สวนกลางเมือง
จำนวน สมาชิกที่เพิ่มขึ้น ทำให้ครอบครัวภูวเจริญต้องขยายพื้นที่ใช้สอยภายในบ้าน โดยสร้างอาคารชั้นเดียวขึ้นมาอีกหนึ่งหลัง ให้เชื่อมต่อกับตัวอาคารหลังเดิมซึ่งเป็นบ้านเก่าอายุกว่า 50 ปี การต่อเติมอาคารครั้งนี้ ส่งผลให้เกิดการปรับปรุงสวนตามมา มุมมองใหม่ๆจากภายในบ้านจึงเกิดขึ้น โดยได้ คุณพิเชษฐ์ วานิชเจริญธรรม -สถาปนิก เป็นผู้กำหนดแนวคิดในการออกแบบ
"เมื่อพื้นที่ใช้สอย เดิมเริ่มคับแคบ ผมจึงแนะนำเจ้าของบ้านว่า ควรสร้างบ้านใหม่ขึ้นมาอีกหนึ่งหลัง โดยกำหนดให้เป็นห้องนอนขนาดใหญ่ของเจ้าของบ้าน และออกแบบให้มีห้องกระจกเป็นส่วนเชื่อมต่อกับบ้านเก่า ซึ่งบริเวณนี้จะเป็นส่วนที่ใช้งานบ่อยที่สุด เป็นทั้งห้องนั่งเล่น และห้องอาหารที่มองออกไปเห็นสวนทั้งสองฝั่ง
โดยออกแบบให้กลมกลืนกับธรรมชาติมากที่สุด ใช้วัสดุหินทรายเข้ามาช่วยตกแต่งผนัง เนื่องจากต้องการให้อาคารดูเป็นส่วนหนึ่งของสวน
"สวนด้านหน้า ห้องกระจก ปลูกพรรณไม้เมืองร้อนให้รับกับสวนส่วนอื่นๆ ส่วนด้านหลัง ออกแบบเป็นสวนครัว และอีกบริเวณที่เชื่อมต่อกับสำนักงานซึ่งเดิมเป็นที่รกร้าง ผมเสนอเจ้าของบ้านว่า หากปรับปรุงเป็นสวนจะดีมาก โดยออกแบบให้มีมุมนั่งเล่น ต่อเนื่องกับสำนักงาน ซึ่งคุณศุภกิจ มีลาภ - นักจัดสวน ได้ร่วมกันสานต่อแนวคิดนี้ขึ้นมา "
การออกแบบและจัดสวน แห่งนี้ นอกจากจะเน้นตอบสนองความต้องการแล้ว ยังออกแบบให้เหมาะกับการใช้งานในชีวิตประจำวันของผู้เป็นเจ้าของ ซึ่งคุณศุภกิจได้สรุปความต้องการออกมาดังนี้
"เนื่องจากเจ้าของบ้าน ต้องการความเป็นส่วนตัว ไม่อยากให้ผู้ที่นั่งในศาลาฝั่งสำนักงาน มองเข้ามาเห็นที่นั่งเล่นภายในบ้านซึ่งเป็นพื้นที่ส่วนตัว ขณะเดียวกันก็ไม่ต้องการให้มืดทึบ จึงออกแบบให้มีสวนพรางบริเวณหน้าห้องนั่งเล่น โดยเจ้าของต้องการต้นไม้ที่ดูแลง่าย เป็นไม้เมืองร้อน รูปทรงอิสระ เดิมทียังไม่ได้ทำจุดรับน้ำ เมื่อน้ำตกลงมาจากชายคา ผนังสีขาวด้านข้างจะเกิดเป็นรอยด่างดำ จึงแก้ปัญหาด้วยการทำจุดรับน้ำ น้ำจะตกลงมาบนพื้นกรวดด้านล่าง ซึ่งเป็นรางระบายน้ำจึงไม่เกิดน้ำท่วมขัง
