|
เส้นบางๆ ระหว่าง“มาก” กับ “น้อย”
หากพูดถึงการสร้างบ้านสักหลัง บางคนอาจมองหาพื้นที่ที่อยู่ห่างจากใจกลางเมืองออกไปสักหน่อย เพื่อหลีกหนีความวุ่นวายของเมือง การจราจรที่ติดขัด พร้อมกับแสวงหาอากาศบริสุทธิ์ ที่หาไม่ได้ในกรุงเทพมหานคร การมีบ้านสักหลังในพื้นที่ชานเมืองจึงอาจเป็นคำตอบสำหรับคนเมืองที่เบื่อ เมือง เว้นแต่คุณมีที่ดินกว้างใจกลางเมืองอย่างบ้านสไตล์โมเดิร์นทรอปิคัลหลังนี้ พื้นที่กว่า 2 ไร่ในย่านถนนสุขุมวิท คงเป็นทำเลที่หลายคนอิจฉา เพราะอยู่ใกล้ความเจริญและศูนย์กลางการคมนาคม แต่เมื่อได้เข้าไปสัมผัสภายในบริเวณบ้าน แค่เดินจากรั้วเข้าไปเพียง 40 เมตรเท่านั้น กลับรู้สึกได้ถึงความสงบและธรรมชาติที่ร่มรื่น
เจ้าของบ้านออกมาต้อนรับเราอย่างเป็นกันเอง ก่อนจะพาเดินชมรอบบริเวณบ้านที่จัดเป็นสวนเมืองร้อน เน้นความร่มรื่น สร้างบรรยากาศเย็นสบายให้แก่บ้าน เมื่อเข้าไปภายในบ้านก็จะพบการตกแต่งสไตล์โมเดิร์น ด้วยคู่สีในโทนสีร้อน ทำให้แต่ละห้องดูอบอุ่นเหมาะสำหรับการพักผ่อน บวกกับบทสนทนาที่เป็นกันเองในวันนั้น ทำให้เรารู้สึกว่าบ้านหลังนี้ (ซึ่งรวมถึงครอบครัวนี้ด้วย) เป็นบ้านที่น่าอยู่และเหมือนจะพอดีกับการเป็นบ้านในเมืองหลวงอย่างกรุงเทพมหานครจริงๆ
“เดิมพื้นที่ที่สร้างบ้านหลังนี้เป็นบ้านพักอาศัยของคุณพ่อคุณแม่ แต่เป็นบ้านเก่า มีช่วงเสาไม่กว้างนัก พื้นที่ภายในก็เล็กๆ เมื่อถึงวันหนึ่งที่จะต้องมีครอบครัว เลยคิดว่าพื้นที่บ้านหลังนี้ไม่น่าจะเพียงพอแล้ว จึงตัดสินใจขออนุญาตคุณพ่อคุณแม่ทุบและสร้างบ้านใหม่ปัจจุบันคุณพ่อคุณแม่ อยู่ชั้นหนึ่ง เพราะจะได้ไม่ต้องเดินขึ้นลงบันไดให้เหนื่อย และการอยู่ชั้นล่างก็ยังมองเห็นสวนได้ใกล้ชิดกว่าชั้นอื่นๆด้วย”
“ชอบบ้านเรียบๆ ไม่ต้องมีรายละเอียดมาก แต่ต้องอยู่สบาย เดิมผนังของบ้านบางส่วนเตรียมการไว้สำหรับบุหิน Rexstone สีออกครีมๆ แต่พอมาเห็นแบบจำลองที่สถาปนิก ทำให้และพิจารณาเรื่องความสวยงามและการดูแล รักษาอีกที ก็เลือกที่จะไม่บุหิน แต่ทำเป็นผนังฉาบปูนเรียบทาสีก็พอ เมื่อบ้านเสร็จแล้วทุกคนในบ้านก็ชอบกัน ถือว่าตัดสินใจถูกค่ะ” เจ้าของบ้านกล่าวกับเราเช่นนั้น
บ้านหลังนี้มีพื้นที่ใช้สอยประมาณ 880 ตารางเมตร ชั้นหนึ่งประกอบด้วยห้องนอนและห้องทำงานของคุณพ่อคุณแม่พร้อมห้องน้ำและระเบียงที่เชื่อมต่อห้องนอน และสวนกลางบ้านเข้าด้วยกัน ด้านหลังบ้านเป็นส่วนบริการ และห้องแม่บ้านชั้นสองเป็นพื้นที่ส่วนกลางของคนในครอบครัว การเข้าถึงจะมีบันไดจากส่วนเทียบรถ (drop off) ขึ้นมาสู่ทางเดินชั้นสองและเชื่อมเข้าสู่ส่วนนั่งเล่น - รับแขก ส่วนรับประทานอาหาร ครัวเล็กๆ และห้องอ่านหนังสือสำหรับเด็กๆ ชั้นสามเป็นห้องนอน 2 ห้อง ห้องทำงาน และห้องพระเล็กๆ สถาปนิกออกแบบให้พื้นที่ของเจ้าของบ้านและแม่บ้านอยู่ในอาคารหลังเดียวกัน แต่ทำทางขึ้นลงแยกกันอย่างชัดเจนเพื่อความเป็นส่วนตัว
ความสูงของชั้นปกติประมาณ 3.80 เมตร รวมสองชั้นก็จะเท่ากับ 7.60 เมตร สถาปนิกจึงออกแบบให้ใช้ความสูงของสองชั้นปกตินี้ซอยเป็นสามชั้นสำหรับ พื้นที่ของแม่บ้าน ช่วยในเรื่องการใช้พื้นที่ได้อย่างคุ้มค่า
