยความงามเสียแต่วันนี้
ใบหน้าสดใสอ่อนกว่าวัย
1. ใบหน้าที่บอบบางย่อมไม่เหมาะกับการโดนขูดขีดหรือสัมผัสแรง ๆ ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ล้างหน้า จึงควรเป็นแบบที่อ่อนโยนต่อผิวไม่ระคายเคือง ไม่มีฟอง รวมถึงสบู่ที่ใช้อาบน้ำ ควรใช้เป็นสบู่เหลวล้างหน้า หรือบางคนที่ไม่ได้มีกลิ่นตัวแรง การอาบน้ำตอนเช้าอาจไม่ต้องใช้สบู่ก็ได้ ประหยัดแถมผิวจะนุ่มเนียนเหมือนผิวเด็กอีกต่างหาก
2. หากผิวขาดความชุ่มชื้นก็จะเกิดริ้วรอยได้ง่าย เคล็ดลับเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวทุก ๆ วัน คือให้เติมมอยส์เจอไรเซอร์ลงไปในสบู่เหลวล้างหน้า นอกจากเพิ่มความชุ่มชื้นแล้วยังช่วยลดฟอง ส่วนผิวกาย หลังจากที่พรมน้ำจนทั่วตัวตอนอาบน้ำ ให้ทามอยส์เจอไรเซอร์หรือเบบี้ออยล์ก่อน จึงค่อยใช้ครีมอาบน้ำ วิธีนี้จะช่วยให้ผิวได้รับการบำรุงชุ่มชื้นทำให้รูขุมขนเล็กลง ลดการที่ผิวจะโดนขูดขีดจนเกิดริ้วรอยได้
3. กับผิวพรรณใบหน้า ไม่ว่าคุณจะใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดหรือมาส์ก จะต้องทำหลังชโลมน้ำแล้วทุกครั้ง จำไว้ว่าห้ามใช้ผลิตภัณฑ์ใดๆในขณะผิวหน้าแห้งเด็ดขาด เพราะเนื้อผลิตภัณฑ์จะไปสัมผัสกับผิวหน้าโดยตรง โดยไม่มีตัวกลางอย่างน้ำมาคอยกั้น แม้แต่ตอนทามอยส์เจอไรเซอร์ก็ไม่ต้องเช็ดหน้าให้แห้ง ซับแค่หมาด ๆ ก็พอ
4. การใช้สบู่ออยล์ หรือผลิตภัณฑ์ใด ๆ ของผิวหน้าก็ตามให้ใช้ 60 วินาทีเสมอ อย่างใช้โฟมล้างหน้าก็ให้นวดวนไปเรื่อย ๆ 60 วินาที ทามอยส์เจอไรซ์ก็ให้นวดคลึง 60 วินาที การใช้เวลาที่เพิ่มขึ้นจากเดิมเล็กน้อยนี้ จะทำให้เนื้อครีมซึมซาบเข้าสู่ผิวได้ดีขึ้น และใบหน้าก็ได้รับการนวดกระตุ้นการไหลเวียนเลือด และน้ำเหลืองไปในตัว
5. ในการใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวให้ใช้ตามขั้นตอน คือโทนเนอร์ เซรั่มหรือทรีทเม้นท์ มอยส์เจอไรเซอร์ แล้วปิดท้ายด้วยครีมกันแดด ไม่ควรข้ามสเต็ป และในการทาควรรอ 3 นาทีก่อนใช้ผลิตภัณฑ์ต่อไป เช่น ใช้โทนเนอร์แล้วรอ 3 นาทีจึงทาเซรั่มต่อ แล้วรออีก 3 นาทีจึงทามอยส์เจอไรเซอร์ การรอนี้เพื่อให้เนื้อครีมบำรุงซึมซาบเข้าสู่ผิวก่อน การไม่รอแล้วทาซ้ำลงไปทันที จะทำให้เนื้อครีมเหนอะอยู่ด้านบน และโดนนิ้วเกลี่ยออกไปก่อนซึมสู่ผิว
