เรื่องของระเบียงและช่องแสง

การออกแบบให้บ้านมีระเบียงยื่นออกไปไม่ว่าจะเป็นชั้นล่าง หรือชั้นบน
ตามหลักฮวงจุ้ยถือว่ามีทั้งข้อดีข้อเสีย ประเด็นสำคัญจะอยู่ตรงที่ว่า มีแล้วใช้ประโยชน์กับระเบียงนั้นหรือเปล่า

จากข้อมูลที่ผมเก็บมา บ้านส่วนใหญ่ที่ทำระเบียงแล้วไม่ได้ใช้ มักจะเกิดข้อเสียมากกว่าข้อดี
ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดก็คือระเบียงของชั้นบน บางบ้านมีไว้แต่ไม่เคยออกไปใช้เลย ปล่อยให้ขี้ตะไคร้ขึ้นเขียว
เพราะเป็นเชื้อราเกาะผนังปูนจนดำ พื้นระเบียงเต็มไปด้วยฝุ่น ไม่เคยออกไปล้างทำความสะอาดเลย
ระเบียงบ้านที่ปล่อยทิ้งในลักษณะนี้ ย่อมก่อผลเสียมากกว่าผลดีแน่ๆ
ในทางฮวงจุ้ยบอกว่า อะไรก็แล้วแต่ที่ปล่อยทิ้งให้มีสภาพเสื่อมโทรม ถือเป็นที่ตายไม่เจริญ
ซึ่งถ้ามองในเชิงเหตุผลก็ถือว่าไม่ดีจริงๆ เสียด้วย

เอาง่ายๆ นอกจากจะมองดูไม่สวยงามแล้ว ยังก่อสิ่งที่เป็นมลภาวะขึ้นในบ้านอีกด้วย เช่น ฝุ่น เชื้อรา
และที่หลายๆ คนคาดไม่ถึงก็คือ ระเบียง (ชั้นบน) จะเป็นตัวรับน้ำฝนอย่างดี
ถ้าเกิดท่อระบายอุดตัน หรือมีขนาดเล็กจนเกินไป เวลาฝนตกหนักน้ำระบายไม่ทัน
น้ำก็อาจทะลักเข้ามาในห้อง ทำลายพื้นบ้าน (ถ้าเป็นพื้นไม้) และข้าวของภายในห้องได้
กรณีแบบนี้ผมเจอมาแล้ว บ้านที่ปูพื้นปาร์เก้ต้องทำพื้นใหม่ทั้งชั้นก็เพราะสาเหตุนี้
ยิ่งบ้านที่ไม่ค่อยมีคนอยู่ ปล่อยบ้านทิ้งไว้ โอกาสสูงที่จะต้องเจอปัญหานี้

นอกจากเรื่องฝนแล้ว ผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นจากระเบียงก็มีเรื่องของแสงแดดด้วย
ระเบียงส่วนใหญ่เป็นพื้นปูน แสงแดดที่ตกกระทบพื้นระเบียงจะเก็บความร้อนเอาไว้ และจะคลายไอร้อนออกมา
ถ้าเป็นระเบียงห้องนอน ย่อมส่งผลกระทบต่อคนในห้องได้ ถึงจะไม่มากแต่ก็มีผลกระทบ
ยกเว้นระเบียงถูกจัดแต่งให้มีต้นไม้ เพื่อลดแสงแดดลง

อีกประเด็นที่ไม่ควรมองข้าม ระเบียงอาจเป็นจุดที่เอื้อประโยชน์ให้กับพวกโจรขโมย
เพราะเป็นจุดที่เข้าสู่ตัวบ้านได้ง่าย โดยเฉพาะบริเวณระเบียงชั้นบน



แต่ประโยชน์ของการมีระเบียงบ้านก็มีนะครับ ในทางฮวงจุ้ยบอกว่า ระเบียงเป็นที่รับลม
ตำแหน่งของระเบียงที่ดี จึงควรเลือกอยู่ทางทิศใต้ ตะวันตกเฉียงใต้ ทิศตะวันออกเฉียงใต้
เพราะเป็นทิศที่ให้ประโยชน์ในเรื่องของลมโดยเฉพาะ

ประโยชน์ของการมีระเบียง จะเป็นที่รับลมเพื่อให้ภายในบ้านมีอากาศหมุนเวียนที่ดี
โดยเฉพาะระเบียงชั้นบน แต่ระเบียงจะต้องอยู่ทางทิศที่ลมพัดผ่าน ทิศที่เหมาะคือทิศใต้

การมีระเบียงรับลมย่อมดีกว่าหน้าต่าง เพราะมีช่องทางลมใหญ่กว่า
โดยเฉพาะระเบียงที่อยู่ชั้นบน จะทำให้อากาศบริเวณชั้นบนมีการไหลเวียนที่ดี
เพราะลมจะวิ่งผ่านระเบียงกระจายไปทั่วชั้นบน ปรับความสมดุลในเรื่องของอากาศได้เป็นอย่างดี

บ้านที่ไม่มีระเบียงชั้นบนจะก่อสภาพอุดตันได้ง่าย เพราะจะไม่มีลมพัดผ่านเหมือนกับชั้นล่าง
บ้านที่มีขนาดใหญ่ จึงมักนิยมทำระเบียงตรงส่วนกลางของชั้นบนเพื่อเปิดทางลม
หรือไม่ก็ต้องมีช่องหน้าต่างช่องลมเพื่อให้อากาศไหลเวียนได้