“บ้านหลังนี้เป็นการทำงานร่วมกับผู้ออกแบบจริงๆ เพราะส่วนตัวคิดว่าคงไม่มีใครรู้ความต้องการของเรามากกว่าตัวเราเอง แบบที่สถาปนิกเสนอมา เราก็จะมาคุยกันในบ้านและคิดกันว่าเหมาะสมไหม มีตรงไหนมากไปน้อยไปบ้าง จะสร้างบ้านต้องคิดให้เยอะๆ เพราะเราต้องอยู่ที่บ้านนี้ไปอีกนานนับสิบๆ ปี” เจ้าของบ้านฝากข้อคิดกับเราก่อนที่จะจบบทสนทนาในวันนั้น
บางครั้งระหว่าง “มาก” กับ “น้อย” ก็เกิดจากการคิดทบทวนถึงการมีอยู่ของชีวิต และการให้ความสำคัญกับบ้าน เพราะบ้านนั้นคือชีวิต และชีวิตก็คือความจริง
ห้องพักผ่อนของครอบครัวทำช่องเปิดสูงจากพื้นถึงฝ้า รับแสงธรรมชาติและสามารถมองเห็นสีเขียวของต้นไม้ได้อย่างเต็มที่
สวนเมืองร้อนบริเวณทางเข้าด้านหน้าบ้าน เจ้าของบ้านและสถาปนิกตั้งใจเก็บรักษาตีนเป็ดน้ำต้นเดิม ที่สูงกว่า 8 เมตรไว้ให้ร่มเงาแก่บ้าน ส่วนลั่นทมที่ปลูกใหม่ก็เสริมให้สวนดูผ่อนคลายมากขึ้น
มองจากมุมสูง ถึงจะอยู่ใจกลางเมือง แต่ต้นไม้สีเขียวก็ยังขึ้นรอบบ้านหลังนี้อย่างหนาแน่น
บริเวณทางขึ้นหน้าบ้านทำหลังคาระแนง เพราะเป็นด้านที่หันไปทางทิศเหนือ จึงต้องออกแบบให้สามารถป้องกันแสงแดด แต่ลมก็ยังพัดผ่านได้ดี
ทางเดินภายในที่นำไปยังห้องต่างๆ บนชั้นสอง ด้านข้างทำเป็นที่นั่งปูหินแกรนิตสีดำ ยกระดับขึ้นมาให้พอดีกับช่องแสง เป็นพื้นที่นั่งเล่นและรับแขกอย่างไม่เป็นทางการได้
พื้นระเบียงที่ติดกับห้องนั่งเล่นปูหินแกรนิตสีเทาทำผิวด้าน ต่อเนื่องไปถึงบันไดของส่วนบริการที่เจาะช่องให้แสงสว่าง ซึ่งดูเรียบง่ายและเข้ากับรูปแบบของบ้าน
ส่วนนั่งเล่น ส่วนรับประทานอาหาร และครัวเล็กๆ ที่เป็นพื้นที่ต่อเนื่องถึงกันได้ เพียงเปิดประตูบานเฟี้ยมให้สุดเท่านั้น สีส้ม น้ำตาล และครีมที่ใช้ในการตกแต่ง บวกกับการเน้นสีดำในบางจุด ทำให้บริเวณนี้ดูน่าสนใจและน่าพักผ่อนมากขึ้น
ห้องพระออกแบบให้ใช้พื้นที่อย่างคุ้มค่า โดยประดิษฐานพระพุทธรูปไว้หลังประตูบานเฟี้ยมสีขาว และเจาะผนังทำ เป็นหน้าต่างนำแสงธรรมชาติเข้ามา
ห้องนอนใหญ่กับการตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์น้อยชิ้นในโทนสีเอิร์ธโทน หัวเตียงเลือกตกแต่งแค่เพียงการให้แสงจากฝ้าเท่านั้น ให้ความรู้สึกเรียบนิ่งไปอีกแบบ
ห้องน้ำใหญ่ออกแบบให้มีอ่างล้างหน้า 2 ใบ เพื่อความสะดวกในการใช้งานพร้อมๆ กัน อีกด้านหนึ่งมีการจัดสวนอยู่ภายนอก สร้างความร่มรื่นให้ห้องน้ำได้ไม่น้อย
ระเบียงส่วนต่อจากห้องนอนลูก จัดเป็นมุมสวนกระบองเพชรเล็กๆ ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ครอบครัวนี้ร่วมกันทำ
เรื่อง : “เอกราช ลักษณสัมฤทธิ์” ภาพ: ราสิเกติ์ สุขกาล ที่มา บ้านและสวน
สารบัญค้น เรื่อง แต่งบ้าน จัดสวน ที่มีในบล็อกค่ะ คลิกที่นี่ค่ะ
Create Date : 23 กรกฎาคม 2552 |
Last Update : 23 กรกฎาคม 2552 15:58:58 น. |
|
0 comments
|
Counter : 9659 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|