"ด้าน หลังบ้านออกแบบเป็นสวนครัว เนื่องจากครอบครัวนี้จะทำอาหารรับประทานที่บ้าน จึงคิดว่าทำอย่างไร ให้สวนครัวดูไม่รก และทันสมัยเข้ากับลักษณะของตัวบ้าน ผมจึงออกแบบแปลงปลูกพืชเป็นลายเส้นปูน มีค้างปลูกไม้เลื้อยเพื่อบังเรือนคนรับใช้บริเวณด้านหลัง เมื่อบวบที่ปลูกเลื้อยขึ้นบนดาดฟ้า ซึ่งอยู่บริเวณหน้าห้องนอน จึงช่วยให้เกิดภาพที่สวยงาม ลดแสงสะท้อน และความร้อนที่สะท้อนพื้นปูนเข้ามาในห้อง
"สวนด้านหน้าที่เชื่อม ต่อกับสำนักงาน เดิมเคยจัดไว้ แต่เป็นพรรณไม้ที่ชอบแสงแดดจัด เมื่อต้นไม้ใหญ่เริ่มโต หญ้าที่ปลูกไว้จึงตายหมด เหลือเพียงดินกับแผ่นทางเดินหินทราย เมื่อถึงคราวปรับปรุงสวนใหม่ จึงเปลี่ยนเป็นไม้ทนร่มประเภทไม้ใบที่ไม่ต้องดูแลมากนัก
ส่วนที่เคยเป็นหญ้าเปลี่ยนเป็นพื้นกรวดทั้งหมด และเนื่องจากเจ้าของบ้านมีหลาน 2 คน ช่วงเย็นจะออกมานั่งเล่นดูหลาน จึงหาจุดวางม้านั่ง และทำบ่อทรายสำหรับเด็ก โดยออกแบบให้บ่อทรายมีขนาด ไม่ใหญ่นัก และพร้อมที่จะปรับเปลี่ยนได้เสมอ หากอนาคตไม่ได้ใช้ก็สามารถยกไม้หมอนออก แล้วถมทราย โรยกรวด ปรับเป็นพื้นปกติได้
"รอบๆสวนทาสีรั้วด้วยสีเขียวเพื่อพรางตาให้ พื้นที่ดูกว้างกว่าความเป็นจริง และดูเข้ากับพรรณไม้ที่ปลูกซึ่งยังขึ้นไม่เต็มแนวรั้ว ส่วนเฟอร์นิเจอร์ และกระถางเดิมที่สามารถใช้งานได้ ก็จะนำกลับมาใช้อีกเพื่อไม่ให้สิ้นเปลือง "
ทั้งหมดนี้ ช่วยให้สวนสำเร็จลงได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งคุณอำภา ภูวเจริญ เจ้าของบ้านบอกว่า หลังการปรับปรุงบ้านและสวนครั้งนี้เสร็จสิ้น สภาพบรรยากาศภายในบ้านดีขึ้นมาก มีการเชื่อมต่อของกันและกันได้อย่างลงตัว ทุกคนในบ้านได้ออกมาใช้ประโยชน์ในสวน ซึ่งนอกจากสวนจะสร้างภาพลักษณ์ที่สวยงามให้กับบ้านแล้ว ขณะเดียวกันบ้านก็สามารถเป็นส่วนหนึ่งของสวนได้เช่นกัน
ท่ามกลาง ตึกสูงระฟ้ากลางเมืองที่แออัด จึงยังมีบ้านที่ถูกโอบล้อมด้วยสวน ซึ่งให้ความรู้สึกอบอุ่นและร่มรื่นในพื้นที่ขนาดเล็ก ที่หลายคนสามารถทำได้
เรื่อง :"ทิพาพรรณ" ภาพ : อภิรักษ์ สุขสัย,นันทิยา บุษบงค์ เจ้าของ : คุณอำภา - คุณจิรศักดิ์ ภูวเจริญ ที่มา ://www.baanlaesuan.com/garden_preview.aspx?articleId=1617
สารบัญค้น เรื่อง แต่งบ้าน จัดสวน ที่มีในบล็อกค่ะ คลิกที่นี่ค่ะ
Create Date : 23 พฤศจิกายน 2552 |
|
1 comments |
Last Update : 2 ธันวาคม 2552 2:42:50 น. |
Counter : 2783 Pageviews. |
|
|
|
|