6. ในการแต่งหน้าคุณควรใช้เบสด้วย โดยเฉพาะคนที่ไม่ชอบใช้ครีมกันแดดและรองพื้น เพราะนอกจากเบสจะช่วยปรับสีผิวให้สม่ำเสมอแล้ว ยังทำให้แต่งหน้าได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติให้ใบหน้าดูกระจ่างใส ช่วยป้องกันรังสียูวีที่หากสะสมมาก ๆ ก็จะทำให้เกิดความหมองคล้ำ ริ้วรอยและมะเร็งได้ แล้วยังช่วยป้องกันไม่ให้ฝุ่นเข้าไปอุดตันยังรูขุมขนด้วย
7. ผิวพรรณจะสดใสได้เกิดจากความรู้สึกสดชื่นทั้งร่างกายและจิตใจ หากคุณเป็นหนุ่มสาวที่ต้องทำงานท่ามกลางความกดดัน หรือต้องไปเจอแสงแดดที่ทำให้อ่อนเพลียได้ง่าย ควรมีสเปรย์น้ำแร่ติดตัวไว้ เมื่อรู้สึกเพลีย เหนื่อย อ่อนล้าหรือผิวเริ่มขาดความชุ่มชื้น ก็หยิบมาฉีดพรมให้ทั่วใบหน้าเพื่อคืนความสดชื่นให้กับผิวและอารมณ์ หรือใช้วิธีประหยัดอย่างล้างหน้าด้วยน้ำเย็นก็ได้ค่ะ
ผมหนาดกดำทุกช่วงวัย
1. ที่หลายคนมีรังแคหรือเป็นสิวที่หนังศีรษะ เป็นเพราะไม่รู้ทริคของการทำความสะอาดเส้นผมและหนังศีรษะ คือเวลาสระผมคุณควรเริ่มสระที่หนังศีรษะก่อนแล้วค่อยมาที่ผม หลายคนนวดที่ความสะอาดเส้นผมก่อนจึงไปนวดเกาที่หนังศีรษะ ซึ่งเท่ากับเป็นการเอาฝุ่นละออง และสิ่งสกปรกที่เส้นผมลงไปสู่หนังศีรษะ ทำให้หนังศีรษะกลับยิ่งสกปรกยิ่งขึ้น แล้วหมักหมมกลายเป็นรังแคหรือสิวได้
2. การใช้ครีมนวด ใช้แค่ตรงปลายผมก็พอ เพราะโคนผมจะมีน้ำมันที่คอยให้ความชุ่มชื้นอยู่แล้ว หากเราใช้ครีมนวดผมอีกก็จะยิ่งเพิ่มความมัน ทำให้ฝุ่นละอองและสิ่งสกปรกไปเกาะได้ง่ายขึ้น ซ้ำร้ายหากล้างเอาครีมนวดผมซึ่งมักจะเหนียวล้างออกยากออกไม่หมด ก็จะหมักหมมอยู่ที่โคนผมและหนังศีรษะ ทำให้เกิดไขมันอุดตัน
3. การใช้ความร้อนทำให้ผมเสียได้ง่าย ในการเป่าไดร์ผมทุกครั้งจึงควรใช้เวลาให้น้อยที่สุด เคล็ดลับคือให้คุณซับผมให้แห้งหมาดที่สุดก่อน จากนั้นทามูสลงบนเส้นผมเล็กน้อย เพื่อป้องกันเส้นผมจากความร้อน และเคลือบผมไม่ให้แกนผมโดนความร้อนและคายน้ำออกมามากนัก จากนั้นก้มศีรษะลงแล้วเริ่มเป่าผมที่อยู่ด้านในก่อน แล้วไล่เป่าออกมาด้านนอกและให้เป่าจากโคนผมสู่ปลายผม วิธีนี้จะทำให้ผมแห้งเร็วขึ้น 1 ใน 3 จากเวลาที่เคยใช้ปกติเลยทีเดียว
4. สาวผมสั้นมักจะสุขภาพผมดีกว่าสาวผมยาว เพราะผมจะไม่หนักมาก ทำให้เส้นผมไม่โดนดึงรั้งตามแรงโน้มถ่วงของโลก อาหารก็ไปเลี้ยงได้ถึงปลายผม คนผมสั้นมักจะแห้งแตกปลายยากกว่าคนผมยาว แล้วเคล็ดลับในการตัดผมคือควรตัดเป็นชั้น ๆ เพื่อไม่ให้ผมอบร้อนและอับ การตัดแบบนี้จะช่วยให้ผมดูนิ่มเงางาม และดูเป็นธรรมชาติ
