Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2552
 
2 กรกฏาคม 2552
 
All Blogs
 
ภูมิแพ้ บ้านไม่แพ้

วิธีจัดบ้านลดภูมิแพ้,how to

สภาพแวดล้อมเป็นตัวกระตุ้นสำคัญ ที่ส่งผลให้อาการของโรคภูมิแพ้แสดงตัวออกมา
และเป็นที่มาของความเสี่ยงข้างต้น ฉะนั้น แม้ภูมิแพ้จะเป็นโรคที่ ไม่มีทางรักษาหาย
แต่การจัดการกับสภาพแวดล้อม เพื่อลดตัวกระตุ้นของโรคที่อยู่รอบๆตัวเรา
ก็เป็นหนทางที่ จะช่วยให้ผู้ป่วยมีอาการดีขึ้นและมีชีวิตได้อย่างปกติสุข

ตัวกระตุ้นหรือสาเหตุหลักของโรคภูมิแพ้ ที่พบได้ภายในบ้าน ได้แก่

* ตัวไรฝุ่น
สิ่งมีชีวิตขนาดเล็กที่กินเศษซากผิวหนังของคนเป็นอาหาร ไม่ใช่ขี้ฝุ่น
แต่ก็อาจอาศัยอยู่ในขี้ฝุ่นด้วย เป็นสาเหตุหลักของโรคภูมิแพ้ในคนไทย (ร้อยละ 70)

* เชื้อรา
ส่วนที่เราแพ้คือ สปอร์ของรา ซึ่งมักเกิดในที่อับชื้น


* แมลงสาบ
หรือถ้าจะให้ถูกคือ ซากของแมลงสาบต่างหากที่เราแพ้ ไม่ใช่ตัวเป็นๆ เป็นสิ่งมีชีวิตที่มักจะมาคู่กับไรฝุ่น
โดยเฉพาะในเมืองใหญ่ แต่กำจัดได้ง่ายกว่า เพราะตัวโตสังเกตเห็นง่าย

* สัตว์เลี้ยง
หมาและแมวเป็นสัตว์เลี้ยงยอดนิยม แต่ขนของมันก็เป็นอันตรายกับคนเป็นโรคภูมิแพ้

* ละอองเกสรต้นไม้
สำหรับในเมืองไทย ละอองของต้นไม้ที่มีผู้แพ้มาก ได้แก่ หญ้าจอห์นสัน หญ้าเบอร์มิวดา ธูปฤๅษี

คุณหมอลินน่าแนะว่า เราควรเริ่มจากจัดการสิ่งแวดล้อมในที่ที่เราใช้เวลาอยู่มากที่สุดก่อน นั่นก็คือ บ้าน
โดยเริ่มที่ห้องนอน ซึ่งเราใช้ไม่ต่ำกว่าวันละ 8 ชั่วโมง
แล้วค่อยๆขยายไปครอบคลุมถึงบริเวณบ้านชั้นบน ชั้นล่าง และนอกบ้านในที่สุด สำหรับในที่ทำงาน
ซึ่งเราอาจใช้เวลาอยู่ไม่น้อยไปกว่าที่บ้าน ก็ให้ทำเท่าที่ทำได้ โดยใช้หลักการเดียวกับที่บ้าน ดังต่อไปนี้


ห้องนอน

* ที่นอน คุณหมอแนะนำให้ใช้ผ้าปูที่นอนและปลอก หมอนที่ทอแน่นเป็นพิเศษ
เพื่อป้องกันไรฝุ่นโดยเฉพาะ (หาซื้อได้ตามโรงพยาบาลและศูนย์รักษาโรคภูมิแพ้)
ทำให้ไรฝุ่นไม่สามารถแทรกตัวขึ้นมาจากฟูก มันจะอดอาหารและตายในที่สุด
ที่สำคัญ ต้องหมั่นซักชุดเครื่องนอนทุก 1-2 สัปดาห์

* พื้น ห้ามใช้พรมเด็ดขาด


* ม่าน
ไม่ควรใช้ผ้า เพราะเก็บฝุ่น เปลี่ยนมาใช้มู่ลี่ ซึ่งเช็ดทำความสะอาดได้บ่อยและสะดวกกว่าแทน

* ผนังเหนือหัวเตียง
ไม่ควรมีหน้าต่าง เพราะการเปิดม่านหน้าต่างแต่ละครั้ง จะทำให้ฝุ่นในม่านตกลงบนเตียง