ถ้าจะให้สรุปว่า ควรจะสร้างระเบียงหรือไม่ ต้องถามตัวเองก่อนว่ามีระเบียงแล้วใช้หรือเปล่า
ถ้าไม่ได้ใช้ก็อย่าไปสร้างเลยครับ เพราะนอกจากจะเปลืองเงินแล้วยังก่อผลเสียมากกว่า


คราวนี้มาพูดถึงเรื่องของช่องแสงกันบ้าง
บ้านในยุคปัจจุบันมีการออกแบบให้สอดคล้องกับหลักของธรรมชาติมากขึ้น
โดยนำเรื่องทิศทางของแสงแดดและทิศทางลม มาเป็นปัจจัยสำคัญในการพิจารณากำหนดลักษณะของบ้าน
และห้องต่างๆ ภายในบ้านซึ่งถือเป็นหลักที่สอดคล้องกับวิชาฮวงจุ้ยโดยตรง

การเจาะช่องแสงภายในบ้าน ก็เป็นวิธีหนึ่งที่นิยมนำมาใช้กับแบบบ้านสมัยใหม่
โดยเฉพาะบ้านที่มีขนาดค่อนข้างจะใหญ่
เพราะบ้างหลังใหญ่ มักจะประสบปัญหาในเรื่องความไม่สมดุลในเรื่องของแสงสว่างภายในบ้าน
ส่วนกลางของบ้านมักจะมืด เพราะแสงธรรมชาติไม่สามารถส่องถึง
กรณีแบบนี้สามารถทำได้ และเป็นผลดีต่อความสมดุลภายในบ้านอีกด้วย

อย่างแบบบ้านที่นิยมทำกันมากคือ
เจาะช่องแสงบริเวณด้านบ้านหรือประตูทางเข้าบ้านทะลุ เป็นสองชั้นโล่งจนถึงเพดานชั้นบน
ทำให้บริเวณด้านหน้าบ้านสว่างกว่าปกติ เพราะไม่มีเพดานชั้นหนึ่งมาปิดบัง
ตามหลักฮวงจุ้ยถือว่า การไหลเวียนของชี่บริเวณหน้าบ้าน จะกระจายตัวได้ดี
และสามารถกักเก็บพลังชี่เอาไว้ในบ้านได้นานอีกด้วย

"เจาะช่องแสงกลางบ้านได้หรือเปล่า..?"
การเจาะช่องแสงบริเวณกลางบ้าน ซึ่งในทางฮวงจุ้ยมีกล่าวห้ามเอาไว้ว่าไม่ควรทำ
เพราะตำแหน่งใจกลางบ้านถือว่าเป็นจุดสำคัญเป็นตำแหน่งหัวใจของบ้าน
การเจาะช่องแสงจะส่งผลกระทบต่อเจ้าของบ้านโดยตรง
เพราะแสงอาทิตย์ที่แผดกล้าจะเผาผลาญตำแหน่งสำคัญของบ้านนั่นเอง

แต่กรณีนี้คงต้องบอกว่า จะต้องพิจารณาขนาดของบ้านเป็นสำคัญครับ
ถ้าบ้านมีขนาดใหญ่มากก็สามารถทำได้ อย่างกรณีของอาคารสำนักงาน ห้างสรรพสินค้า
ก็นิยมเจาะช่องแสงบริเวณห้องโถงกลาง เพื่อให้แสงธรรมชาติสามารถกระจายเข้าสูงอาคารได้

กรณีที่ถือว่าผิดหลักฮวงจุ้ยนั้น ส่วนใหญ่จะเป็นกรณีของบ้านที่มีขนาดเล็ก
ถ้ามีการเจาะช่องแสงกลางบ้าน จะส่งผลให้บ้านได้รับความร้อนจากแสงอาทิตย์มากจนเกินไป
โดยเฉพาะเมืองร้อนอย่างประเทศไทย ซึ่งเป็นผลเสียมากกว่าผลดีครับ

เพราะฉะนั้น การจะคิดเจาะช่องแสงภายในบ้าน จะต้องพิจารณาถึงความเหมาะสมด้วย ไม่ใช่จะคิดจะทำก็ทำ
แสงสว่างเป็นสิ่งที่ดี แต่ถ้ามากจนเกินไป ก็กลับเป็นผลเสียได้เช่นกัน
อย่าลืมกฎเกณฑ์เรื่องความสมดุลเสียล่ะครับ?


โดย อ.มาโนช ประภาษานนท์
ที่มา : //www.homedd.com


เรื่องที่เกี่ยวข้อง :
เรียนรู้ใช้...แสงธรรมชาติ ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในบ้าน
เหตุเพราะว่า...ท้าทาย (บ้านบนที่ดินรูปสามเหลี่ยม)


สารบัญตกแต่งบ้าน และ จัดสวน

Create Date : 06 กรกฎาคม 2552		0 comments
Last Update : 26 พฤษภาคม 2553 18:12:23 น.
Counter : 3236 Pageviews.
Share Tweet