5. เมื่อวัยล่วงเลย สีผมย่อมเปลี่ยนแปลง ซึ่งไม่ต้องกังวลไปเพราะใคร ๆ ก็เป็นกัน เพียงแต่ว่าใครจะมีเทคนิคจัดการกับปัญหานั้นอย่างไรเท่านั้นเอง สาวสุขภาพดีจะไม่แก้ปัญหาด้วยการย้อมผม เพราะเธอจะรู้ว่านั่นจะยิ่งเป็นการทำร้ายผมที่อ่อนแอ และร่วงโรยแรงตามกาลเวลา แต่เธอจะใช้เป็นมาสคาร่ามาปัดเพื่อปกปิดเส้นผมขาวนั้นแทน ล้างออกก็ง่าย แถมไม่มีสารเคมีมาซึมเข้าสู่เส้นผมจนทำผมเสียอีกด้วย
มือเต่งตึง เล็บเงางาม แม้วัยเปลี่ยน
1. ว่ากันว่าจะดูคนไหนอายุมากหรือไม่ ให้สังเกตกันที่ความเต่งตึงของมือมากกว่ารอยเหี่ยวย่นบนใบหน้า ฉะนั้นใครที่ละเลยการปรนนิบัติผิวพรรณบริเวณมือพึงสังวรไว้ให้ดี ว่าในอนาคตสิ่งนี้อาจย้อนกลับมาประจานคุณได้ คุณจึงควรหมั่นทาครีมบำรุงไว้ให้สม่ำเสมอ อย่าปล่อยให้ผิวบริเวณนี้แห้งกร้าน ส่วนสาวออฟฟิศที่กระหน่ำใช้มือและเล็บหน้าแป้นคอมพิวเตอร์อย่างหนัก ยามมีวันว่างก็ไปทำสปามือและเล็บ เพื่อให้รางวัลทั้งกับตัวเองและมือกับเล็บบ้างนะคะ
2. ดูแลมือและเล็บให้สะอาดอยู่เสมอ ด้วยการใช้แปรงขนนุ่มกับสบู่อ่อน ๆ ถูเบา ๆ บริเวณมือ เท้าและเล็บ แล้วอย่าลืมที่จะถูใต้เล็บ ซึ่งเป็นบริเวณที่มีเชื้อโรคเข้าไปสะสมอยู่มากที่สุดด้วย จากนั้นจึงล้างสบู่ออกด้วยน้ำอุ่น
3. สาวที่ชอบทาเล็บควรเลือกใช้ยาทาเล็บที่ดีๆ การใช้ยาทาเล็บราคาถูกที่วางขายตามตลาดนัดมักทำให้เล็บเหลือง แล้วหลังทาเล็บให้ทาน้ำยาเคลือบเล็กด้วย เน้นทาเยอะๆ ที่โคนเล็บเพื่อให้ช่วยป้องกันแสงยูวี ช่วยให้เล็บไม่เหลืองได้ แล้วยังทำให้ออกซิเจนไม่เข้าไปยุ่งกับสียาทาเล็บจนสีเปลี่ยนด้วย
4. กินอาหารที่มีประโยชน์ตามหลักโภชนาการ เพราะเล็บก็เป็นส่วนหนึ่งของร่างกายที่ต้องการสารอาหาร เพื่อการเจริญเติบโตเหมือนกัน ส่วนสารอาหารที่เล็บต้องการ เช่น โปรตีน วิตามินเอ ซี และอี รวมถึงแร่ธาตุสังกะสีที่มีอยู่ในอาหารทะเลและเมล็ดธัญพืช
เริ่มดูแลความสวยความงามด้วยวิธีง่าย ๆ และประหยัดตั้งแต่วันนี้ ก็จะทำให้คุณดูสวยอ่อนเยาว์ เป็นที่อิจฉาของใครต่อใครไปได้อีกนานเลยเชียว
ที่มา : //www.vcharkarn.com/vblog/49139 ภาพจาก : //www.buzzle.com
สารบัญ ความงาม
Create Date : 04 ธันวาคม 2552 |
Last Update : 3 สิงหาคม 2554 1:02:17 น. |
|
1 comments
|
Counter : 941 Pageviews. |
|
|
|