* โต๊ะหัวเตียง
ควรวางของให้น้อยที่สุดเท่าที่จำเป็น เพื่อไม่ให้เป็นที่อยู่อาศัยของฝุ่นและไรฝุ่น

* เครื่องปรับอากาศ
จะช่วยลดความชื้นภายในห้องนอนได้ จึงเหมาะกับผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้

* ตู้เสื้อผ้า
ควรมีบานประตูปิดมิดชิด หรือจะให้ดีอาจแยกทำเป็นห้องแต่งตัว ที่มีประตูปิดกั้นออกจากส่วนนอน




ห้องน้ำ

* ประตูห้องน้ำ
ควรปิดไว้เสมอระหว่างนอนตอนกลางคืน เพื่อไม่ให้ความชื้นจากห้องน้ำเข้าสู่ห้องนอน

* หน้าต่าง
เพื่อให้อากาศถ่ายเทได้ดี ไม่อับชื้น และให้แสงสว่างส่องถึง เพื่อลดการเสี่ยงในการเกิดเชื้อรา ในจุดต่างๆ

* ม่านห้องน้ำ หมั่นซักด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเชื้อรา

* ยาแนวกระเบื้อง
คือจุดที่เกิดเชื้อราได้ง่าย จึงต้องหมั่นสังเกต ทำความสะอาดและซ่อมแซมหากเกิดราดำ



ห้องนั่งเล่น

* โซฟาตัวโปรด
ควรเลือกที่หุ้มด้วยหนังหรือหนังเทียม เพื่อให้เช็ดทำความสะอาดได้ง่าย

* ชั้นหนังสือ
ควรมีบานตู้ปิดมิดชิดแทนชั้นแบบเปิดโล่ง เพื่อลดอัตราการสะสมฝุ่น

* วอลล์เปเปอร์
ที่ผ่านร้อนผ่านฝนมาหลายปี อาจเกิดเชื้อราได้
หากต้องการติดจริงๆ ควรหลีกเลี่ยงผนังที่เสี่ยงต่อการอับชื้น (ผนังเดียวกับห้องน้ำหรือผนังที่มีประตูหน้าต่าง)

* สัตว์เลี้ยงในบ้าน
ถ้าชอบเลี้ยงสัตว์ ขนแมวจะเป็นตัวกระตุ้นโรคภูมิแพ้ได้มากกว่าขนสุนัข
อย่างไรก็ตาม ไม่ควรนำเข้าห้องนอน และไม่ควรให้นั่งบนโซฟาหรือเก้าอี้ตัวโปรด

* เครื่องฟอกอากาศ
จะฟอกเฉพาะสิ่งที่อยู่ในอากาศ เหมาะสำหรับคนที่แพ้ขนสัตว์หรือละอองเกสร ที่มักจะปลิวว่อนในอากาศ
แต่ไรฝุ่นซึ่งมีน้ำหนักมากและไม่บิน จะไม่ได้ถูกฟอกไปด้วย


ห้องครัว

* อ่างล้างจาน
ไม่ควรให้มีเศษอาหาร รวมถึงจานชามที่สกปรกค้างไว้นานๆ เนื่องจากจะเป็น แหล่งอาหารของแมลงสาบ

* ท่อน้ำ
ระวังอย่าให้กลายเป็นที่อยู่อาศัยของแมลงสาบ และหากรั่วก็ควรซ่อมแซม เพื่อไม่ให้เกิดจุดอับชื้น


* พื้นกระเบื้อง
หากพบว่ามีการกะเทาะหรือบิ่นแตก ควรซ่อมแซมให้เรียบร้อย
เพื่อป้องกันไม่ให้เป็นประตูเข้าสู่บ้านของแมลงสาบ

เรื่องโดย แพทย์หญิงลินน่า งามตระกูลพานิช
ข้อมูลจาก นิตยสารบ้านและสวน ฉบับที่ 374


สารบัญค้น เรื่อง แต่งบ้าน จัดสวน ที่มีในบล็อกค่ะ
คลิกที่นี่ค่ะ




Create Date : 02 กรกฎาคม 2552
Last Update : 2 กรกฎาคม 2552 13:32:52 น. 0 comments
Counter : 1361 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 200 คน [?]




Friends' blogs
[Add ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.